รีวิว vivo Y72 5G สมาร์ตโฟนยุคใหม่ ขุมพลังแรง Dimensity 700 เข้าถึง 5G ทุกที่ทุกเวลา ถ่ายภาพกลางคืนสวยระดับมือโปร แบตอึด 5000mAh ราคาเพียง 9,999.
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านครับ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G ชิปเซ็ตแรง ใช้งานไหลลื่น แบตอึด ๆ กล้องหลังคมชัด ดีไซน์โดดเด่น วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo Y72 5G ตอบโจทย์คนยุคใหม่ เข้าถึง 5G ทุกที่ทุกเวลา เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว จากทาง Vivo มาให้ได้ชมกันครับ
สำหรับ Vivo Y72 5G มาพร้อมหน้าจอดีไซน์ Halo FullView ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมฟีเจอร์ตัวกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย โดยขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity 700 รองรับ 5G แบบ 2 โหมด NSA/SA หน่วยความจำ RAM 8GB ความจุ ROM 128GB พร้อมรัน Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ Vivo Y72 5G ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว รองรับ Eye Autofocus จับโฟกัสดวงตาอัตโนมัติ ความละเอียดสูงสุด 64MP + 8MP + 2MP พร้อมทั้งโหมด Super Night Mode, Portrait, Bokeh, Super HDR และ Super Wide Angle
ส่วนกล้องเซลฟี่ 16MP มาพร้อม Super Night Selfie ลดการเกิดนอยส์ช่วยให้ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้อย่ามืออาชีพ และยังมี Softlight Band ช่วยเพิ่มแสงสว่างของภาพถ่ายในพื้นที่แสงน้อยอีกด้วย
ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 3D สวยโดดเด่น ขอบตัวเครื่องแคบเพียง 2.75 มม. หยิบจับใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย บริเวณกล้องหลังยังล้อมด้วยกรอบโลหะทำให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย และใช้งานต่อเนื่องข้ามวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh พร้อมสนับสนุนชาร์จไว 18W
Vivo Y72 5G ราคาจำหน่ายเพียง 9,999 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Graphite Black และ Dream Glow
พร้อมเปิดให้จองแล้ววันนี้ พร้อมของแถมสุดพิเศษ
– Bluetooth body weight scale มูลค่า 1,099 บาท
– Power Bank 10000mAh มูลค่า 799 บาท
รับไปเลยทันที ฟรี! สำหรับผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 64 – 30 มี.ค. 64 ณ Vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Vivo Official Online Store
ข้อมูลสเปก Vivo Y72
Features | Vivo Y72 5G |
วันเปิดตัว : | – มีนาคม 2564 |
ราคา : | – 9,999.- (ข้อมูล ณ เดือน มี.ค. 64) |
OS : | – Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11.1 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.58 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2408×1080 พิเซล | |
CPU : | – Dimensity 700 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.2GHz |
GPU : | – Mali-G52 MC2 |
RAM : | – 8GB |
ROM : | – 128GB |
– microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 64MP + 8MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.2 +f/2.4 | |
– LED flash | |
– กันสั่น EIS | |
– HDR | |
– PDAF | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 16MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
Video : | – 1080p@30/60fps |
Battery : | – 5000 mAh |
– รองรับ Fast Charging 18W | |
ขนาด : | – 163.95 x 75.30 x 8.50 มม. |
น้ำหนัก : | – 193 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 4G LTE |
– 5G SA/NSA | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
– Bluetooth 5.1 | |
– USB Type-C | |
– OTG | |
– NFC | |
– FM | |
GPS : | – GPS |
– Beidou | |
– Glonass | |
– Galileo | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Accelerometer | |
– Ambient Light | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Gyro | |
สี : | – Graphite Black |
– Dream Glow |
แกะกล่องVivo Y72 5G
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo Y72 5G ตัวเครื่องสี Graphite Black
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ 18W Flash Charge
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– หูฟัง
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
สำหรับ Vivo Y72 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh ที่สนับสนุนชาร์จไว 18W พร้อมด้วย VEG ตัวจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานได้ยาวนาน ไม่ว่าจะเล่นเกม, รับชม YouTube หรือฟังเพลง
ทำความรู้จัก Vivo Y72 5G
ด้านหน้า Vivo Y72 5G มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ดีไซน์ Halo FullView ขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว บนความละเอียดระดับ Full HD+ หรือ 2408×1080 พิกเซล หน้าจอใหญ่กำลังดี ไม่ว่าจะดูหนัง, ดูวิดีโอจาก YouTube หรือเล่นเกมสุดโปรด ก็สามารถรับชมภาพที่มีความละเอียดสูง และสีสันที่สดใส พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ถนอมสายตา กรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของเราขณะใช้งานอีกด้วย
ด้านหน้าส่วนบน ด้วยความที่หน้าจอมาพร้อมดีไซน์ Halo FullView ด้านบนจึงมีรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็กที่ไม่บดบังรายละเอียดบนจอแสดงผล โดยเป็นตำแหน่งติดตั้งของกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16MP พร้อมรองรับฟีเจอร์ Face Wake หรือระบบจดจำใบหน้าด้วย โดยสามารถใช้ปลดล็อกสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็ว และเหนือหน้าจอจะเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาครับ
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านหลัง Vivo Y72 5G มาพร้อมการออกแบบตัวเครื่องโค้งมน สีสันสวยสะดุดตาดีไซน์แบบ 3D ตัวเครื่องถือจับกระชับมือ พกพาสะดวกไม่ใหญ่เกินไป โดยตัวเครื่องใช้เทคนิคการเคลือบสีซิลเวอร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ให้เฉดสีสดใส มันวาวเปล่งประกาย หลากหลายมิติ
มีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ Graphite Black สีดำประกายราวกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ และ Dream Glow เฉดสีอ่อนที่ผสมผสานอย่างสวยงาม กับการไล่ระดับสี เสมือนความงดงามของเพชรที่เจียระไนอย่างพิถีพิถัน
ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 เลนส์ ล้อมรอบด้วยโลหะแนวตั้งเสริมความโดดเด่น พร้อมข้อความ 64 MEGAPIXEL บ่งบอกควาละเอียด และไฟแฟลช LED
Vivo Y72 5G ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว รองรับ Eye Autofocus จับโฟกัสดวงตาอัตโนมัติ ความละเอียดสูงสุด 64MP + 8MP + 2MP พร้อมฟังก์ชันการใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ Ultra-HD, Ultra-Wide-Angle, Bokeh และ Macro ส่วนรายละเอียดการใช้งานต่าง ๆ เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันในหัวข้อโหมดกล้องถ่ายภาพนะครับ
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง พบรูไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมการ์ด
ถาดใส่ซิมการ์ดของ Vivo Y72 5G เป็นแบบ 2 ช่อง รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับ microSD Card ด้วย แต่จะต้องเลือกว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนระหว่าง SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD Card
ที่สำคัญรองรับเครือข่าย 5G แบบ 2 โหมด NSA และ SA เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์อินเทอร์เน็ตสูงที่รวดเร็วและครอบคลุม นอกจากนี้ยังรองรับคลื่นความถี่ 2G, 3G และ 4G อีกด้วย
โดยในการเข้าถึงเครือข่าย 5G จำเป็นจะต้องไปตั้งค่าเล็กน้อย โดยไปที่ เมนูตั้งค่า > เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต > การ์ด SIM และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ > เลือก SIM 1 หรือ SIM 2 ที่ต้องการ > ประเภทเครือข่ายที่ต้องการ > เลือก 5G ครับ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง Super Linear ให้คุณภาพเสียงที่หนักแน่น และ Speaker Boost 3.0 ดื่มด่ำกับเสียงภาพยนตร์ได้อย่างสมจริง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไร้ปุ่ม หรือฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ ออกแบบมาเพื่อการหยิบจับใช้งานที่ถนัดมือ
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง นอกจากนั้นที่ปุ่มพาวเวอร์ยังทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใช้ปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
Performance
Vivo Y72 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 700 มีโมเด็ม 5G ในตัว ขนาด 7 นาโนเมตร แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz อีกทั้งยังรองรับคลื่นสัญญาณ 5G SA และ NSA แบบ Dual-Mode ด้วย RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB มอบประสบการณ์ใช้งาน 5G ที่ไหลลื่น และเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้อย่างไรขีดจำกัด
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเราจะนำไปทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark และ CPU-Z กันครับ
จากการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่า Vivo Y72 5G สามารถทำคะแนนทดสอบรวมได้สูงถึง 272905 คะแนน โดยแบ่งเป็น 4 การทดสอบใหญ่ได้แก่ การทดสอบ CPU รวม 88986 คะแนน, การทดสอบ GPU รวม 68755 คะแนน, การทดสอบ MEM รวม 64903 คะแนน และ UX รวม 50261 คะแนน
และข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 4544MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 8.00GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Mali-G57 MC2 ชิปเซ็ตรหัส k6833v1_64 หน้าจอระดับ Full HD+ ขนาด 6.57 นิ้ว และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 เป็นต้น
สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดฮิตอย่าง ROV ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้ได้มีการปรับตั้งค่าแบบจัดเต็มเท่าที่ Vivo Y72 5G จะทำได้ เริ่มกันด้วยปรับ ภาพ HD ระดับสูงมาก, การแสดงผลปรับได้แค่ในระดับสูง, พาร์ติเคิลระดับสูง, เสียง BGM ระดับสูง, เสียง FX ระดับสูง
เริ่มเล่นเกมด้วยแบตเตอรี่ 100% ใช้เวลาในการเล่น 10 นาที แบตเตอรี่ลดไปแค่ 2% นอกจากนั้นยังได้ทดลองเล่นแบบต่อเนื่องประมาณ 5 แมตช์ เฉลี่ยอยู่ที่ แมตช์ละ 10 นาที พบว่าตัวเครื่องไม่ร้อน และสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด
ในด้านระบบเสียง มาพร้อมกับลำโพง Super Linear เอฟเฟกต์เสียงขั้นสูง ให้เสียงที่หนักแน่น พร้อมสัมผัสกับการรับฟังเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มระดับเสียงอีก 50% โดยรองรับระดับสูงสุด 92dB เพื่อเสียงที่คมชัด และความกว้างของเสียง 16K Hz ช่วยทำให้โทนเสียงสูงดูน่าฟังและไพเราะมากขึ้น
นอกจากนั้นตัวลำโพงถูกออกแบบด้วยโลหะ ช่วยให้เสียงมีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม คลื่นความถี่ต่ำ มอบประสบการณ์รับฟังเสียงให้ชัดเจนกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการ ดูหนัง, ฟังเพลง หรือเล่นเกม
Interface
เริ่มที่หน้าจอ Lock Screen เราสามารถปลดล็อกตัวเครื่องสามารถเลือกได้ 4 วิธี
– การสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ
– สแกนใบหน้า บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา หากจะสแกนใบหน้าก็ต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน
– รูปแบบ หรือรหัสผ่าน
– สแกนลายนิ้วมือ วางนิ้วมือที่ลงทะเบียนไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง
หลังจากปลดล็อกหน้าจอจะเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบดี
เมื่อปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดเครื่องบิน, ธีมหน้าจอมืด หรือเปิดโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น แต่หากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่อง
หากกดค้างบนหน้า Home Screen จะปรากฏแถบเมนูการตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลังวอลเปเปอร์ขึ้นมา
ด้านแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google มีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, Maps, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore และ Play Store
รองรับ iManager ที่ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะ, หรือสแกนหาปัญหาต่าง ๆ ขณะใช้งาน ช่วยให้สมาร์ตโฟนเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา
หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
รองรับ Google Assistant เราสามารถสั่งการค้นหา หรือเปิดใช้งานฟังก์ชันอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้คำสั่งเสียง
รองรับแอปฯ วัดสภาพอากาศ, นาฬิกาปลุก และแอปฯ EasyShare
รองรับสมุดโน๊ต, ปฏิทิน เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกับสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ทั่วไป
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
สำหรับหน้าจอของ Vivo Y72 5G รองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดป้องกันดวงตา ที่จะเปลี่ยนจอแสดงผลให้เป็นสีเหลืองนวล พร้อมปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง สำหรับฟีเจอร์นี้ช่วยกรองแสงสีฟ้า และถนอมสายตาระหว่างใช้งานในช่วงเวลากลางคืน
นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับ Dark Mode ที่เปลี่ยนภาพพื้นหลังให้เป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง และใช้งานได้สบายตามากกว่าเดิม รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้เองอีกด้วย
รองรับการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก สามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนจดจำใบหน้า หรือภาพเคลื่อนไหวขณะชาร์จแบตเตอรี่ และอื่น ๆ
รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี
มีระบบ AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ภายในเครื่อง รองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่เพื่อเซฟแบตไว้ใช้นาน ๆ และสามารถจัดสรรการใช้พลังงานเบื้องหลังได้อีกด้วย
ด้านระบบรักษาความปลอดภัย Vivo Y72 5G มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และมีสแกนใบหน้าฉับไว ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อนครับ
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
รองรับ Multi-Turbo เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานการใช้งานเครือข่ายการกระจายความร้อน โหมด AI และโหมดเกม ให้คุณใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด รวมถึง Ultra Game Mode ใหม่ ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมทุกช่วงเวลา แบบ 4D สมจริง
และเพียงแค่ลากสามนิ้วจากจอลงมาจะปรากฏฟีเจอร์ Picture-in-Picture ช่วยให้สามารถแชทขณะเล่นเกมได้ รวมถึงโหมดห้ามรบกวนป้องกันการแจ้งเตือนข้อความ และโหมด E-Sports ปรับเฟรมเรตแบบเรียลไทม์เพิ่มประสิทธิภาพเกม สนุกได้เต็มอารมณ์
การตั้งค่าทางลัด และการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน, การใช้งานมือเดียว, การแบ่งหน้าจออัจฉริยะ, การแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช และการโทรวิดีโอด้วยฟีเจอร์ใบหน้าสวย เป็นต้น
รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์
รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ และหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์
รองรับการถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC, ภาพถัดมาเป็นมุมมองขณะชาร์จแบตเตอรี่ โดยบนหน้าจอจะแสดงการชาร์จแบบ Flash Charge พร้อมเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ขึ้นมา และอีกภาพจะเป็นฟังก์ชันของปุ่มพาวเวอร์ กดค้างจะพบกับตัวเลือก เหตุฉุกเฉิน, เปิด-ปิดเครื่อง และรีสตาร์ทตัวเครื่อง
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลย โดย Vivo Y72 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 รองรับ Selfie Night Mode + Selfie Fill Light ถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคือแบบมืออาชีพลดการเกิดนอยส์ รวมถึงการรับแสง สีผิว และรายละเอียดของภาพได้อย่างสมบูรณ์บบ, Portrait ถ่ายภาพบุคคล และ Super HDR ถ่ายภาพย้อนแสง ปรับสมดุลสีของภาพได้อย่างแม่นย้ำ และเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ให้เลือกใช้งาน
เริ่มกันที่ Selfie Night Mode เซลฟี่สวยในตอนกลางคืน หรือพื้นที่แสงน้อย ลดการเกิดนอยส์ในภาพ รวมถึงยังมี Selfie Fill Light ช่วยปรับแสง สีผิว และรายละเอียดของภาพให้ออกมาสมบูรณ์แบบระดับมืออาชีพ นอกจากนั้นยังรองรับ AI Face Beauty เลือกปรับความสวยของใบหน้าได้ตามความต้องการ
ภาพตัวอย่าง Selfie Night Mode
ภาพตัวอย่าง ไม่เปิดใช้งานใด ๆ / เปิดใช้งานไฟเสริมเซลฟี
Portrait Mode หรือโหมดถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ รองรับการถ่ายแบบ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ, AI Face Beauty ปรับความสวยของใบหน้า, Pose Master ท่าทางการโพสต์ และ Multi-Style ทำให้การถ่ายภาพในฉากต่าง ๆ ออกมามีสไตล์มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังรองรับ HDR, ฟีลเตอร์ & เอฟเฟ็กต์แสง รวมถึงสามารถเลือกเปิดแฟลช หรือเติมแสง เพิ่มความสะหว่างได้ และซูมได้ 2 เท่า
ภาพตัวอย่าง AI Face Beauty ปรับความสวยของใบหน้า
ภาพตัวอย่าง ฟีลเตอร์ & เอฟเฟ็กต์แสง
ภาพตัวอย่าง ฟีลเตอร์ & เอฟเฟ็กต์แสง
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูม 2 เท่า, HDR, ฟีลเตอร์ & เอฟเฟ็กต์แสง และเลือกเปิดแฟลช หรือเติมแสงเช่นเดียวกับ Portrait Mode
VDO Mode ของกล้องหน้า รองรับการใส่ฟิลเตอร์, AI Face Beauty เลือกปรับความสวยของใบหน้าได้ตามความต้องการ และการปรับตั้งค่าความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 30 fps
ตัวอย่าง VOD Mode กล้องหน้า พร้อม AI Face Beauty
นอกจากนั้นในส่วนของ เพิ่มเติม จะมีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานไม่ว่าจะเป็น 64MP, พาโนราม่า, ไลฟ์โฟโต้, สโลโม, ไทม์แลปส์, สติ๊กเกอร์ AR, แก้ไขเอกสาร, Pro โดยในส่วนนี้เราสามารถแก้ไขจัดเรียงให้ไปอยู่บนอินเตอร์เฟซหลักของกล้องได้ เพียงแค่ลากขึ้นไปวางไว้ด้านบน และกดเครื่องหมายถูกเพื่อบันทึก
ภาพตัวอย่าง สติ๊กเกอร์ AR
มาต่อกันในส่วนของโหมดกล้องหลังกันบ้าง โดย Vivo Y72 5G มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 64MP (f/1.79) + 8MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) พร้อม LED flash, กันสั่น EIS จัดเต็มทุกฟังก์ชันการใช้งาน คนชัดในทุกสภาพแสง ช่วยให้การถ่ายภาพในทุก ๆ สถานการณ์ของคุณมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
โดยเซ็นเซอร์หลักมีความละเอียด 64MP มาพร้อมฟังก์ชันการประมวลผลภาพ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในเวลากลางวัน และกลางคืนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถัดมาจะเป็นเลนส์ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8MP พร้อมด้วยอัลกอริธึม Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ สุดท้ายจะเป็นเลนส์ Macro ระยะ 4 ซม. ความละเอียด 2MP สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ หรือวัตถุ สิ่งของขนาดเล็ก
เริ่มกันที่ Super Night Mode หรือโหมดกลางคืน ของ Vivo Y72 5G มาพร้อมการใช้โดเมน RAW ที่เป็นนวัตกรรม และการลดสัญญาณรบกวน เพื่อสร้างภาพที่คมชัดช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพในยามค่ำคืนได้อย่างดีเยี่ยม สามารถเลือกปรับสไตล์ เพิ่มสีสันของภาพตามแบบที่คุณต้องการ
ภาพตัวอย่าง Super Night Mode แบบเลือกปรับสไตล์
Portrait Mode หรือโหมดถ่ายภาพบุคคล สามารถเลือกปรับค่า f ในระดับ f/0.95 – f/16 เพื่อเลือกความเบลอฉากหลังได้ตามความต้องการ ซึ่งถ้าต้องการเบลอฉากหลังแบบโบเก้มาก ๆ ให้ปรับค่า f น้อย ๆ ครับ นอกจากนั้นยังมี AI Face Beauty เลือกปรับความสวยของใบหน้า, Pose Master ท่าทางการโพสต์, HDR, ฟิลเตอร์, และสไตล์ ให้เลือกปรับใช้งานเพิ่มเติมอีกด้วย
ภาพตัวอย่าง Portrait Mode แบบโบเก้ ที่ใช้ค่า f/0.95 ต่ำสุด
ภาพตัวอย่างย้อนแสง แบบไม่เปิด HDR / เปิด HDR
โหมดภาพปกติ จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 เลนส์ รองรับการซูม 2 เท่า ได้แก่ Super Wide-Angle หรือเลนส์มุมกว้างพิเศษ, เลนส์ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ, เลนส์ Macro ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. นอกจากนั้นยังฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งาน, เอฟเฟ็กส์แสง, และ HDR อีกด้วย
ภาพตัวอย่าง Super Wide-Angle หรือเลนส์มุมกว้างพิเศษ
ภาพตัวอย่างเลนส์ Macro ระยะใกล้สุด 4 ซม.
VDO Mode กล้องหลัง หรือโหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหว จะสามารถเลือกปรับเป็นเลนส์ Super Wide-Angle ได้ มี AI Face Beauty เลือกปรับความสวยของใบหน้า นอกจากนั้นสามารถเลือกปรับฟิลเตอร์ได้ โดยโหมด VDO ของกล้องหลังสามารถปรับความละเอียดได้ที่ 1080p แต่จะสามารถปรับอัตราเฟรมเรทได้ 60 fps ซึงสูงกว่าโหมด VDO ของกล้องหน้า
ตัวอย่าง VDO กล้องหลัง ที่ถ่ายด้วยเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 1080p ที่ 60 fps
ตัวอย่าง VDO กล้องหลัง Slo-Mo
รวมภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง Vivo Y72 5G
สรุป
– ใช้หน้าจอ Halo FullView ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมฟีเจอร์ตัวกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพง Super Linear เอฟเฟกต์เสียงขั้นสูง ให้เสียงที่หนักแน่น พร้อมสัมผัสกับการรับฟังเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น ทำให้รับชมภาพยนตร์, YouTube และเล่นเกมได้อย่างเต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
– ในส่วนของขุมพลังก็มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 700 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.2GHz รองรับ 5G แบบ 5G SA/NSA จับคู่กับ หน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB รองรับ microSD Card และระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11 เวอร์ชันใหม่
– กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 64MP (f/1.79) + 8MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) พร้อม LED flash, กันสั่น EIS และกล้องหน้าความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0
ในส่วนนี้พบว่า Vivo Y72 5G จะโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพในยามค่ำคืน หรือในพื้นที่แสงน้อย เนื่องจากกล้องหลังมาพร้อมกับ Super Night Mode และกล้องหน้ามาพร้อมกับ Selfie Night Mode + Selfie Fill Light ลดการเกิดนอยส์ในภาพ และช่วยเพิ่มแสง ทำให้ถ่ายภาพตอนกลางคืน หรือในที่แสงน้อยออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังครับ
– แบตเตอรี่สุดอึดใช้งานได้นาน 5000mAh พร้อมสนับสนุนชาร์จไว 18W ผ่านพอร์ต USB Type-C เห็นได้จากการทดสอบเล่นเกม ROV ที่เปิดการตั้งค่าในเกมแบบเต็มระบบเท่าที่ Vivo Y72 5G จะทำได้ ซึ่งในระยะเวลา 10 นาที แบตเตอรี่ลดไปเพียงแค่ 2% เท่านั้น
ข้อสังเกต
– ไม่มีเลนส์ Telephoto รองรับการถ่ายภาพในระยะไกล ซึ่งในส่วนของ Vivo Y72 จะรองรับการซูมแค่ 2X เท่านั้น
– ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ 2 ช่อง ต้องเลือกว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนระหว่าง SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD Card
– ตัวเครื่องมีความเงางาม ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ควรสวมใส่เคสขณะใช้งาน
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
- Huawei nova 7 SE
- Moto G 5G Plus
- OPPO Reno5
- realme 7 5G
- realme 6 Pro
- Samsung Galaxy A51
- Redmi Note 9 Pro
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply