รีวิว Vivo V20 กล้องหน้าสวย 44MP พร้อม Eye Autofocus แบตอึด 4000mAh ชาร์จไว 33W ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ในราคาหมื่นต้น ๆ!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนกล้องสวย เซลฟี่ล้ำ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ในราคาหมื่นต้น ๆ! วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo V20 น้องใหม่ล่าสุดจากตระกูล V Series ของ Vivo ที่มาพร้อมสโลแกน “44MP Eye Autofocus Selfie, Be the Focus” มาฝากให้ได้ชมกัน
Vivo V20 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ใช้ขุมพลัง Snapdragon 720G หน่วยความจำแรม 8GB คู่ความจุ 128GB รองรับ microSD Card รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11 ใหม่ล่าสุด
กล้องหลัง 3 ตัวระดับมืออาชีพ ความละเอียดสูงสุด 64MP มาครบทั้งเลนส์ Super Wide-Angle, Bokeh, Mono และ Super Macro พร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ เพียบ อาทิ Super Night Mode, Stylish Night Filter และ Dual-View Video เป็นต้น
เอาใจสายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 44MP มาพร้อม Eye Autofocus ไม่หลุดโฟกัสทุกโมเมนต์ และ Selfie Soflight Band มีโหมดการใช้งานเด่น ๆ เช่น Steadiface Selfie Video ยกระดับการถ่ายทำ Vlog, Slo-Mo Selfie Video และโหมด Super Night Selfie เป็นต้น
แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จไว 33W FlashCharge ดีไซน์หรูหราโฉบเฉี่ยว ตัวเครื่องบางสุด 7.38 มม. น้ำหนักเบา 171 กรัม พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วน ทั้งยังมีเทคโนโลยี AF ช่วยป้องกันรอยนิ้วมืออีกด้วย
Vivo V20 ราคาจำหน่ายเพียง 11,999 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Sunset Melody และ Midnight Jazz โดยเปิดให้แฟน ๆ ได้จองกันแล้วจนถึงวันที่ 22 ต.ค. 63 เท่านั้น ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 63 เป็นต้นไป
พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจอง Vivo V20 รับฟรีของแถมสุดพรีเมียม กระเป๋า Duffle Bag มูลค่า 1,399 บาท*, บัตร VIP Card มูลค่า 6,999 บาท และรับสิทธิประกันหน้าจอแตก 1 ปี พร้อมขยายระยะเวลารับประกันให้อีก 1 ปีทันที ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปก Vivo V20
| Features | Vivo V20 |
| วันเปิดตัว : | – ตุลาคม 2563 |
| ราคา : | – 11,999.- (ณ วันที่ 20 ต.ค. 63) |
| OS : | – Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11 |
| หน้าจอ : | – หน้าจอ AMOLED |
| – ขนาด 6.44 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | |
| CPU : | – Snapdragon 720G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz |
| GPU : | – Adreno 618 |
| RAM : | – 8GB |
| ROM : | – 128GB |
| – รองรับ microSD Card | |
| กล้องหลัง : | – 64MP + 8MP + 2MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.89 + f/2.2 + f/2.4 | |
| – dual-tone LED flash | |
| – Eye Autofocus | |
| – PDAF | |
| – HDR | |
| – Panorama | |
| กล้องหน้า : | – 44MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
| – Eye Autofocus | |
| – Selfie Soflight Band | |
| Video : | – 4K@30fps, 1080p@30/60fps |
| Battery : | – 4000mAh สนับสนุน FlashCharge 33W |
| ขนาด : | – 161.30×74.20×7.38 มม. |
| – 161.30×74.20×7.48 มม. (Sunset Melody) | |
| น้ำหนัก : | – 171 กรัม |
| – 172 กรัม (Sunset Melody） | |
| รองรับซิม : | – Dual SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – |
| ระบบเครือข่าย : | – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz |
| – 4G LTE | |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz |
| – Bluetooth 5.1 | |
| – USB Type-C | |
| – OTG | |
| GPS : | – GPS |
| – A-GPS | |
| – GLONASS | |
| – Galileo | |
| – Beidou | |
| Sensor : | – Fingerprint Under Display |
| – Accelerometer | |
| – Gyroscope | |
| – Proximity | |
| – Compass | |
| สี : | – Sunset Melody |
| – Midnight Jazz |
แกะกล่อง Vivo V20
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo V20 ตัวเครื่องสี Midnight Jazz
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน FlashCharge 33W
– สายชาร์จ USB Type-C
– หูฟังขนาด 3.5 มม.
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
เคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ ขณะสวมใส่จะโชว์ดีไซน์ด้านหลังกันแบบชัด ๆ
Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Vivo V20 รองรับเทคโนโลยี FlashCharge กำลังไฟ 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ได้ถึง 65% ภายในระยะเวลา 30 นาที ใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่องเลยค่ะ
ทำความรู้จัก Vivo V20
ด้านหน้า Vivo V20 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ เปิดประสบการณ์การมองเห็นที่กว้างกว่า และคมชัดมากยิ่งขึ้น
อัตราส่วนจออยู่ที่ 20:9 ขอบจอโค้ง 2.5D สามารถใช้งานได้กว้างเต็มสายตา พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือฉับไวไว้บนจอแสดงผลอีกด้วย
ด้านหน้าส่วนบน กึ่งกลางหน้าจอด้านบนมีรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งกล้องหน้าความละเอียดสูง 44MP เหนือหน้าจอเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านหลัง Vivo V20 มาพร้อมบอดี้เทคโนโลยี AG Matte Glass เพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่อง โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์สุดบาง และเรียบหรูที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาอย่างประณีต ตัวเครื่องบาง 7.38 มม. และน้ำหนัก 171 กรัม สัมผัสได้ถึงความเรียบเนียนที่มากยิ่งขึ้น พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วน ทั้งยังมีเทคโนโลยี AF ช่วยป้องกันรอยนิ้วมืออีกด้วย
โดยตัวเครื่องของ Vivo V20 มีให้เลือก 2 สี เป็นสีสันที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ หล่อหลอมศิลปะ เทรนด์ และความคลาสสิกเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ Midnight Jazz สีดำลึกลับ เต็มไปด้วยพลัง เรียบหรู คลาสสิก และ Sunset Melody เฉดสีสดใส ดูสนุกสนาน ขี้เล่น
ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว จัดวางเรียงกันในโมดูลสี่เหลี่ยมแนวตั้งกรอบสีเงินมุมมีความโค้งมน พร้อมไฟแฟลชแบบ dual tone LED flash โดยตัวแรกที่มีขนาดใหญ่เป็นเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ถัดลงมาฝั่งซ้ายเป็นเซ็นเซอร์รอง Multi-Function ความละเอียด 8MP ติดกันเป็นเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP
โดยกล้องหลังของ Vivo V20 ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบคล้ายขั้นบันได วางเลเยอร์ที่เพิ่มแต่ละขั้นอย่างประณีต สเต็ปขั้นแรกเป็นสีดำคลาสสิกที่บรรจุตัวกล้องไว้ ขั้นที่สองคือฐานกรอบตกแต่งโดยรอบ มีสีกลมกลืนกับฝาครอบ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่ค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง มีแค่เพียงรูไมโครโฟน
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องถาดใส่ซิมการ์ด
โดย Vivo V20 มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM พร้อมกับเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB หรือกล่าวง่าย ๆ ใช้งานในรูปแบบ SIM 1 + SIM 2 + microSD Card เลยค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง พบปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์
Performance
หลังจากที่นำ Vivo V20 ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 720G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz หน่วยประมวลผลระดับ 8 นาโนเมตร ที่มีประสิทธิภาพการทำงานอันแข็งแกร่ง ลดการใช้พลังงาน ผสานหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 618
หน่วยความจำสูง RAM 8GB + ROM 128GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 5 และ CPU-Z พบว่าสามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 516 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1656 คะแนน
ขณะที่ข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 3254MB ความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 102.73GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Adreno 618 หน้าจอระดับ Full HD+ และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 เป็นต้น
สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง Legacy of Discord มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ ซึ่ง Legacy of Discord เกมต่อสู้แบบเรียลไทม์บนโลกแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ Vivo V20 แสดงผลภาพกราฟิก 3D และสเปเชียลเอฟเฟกต์สวยสมจริง ภาพบนจอมีความคมชัด เกมมีความลื่นไหลดี เล่นได้อย่างเพลินเพลินมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Game Highway สร้างช่องทางด่วนสำหรับการเล่นเกม และสามารถจัดความสำคัญของ CPU กับหน่วยความจำ ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 30% ตัว ART++ Turbo ช่วยเร่งการเปิดใช้งาน พร้อมการสลับแอปฯ ลดความช้าได้ถึง 31% มี AI Pre-Loading สามารถประมวลผลการเปิดใช้งานแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ถึง 20%
Interface
เริ่มกันที่หน้าจอ Lock Screen ก่อนเลยค่ะ สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่าน แต่หากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแล้ว บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา 2 แบบ ด้านบนเป็นไอคอนสแกนใบหน้า ส่วนด้านล่างเป็นสแกนลายนิ้วมือ
ก็สามารถสแกนลายนิ้วมือลงบนหน้าจอตรงไอคอนได้เลย หรือหากจะสแกนใบหน้าก็ปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วปัดขึ้น หลังจากปลดล็อกหน้าจอมาแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้ 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา
เมื่อกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะมีให้เลือกตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลัง
หรือหากปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย, เปิดโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่, โหมดเครื่องบิน เป็นต้น และหากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่อง โดย Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11 สามารถปรับแต่งได้อย่างล้ำลึก มีความเรียบง่าย เพื่อให้การตอบสนองกับผู้ใช้งานราบรื่นยิ่งขึ้น
รองรับแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น เปลี่ยนธีมสวย ๆ ภายในเครื่องได้ที่ศูนย์ธีม และรองรับแอปฯ Vivo.com รวมคู่มือการใช้งานของมือถือ Vivo
สามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store, V-Appstore และ Game Center
รองรับ Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียง
ในส่วนนี้เป็น iManager สแกนไวรัสที่ไม่ปลอดภัยภายในเครื่อง และปรับการใช้งานให้เหมาะสม มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
พวกเครื่องมือการใช้งานต่าง ๆ รองรับ นาฬิกาปลุก, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, สมุดโน๊ต
ปฏิทิน, การโคลนโทรศัพท์ และรองรับ Multi-Turbo ที่ได้รับการอัปเดตด้วย ART ++ Turbo ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ทั้งการเร่งความเร็ว ระบายความร้อนภายในเครื่อง ไปจนถึงฟังก์ชัน AI ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิม
โดยการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
รองรับโหมดป้องกันดวงตา เปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวลสบายตา, Dark Mode เปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง และใช้งานได้สบายตามากกว่าเดิม รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ง่าย ๆ
รองรับการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก อาทิ ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนสแกนลายนิ้วมือ และจดจำใบหน้า เป็นต้น
ส่วนนี้เป็นหน้าอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด, แสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และแสดงพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง
Vivo V20 มี AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ พร้อมจัดการการใช้พลังงานเบื้องหลัง
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยรองรับทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และมีสแกนใบหน้า ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อนนะคะ
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
มีฟีเจอร์ Ultra Game Mode ปลดปล่อยศักยภาพของฮาร์ดแวร์ สามารถบล็อกการแจ้งเตือนทาง SMS และแอปฯ อื่น ๆ เพื่อลดการรบกวน, เปิดใช้งานการป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ เพื่อความแม่นยำ และล็อกความสว่าง
นอกจากนี้ยังสามารถปรับอัตราเฟรมเรตและอุณหภูมิได้เอง พร้อมมี Visual Effect หรือการสร้างเทคนิคพิเศษทางภาพ จะล็อคความสว่างเพื่อให้เพลิดเพลินกับเอฟเฟกต์ภาพที่ดีที่สุด ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด เพื่อให้ได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
รองรับการตั้งค่าทางลัดและการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน หรือโทรผ่านวิดีโอโดยใช้งาน Face Beauty เป็นต้น
รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
และหากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมดขึ้นมา สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ โดยจะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่องได้ นอกจากนี้ยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่มุมขวาบน แล้วเลือกปิดล็อก หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนแยกหน้าจอได้อีกด้วย
สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC, ภาพถัดมาเป็นมุมมองขณะชาร์จแบตเตอรี่ จะแสดงไอคอนการชาร์จเร็วขึ้นมาดังรูป นอกจากนี้ยังสามารถเปิด-ปิด, รีสตาร์ทตัวเครื่อง หรือเปิดเหตุฉุกเฉิน ได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง
รองรับฟังก์ชัน AI Image Matting – Dynamic Sky เหมือนกับรุ่น Pro เลยค่ะ สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังท้องฟ้าได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าที่ฝนตก, แดดออก, ตะวันตกดิน หรือเพิ่มพื้นหลังแบบเคลื่อนไหวให้กับภาพนิ่งก็ทำได้ง่าย ๆ
รองรับการแก้ไขภาพแยกตัวบุคลกับฉากพื้นหลัง เลือกแก้ไขได้ทั้งตัวบุคคลและพื้นหลัง ช่วยสร้างเอฟเฟกต์ภาพให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย ๆ เลย เข้าไปที่ อัลบั้มภาพ > แก้ไข > ซ่อมแซม > คืนค่า HD > AI Image Matting หรือการตัดรูปภาพ > Dynamic Sky หรือท้องฟ้าเปลี่ยน
ตัวอย่างภาพ Memory Recaller
นอกจากนี้ Vivo V20 ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Memory Recaller โดยจะช่วยทำให้ภาพเก่ากลับมาคมชัดได้ทันที ด้วยเครื่องมือตกแต่งสีอัจฉริยะ โดยสามารถแก้ไข และเพิ่มสีสันให้ภาพเก่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยความคมชัดระดับ Ultra HD ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย ๆ เลย เข้าไปที่ อัลบั้มภาพ > แก้ไข > ซ่อมแซม > คืนค่า Ultra HD
หลังจากที่กดคืนค่า Ultra HD ระบบจะทำการประมวลผลภาพถ่ายใบเก่าให้กลับมามีชีวิตเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยใช้เวลาไม่นานเลยในการประมวลผล
ตัวอย่างภาพ Memory Recaller
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
เริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย Vivo V20 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อม Eye Autofocus โหมดโฟกัสอัตโนมัติ สามารถจับโฟกัสจากระยะถ่าย 15 ซม. ถึงจุดที่ไกลที่สุดได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ระยะใกล้หรือจะระยะไกลแค่ไหน ก็สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างคมชัด ไม่ต้องจ้องไปที่กล้องเพื่อจับภาพ และทำให้เพลิดเพลินไปกับการเซลฟี่มากยิ่งขึ้น เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ
เริ่มที่ Selfie Night Mode หรือ Selfie Softlight Band มาพร้อมระบบ AI สุดอัจฉริยะที่ป้องกันการเกิด Noise ของภาพถ่าย และการเปิดรับแสงหลายภาพในเวลากลางคืน ด้วยเทคโนโลยี AI Low-Light Portrait ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือในที่มืด แสดงรายละเอียดใบหน้าได้อย่างชัดเจน
พร้อมมีโหมด Selfie Softlight Band ให้ถ่ายเซลฟี่กลางคืนได้อย่างสวยคมชัด อุณหภูมิสีสมบูรณ์แบบ และโทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยจะมีการปรับตามแสงรอบข้างโดยอัตโนมัติ สามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชาญฉลาด
นอกจากนี้ Selfie Night Mode ยังรองรับ AI Face Beauty ปรับค่าความงามได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก รวมถึงรองรับการเปิดใช้งาน Selfie Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่าย และปรับอัตราส่วนของภาพถ่ายได้
ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie Night Mode
ต่อกันที่ Portrait Mode สามารถเพิ่มลูกเล่นลงในภาพถ่ายทันทีด้วย Portrait Bokeh ที่มีการผสมผสานระหว่างฉากหน้าและฉากหลัง ปรับระดับความเบลอของฉากหลังก่อนถ่ายภาพได้ง่าย ๆ ตั้งแต่ระดับ f/1.0 – f/16 ซึ่งหากค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอ และสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ถ่ายกลางวันก็ชัด ถ่ายกลางคืนก็สวย
นอกจากนี้ยังรองรับ Selfie Softlight Flash, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย และ AI Beauty ที่ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผากได้เองอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Portrait Mode
รองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพเซลฟี่แบบชิค ๆ มาให้เสร็จสรรพ จะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่คู่ หรือเซลฟี่กลุ่มก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย อีกทั้งยังมีสไตล์สีสวย ๆ ไม่เหมือนใคร เพิ่มความเก๋ให้กับภาพถ่ายให้เลือกใช้งาน
ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master
ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี
นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลให้เลือกใช้งานอีกหลายโทน
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพ มีฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ
โหมดบันทึกวิดีโอ ความละเอียดคมชัดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) พร้อมด้วยโหมด Eye Autofocus และ AI Face Beauty ช่วยปรับค่าสวยงามของผิว และการปรับรูปร่าง ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพได้สมบูรณ์แบบสะท้อนความงามในตัวบุคคล ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับการสั่นของมือได้แบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันการสั่นไหวของภาพ ทำให้ถ่ายวิดีโอได้อย่างราบรื่น
พร้อมมีฟิลเตอร์สีมากมาย และฟิลเตอร์ถ่ายวิดีโอแนวภาพยนตร์ให้เลือกใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่าง 4K Selfie Video
ตัวอย่าง Steadiface Selfie Video
นอกจากนี้กล้องหน้าของ Vivo V20 ยังมาพร้อม Dual-View Video เพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อม ๆ ในเวลาเดียวกัน ช่วยเก็บทุกรายละเอียดความงามของภาพ โดยมี 2 โหมดให้เลือกใช้งานจากมุมมองที่แตกต่างกันทั้งแบบ Picture-in-Picture และ Dual View ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและหลังเลยนะคะโหมดนี้ เหมาะสำหรับคนทำ Vlog มาก ๆ เลยค่ะ
ตัวอย่าง Dual-View Video
มาดูที่โหมดถ่ายภาพพิเศษกันบ้าง โดยกล้องหน้าของ Vivo V20 รองรับโหมดความละเอียดสูง 44MP เก็บภาพได้แบบคมชัดสุด ๆ, Panorama Selfie ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดสูง 44MP
โหมด Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ, Slo-Mo Selfie Video ถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่นได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สลับระหว่างการเคลื่อนไหวเร็วและช้า ราบรื่นระดับ 240fps และ AR Stickers Mode รวมสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ ไว้ให้ใช้งานเพียบ และหากต้องการบันทึกเป็นวิดีโอก็ให้กดค้างไปที่ปุ่มชัตเตอร์ค่ะ
ตัวอย่าง Slo-Mo Selfie Video
ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers
ถัดมาเราจะไปดูกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังค่ะ โดย Vivo V20 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย 64MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.89 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม dual tone LED flash เหมือนกับรุ่น Pro
โดยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ช่วยให้ถ่ายภาพที่มีรายละเอียดชัดเจน กล้องรองประกอบไปด้วย เลนส์ Super Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา, Bokeh ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างมืออาชีพด้วย Light Speckle Bokeh, เลนส์ Macro ถ่ายภาพในระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. และกล้อง Mono ถ่ายเอฟเฟกต์ขาวดำ ลำดับถัดมาเราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันต่อเลย
เริ่มที่ Super Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนสุดพิเศษ เพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้น พร้อมมี Tripod Night Mode หรือโหมดขาตั้งกล้อง ช่วยยืดระยะเวลาการเปิดรับแสงและเพิ่มความเสถียร ให้ภาพถ่ายกลางคืนสวยงามไร้ที่ติ พร้อมรองรับการถ่ายภาพกลางคืนแบบ Super Wide-Angle
มีเครื่องมือลดสัญญาณรบกวนหรือการเกิดนอยส์ของภาพ หรือ AI Noise Cancellation และ Sky Divider ช่วยให้ภาพถ่ายท้องฟ้าดูเป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดเจนในยามค่ำคืน พร้อมรองรับฟิลเตอร์กลางคืนสุดพิเศษ โทนสีสวย ๆ ที่มีให้เลือกใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ โทนดำ-ทอง, บลูไอซ์, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode
ต่อที่ Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างสวยงามเป็นมืออาชีพ ให้ภาพ Portrait แบบใหม่ในสไตล์ที่เป็นตัวตน โหมดนี้มีการแยกภาพบุคคลและภาพพื้นหลังแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
สามารถปรับค่า Bokeh หน้าชัดหลังเบลอได้เอง เริ่มตั้งแต่ f/0.95 – f/16 ค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอค่ะ ซึ่งหากถ่ายภาพ Night Portrait จะมีเอฟเฟกต์ Bokeh เพิ่มลูกเล่นเก๋ ๆ ให้กับภาพถ่ายได้ โดยสามารถเพิ่มลูกเล่นเปลี่ยนดวงไฟให้เป็นดีไซน์อื่น ๆ ได้ด้วย เช่น รูปหัวใจ, สามเหลี่ยม, ดวงดาว หรือแบบห้าเหลี่ยม เป็นต้น
พร้อมรองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผากอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Portrait
นอกจากนี้ยังรองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพทั้งเซลฟี่คนเดียว, เซลฟี่กลุ่ม, ถ่ายภาพบุคคล และแบบกลุ่ม พร้อมมีสไตล์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้หลายโทน
มีฟิลเตอร์หลากสี และเอฟเฟ็กแสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลด้วยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟกต์แสง
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูมสูงสุด 10 เท่า, การเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR มีโหมดถ่ายภาพ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา (เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศา), โหมด Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และโหมด Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้สุดเพียง 2.5 ซม.
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Wide-Angle
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
มีฟังก์ชัน Motion Auto focus เพียงแตะ 2 ครั้งที่บุคคล หรือวัตถุใดๆ ระบบก็จะติดตามสิ่งที่เราเลือก ทำให้ไม่หลุดโฟกัส ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ กับเอฟเฟ็กแสงถ่ายภาพบุคคลเก๋ ๆ ให้เลือกใช้งานอีกด้วยเช่นกัน
ต่อกันที่โหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกที่ความละเอียดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) อัตราเฟรม 30fps และ 60 fps รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super Wide-Angle และมีกันสั่นระหว่างถ่ายวิดีโอด้วย พร้อมรองรับฟีเจอร์ AI Face Beauty สามารถปรับรายละเอียดโทนสีผิวได้หลากหลายเหมือนกับกล้องหน้า อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบางเรียว, กระชับผิว เป็นต้น และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ฟิลเตอร์แนวภาพยนตร์ใช้ถ่ายแนว Art Portrait ให้เลือกใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่าง Video กันสั่น
ตัวอย่าง Art Portrait Video
รองรับ Dual-View Video เหมือนกับกล้องหน้าเลยค่ะ โดยสามารถสร้างสรรค์วิดีโอเก๋ ๆ ด้วยการบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกัน มีมุมมองแบบ Picture-in-Picture และ Dual View
ตัวอย่าง Dual-View Video
ด้านโหมดถ่ายภาพพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่โหมดความละเอียดสูง 64MP ถ่ายภาพด้วยความคมชัดสูงสุด เก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน, Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้างเต็มสายตา
ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดสูง 64MP
Live Photo Mode สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ, Slo-Mo Mode บันทึกวิดีโอสโลวโมชั่น เก็บภาพวิดีโอได้อย่างช้า ๆ และชัดเจน, Time-Lapse Mode ถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง
ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo
รองรับ Mode Pro สามารถปรับตั้งค่า White Balance, ควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ หรือ Auto Focus ได้เอง, AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์สวย ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย เพิ่มความน่ารักให้กับภาพถ่าย และสุดท้ายเป็น โหมดแก้ไขเอกสาร จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสาร
ตัวอย่างภาพ AR Stickers
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo V20
สรุป
- กล้องสวยมากทั้งหน้าและหลัง ไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง Vivo V20 Pro 5G เลยค่ะ พร้อมดีไซน์ทันสมัย โฉบเฉี่ยว สเปกครบ และที่สำคัญราคาดี เข้าถึงได้ง่าย
- รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11 ใหม่ล่าสุด ที่ปรับแต่งได้อย่างล้ำลึก มีความเรียบง่ายสวยงาม ใช้งานราบรื่นยิ่งขึ้น
- ขุมพลัง Snapdragon 720G ขนาด 8nm ผสานชิปกราฟิก Adreno 618 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความลื่นไหลดี พร้อมหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- กล้องหน้าความละเอียดสูง 44MP พร้อม Eye Autofocus และโหมดการใช้งานเด่น ๆ อาทิ Slo-Mo Selfie, 4K Selfie, Steadiface Selfie Video และ Dual-View Video เป็นต้น ถูกใจสายเซลฟี่ หรือคนทำ Vlog สวย ๆ แน่นอนค่ะ
- กล้องหลัง 3 เลนส์ เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP พร้อมเลนส์ Super Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา, Bokeh ถ่ายภาพบุคคลได้อย่างมืออาชีพ, Super Macro ในระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. และสุดท้ายเป็นเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP ใช้ถ่ายเอฟเฟกต์ขาวดำ มีโหมดการใช้งานมากมาย อาทิ Super Night Mode, Super Wide-Angle และบันทึกวิดีโอ Dual-View เป็นต้น
- จอใหญ่เต็มตา ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
- ดีไซน์โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass ตัวเครื่องเรียบหรู สวยงาม สุดบางเบา พกพาสะดวก พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ
- รองรับฟีเจอร์ Dynamic Sky เปลี่ยนภาพพื้นหลังท้องฟ้าได้อย่างอิสระ และ Memory Recaller HD Restoration เปลี่ยนภาพเก่า ๆ ให้กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง
- แบตเตอรี่ความจุสูง 4000mAh สนับสนุนชาร์จไว 33W FlashCharge ผ่านพอร์ต USB Type-C
ข้อสังเกต
- ไม่มีสีขาว Moonlight Sonata ให้เลือกเหมือนกับรุ่น Pro
- ไม่สนับสนุนชิปเสียง Hi-Fi (แต่คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio)
- ไม่ใช่กล้องหน้าเลนส์คู่เหมือนกับรุ่น Pro โดยกล้องหน้าของ V20 จะไม่มีเลนส์ Super Wide-Angle ค่ะ
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply