เปิดตัว Infinix NOTE 10 Pro Series ที่ได้รับรางวัล มาพร้อมประสิทธิภาพอันทรงพลัง และดีไซน์ระดับไอคอน
ล่าสุด Infinix ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม all-new NOTE 10 series ใหม่ ประกอบด้วยรุ่น Infinix NOTE 10, Infinix NOTE 10 Pro และ Infinix Note 10 Pro NFC ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NFC (near-field communication)
ด้วยความโดดเด่นของจอภาพที่ลื่นไหลเป็นพิเศษ ระบบประมวลผล MediaTek สำหรับการเล่นเกมที่ทรงพลัง กล้องระบบ AI ที่ล้ำสมัย
และแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ที่มีการชาร์จแบบถนอมแบตเตอรี่และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 จึงเป็นผลงานการรังสรรค์ที่จะมายกระดับสู่ที่สุดของประสบการณ์การทำงานและความบันเทิงให้กับทุกคน
“เราทราบดีว่าแฟนสมาร์ตโฟนในปัจจุบันต่างมองหาอุปกรณ์ที่มีทั้งสไตล์และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเท่า ๆ กันเพื่อที่พวกเขาจะได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์การใช้งานได้อย่างแท้จริง” Manfred Hong ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Infinix กล่าว
“สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน สุนทรียะของดีไซน์ สไตล์ นวัตกรรม ผิวสัมผัส และคุณสมบัติด้านสีที่ลงตัวสมบูรณ์แบบ ซึ่งรวมเป็นอุปกรณ์ที่ตอบสนองการใช้งานแบบรอบด้านและตอบโจทย์สำหรับการทำงานแบบมืออาชีพ ความบันเทิง และการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป”
โดยเจ้าของรางวัล iF Design 2021 อย่าง NOTE 10 Pro นั้นเป็นการถ่ายทอดความสมดุลระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกในความจริง ความนิ่งและความสงบของธรรมชาติ
และการตกแต่งภายในและการออกแบบรูปทรงเรขาคณิตที่ทันสมัยของแบรนด์หรู ฝาหลังที่มีเอกลักษณ์แบ่งเป็นสองส่วนโดยให้ส่วนล่างมีผิวสัมผัสตัดกับส่วนบนที่มีผิวเป็นประกายแวววาว
สำหรับดีไซน์นี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ 95° Black, 7° Purple, Emerald Green (เฉพาะรุ่น NOTE 10) และ Nordic Secret (เฉพาะรุ่น NOTE 10 Pro)
ประสบการณ์การรับชมที่น่าตื่นตาตื่นใจ
สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 ให้ประสบการณ์การรับชมภาพที่สมบูรณ์แบบจากจอภาพความละเอียดสูงแบบเต็มจอ (FHD+) ขนาด 6.95 นิ้ว และอัตราส่วนขนาดหน้าจอต่อเครื่อง 91% พร้อมความสว่างสูงสุด 480 นิต
และอัตราส่วนความคมชัดที่ 1500:1 เพื่อภาพที่ใสและคมชัด กราฟิกและภาพมีความลื่นไหลต่อเนื่องด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 90Hz และอัตราการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอที่ 180Hz
ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรับชมภาพยนตร์ เลื่อนดูเนื้อหาต่าง ๆ หรือแม้แต่การเล่นเกม นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองโดยองค์กร TÜV Rheinland ว่ามีแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอในระดับต่ำ ผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานได้นานหลายชั่วโมงโดยไม่ส่งผลให้ดวงตาล้าหรือระคายเคืองตา
สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 ยังให้คุณสร้างสรรค์รูปภาพระดับมืออาชีพได้อย่างน่าทึ่งรวมถึงภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม สำหรับการถ่ายภาพทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
และเพื่อการถ่ายภาพเซลฟี่ที่ยอดเยี่ยม สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 ได้ใส่กล้องหน้าแบบ AI Beautify Selfie ความละเอียด 16MP พร้อมแฟลชมาให้สองตัว
ขณะที่รุ่น NOTE 10 Pro และ NOTE 10 Pro NFC นั้นอัดแน่นด้วยเลนส์แบบ four-in-one ที่ทำงานแบบอัตโนมัติด้วยระบบ AI ซึ่งประกอบด้วยเลนส์อัลตร้าไวด์ที่มีขอบเขตการมองเห็นภาพ (FOV) 120°
เลนส์ซูเปอร์มาโคร เลนส์ 5P เลนส์ถ่ายภาพขาวดำ และเลนส์ถ่ายภาพบุคคล ซึ่งทั้งหมดถูกรวมไว้ในกล้องหลังแบบอัลตร้าไนท์ 6P ความละเอียด 64 เมกะพิกเซล (MP)
สำหรับการถ่ายภาพยนตร์ที่ง่ายและลื่นไหลต่อเนื่อง สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 ได้จัดคุณสมบัติในการถ่ายภาพความละเอียดระดับ 4K มาให้ทั้งในกล้องหน้าและกล้องหลัง
โดยใช้โซลูชันอัลกอริทึมเพิ่มประสิทธิภาพวิดีโอชั้นนำอย่าง Vidhance Video Stabilization และโซลูชันลดความพร่ามัวของวิดีโอขณะถ่ายโดยอัตโนมัติของ Imint เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจับภาพในช่วงเวลาสุดพิเศษได้อย่างมั่นใจ
อัดแน่นด้วยพลังและประสิทธิภาพ
เพื่อการประมวลผลข้อมูลและเวลาในการตอบสนองที่รวดเร็ว NOTE 10 Pro และ NOTE 10 Pro NFC ใช้ระบบประมวลผล MediaTek Helio G95 ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับรางวัล เมื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยี HyperEngine Gaming ของ MediaTek
ผู้ใช้จะได้สัมผัสการตอบสนองที่เร็วขึ้นถึง 50% การเชื่อมต่อที่เสถียรยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถลดความหน่วงลงโดยใช้ Wi-Fi สองแบนด์หรือสองเราเตอร์พร้อมกัน
ระบบประมวลผลสำหรับการเล่นเกม MediaTek Helio G95 ใน NOTE 10 Pro และ NOTE 10 Pro NFC ประกอบด้วย:
• หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ 8 คอร์ พร้อมหน่วยประมวลผล Arm Cortex-A76 ที่ทรงพลัง 2 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.05GHz และยังมีหน่วยประมวลผล Cortex-A55 ที่เน้นเรื่องการประหยัดพลังงานทั้งหมด 6 คอร์
• หน่วยประมวลผลกราฟิก Arm Mali-G76 MC4 (GPU) ความเร็วสูงสุด 900MHz
• หน่วยความจำขนาดความจุ 256GB และ 8GB RAM
ระบบประมวลผลสำหรับการเล่นเกม MediaTek Helio G85 ใน NOTE 10 ประกอบด้วย:
• หน่วยประมวลผลกลางแบบ 8 คอร์ 64 บิต ที่มีหน่วยประมวลผลด้านประสิทธิภาพแบบ ARM Cortex-A75 2 คอร์ และหน่วยประมวลผลด้านประหยัดพลังงานแบบ Cortex-A55 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.0GHz และ 1.8GHz ตามลำดับ
• หน่วยประมวลผลกราฟิก ARM Mali-G52 MC2 ความเร็ว 1GHz ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยประมวลผลกราฟิกที่เร็วที่สุด
• หน่วยความจำขนาดความจุ 128GB และ 8GB RAM (ในรุ่น NOTE 10 Pro) และ 6GB RAM (ในรุ่น NOTE 10)
สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่และที่ได้รับการอัปเกรด รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย เช่น:
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh และเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W: NOTE 10 Pro และ NOTE 10 Pro NFC ใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุ 5000mAh ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่มากำลังไฟ 33W
สำหรับใน NOTE 10 จะเป็นแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่มีกำลังไฟ 18W แบตเตอรี่ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน (Ultra Power Mode)
ซึ่งช่วยยืดเวลาสำหรับการโทรได้นานถึง 58 ชั่วโมงเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 5% นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Power Marathon ที่สามารถสำรองแบตเตอรี่ได้ 25% และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ปลอดภัย
• เทคโนโลยีหน่วยความจำ UFS 2.2: NOTE 10 Pro และ NOTE 10 Pro NFC มาพร้อมหน่วยความจำที่มีความจุถึง 256GB และถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วสูงสุด 5,830 Mb/s สำหรับการอ่านและเขียน ซึ่งเป็นการยกระดับความเร็วและความสามารถในการทำงานพร้อม ๆ กันให้กับผู้ใช้
• ซอฟต์แวร์ Dar-link Ultimate Game Booster: สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 จะมาพร้อมซอฟต์แวร์ Dar-link Ultimate Game Booster ของ Infinix สำหรับปรับการทำงานให้เหมาะสม
โดยจะทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของสมาร์ตโฟนเพื่อเพิ่มความเสถียรของภาพและความไวในการตอบสนองของจอ ซอฟต์แวร์จะปรับความเร็วในการประมวลผลของซีพียูและจีพียูอย่างชาญฉลาด และจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงภาพและการเคลื่อนไหวในฉากต่าง ๆ ระหว่างเล่นเกมอย่างเหมาะสม
• ระบบเสียง DTS Audio และ AI Noise Cancelling: เพื่อคุณภาพเสียงแบบรอบทิศทางและการรองรับเสียงที่มีความถี่สูงในฉากต่าง ๆ ของเกม
สมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 จึงได้จัดลำโพงแบบคู่มาให้พร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ทำงานด้วยระบบ AI รวมถึงระบบประมวลผลไฟล์เสียง DTS และเทคโนโลยีที่ช่วยในการรับรู้ตำแหน่งของเสียง
• แอคเซสพอยต์ที่สะดวกและปลอดภัย: ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 ด้วยคุณสมบัติสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และคุณสมบัติปลดล็อคด้วยใบหน้าแบบ 3D
• ระบบปฏิบัติการ Android XOS 7.6: ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android XOS 7.6 ถูกบรรจุไว้ในสมาร์ตโฟนตระกูล NOTE 10 เพื่อให้ผู้ใช้มีเครื่องมือใช้งานอย่างเช่น Xnote 5.0 สำหรับจดโน้ตและขีดเขียนไอเดียต่าง ๆ
รวมถึง X-Proof สำหรับปิดบังหน้าจอขณะใช้งานในที่สาธารณะ และ Thunder Back Mode 2.0 สำหรับการเปิดใช้แอปสองแอปพร้อมกันบนหน้าจอ
การวางจำหน่าย
สำหรับ NOTE 10 Pro จะวางจำหน่ายในราคา 259 ดอลลาร์ (ราว 8,000 บาท) และ NOTE 10 จะวางจำหน่ายในราคา 199 ดอลลาร์ (ราว 6,200 บาท)
โดยทุกรุ่นจะเริ่มออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคม และรุ่นที่จะวางจำหน่ายนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าและตลาดนั้น ๆ ราคาอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค
Leave a Reply