รีวิว vivo X5Pro เสน่ห์แห่งความงามที่ไม่สิ้นสุด
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีรีวิว vivo X5Pro มาฝากเพื่อนๆ ใครที่ชื่นชอบโทรศัพท์มือถือของ vivo หรือสนใจอยากจะเปลี่ยนมาใช้ vivo บ้าง คงจะชื่นชอบกัน บทความนี้เป็นของ คุณ hall_hirun จาก Pantip.com เราไปดูบทความนี้กันเลยค่ะ
สวัสดีครับผม ห่างหายจากการรีวิวไปนานมาก เหตุผลคือเพราะไม่มีตังค์ซื้อเครื่องใหม่ครับ 555 ขอเล่าที่มาที่ไปของเจ้า vivo เครื่องนี้หน่อยนะครับ เริ่มจากไปดูเจ้า Minions แล้วมีโฆษณา vivo ฉาย ตอนนั้นจำชื่อรุ่นไม่ได้ ก็มาหาดูในเน็ต ก็คิดว่าเป็น X5Max มาตลอด จนได้ไปจับเครื่อง Demo ถึงรู้ว่าเป็น X5Pro (จริงๆตรงนี้ไม่ต้องเล่าก็ได้นะ เสียเวลาคนอ่าน) ตอนนี้ก็ใช้มาเกือบครบอาทิตย์ละครับ
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า vivo X5Pro เปิดตัวมาที่ราคา 13,990 บาท ก็ถือว่าค่อนข้างแรงเลยทีเดียว (สำหรับผมคือแรงมาก คิดว่าจะสัก 12k) ภายในกล่อง (ไม่ได้ถ่ายรูปนะครับ แกะออกมาใช้หมดแล้ว) จะมีอุปกรณ์พื้นฐานทั่วไป และมีเคสแข็งแบบใสแถมให้ในกล่อง และยังมีเคส bumper สีทอง แถมมาให้อีกอัน (เคสใสแข็งโอเคเลย แต่เคส bumper ใส่แล้วเสียบสายชาร์จไม่สุด เลยปาทิ้งไปละ) อ้อ! หน้าจอมีฟิล์มใสติดมาให้แล้วจากโรงงาน
ต้องบอกว่าดีไซน์นี่ได้รับแรงบันดาลใจอย่างล้นพ้นจากยี่ห้อผลไม้+แซมซังแบบมากมาย แต่ผมกลับชอบนะ
สเป็คคร่าวๆ (จริงๆหาอ่านตามเว็บมือถือจะเป๊ะกว่านะครับ ^^
– หน้าจอ 5.2” FullHD (1920×1080) เป็นแบบ Super Amoled
– หน้า-หลังเป็นกระจก Gorilla glass ตัดด้วยขอบอลูมิเนียม
– ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 615 (64bit) แรม 2GB รอม 16GB
– Android 5.0.2 ครอบทับด้วย UI Funtouch
– กล้องหลัง 13 ล้าน กล้องหน้า 8 ล้าน
– รองรับ 4G ทั้งสองซิม
คะแนนจาก Antutu ครับ
อย่างที่บอกไปนะครับ ตัวเครื่องจะเป็นกระจกทั้งหน้าและหลัง ตัดขอบด้วยอลูมิเนียม สัมผัสคล้าย galaxy s6 มากถึงมากที่สุด
ด้านบนจะเห็นโลโก้ vivo ด้านซ้ายอย่างเด่นชัด มีกล้อง มีลำโพง มีเซนเซอร์
ด้านล่างมีแถบเนวิเกเตอร์ (เรียกแบบนี้มั๊ยอ่ะ) ซ้ายสุดเป็น menu ไม่ใช่ปุ่ม recent app เหมือนชาวบ้านเค้าอะ ตอนใช้แรกๆแอบงงอยู่เหมือนกัน ตรงกลางกลางเป็น home ขวาสุดเป็น back อันนี้เหมือนชาวบ้านปกติทั่วไป อ่อ ตรงแถบเนวิเกเตอร์นี้ไม่มีไฟให้นะจ๊ะ เวลาใช้ตอนกลางคืนก็ต้องคลำๆ เอาหน่อย
มาดูด้านหลังกันดีกว่าครับ เป็นกระจกทั้งแผ่น ไม่มีลวดลายอะไรเลย ด้านบนมีกล้องความละเอียด 13 ล้าน (นูนนิดนึง น้อยกว่ายี่ห้อผลไม้เยอะเลยละ) กับไฟแฟลช ตรงกลางมีโลโก้ vivo ด้านล่างก็เป็นรายละเอียด design by bla bla bla
ขอบเครื่องด้านขวา มีช่องใส่ซิมและเมม ปุ่ม power และปุ่มเพิ่มลดเสียง vivo X5Pro สามารถใส่ได้สองซิม แต่ช่องใส่ซิมสองต้องเลือกว่าจะใส่ซิมหรือเมม
ด้านซ้ายไม่มีอะไรเลยจ้า ว่างเปล่าและราบเรียบ
ด้านบนมีเพียงช่องเสียบหูฟังเท่านั้น
ด้านล่างมีช่อง micro usb อยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยรูปลำโพง ลำโพงจริงๆจะมีแค่ด้านซ้าย ส่วนด้านขวาจะเป็นรูไมค์ครับ
อินเตอร์เฟสของ vivo X5Pro ต้องบอกว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากผลไม้อีกเช่นกันครับ แต่โดยรวมแล้วผมชอบนะ สวยดี ใช้ง่ายดี
และอย่างที่บอกไปว่า rom มีให้มา 16GB แต่ก็ถูกแบ่งออกเป็นสองพาทิชั่น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะแบ่งทำไม เลยทำให้ดูว่าเหลือพื้นที่น้อยลงไปอีก (เครื่องต่างประเทศ rom 32)
และที่ทำให้ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลยคือการสลับแอป พี่ท่านเอามาไว้ตรงด้านล่าง จะใช้ก็มือลากขึ้นจากขอบเครื่องด้านล่าง ถ้าจะปิดแอปก็มือจิ้มที่ไอคอนแอปแล้วลากขึ้นด้านบน หรือถ้าจะปิดทั้งหมดก็กดตรงรูปจรวด speed up ด้านล่าง ซึ่งการกด speed up จะไม่สามารถปิดแอปที่ล็อคไว้ได้ (ทำไมถึงมีการล็อคแอป เดี๋ยวผมจะอธิบายด้านล่างนะครับ)
เดี๋ยวนี้โทรศัพท์รุ่นไหนๆ ก็นิยมมีตีมกันแล้ว vivo ก็มีเช่นกัน แต่ตีมมีให้เลือกน้อยมากกกกก เข้าไปดูแล้วไม่มีตีมไหนน่าสนใจเลย ก็ใช้ตีมเดิมต่อไป (คาดว่าในอนาคตอาจจะมีเพิ่มเติม หรืออาจจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ create theme เองก็ได้ มั่วล้วนๆครับ 5555)
สำหรับการฟังเพลงด้วยหูฟัง ก็มี option นี้ด้วยนะ แต่ผมลองปรับๆดูแล้วก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง คือหูผมแยกไม่ออกจริงๆ แยกออกแค่ปิดกับเปิด option นี้
เอาล่ะ มาถึงจุดที่ทุกท่านรอคาย เอ๊ย! รอคุย เอ๊ย! รอคอย เอ๊ย! ถูกแล้ว!! นั่นก็คือ…..การถ่ายรูปนั่นเองงงงงงงง
ผมค่อนข้างคาดหวังกับกล้องมากกกก ยิ่งกล้องหน้า เพราะเป็นคนชอบ selfie ตอนอ่านรีวิวของเมืองนอก เห็นมี option กล้องหน้าสามารถปรับความละเอียดได้ถึง 32 ล้านก็ยิ่งสนใจ แต่พอเข้าไทย โดนตัดออกไปจ้า ในส่วนของโหมดกล้องนั้นก็มีให้เลือกเยอะแยะเลย
เดี๋ยวนี้เค้าฮิตโหมดโปรกัน vivo X5Pro ก็มีให้นะ (ซึ่งก็ไม่เคยใช้อีกเหมือนกัน) วิธีเข้าโหมดโปรคือกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้แล้วลากขึ้น (ซื้อเครื่องมาใหม่ เข้าแอปกล้อง เดี๋ยวมีป๊อบอัพสอนเองครับ)ล
นี่คือรูปภาพจากกล้องหลัง ต้องบอกว่าไม่ค่อยประทับใจกับกล้องหลังเท่าไหร่ เพราะว่าถ้าอยู่กลางแจ้ง รูปที่ถ่ายออกมาจะค่อนข้างมืดจากความเป็นจริงมาก ใช้ HDR ก็ช่วยแทบไม่ได้เลย แต่ถ้าอยู่ในที่แสงดีๆ บรรยากาศเป็นใจก็ถ่ายออกมาได้ดีทีเดียว สำหรับผมนะ คุณภาพของกล้องกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นกว่าชาวบ้าน
อันนี้ถ่ายแบบ hdr ครับ สว่างขึ้นมานิดเดียว
ส่วนของกล้องหน้านั้น ต้องบอกว่าสวยงามตามท้องเรื่อง และมุมกล้องค่อนข้างกว้าง (กว้างกว่า note4 ที่เคยใช้) ตอนแรกว่าจะไม่มีรูปกล้องหน้า เพราะพึ่งไปตัดผมมาแล้วผมกลายเป็นทรงเห็ด แต่ where where is where wher แล้วว…
รูปทุกรูปไม่ผ่านแอปไม่ผ่าน filterนะครับ แค่ปรับขนาดลง ส่วนรูปตัวเครื่องใช้ i5 ถ่ายนะครับ ส่งผ่านแชทเฟสบุ๊คแล้วอัพเลยครับ
จุดเด่น (สำหรับผมนะครับ)
1. ดีไซน์สวย บาง
2. รูปลำโพงอยู่ด้านล่าง (อันนี้ความชอบส่วนตัวครับ) เสียงดังใช้ได้ คุณภาพโอเค
3. กล้องหน้าดีงามพระรามเก้า
4. ได้ Android 5.0.2
5. หน้าจอสีเนียนตาดี
จุดด้อย (สำหรับผมนะครับ)
1. กล้องหลังไม่ประทับใจเท่าไหร่ และกดเข้าแอพแอบช้าไปหน่อย
2. เนวิเกเตอร์บาร์ไม่มีไฟ เครื่องราคาเท่านี้คุณพี่ควรมีไฟให้น้องไหม
3. Rom ให้มาน้อย แล้วยังโดนแบ่งอีก กระซิกๆ
4. มีแค่สีขาว ก็เค้าอยากได้สีดำนี่หน่า
5. เปลี่ยนฟอนต์ไม่ได้
6. ถ้าไม่ล็อคแอปในหน้าสลับแอปไว้ เวลากด speed up แอปจะถูกปิด ทำให้ไม่แจ้งเตือน เช่น ไลน์ เฟสบุ๊ค ต้องกดเข้าแอปถึงจะแจ้งเตือน
7. ไม่รู้จะได้ฟรีแพคเก็ตล่องแพตลอดชีพไหม
อ้าว ทำไมจุดด้อยมันมากกว่าจุดเด่นล่ะ555 เอาเป็นว่า ใครชอบดีไซน์(เหมือนผม) ก็ซื้อเลยครับ สวยจริง ตอนซื้อก็เพราะดีไซน์นี่แหละครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ hall_hirun จาก www.pantip.com
Leave a Reply