เปรียบเทียบ iPhone 14 Plus และ iPhone 14 Pro Max ปี 2022 รุ่นจอใหญ่ 6.7 นิ้ว ส่วนต่าง 7,000 บาท เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ iPhone 14 Plus และ iPhone 14 Pro Max มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
โดย iPhone 14 Plus ราคาจำหน่าย 37,900 บาท (128GB), 41,900 บาท (256GB) และ 50,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10
ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash
แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีมิดไนท์, สีม่วง, สีสตาร์ไลท์, สีฟ้า และสีแดง
ขณะที่ iPhone 14 Pro Max ราคาจำหน่าย 44,900 บาท (128GB), 48,900 บาท (256GB), 57,900 บาท (512GB) และ 66,900 บาท (1TB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR
จอภาพแบบติดตลอด พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Island ค่าความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) รองรับ HDR และ Always-On Display ค่า Refresh Rate ระดับสูง 120Hz
ชิปประมวลผล A16 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB กล้องหลังสุดโปรคมชัดสุด 48MP พร้อม Dual Tone LED Flash ปรับตามสภาวะ
รองรับ 6x Optical Zoom และ 15x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash และ Auto Focus แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 95 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที
บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีม่วงเข้ม, สีทอง, สีเงิน และสีดำสเปซแบล็ค
ตารางเปรียบเทียบสเปกการใช้งาน iPhone 14 Plus และ iPhone 14 Pro Max
Features | iPhone 14 Plus | iPhone 14 Pro Max |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2565 | – กันยายน 2565 |
ราคา :
|
– 37,900 บาท (128GB) | – 44,900 บาท (128GB) |
– 41,900 บาท (256GB) | – 48,900 บาท (256GB) | |
– 50,900 บาท (512GB) | – 57,900 บาท (512GB) | |
– | – 66,900 บาท (1TB) | |
OS : | – iOS 16 | – iOS 16 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
– จอภาพ Super Retina XDR | – จอภาพ Super Retina XDR | |
– HDR 10 | – HDR 10 | |
– ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | – ความละเอียด 2796×1290 พิกเซล | |
– | – Dynamic Island | |
– | – จอภาพแบบติดตลอด | |
– | – ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) | |
– | – Always-On Display | |
– | – Refresh Rate 120Hz | |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.23GHz |
– A16 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.46GHz
|
GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 6GB | – 6GB |
ROM :
|
– 128GB | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– 512GB | – 512GB | |
– | – 1TB | |
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 12MP | – 48MP + 12MP + 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/1.78 + f/2.2 + f/2.8 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash (ปรับตามสภาวะ) | |
– 2x Optical Zoom | – 6x Optical Zoom | |
– 5x Digital Zoom | – 15x Digital Zoom | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– PDAF | – PDAF | |
– OIS | – OIS | |
– Photonic Engine | – Photonic Engine | |
– Deep Fusion | – Deep Fusion | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
กล้องหน้า :
|
– 12MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
– Retina Flash | – Retina Flash | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– HDR | – HDR | |
Video :
|
– 4K@24/25/30/60fps | – 4K@24/25/30/60fps |
– 1080p@25/30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
– 720p@30fps | – 720p@30fps | |
Battery :
|
– เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชั่วโมง |
– เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | – เล่นเสียงสูงสุด 95 ชั่วโมง | |
– Fast Charging, 50% in 30 min | – Fast Charging, 50% in 30 min | |
– MagSafe Wireless Charging 15W | – MagSafe Wireless Charging 15W | |
– Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W |
– Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W
|
|
ขนาด : | – 160.8×78.1×7.8 มม. | – 160.7×77.6×7.85 มม. |
น้ำหนัก : | – 203 กรัม | – 240 กรัม |
รองรับซิม : | – Nano-SIM และ eSIM | – Nano-SIM และ eSIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
– 5G | – 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
– Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.3 | |
– NFC | – NFC | |
– USB Lightning | – USB Lightning | |
– Siri | – Siri | |
– SOS ฉุกเฉิน | – SOS ฉุกเฉิน | |
GPS :
|
– GPS | – GPS |
– A-GPS | – A-GPS | |
– GLONASS | – GLONASS | |
– Galileo | – Galileo | |
– QZSS | – QZSS | |
– BeiDou | – BeiDou | |
Sensor :
|
– Face ID | – Face ID |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Gyroscope | – Gyroscope | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
– Barometer | – Barometer | |
สี :
|
– มิดไนท์ | – ม่วงเข้ม |
– ม่วง | – ทอง | |
– สตาร์ไลท์ | – เงิน | |
– ฟ้า | – ดำสเปซแบล็ค | |
– แดง | – |
Features | iPhone 14 Plus | iPhone 14 Pro Max |
ราคา :
|
– 37,900 บาท (128GB) | – 44,900 บาท (128GB) |
– 41,900 บาท (256GB) | – 48,900 บาท (256GB) | |
– 50,900 บาท (512GB) | – 57,900 บาท (512GB) | |
– | – 66,900 บาท (1TB) | |
Battery :
|
– เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชั่วโมง |
– เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | – เล่นเสียงสูงสุด 95 ชั่วโมง | |
ขนาด : | – 160.8×78.1×7.8 มม. | – 160.7×77.6×7.85 มม. |
น้ำหนัก : | – 203 กรัม | – 240 กรัม |
สี :
|
– มิดไนท์ | – ม่วงเข้ม |
– ม่วง | – ทอง | |
– สตาร์ไลท์ | – เงิน | |
– ฟ้า | – ดำสเปซแบล็ค | |
– แดง | – |
จุดเด่น iPhone 14 Plus คือ มีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่ารุ่น Pro Max โดยมาทั้งหมด 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 26 ชั่วโมง
และเล่นเสียงได้สูงสุด 100 ชั่วโมง ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบากว่า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ มิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, ฟ้า และแดง
Features | iPhone 14 Pro Max | iPhone 14 Plus |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
– จอภาพ Super Retina XDR | – จอภาพ Super Retina XDR | |
– HDR 10 | – HDR 10 | |
– ความละเอียด 2796×1290 พิกเซล | – ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | |
– Dynamic Island | – | |
– จอภาพแบบติดตลอด | – | |
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) | – | |
– Always-On Display | – | |
– Refresh Rate 120Hz | – | |
CPU : | – A16 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.46GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.23GHz
|
ROM :
|
– 128GB | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– 512GB | – 512GB | |
– 1TB | – | |
กล้องหลัง :
|
– 48MP + 12MP + 12MP + 12MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/1.78 + f/2.2 + f/2.8 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash (ปรับตามสภาวะ) | – Dual Tone LED Flash | |
– 6x Optical Zoom | – 2x Optical Zoom | |
– 15x Digital Zoom | – 5x Digital Zoom | |
Battery :
|
– เล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง |
– เล่นเสียงสูงสุด 95 ชั่วโมง | – เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | |
สี :
|
– ม่วงเข้ม | – มิดไนท์ |
– ทอง | – ม่วง | |
– เงิน | – สตาร์ไลท์ | |
– ดำสเปซแบล็ค | – ฟ้า | |
– | – แดง |
จุดเด่น iPhone 14 Pro Max คือ แม้ว่าทั้ง 2 รุ่น จะใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10 เหมือนกัน แต่รุ่น Pro Max นั้นพิเศษกว่ารุ่น Plus ที่จอนั้นเป็นจอภาพแบบติดตลอด
รองรับเทคโนโลยี Dynamic Island ลูกเล่นจอแบบใหม่ ทั้งยังมีความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) รองรับ Always-On Display และค่า Refresh Rate ระดับสูง 120Hz
พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปใหม่ A16 Bionic มีให้เลือก 4 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB, 512GB และสูงสุด 1TB กล้องหลังโปรขึ้นคมชัดสุด 48MP รองรับ Dual Tone LED Flash ที่ปรับตามสภาวะ พร้อมรองรับ 6x Optical Zoom และ 15x Digital Zoom
แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 29 ชั่วโมง เล่นเสียงได้สูงสุด 95 ชั่วโมง ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ ม่วงเข้ม, ทอง, เงิน และดำสเปซแบล็ค
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ iPhone 14 Plus และ iPhone 14 Pro Max ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ ๆ ของหน้าจอ, ชิปประมวลผล, ความจุสูงสุดในตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหลัง, ความจุแบตเตอรี่ หรือขนาดและน้ำหนัก เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันอยู่ที่ 7,000 บาท สำหรับทุกรุ่นความจุ
ซึ่งหากเลือกเป็นรุ่น iPhone 14 Plus ก็จะจ่ายในราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า ได้เครื่องจอใหญ่ 6.7 นิ้ว ใช้ชิป A15 Bionic กล้องหลังคู่ 12MP และน้ำหนักตัวเครื่องเบากว่าอยู่ที่ 203 กรัม
หากเลือกเป็นรุ่น iPhone 14 Pro Max ถึงแม้ว่าจะมีหน้าจอเท่ากันที่ 6.7 นิ้ว แต่ก็มาพร้อมลูกเล่นหน้าจอใหม่ ๆ อย่างเทคโนโลยี Dynamic Island และจอภาพแบบติดตลอด
ทั้งยังมีความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) รองรับ Always-On Display และค่า Refresh Rate ระดับสูง 120Hz พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปใหม่ตัวแรงของ Apple อย่าง A16 Bionic มีให้เลือก 4 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB, 512GB และสูงสุดที่ 1TB
กล้องหลังก็โปรขึ้นคมชัดสุด 48MP รองรับ Dual Tone LED Flash ที่ปรับตามสภาวะ พร้อมรองรับ 6x Optical Zoom และ 15x Digital Zoom
ส่วนสเปกอื่น ๆ ที่ทั้ง 2 รุ่นนั้นคล้ายกัน คือ รัน iOS 16, กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Auto Focus, รองรับชาร์จไว สามารถชาร์จได้ 50% ภายใน 30 นาที, บอดี้กันน้ำ IP68 และรองรับฟีเจอร์ SOS ฉุกเฉิน เป็นต้น
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply