รีวิว Vivo TWS Neo สุดยอดหูฟังไร้สายใหม่ล่าสุด! คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ เบสแน่น รองรับ Bluetooth 5.2 ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

รีวิว Vivo TWS Neo สุดยอดหูฟังไร้สายใหม่ล่าสุด‼️ คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ เบสแน่น รองรับ Bluetooth 5.2 ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

Vivo TWS

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 ล่าสุด Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ Vivo TWS Neo หูฟังไร้สายเสียงทรงพลังระดับสตูดิโอออกมาแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้

Vivo TWS Neo มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ 14.2mm ให้เสียงที่คมชัด ค่าความหน่วง หรือค่า Latency ต่ำถึง 88ms ลื่นไหลบนทุกแพลตฟอร์มทั้ง Android และ iOS เชื่อมต่อรวดเร็วกว่าด้วย Bluetooth 5.2

Vivo TWS (44)

ผสานเทคโนโลยีคุณภาพเสียง aptX มาตรฐาน CD Audio โดยใช้หลักการสร้างเสียงแบบ Deep Field คมชัดทุกย่านเสียง ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับเสียงที่สมบูรณ์แบบ เสียงเบสหนักขึ้น ตอบสนองต่อไดนามิกดี มีความเสถียร เสียงกลางชัด มีมิติ ไม่มีสะดุด เสียงสูงใส คมชัดสมจริง พร้อมเทคโนโลยี AI ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ SmartSound ช่วยขจัดเสียงรบกวนรอบข้างได้

Vivo TWS (40)

ที่ตัวหูฟังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งานอัจฉริยะทั้ง 2 ข้าง สามารถใช้งานได้นานกว่าเดิมถึง 22.5 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Find My TWS Neo ช่วยค้นหาหูฟังอีกข้างที่หายไปได้ และรองรับการใช้งานร่วมกับ Google Assistant ที่เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว

Vivo TWS (45)

Vivo TWS Neo ใช้ดีไซน์แบบ Open-Fit สวย ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด สวมใส่สบาย เหมือนไม่ได้ใส่ น้ำหนักเบาเพียง 4.7 กรัม ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส จะเปลี่ยนเพลง, รับสายเรียกเข้า หรือปรับระดับเสียงเพลง ก็ทำได้ง่ายด้วยการสัมผัสที่หูฟัง

Vivo TWS (26)

สามารถตั้งค่าการใช้งานหูฟังเพื่อใช้งานคำสั่งต่าง ๆ เพิ่มเติมตามความต้องการได้เอง พร้อมกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน iP54 ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน กล่องเคสสวยหรู พกพาสะดวก เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ง่ายดายเพียงเปิดฝาเคส

Vivo TWS (20)

Vivo TWS Neo ราคาเพียง 2,999 บาท มาพร้อม 2 สีคลาสสิค ทันสมัย ได้แก่ Moonlight White (ขาว) และ Starry Blue (ดำน้ำเงิน) โดยวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย เพื่อน ๆ สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปก Vivo TWS Neo

Features Vivo TWS Neo
วันเปิดตัว :  – กรกฎาคม 2563
ราคา :  – 2,999.- (ณ วันที่ 21 ก.ค. 63)
ชิป :  – Qualcomm รุ่นที่ 4
การใช้งาน :  – ควบคุมและสั่งงานด้วยการสัมผัส
 – แตะ 2 ครั้ง
 – เลื่อนสไลด์
 – กด
 – กดค้าง
Feature :  – รองรับทุกแพลตฟอร์มทั้ง Android และ iOS
 – ลักษณะหูฟังแบบ Half in-ear
 – คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ
 – ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 14.2mm
 – การส่งสัญญาณแบบ Dual-Channel Transmission 2.0
 – Latency ต่ำสุด 88ms.
 – คลื่นความถี่ 20Hz – 20000Hz
 – การเข้ารหัสเสียง aptX Adaptive/AAC/SBC
 – ไมโครโฟนแบบคู่
 – SmartSound เทคโนโลยี AI ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ
 – หูฟังดีไซน์ Open-fit ดูทันสมัย กะทัดรัด น้ำหนักเบา
ระบบเชื่อมต่อ :  – Bluetooth 5.2
 – Find My TWS Neo
 – Google Assistant
 – พอร์ตชาร์จ USB Type C
ขนาด :  – 33.9×18.6×16.5 มม. (หูฟัง)
 – 58.1×51.6×24.0 มม. (เคสชาร์จ)
น้ำหนัก :  – 4.7 กรัม (หูฟัง)
 – 45.7 กรัม (เคสชาร์จ)
กันน้ำ :  – IP54
Battery :  – 27mAh (หูฟัง)
 – 415mAH (เคสชาร์จ)
 – ใช้งานได้ 4.5 ชม. (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
 – ใช้งานได้ 22.5 ชม. (เมื่อใช้คู่กับเคสชาร์จ)
 – การชาร์จ 45 นาที (หูฟัง)
 – การชาร์จ 100 นาที (เคสชาร์จ)
Sensor :  – Optical Sensor ตรวจจับการสวมใส่ทั้ง 2 ข้าง
สี :  – Moonlight White
 – Starry Blue

แกะกล่อง Vivo TWS Neo

Vivo TWS (4)

Vivo TWS Neo บรรจุมาในกล่องสีขาวขนาดกะทัดรัด

Vivo TWS (24)

หน้ากล่องบรรจุภัณฑ์เผยดีไซน์ Vivo TWS Neo สี Starry Blue โทนดำน้ำเงิน ไว้กึ่งกลางตัวเครื่อง ด้านล่างมีชื่อรุ่นระบุไว้เด่นชัด ส่วนมุมซ้ายบนมีชื่อแบรนด์ Vivo

Vivo TWS (62)

ด้านหลังกล่องมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ผลิต, วิธีใช้งาน และรายละเอียดในกล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

Vivo TWS (61)

ส่วนใต้กล่องมีข้อมูลรหัสโมเดล, สีของ Vivo TWS Neo ภายในกล่อง และรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ผลิตระบุเอาไว้

Vivo TWS (58)

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับคู่มือการใช้งานเบื้องต้น

Vivo TWS (5)

และ Charging Case ภายในบรรจุหูฟัง จัดวางในกล่องอย่างเป็นระเบียบ

Vivo TWS (64)

กล่องชั้นล่างสุดบรรจุเป็นสายชาร์จ USB Type-C ค่ะ

Vivo TWS (59)

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– Vivo TWS Neo สีขาว
– Charging Case
– สายชาร์จ USB Type-C
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ทำความรู้จัก Vivo TWS Neo

Vivo TWS (8)

ลำดับต่อไปเดี๋ยวเรามาดูกันที่ Charging Case และตัวหูฟัง Vivo TWS Neo กันเลยค่ะ

Vivo TWS (57)

โดย Vivo TWS Neo ที่เราได้นำมารีวิวให้ได้ชมกันในวันนี้เป็นสีขาว Moonlight White ตัวหูฟังถูกบรรจุอยู่ใน Charging Case สีขาวดีไซน์เรียบหรู

Vivo TWS (12)

ตัว Charging Case มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก มีขนาดอยู่ที่ 58.1×51.6×24.0 มม. น้ำหนักรวมทั้งหมดอยู่ที่ 45.7 กรัม มาทั้งหมด 2 สี ตามสไตล์ของแต่ละคน คือ Starry Blue (ดำน้ำเงิน) และสี Moonlight White (ขาว)

Vivo TWS (26)

การเก็บหูฟังเข้ากล่อง Charging Case ก็ง่าย และสะดวก มีตัวแม่เหล็กดูดที่ขั้วหูฟังค่ะ

Vivo TWS (13)

ด้านหน้าของ Charging Case มาพร้อมไฟ LED ใช้แจ้งเตือนแสดงผลการชาร์จ โดยเคสมีความจุแบตเตอรี่ 415mAh

Vivo TWS (14)

ด้านหลังบอดี้ขาวเนียนเรียบหรู

Vivo TWS (15)

ส่วนด้านล่างรองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

Vivo TWS (63)

ด้านใน Charging Case มีขั้วสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในตัว

Vivo TWS (19)

สำหรับตัวหูฟัง Vivo TWS Neo มีขนาดเล็กกะทัดรัด ลักษณะของหูฟังเป็นแบบ Half in-ear มีไมโครโฟนแบบคู่

Vivo TWS (37)

น้ำหนักเบาเพียง 4.7 กรัม สวมใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่เลยค่ะ

Vivo TWS (48)

หูฟังใช้ดีไซน์แบบ Open-Fit ทันสมัย ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับสรีระ และขนาดที่พอดีกับใบหูของผู้ใช้งานแต่ละคน มีความโค้งมน สะดวกต่อการใช้งาน

Vivo TWS (66)

ด้านล่างมีขั้วเชื่อมต่อสำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับ Charging Case

คุณสมบัติเด่น

Vivo TWS Neo มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 14.2mm ให้เสียงที่คมชัดสมจริง เพิ่มอรรถรสในการใช้งาน โดยใช้การออกแบบที่ทันสมัยด้วยทองแดง Daikoku คุณภาพดี จากประเทศญี่ปุ่น มีค่าความหน่วง หรือค่า Latency ต่ำถึง 88ms ที่ใช้บนอุปกรณ์สเตอริโอระดับไฮเอนด์

Vivo TWS (53)

การออกแบบวงจรแม่เหล็กใช้แบบคอมโพสิต ไดอะแฟรมคอมโพสติทำจากโดมไทเทเนียม และหุ้มด้วยแมกนาเลีย ทำให้หูฟังมีคุณภาพเสียงดี ชัด มีความสมบูรณ์ และนุ่มลื่น สามารถปรับอัตราความคมชัดของเสียงตามสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ ทำให้เชื่อมต่อการใช้งานไร้สายที่เสถียรเป็นพิเศษ

Vivo TWS (51)

ผสานเทคโนโลยีคุณภาพเสียง aptX มาตรฐาน CD Audio โดยใช้หลักการสร้างเสียงแบบ Deep Field คมชัดทุกย่านเสียง เพิ่มความถี่เสียงตั้งแต่คลื่นความถี่ 1000-3000Hz พร้อมให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับเสียงที่สมบูรณ์แบบ

สามารถเก็บรักษาข้อมูลเสียงได้มากกว่าหูฟังไร้สายแบบเดิมถึง 1.5 เท่า เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น มีคุณภาพสูง เสียงเบสหนักขึ้น ตอบสนองต่อไดนามิกดี ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงได้คมชัดเสมือนอยู่ในสตูดิโอ เสียงกลางชัด มีมิติ ไม่มีสะดุด เสียงสูงใส คมชัดสมจริง

Vivo TWS (28)

มีเทคโนโลยี AI ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ SmartSound มาติดตั้งไว้ในตัวหูฟัง ให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด โดยใช้การออกแบบผสานรวมกับโปรเซสเซอร์ชั้นนำด้านเสียง ทำให้สามารถขจัดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการโทร และเพิ่มเสียงของเรากับคู่สนทนาได้พร้อมกัน ทั้งยังช่วยลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่กำลังรบกวนอีกด้วย

Vivo TWS (39)

ใช้งานง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพลง, รับสายเรียกเข้า หรือปรับระดับเสียงเพลง ก็ทำได้ง่ายด้วยการสัมผัสที่หูฟังเบา ๆ รวมถึงสามารถตั้งค่าการใช้งานหูฟังเพื่อใช้งานคำสั่งต่าง ๆ เพิ่มเติมตามความต้องการได้เอง และรองรับ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อได้รวดเร็วแม้อยู่ห่างไกล 10 เมตร

Vivo TWS (54)

นอกจากนี้สำหรับคนขี้ลืม Vivo TWS Neo มาพร้อมฟีเจอร์ Find My TWS Neo ที่จะช่วยค้นหาตัวหูฟังอีกข้างที่หายไปได้ค่ะ โดยจะค้นหาจากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ทั้งยังสามารถบอกพิกัดแสดงตำแหน่งที่ทำหล่นหายได้อีกด้วย พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับ Google Assistant ที่เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว

Vivo TWS (32)

และหากใครที่เป็นกังวลในเรื่องของแบตเตอรี่หายห่วงได้เลย เพราะ Vivo TWS Neo ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม  โดยใช้งานได้ยาวนานถึง 4.5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง หรือเพลิดเพลินไปกับการใช้งานแบบไม่มีสะดุดรวมการชาร์จผ่านเคสได้นานถึง 22.5 ชั่วโมง และหากใช้งานหูฟังเพียงข้างเดียวก็จะสามารถใช้งานได้นานถึง 4.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว

Vivo TWS (42)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมการส่งสัญญาณแบบ Dual Channel 2.0 ทำให้สามารถใช้งานลื่นไหลบนทุกแพลตฟอร์ม รองรับการใช้งานร่วมกับทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เลยค่ะ โดยจะเข้าสู่โหมดสแตนด์บายแบบอัตโนมัติ ตัดการรบกวนสภาพแวดล้อมภายนอกทันที และที่หูฟังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งานอัจฉริยะทั้ง 2 ข้าง

Vivo TWS (35)

Vivo TWS Neo มาพร้อมดีไซน์แบบ Open-fit ดูทันสมัย กะทัดรัด น้ำหนักเบา ทำให้รู้สึกสวมใส่สบายแม้จะใส่นานแค่ไหน ลักษณะของหูฟังเป็นแบบ Half in-ear มีไมโครโฟนแบบคู่ น้ำหนักหูฟังเบาเพียง 4.7 กรัม

Vivo TWS (22)

ส่วนตัวกล่อง Charging Case ดีไซน์เรียบง่ายสวยหรู พกพาง่าย มาพร้อม 2 สีคลาสสิค ทันสมัย คือ Moonlight White และ Starry Blue นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย

การใช้งาน

Vivo TWS (29)

สำหรับการใช้งานสามารถเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลย อันดับแรกให้เพื่อน ๆ เปิดเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อจับคู่อุปกรณ์ระหว่างหูฟังกับสมาร์ตโฟนในครั้งแรกค่ะ

Vivo TWS (30)

จากนั้นอุปกรณ์จะจับคู่กันอย่างรวดเร็ว

Vivo TWS (31)

และหากกดเข้าไปในหน้า Bluetooth ก็จะสามารถดูสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังทั้ง 2 ข้างได้อีกด้วย

Vivo TWS (10)

ส่วนการใช้งานในครั้งต่อ ๆ ไป ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพียงแค่เพื่อน ๆ เปิด Bluetooth บนสมาร์ตโฟน และเปิดฝา Charging Case ของ Vivo TWS Neo ก็จะสามารถเข้าสู่โหมดสแตนด์บายพร้อมใช้งานได้แบบอัตโนมัติตลอดเวลา

Vivo TWS (38)

ส่วนการใช้งานคำสั่งต่าง ๆ Vivo TWS Neo รองรับการควบคุม และสั่งงานด้วยการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการแตก 2 ครั้ง, สไลด์, กด หรือกดค้าง ยกตัวอย่าง แตะ 2 ครั้ง = ใช้งาน Jovi การโทร และควบคุมเพลง อย่างการเล่นหรือกดหยุดเพลงนั่นเอง, กดค้างไว้ = ปฏิเสธสายเรียกเข้า หรือตัดสายทิ้ง และเลื่อนสไลด์ขึ้นลง = การปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง เป็นต้น

Vivo TWS (18)

สรุป

  • มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ไดร์เวอร์ไดนามิกขนาด 14.2mm ให้เสียงที่คมชัดสมจริง เพิ่มอรรถรสในการใช้งาน
  • มีค่าความหน่วง หรือค่า Latency ต่ำถึง 88ms คุณภาพเสียงดี ชัด มีความสมบูรณ์ และนุ่มลื่น สามารถปรับอัตราความคมชัดของเสียงตามสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ ทำให้เชื่อมต่อการใช้งานไร้สายที่เสถียรเป็นพิเศษ
  • สามารถใช้งานลื่นไหลบนทุกแพลตฟอร์มทั้ง Android และ iOS การส่งสัญญาณเป็นแบบ Dual Channel 2.0

Vivo TWS (46)

  • รองรับ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อได้รวดเร็วแม้อยู่ห่างไกล 10 เมตร
  • มีเทคโนโลยีคุณภาพเสียง aptX มาตรฐาน CD Audio โดยใช้หลักการสร้างเสียงแบบ Deep Field คมชัดทุกย่านเสียง เพิ่มความถี่เสียงตั้งแต่คลื่นความถี่ 1000-3000Hz

Vivo TWS (47)

  • เสียงเบสหนักขึ้น ตอบสนองต่อไดนามิกดี เสียงกลางชัด มีมิติ ไม่มีสะดุด เสียงสูงใส คมชัดสมจริง
  • มีเทคโนโลยี AI ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ SmartSound ขจัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่กำลังรบกวน
  • มีฟีเจอร์ Find My TWS Neo ช่วยค้นหาตัวหูฟังอีกข้างที่หายไปได้ และรองรับการใช้งานร่วมกับ Google Assistant ที่เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว

Vivo TWS (21)

  • ใช้งานง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเปลี่ยนเพลง, รับสายเรียกเข้า หรือปรับระดับเสียงเพลง ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการสัมผัสที่หูฟัง
  • Vivo TWS Neo มีให้เลือก 2 เฉดสี ทันสมัย คือ Starry Blue (ดำน้ำเงิน) และสี Moonlight White (ขาว)
  • Charging Case  ดีไซน์เรียบง่ายสวยหรู พกพาง่าย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา มีไฟ LED ใช้แจ้งเตือนแสดงผลการชาร์จ บอดี้เนียนเรียบหรู

Vivo TWS (49)

  • ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
  • ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม 4.5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง หรือนานถึง 22.5 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับการชาร์จผ่านเคส

Vivo TWS (50)

  • ตัวหูฟังมีขนาดเล็กกะทัดรัด ลักษณะของหูฟังเป็นแบบ Half in-ear มีไมโครโฟนคู่ น้ำหนักเบาเพียง 4.7 กรัม สวมใส่สบาย ใช้ดีไซน์ Open-Fit ทันสมัย ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับสรีระ และขนาดที่พอดีกับใบหูของผู้ใช้งานแต่ละคน ไม่หลุดง่าย ๆ แน่นอน มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งานอัจฉริยะทั้ง 2 ข้าง
  • กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP54 ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng