พรีวิว realme Watch S Pro สมาร์ทวอทช์สุดอัจฉริยะ! จอสัมผัสใหญ่ 1.39 นิ้ว แบตอึดใช้ได้นาน 14 วัน ตัวเรือนพรีเมียม กันน้ำ 50 เมตร พร้อมฟีเจอร์เด็ด ๆ เพียบ
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ มีใครกำลังมองหาสุดยอดสมาร์ทวอทช์ที่มาพร้อมฟีเจอร์หรือฟังก์ชันการใช้งานเด็ด ๆ กันอยู่มั้ยเอ่ย? วันนี้เรามีพรีวิว realme Watch S Pro สมาร์ทวอทช์สุดอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมสโลแกน “มือโปรอย่างมีสไตล์” และกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย 10 กุมภาพันธ์นี้ มาฝากให้ได้ชมกัน
realme Watch S Pro มาพร้อมหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาดใหญ่ 1.39 นิ้ว ตัวเรือนใช้วัสดุสแตนเลสสตีลระดับพรีเมียม สายนาฬิกาสามารถเปลี่ยนถอดได้ และกันน้ำได้ตามมาตรฐาน 5ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ระดับ 50 เมตร
รองรับ Bluetooth 5.0 ใช้งานง่ายทั้งบนมือถือ Android และ iOS โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน realme Link เพื่อเปิดใช้งานหรือตั้งค่าฟีเจอร์ทั้งหมด พร้อมสนับสนุน Dual-Satellite GPS ที่มีความแม่นยำ ใช้ชิปเซ็ตคู่ประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานเด็ด ๆ อีกเพียบ อาทิ รองรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2), วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบเรียลไทม์, มีโหมดกีฬามากถึง 15 ประเภท, ใหม่ล่าสุดกับโหมดว่ายน้ำ, หน้าปัดมีให้เลือกมากกว่า 100 แบบ, มีฟังก์ชันแจ้งเตือนด้านสุขภาพที่ครอบคลุม, ใช้ควบคุมฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ, แจ้งเตือนทุกแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนผ่านจอหน้าปัดขนาดใหญ่
และที่สำคัญอีกอย่างคือ realme Watch S Pro นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 14 วันเลยทีเดียว โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ผ่านฐานชาร์จแม่เหล็กที่แถมมาให้ภายในกล่อง ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดพรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปก realme Watch S Pro
Features | realme Watch S Pro |
วันเปิดตัว : | – กุมภาพันธ์ 2564 |
ราคา : | – ยังไม่ระบุราคาวางจำหน่าย |
หน้าจอ : | – หน้าจอ AMOLED |
– ขนาด 1.39 นิ้ว | |
– ความละเอียด 454×454 พิกเซล | |
– 326 PPI | |
– ความสว่าง 450nits | |
– ฟีเจอร์ Always-On Display | |
– รองรับ Touch Screen | |
– กระจก Corning Gorilla Glass | |
ตัวเรือน : | – ใช้วัสดุสแตนเลสสตีล ระดับพรีเมียม |
สายนาฬิกา : | – สายนาฬิกาแบบถอดได้ |
– ความกว้าง 22 มม. | |
– ความยาว 152-223 มม. | |
ชิปเซ็ต : | – ใช้ชิปเซ็ตคู่ มีประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงาน |
การเชื่อมต่อ : | – รองรับ Bluetooth 5.0 |
– ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน realme Link | |
– ใช้งานได้ทั้งมือถือ Android และ iOS | |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 5.0+ |
– iOS 9.0+ | |
โหมดกีฬา : | – วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม |
– เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม | |
– ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม | |
– เดินเขา | |
– ว่ายน้ำ | |
– บาสเกตบอล | |
– โยคะ | |
– พายเรือ | |
– เครื่องเดินวงรี | |
– คริกเกต | |
– ฝึกฝนกล้ามเนื้อ | |
– ออกกำลังกายอื่น ๆ | |
โหมดสุขภาพ : | – ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง |
– ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบปกติ, แบบผิดปกติ และขณะออกกำลังกาย | |
– วัดระดับออกซิเจนในเลือด | |
– รายงานสถานะการนอนหลับ | |
– นับจำนวนก้าวเดินต่อวัน | |
– นับแคลอรี่ | |
– นับระยะทาง | |
– แจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ | |
– แจ้งเตือนให้ขยับร่างกาย | |
– บันทึกกิจกรรมต่าง ๆ | |
ฟังก์ชันอื่น ๆ : | – ควบคุมเพลง เล่น/หยุด/ข้าม เพลง |
– ควบคุมกล้อง กดชัตเตอร์ถ่ายภาพ | |
– รองรับ Dual-Satellite GPS แม่นยำสูง | |
– ค้นหาโทรศัพท์มือถือ | |
– การทำสมาธิ | |
– นาฬิกาจับเวลา | |
– พยากรณ์อากาศในแต่ละวัน | |
– แสดงวันที่, การโทร, การแจ้งเตือนต่าง ๆ | |
– ปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาตามไลฟ์สไตล์ได้มากกว่า 100 แบบ | |
– การอัปเกรดผ่าน OTA | |
– UI Interface หลากหลายภาษา | |
– ตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ | |
– แจ้งเตือนสายเรียกเข้า และข้อความ | |
– แจ้งเตือนเป้าหมายการก้าวเดินแต่ละวัน | |
– แจ้งเตือนการเชื่อมต่อ | |
– แจ้งเตือนเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ต่ำ | |
– ปรับระดับความสว่างของหน้าจอ | |
– ปรับระดับการสั่น | |
– ยกมือหรือสะบัดหน้าจอเพื่อปลุกหน้าจอ | |
– มีโหมดประหยัดพลังงาน | |
– เปิด-ปิดโหมดห้ามรบกวน | |
– ฯลฯ | |
กันน้ำ : | – Water Resistance |
– มาตรฐาน 5ATM | |
– ป้องกันแรงดันน้ำที่ระดับ 50 เมตร | |
เซ็นเซอร์ : | – ตรวจจับการเคลื่อนไหว (6-axis Accelerometer) |
– ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Geomagnetic) | |
– ตรวจจับการหมุน (Gyroscope) | |
– ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) | |
– ตรวจจับการสวมใส่ (Wearing Monitoring) | |
แบตเตอรี่ : | – 420mAh |
– ใช้งานได้นาน 14 วัน | |
– ฐานชาร์จแม่เหล็ก | |
ขนาด : | – 257.6x46x11.1 มม. (รวมสายนาฬิกา) |
น้ำหนัก : | – 63.5 กรัม (รวมสายนาฬิกา) |
สี : | – ดำ |
ดีไซน์การออกแบบ
realme Watch S Pro มาพร้อมหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาดใหญ่ 1.39 นิ้ว จอหน้าปัดมีความละเอียดสูง 454×454 พิกเซล หรือ 326 PPI ให้คุณภาพหน้าจอที่สว่างสดใสเสมือนจริง มีค่าความคมชัดสูงถึง 100,000:1 ทำให้ภาพบนหน้าปัดมีความคมชัดระดับพรีเมียม และด้วยความที่มาพร้อมหน้าปัดขนาดใหญ่ก็ทำให้ง่ายต่อการอ่านมาก ๆ เลยค่ะ
พร้อมมีเซ็นเซอร์ตรวจจับความสว่าง ที่สามารถปรับค่าความสว่างได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมรอบตัวของเรา โดยค่าความสว่างของหน้าจอนั้นอยู่ที่ 450 nits ปรับระดับความสว่างได้ 5 ระดับ มองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในที่มืดหรือที่แสงน้อย
ตัวหน้าปัดนาฬิกาทรงกลม 2.5D ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วนและรอยขนแมวได้เป็นอย่างดี พร้อมรองรับการ Touch Screen ที่สามารถตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด
หน้าปัดของ realme Watch S Pro สามารถเปลี่ยนได้หลากหลายสไตล์ตามความชอบของผู้ใช้งานเลยค่ะ โดยมีให้เลือกมากถึง 100 แบบ และยังใช้ภาพถ่ายจากอัลบั้มในเครื่องสมาร์ตโฟนมาตั้งเป็นภาพพื้นหลังของหน้าปัดนาฬิกาได้อีกด้วย ทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ Always-On Display สามารถอ่านข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่ต้องเปิดไฟหน้าจอ ทำให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ดีไซน์ตัวเรือนของ realme Watch S Pro ใช้วัสดุสแตนเลสสตีลระดับพรีเมียม มีความสวยงาม หรูหรามากขึ้น และมีความทนทานต่อการใช้งาน โดยพื้นผิวนั้นถูกขัดเงาที่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างจะเป็นการขัดแบบด้าน จบท้ายด้วยการเคลือบแบบ PVD + AF เพื่อให้เกิดภาพเอฟเฟ็กต์ระดับพรีเมียมขึ้นมา
โดยด้านข้างฝั่งซ้ายนั้นจะไม่มีปุ่มกดใช้งานใด ๆ เป็นเพียงผิวเรียบขัดด้านค่ะ
ด้านข้างตัวเรือนฝั่งขวามีปุ่มกดสำหรับสั่งงานมาให้ 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนใช้กดเปิด-ปิดตัวเรือน, กดเปิด-ปิดหน้าจอ, กดเปิดเมนูหลัก ส่วนปุ่มล่างใช้กดเปิดโหมดกีฬาต่าง ๆ และใช้เป็นปุ่มกดกลับไปที่หน้าปัดนาฬิกา
ส่วนการกดใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ใช้วิธีการเลื่อนสัมผัส การแตะ หรือปัดขึ้น-ปัดลงได้เลยค่ะ
ขณะที่ด้านหลังตัวเรือนจะมีพวกเซ็นเซอร์วัดค่าต่าง ๆ อาทิ เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, เซ็นเซอร์ SpO2 หรือเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด, เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ และมีตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ เป็นต้น
ส่วนตัวสายที่เรานำมาพรีวิวกันนั้นเป็นสายซิลิโคนสีดำที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใช้งานขณะออกกำลังกาย หรือใช้งานในชีวิตประจำวันเลยค่ะ โดยตัวเรือนมีขนาดอยู่ที่ 257.6x46x11.1 มม. และมีน้ำหนัก 63.5 กรัม (ขนาดและน้ำหนักรวมสายนาฬิกา)
นอกจากนี้ realme Watch S Pro ยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ 5ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำและใช้งานคู่กับโหมดว่ายน้ำใหม่ล่าสุดได้แบบสบาย ๆ เลยค่ะ
ฟีเจอร์การใช้งานเด่น ๆ
realme Watch S Pro นั้นมาพร้อมชิปเซ็ตคู่ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน รองรับ Bluetooth 5.0 และ Dual-Satellite GPS ที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ตโฟน Android และ iOS เลยค่ะ
โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน realme Link สามารถเชื่อมต่อเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมด ดูข้อมูลสุขภาพ รวมถึงตั้งค่าบน realme Watch S Pro ได้ตามไลฟ์สไตล์ โดยสามารถควบคุมได้อย่างอัจฉริยะ ใช้งานได้อย่างง่ายดายมาก ๆ
ตอบโจทย์ทั้งด้านดูแลสุขภาพ, กีฬา และฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ อาทิ การวัดระดับออกซิเจนในเลือด ที่มีความแม่นยำนั้นค่อนข้างสูงเทียบเท่ากับเครื่องตรวจทางการแพทย์
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขึ้นแจ้งเตือนเลยทันทีว่าอัตราการเต้นของหัวใจนั้นสูงหรือต่ำเกินไป
ฟีเจอร์สุขภาพอื่น ๆ ยังมีการนับจำนวนก้าวเดินต่อวัน, นับแคลอรี่, นับระยะทาง, แจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ, แจ้งเตือนให้ขยับร่างกาย, บันทึกกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงรายงานสถานะการนอนหลับ เป็นต้น
รองรับโหมดกีฬามากถึง 15 ประเภท อาทิ การวิ่งกลางแจ้ง, วิ่งในร่ม, เดินกลางแจ้ง, เดินในร่ม, ขี่จักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, เดินเขา, ว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, โยคะ, พายเรือ, เครื่องเดินวงรี, คริกเกต, ฝึกฝนกล้ามเนื้อ และออกกำลังกายอื่น ๆ นอกจากนี้ realme Watch S Pro ยังมีการเพิ่มโหมดว่ายน้ำใหม่ล่าสุด ด้วยคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐานระดับ 5ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ 50 เมตรเข้ามาอีกด้วย
ส่วนฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ ก็สามารถใช้ควบคุมเพลง เล่น/หยุด/ข้าม/สลับเพลง, ควบคุมกล้อง กดชัตเตอร์ถ่ายภาพ, ค้นหาโทรศัพท์มือถือ, นาฬิกาจับเวลา, พยากรณ์อากาศในแต่ละวัน, แสดงวันที่, การโทร, การแจ้งเตือนต่าง ๆ, แจ้งเตือนสายเรียกเข้า และข้อความ, ยกมือหรือสะบัดหน้าจอเพื่อปลุกหน้าจอ, แจ้งเตือนเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ต่ำ หรือแจ้งเตือนเป้าหมายการก้าวเดินแต่ละวัน เป็นต้น
แบตเตอรี่ และการชาร์จ
ในเรื่องของแบตเตอรี่ realme Watch S Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 420mAh สามารถใช้งานได้นาน 14 วัน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถือว่าอึดใช้ได้เลย หมดห่วงเรื่องแบตจะหมดระหว่างใช้งานแต่ละวัน แต่หากใครใช้งานหนัก ๆ อย่างออกกำลังกายทุกวัน ระยะเวลาก็อาจจะลดลงมานิดหน่อย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ
ส่วนเปอร์เซ็นแบตเตอรี่เพื่อน ๆ ก็สามารถเช็กได้ผ่านแอปพลิเคชัน realme Link ได้เลย โดยจะมีบอกทั้งเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ และระยะเวลาการใช้งานนับตั้งแต่การชาร์จครั้งล่าสุดด้วย
โดยภายในกล่องจะมีฐานชาร์จแม่เหล็กมาให้ หัวเชื่อมต่อเป็น USB ใช้งานได้สะดวกสบาย เพียงแนบด้านหลังของ realme Watch S Pro เข้ากับตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงแล้วค่ะ
ทั้งนี้ realme Watch S Pro จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย 10 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ ส่วนราคาวางจำหน่าย รวมถึงช่องทางการจำหน่าย เราคงต้องมาติดตามกันอีกครั้งในวันเปิดตัว ซึ่งหากมีข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติม ทางทีมงานจะนำมาแจ้งให้ทราบทันที
และเพื่อน ๆ สามารถติดตามชมรีวิว realme Watch S Pro ฉบับเต็มจากทางทีมงานได้ที่เพจ https://www.facebook.com/9thaiphone.fc/ และเว็บไซต์ www.ninethaiphone.com เร็ว ๆ นี้ค่ะ
Leave a Reply