เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S20+ และ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G จอบิ๊ก ชิปแรง แบตอึด ชาร์จไว รุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่น มาดูกัน!!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้เรามีบทความรีวิวเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S20+ และ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มาฝากให้ได้ชมกัน โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานต่าง ๆ อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ Samsung Galaxy S20+ ราคาจำหน่าย 31,900 บาท รัน Android 10 ครอบทับ One UI 2 หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2K อัตรา Refresh Rate สูง 120Hz ขุมพลัง Exynos 990 แรม 8GB คู่ความจุ 128GB กล้องหลัง 64MP + 12MP + 12MP + TOF 3D กล้องเซลฟี่ 10MP แบตสุดอึด 4500mAh ชาร์จไว 25W บอดี้กันน้ำ IP68 และสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Cosmic Grey, Cosmic Black และ Cloud Blue
สำหรับ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ราคาจำหน่าย 39,900 บาท รัน Android 10 ครอบทับ One UI 2 หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2K อัตรา Refresh Rate สูง 120Hz ขุมพลัง Exynos 990 แรม 12GB คู่ความจุ 128GB กล้องหลัง 108MP + 48MP + 12MP + TOF 3D กล้องเซลฟี่ 40MP แบตสุดอึด 5000mAh ชาร์จไว 45W บอดี้กันน้ำ IP68 และสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Cosmic Grey และ Cosmic Black
ตารางเปรียบเทียบสเปกการใช้งาน Samsung Galaxy S20+ และ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
Features | Samsung Galaxy S20+ | Samsung Galaxy S20 Ultra 5G |
วันเปิดตัว : | – กุมภาพันธ์ 2563 | – กุมภาพันธ์ 2563 |
ราคา : | – 31,900 บาท | – 39,900 บาท |
OS : | – Android 10 ครอบทับ One UI 2 | – Android 10 ครอบทับ One UI 2 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X | – หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.9 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1440×3200 พิกเซล | – ความละเอียด 1440×3200 พิกเซล | |
– กระจก Corning Gorilla Glass 6 | – กระจก Corning Gorilla Glass 6 | |
– HDR10+ | – HDR10+ | |
– Refresh Rate 120Hz | – Refresh Rate 120Hz | |
CPU : | – Exynos 990 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.73GHz | – Exynos 990 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.73GHz |
RAM : | – 8GB | – 12GB |
ROM : | – 128GB | – 128GB |
– microSD Card สูงสุด 1TB | – microSD Card สูงสุด 1TB | |
กล้องหลัง : | – 64MP + 12MP + 12MP + TOF 3D | – 108MP + 48MP + 12MP + TOF 3D |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.0 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.0 + f/2.2 | |
– LED flash | – LED flash | |
– Super Steady | – Super Steady | |
– กันสั่น OIS | – กันสั่น OIS | |
– Auto-HDR | – Auto-HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
– 3x Hybrid Optical Zoom | – 10x Hybrid Optical Zoom | |
– 30x Digital Zoom | – 100x Digital Zoom | |
กล้องหน้า : | – 10MP | – 40MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
Video : | – 4320p@24fps, 2160p@30/60fps, 1080p@30/60/240fps, 720p@960fps | – 4320p@24fps, 2160p@30/60fps, 1080p@30/60/240fps, 720p@960fps |
Battery : | – 4500mAh | – 5000mAh |
– สนับสนุน Fast Charging 25W | – สนับสนุน Fast Charging 45W | |
ขนาด : | – 161.9×73.7×7.8 มม. | – 166.9x76x8.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 186 กรัม | – 222 กรัม |
รองรับซิม : | – Hybrid Dual SIM | – Hybrid Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
ระบบเครือข่าย : | – 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100MHz | – 4G LTE |
– 4G LTE | – 5G SA/NSA | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax |
– Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 5.0 | |
– OTG | – OTG | |
– USB Type-C | – USB Type-C | |
– NFC | – NFC | |
GPS : | – GPS | – GPS |
– A-GPS | – A-GPS | |
– GLONASS | – GLONASS | |
– BDS | – BDS | |
– GALILEO | – GALILEO | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Fingerprint Under Display |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Ambient light | – Ambient light | |
– Gyroscope | – Gyroscope | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
– Barometer | – Barometer | |
สี : | – Cosmic Grey | – Cosmic Grey |
– Cosmic Black | – Cosmic Black | |
– Cloud Blue | – |
Features | Samsung Galaxy S20+ | Samsung Galaxy S20 Ultra 5G |
ราคา : | – 31,900 บาท | – 39,900 บาท |
ขนาด : | – 161.9×73.7×7.8 มม. | – 166.9x76x8.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 186 กรัม | – 222 กรัม |
สี : | – Cosmic Grey | – Cosmic Grey |
– Cosmic Black | – Cosmic Black | |
– Cloud Blue | – |
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S20+ คือมาพร้อมราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าอยู่ที่ 31,900 บาท ส่วนรุ่น S20 Ultra 5G ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 39,900 บาท มีส่วนต่างอยู่ที่ราว 8,000 บาท นอกจากนี้รุ่น S20+ ยังมาพร้อมตัวเครื่องขนาดบางและเบามากกว่า กะทัดรัด พกพาสะดวก รวมถึงมีตัวเครื่องสี Cloud Blue ให้เลือกซื้อด้วย ส่วนสเปกการใช้งานต่าง ๆ ก็จะคล้ายกับรุ่น S20 Ultra 5G เลยค่ะ อาทิ ชนิดและความละเอียดหน้าจอ, ชิปเซ็ต, ความจุในตัวเครื่อง หรือสแกนนิ้วใต้จอ เป็นต้น
Features | Samsung Galaxy S20 Ultra 5G | Samsung Galaxy S20+ |
หน้าจอ : | – ขนาด 6.9 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว |
RAM : | – 12GB | – 8GB |
กล้องหลัง : | – 108MP + 48MP + 12MP + TOF 3D | – 64MP + 12MP + 12MP + TOF 3D |
– 10x Hybrid Optical Zoom | – 3x Hybrid Optical Zoom | |
– 100x Digital Zoom | – 30x Digital Zoom | |
กล้องหน้า : | – 40MP | – 10MP |
Battery : | – 5000mAh | – 4500mAh |
– สนับสนุน Fast Charging 45W | – สนับสนุน Fast Charging 25W | |
ระบบเครือข่าย : | – 4G LTE | – 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100MHz |
– 5G SA/NSA | – 4G LTE |
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G คือ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่กว่าอยู่ที่ 6.9 นิ้ว หน่วยความจำ RAM สูงกว่าถึง 12GB ด้านกล้องก็ไม่น้อยหน้ามีความละเอียดสูงกว่าทั้งกล้องหน้าและหลังเลยค่ะ โดยกล้องหลัง 4 ตัว คมชัดสุด 108MP รองรับออปติคอลซูม 10 เท่า และดิจิตอลซูม 100 เท่า กล้องหน้า 40MP
ขณะที่รุ่น S20+ กล้องหลังคมชัดสุด 64MP รองรับออปติคอลซูม 3 เท่า ดิจิตอลซูม 30 เท่า และกล้องหน้า 10MP นอกจากนี้รุ่น S20 Ultra 5G ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุมากกว่าอยู่ที่ 5000mAh รองรับชาร์จไว 45W และรองรับ 5G แต่รุ่น S20+ มีแบตเตอรี่ 4500mAh ชาร์จไว 25W รองรับ 4G LTE ไม่รองรับ 5G ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S20+ และ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากสเปกการใช้งานรวม ๆ แล้วทั้ง 2 รุ่นก็มีสเปกที่คล้ายกันอยู่หลายส่วน อาทิ ชนิดและความละเอียดของหน้าจอ, ชิปประมวลผล, บอดี้กันน้ำ, สแกนนิ้วใต้จอ และแบตเตอรี่ก็ต่างกันนิดหน่อย
แต่หากเพื่อน ๆ ยอมเพิ่มเงินอีกราว 8,000 บาท แล้วเลือกซื้อเป็นรุ่น S20 Ultra 5G สิ่งที่จะได้เพิ่มเติมมาก็คือ ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น, ความจำ RAM มากขึ้น, กล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียดสูงกว่า, ระบบซูมของกล้องหลังดีกว่า, แบตเตอรี่สูงกว่าเล็กน้อยแต่ได้ชาร์จไวมาถึง 45W แถมรองรับเครือข่าย 5G อีกด้วย
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบอยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยค่ะ 🙂
Leave a Reply