เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9+ และ iPad Gen 10 ปี 2023 เลือกรุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่นสุด มาดูกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9+ และ iPad Gen 10 มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ Samsung Galaxy Tab S9+ รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้น 35,900 บาท และรุ่น 5G ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท รัน Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 12.4 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
รองรับ HDR 10+ กระจก Corning Gorilla Glass ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 แรม 12GB ความจุ 256GB และ 512GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB กล้องหลัง 13MP + 8MP พร้อม LED Flash บันทึกวิดีโอ 4K
กล้องเซลฟี่ 12MP แบตอึด 10090mAh ชาร์จไว 45W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C บอดี้กันน้ำ IP68 รองรับ S Pen สนับสนุนเครือข่าย 5G ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 1 สี ได้แก่ Graphite
ขณะที่ iPad Gen 10 รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท หน้าจอ IPS LED ขนาด 10.9 นิ้ว จอภาพ Liquid Retina
ขุมพลัง Apple A14 Bionic ความจุ 64GB และ 256GB กล้องหลัง 12MP รองรับกันสั่น OIS, 5x Digital Zoom และ HDR อัจฉริยะ 3
กล้องเซลฟี่ 12MP พร้อม Retina Flash สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ Apple Pencil และ Touch ID ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Silver, Blue, Pink และ Yellow
ตารางเปรียบเทียบสเปก Samsung Galaxy Tab S9+ และ iPad Gen 10
| Features | Samsung Galaxy Tab S9+ | iPad Gen 10 |
| วันเปิดตัว : | – กรกฎาคม 2566 | – ตุลาคม 2565 |
|
ราคา :
|
– รุ่น Wi-Fi | – รุ่น Wi-Fi |
| – | – 17,900 บาท (64GB) | |
| – 35,900 บาท (256GB) | – 23,900 บาท (256GB) | |
| – 41,900 บาท (512GB) | – | |
| – รุ่น 5G | – รุ่น Wi-Fi + Cellular | |
| – | – 23,900 บาท (64GB) | |
| – 39,900 บาท (256GB) | – 29,900 บาท (256GB) | |
| – 45,900 บาท (512GB) | – | |
| OS : | – Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 | – iPadOS 16 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X | – หน้าจอ IPS LED |
| – ขนาด 12.4 นิ้ว | – ขนาด 10.9 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล | – ความละเอียด 2360×1640 พิกเซล | |
| – HDR 10+ | – | |
| – Refresh Rate 120Hz | – | |
| – Corning Gorilla Glass | – | |
| – | – จอภาพ Liquid Retina | |
| CPU : | – Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz |
– Apple A14 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.0GHz
|
| GPU : | – Adreno 740 | – Apple GPU (4-core graphics) |
| RAM : | – 12GB | – 4GB |
|
ROM :
|
– | – 64GB |
| – 256GB | – 256GB | |
| – 512GB | – | |
| – microSD Card สูงสุด 1TB | – | |
|
กล้องหลัง :
|
– 13MP + 8MP | – 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
| – LED Flash | – LED Falsh | |
| – Auto Focus | – Auto Focus | |
| – PDAF | – PDAF | |
| – HDR | – HDR อัจฉริยะ 3 | |
| – Panorama | – Panorama | |
| – | – OIS | |
| – | – 5x Digital Zoom | |
|
กล้องหน้า :
|
– 12MP | – 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.4 | |
|
Video :
|
– 4K@30/60fps | – 4K@24/25/30/60 fps |
| – 1080p@30fps | – 1080p@25/30/60 fps | |
|
Battery :
|
– 10090mAh | – ดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง |
| – Fast Charging 45W |
– ใช้เครือข่ายเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง
|
|
| ขนาด : | – 285.4×185.4×5.7 มม | – 248.6×179.5×7 มม. |
|
น้ำหนัก :
|
– 581 กรัม (Wi-Fi) | – 477 กรัม (Wi‑Fi) |
| – 586 กรัม (5G) | – 481 กรัม (Wi‑Fi + Cellular) | |
| รองรับซิม : | – Nano-SIM | – Nano‑SIM และ eSIM |
| ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – |
|
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
| – 5G | – 5G | |
|
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
| – Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.2 | |
| – USB Type-C | – USB Type-C | |
| – S Pen | – Apple Pencil (รุ่นที่ 1) | |
|
GPS :
|
– GPS | – GPS |
| – Glonass | – Glonass | |
| – Beidou | – Beidou | |
| – Galileo | – Galileo | |
|
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Touch ID |
| – Accelerometer | – Accelerometer | |
| – Gyroscope | – Gyroscope | |
| – Proximity | – Proximity | |
| – Compass | – Compass | |
|
สี :
|
– Graphite | – Silver |
| – | – Blue | |
| – | – Pink | |
| – | – Yellow |
**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
| Features | Samsung Galaxy Tab S9+ | iPad Gen 10 |
| วันเปิดตัว : | – กรกฎาคม 2566 | – ตุลาคม 2565 |
| OS : | – Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 | – iPadOS 16 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X | – หน้าจอ IPS LED |
| – ขนาด 12.4 นิ้ว | – ขนาด 10.9 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล | – ความละเอียด 2360×1640 พิกเซล | |
| – HDR 10+ | – | |
| – Refresh Rate 120Hz | – | |
| – Corning Gorilla Glass | – | |
| CPU : | – Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz |
– Apple A14 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.0GHz
|
| GPU : | – Adreno 740 | – Apple GPU (4-core graphics) |
| RAM : | – 12GB | – 4GB |
|
ROM :
|
– 256GB | – 256GB |
| – 512GB | – | |
| – microSD Card สูงสุด 1TB | – | |
|
กล้องหลัง :
|
– 13MP + 8MP | – 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
| – LED Flash | – LED Falsh | |
|
Battery :
|
– 10090mAh | – ดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง |
| – Fast Charging 45W |
– ใช้เครือข่ายเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง
|
|
| ขนาด : | – 285.4×185.4×5.7 มม | – 248.6×179.5×7 มม. |
| ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.2 |
| Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Touch ID |
|
สี :
|
– Graphite | – Silver |
| – | – Blue | |
| – | – Pink | |
| – | – Yellow |
จุดเด่น Samsung Galaxy Tab S9+ คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 ใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 12.4 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz กระจก Corning Gorilla Glass
ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz ชิปกราฟิก Adreno 740 แรม 12GB ความจุ 256GB และ 512GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB กล้องหลัง 13MP + 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2
พร้อม LED Flash แบตอึด 10090mAh ชาร์จไว 45W บอดี้กันน้ำ IP68 ที่มีขนาดบางกว่าเล็กน้อย รองรับ Bluetooth 5.3 พร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 1 สี ได้แก่ Graphite
| Features | iPad Gen 10 | Samsung Galaxy Tab S9+ |
|
ราคา :
|
– รุ่น Wi-Fi | – รุ่น Wi-Fi |
| – 17,900 บาท (64GB) | – | |
| – 23,900 บาท (256GB) | – 35,900 บาท (256GB) | |
| – | – 41,900 บาท (512GB) | |
| – รุ่น Wi-Fi + Cellular | – รุ่น 5G | |
| – 23,900 บาท (64GB) | – | |
| – 29,900 บาท (256GB) | – 39,900 บาท (256GB) | |
| – | – 45,900 บาท (512GB) | |
| OS : | – iPadOS 16 | – Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 |
|
กล้องหลัง :
|
– 12MP | – 13MP + 8MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.8 | – ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 | |
| – LED Falsh | – LED Flash | |
| – OIS | – | |
| – 5x Digital Zoom | – | |
|
น้ำหนัก :
|
– 477 กรัม (Wi‑Fi) | – 581 กรัม (Wi-Fi) |
| – 481 กรัม (Wi‑Fi + Cellular) | – 586 กรัม (5G) | |
| Sensor : | – Touch ID | – Fingerprint Under Display |
|
สี :
|
– Silver | – Graphite |
| – Blue | – | |
| – Pink | – | |
| – Yellow | – |
จุดเด่น iPad Gen 10 คือ มีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า รันระบบปฏิบัติการ iPadOS 16 กล้องหลัง 12MP พร้อม LED Falsh มีกันสั่น OIS และ 5x Digital Zoom บอดี้น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย พร้อมรองรับ Touch ID ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Silver, Blue, Pink และ Yellow
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9+ และ iPad Air Gen 5 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหลัง, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ, ตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันที่ราว 12,000 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi ความจุ 256GB
หากเลือก Samsung Galaxy Tab S9+ ก็จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 ใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 12.4 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
กระจก Corning Gorilla Glass ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz ชิปกราฟิก Adreno 740 แรม 12GB ความจุ 256GB และ 512GB
รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB กล้องหลัง 13MP + 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 พร้อม LED Flash แบตอึด 10090mAh ชาร์จไว 45W บอดี้กันน้ำ IP68 ที่มีขนาดบางกว่าเล็กน้อย รองรับ Bluetooth 5.3 พร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
หรือหากเลือก iPad Gen 10 ก็จะจ่ายในราคาที่ถูกกว่า รันระบบปฏิบัติการ iPadOS 16 กล้องหลัง 12MP พร้อม LED Falsh มีกันสั่น OIS และ 5x Digital Zoom บอดี้น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย พร้อมรองรับ Touch ID
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply