เปรียบเทียบ realme 10 Pro+ และ iPhone SE 3 ปี 2023 รุ่นต่างค่าย จอต่างไซส์ เลือกรุ่นไหนดี มาเช็กกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ realme 10 Pro+ และ iPhone SE 3 มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ realme 10 Pro+ ราคาจำหน่าย 15,999 บาท รัน Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
ขุมพลัง Dimensity 920 5G แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP พร้อม LED Flash กันสั่น EIS บันทึกวิดีโอ 4K กล้องเซลฟี่ 16MP
แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 67W ผ่านพอร์ต USB Type-C สนับสนุนเครือข่าย 5G เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Hyperspace และ Black
ขณะที่ iPhone SE 3 ราคาวางจำหน่าย 15,900 บาท (64GB), 17,900 บาท (128GB) และ 21,900 บาท (256GB) รัน iOS 15 หน้าจอ IPS LCD จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด HD+
ชิปเซ็ต A15 Bionic แรม 4GB คู่ความจุ 64GB, 128GB และ 256GB กล้องหลังเดี่ยว 12MP รองรับ dual-tone LED flash และ 5x Digital Zoom บันทึกวิดีโอ 4K กล้องเซลฟี่ 7MP
แบตอึด 2018mAh ชาร์จไว 20W ผ่านพอร์ต USB Lightning 2.0 สนับสนุนเครือข่าย 5G มีสแกนลายนิ้วมือบนปุ่มโฮม บอดี้กันน้ำ IP67 ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight, Starlight และ Red
ตารางเปรียบเทียบสเปก realme 10 Pro+ และ iPhone SE 3
Features | realme 10 Pro+ | iPhone SE 3 |
วันเปิดตัว : | – ธันวาคม 2565 | – มีนาคม 2565 |
ราคา :
|
– | – 15,900 บาท (64GB) |
– | – 17,900 บาท (128GB) | |
– 15,999 บาท (256GB) | – 21,900 บาท (256GB) | |
OS : | – Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 | – iOS 15 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ LCD |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 4.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2412×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 1334×750 พิกเซล | |
– Refresh Rate 120Hz | – จอภาพ Retina HD | |
– HDR 10+ | – | |
CPU : | – Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.2GHz
|
GPU : | – Mali G68 | – Apple GPU (4-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 4GB |
ROM :
|
– | – 64GB |
– | – 128GB | |
– 256GB | – 256GB | |
กล้องหลัง :
|
– 108MP + 8MP + 2MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
– LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– PDAF | – PDAF | |
– HDR | – HDR อัจฉริยะ 4 | |
– Panorama | – Panorama | |
– EIS | – OIS | |
กล้องหน้า :
|
– 16MP | – 7MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
Video :
|
– 4K@30fps | – 4K@24/25/30/60fps |
– 1080p@120/60/30fps | – 1080p@25/30/60fps | |
Battery :
|
– 5000mAh | – 2018mAh |
– SuperVOOC 67W | – Fast Charging 20W | |
ขนาด :
|
– 161.5×73.9×7.78 มม. (Black) | – 138.4×67.3×7.3 มม. |
– 161.5×73.9×7.95 มม. (Hyperspace) | – | |
น้ำหนัก :
|
– 172.5 กรัม (Black) | – 144 กรัม |
– 174.5 กรัม (Hyperspace) | – | |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano-SIM |
ระบบกันน้ำ : | – | – IP67 |
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
– 5G | – 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
– Bluetooth 5.2 | – Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | – USB Lightning 2.0 | |
– NFC | – NFC | |
– OTG | – | |
GPS :
|
– GPS | – GPS |
– Beidou | – Beidou | |
– Glonass | – Glonass | |
– Galileo | – Galileo | |
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Fingerprint Front Mounted |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Gyroscope | – Gyroscope | |
– Proximity | – Proximity | |
– Ambient Light | – Ambient Light | |
– Compass | – Compass | |
สี :
|
– Hyperspace | – Midnight |
– Black | – Starlight | |
– | – Red |
**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
Features | realme 10 Pro+ | iPhone SE 3 |
วันเปิดตัว : | – ธันวาคม 2565 | – มีนาคม 2565 |
ราคา :
|
– | – 15,900 บาท (64GB) |
– | – 17,900 บาท (128GB) | |
– 15,999 บาท (256GB) | – 21,900 บาท (256GB) | |
OS : | – Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 | – iOS 15 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ LCD |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 4.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2412×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 1334×750 พิกเซล | |
– Refresh Rate 120Hz | – จอภาพ Retina HD | |
– HDR 10+ | – | |
CPU : | – Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.2GHz
|
GPU : | – Mali G68 | – Apple GPU (4-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 4GB |
กล้องหลัง :
|
– 108MP + 8MP + 2MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
– LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– EIS | – OIS | |
กล้องหน้า :
|
– 16MP | – 7MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
Battery :
|
– 5000mAh | – 2018mAh |
– SuperVOOC 67W | – Fast Charging 20W | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Bluetooth 5.2 | – Bluetooth 5.0 |
– USB Type-C | – USB Lightning 2.0 | |
– OTG | – | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Fingerprint Front Mounted |
สี :
|
– Hyperspace | – Midnight |
– Black | – Starlight | |
– | – Red |
จุดเด่น realme 10 Pro+ ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ชิปเซ็ต Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz
ชิปกราฟิก Mali G68 แรม 12GB กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP พร้อม LED Flash มีกันสั่น EIS และบันทึกวิดีโอ 4K กล้องหน้า 16MP ค่ารูรับแสง f/2.4
แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 67W รองรับ Bluetooth 5.2 และ OTG พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C พร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Hyperspace และ Black
Features | iPhone SE 3 | realme 10 Pro+ |
ราคา :
|
– 15,900 บาท (64GB) | – |
– 17,900 บาท (128GB) | – | |
– 21,900 บาท (256GB) | – 15,999 บาท (256GB) | |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.2GHz |
– Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz
|
GPU : | – Apple GPU (4-core graphics) | – Mali G68 |
ROM :
|
– 64GB | – |
– 128GB | – | |
– 256GB | – 256GB | |
กล้องหลัง :
|
– 12MP | – 108MP + 8MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 | – ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – LED Flash | |
– OIS | – EIS | |
กล้องหน้า :
|
– 7MP | – 16MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.4 | |
ขนาด :
|
– 138.4×67.3×7.3 มม. | – 161.5×73.9×7.78 มม. (Black) |
– | – 161.5×73.9×7.95 มม. (Hyperspace) | |
น้ำหนัก :
|
– 144 กรัม | – 172.5 กรัม (Black) |
– | – 174.5 กรัม (Hyperspace) | |
ระบบกันน้ำ : | – IP67 | – |
Sensor : | – Fingerprint Front Mounted | – Fingerprint Under Display |
สี :
|
– Midnight | – Hyperspace |
– Starlight | – Black | |
– Red | – |
จุดเด่น iPhone SE 3 คือ มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB ใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.2GHz ชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 4 คอร์
กล้องหลังเลนส์เดี่ยว 12MP ค่ารูรับแสง f/1.8 พร้อม Dual Tone LED Flash รองรับกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 7MP ค่ารูรับแสง f/2.2
บอดี้กันน้ำ IP67 ขนาดกะทัดรัดกว่า มีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight, Starlight และ Red
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ realme 10 Pro+ และ iPhone SE 3 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหน้าและหลัง, ความจุแบตเตอรี่
ความไวการชาร์จ, ตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายใกล้เคียงกันสำหรับรุ่นเริ่มต้น แต่มีราคาต่างกันที่ราว 5,900 บาท สำหรับรุ่น 256GB
หากเลือก realme 10 Pro+ จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วยสำหรับรุ่น 256GB พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0
ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ชิปเซ็ต Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz
ชิปกราฟิก Mali G68 แรม 12GB กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP พร้อม LED Flash มีกันสั่น EIS และบันทึกวิดีโอ 4K กล้องหน้า 16MP ค่ารูรับแสง f/2.4
แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 67W รองรับ Bluetooth 5.2 และ OTG พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C พร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
หรือหากเลือก iPhone SE 3 จะมีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB ใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.2GHz ชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 4 คอร์
กล้องหลังเลนส์เดี่ยว 12MP ค่ารูรับแสง f/1.8 พร้อม Dual Tone LED Flash รองรับกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 7MP ค่ารูรับแสง f/2.2 บอดี้กันน้ำ IP67 ขนาดกะทัดรัดกว่า และมีสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply