เปิดตัว iOS 14 สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้ง Siri, App Clips, Widget, Picture-in-Picture และอื่น ๆ อีกมากมาย

เปิดตัว iOS 14 สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้ง Siri, App Clips, Widget, Picture-in-Picture และอื่น ๆ อีกมากมาย

วันนี้ Apple เผยโฉม iOS 14 โดยมีการอัปเดตหน้าจอโฮมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยวิดเจ็ตที่ออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงามและ App Library, วิธีใหม่ในการใช้ประโยชน์จาก App Store ด้วย App Clips รวมถึงการอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับแอปข้อความ และอีกมากมาย

วิดเจ็ตใหม่จะแสดงข้อมูลที่ใช่ในจังหวะที่ต้องการให้ผู้ใช้เหลือบมองได้ง่าย ๆ และยังสามารถปักหมุดวิดเจ็ตขนาดต่าง ๆ ไว้บนหน้าจอโฮมหน้าใดก็ได้ โดยผู้ใช้สามารถสร้าง Smart Stack รวมวิดเจ็ต ซึ่งจะใช้ระบบอัจฉริยะในตัวอุปกรณ์เพื่อแสดงวิดเจ็ตที่ใช่ขึ้นมาให้เห็นตามเวลา สถานที่ และกิจกรรมที่ทำอยู่

– วิดเจ็ตได้รับการออกแบบใหม่อย่างสวยงามใน iOS 14 โดยจะแสดงข้อมูลที่ใช่ในจังหวะที่ต้องการให้ผู้ใช้เหลือบมองได้ง่าย ๆ บนหน้าจอโฮม และยังมีประโยชน์ยิ่งกว่าที่เคยอีกด้วย

หน้าจอโฮมแต่ละหน้าสามารถแสดงวิดเจ็ตที่ปรับแต่งมาให้เหมาะสำหรับการทำงาน การเดินทาง กีฬา บันเทิง รวมถึงเรื่อง ๆ อื่นที่สนใจ และที่ท้ายสุดของหน้าจอโฮมยังมี App Library ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่จะจัดระเบียบแอปทั้งหมดของผู้ใช้รวมไว้ในมุมมองเดียวที่เรียบง่ายโดยอัตโนมัติเพื่อให้เลือกใช้ได้ง่าย และยังสามารถแสดงแอปที่น่าจะมีประโยชน์ในขณะนั้นได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้แสดงหน้าจอโฮมกี่หน้าและเลือกซ่อนบางหน้าได้ง่าย ๆ เพื่อให้เข้าใช้ App Library ได้เร็วขึ้น

–  App Library ซึ่งอยู่ท้ายสุดของหน้าจอโฮม ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปทั้งหมดได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยมุมมองเดียวที่ไม่ซับซ้อนและเลือกใช้แอปที่ต้องการได้ง่าย

พบกับดีไซน์กะทัดรัดแบบใหม่หมดสำหรับสาย FaceTime และโทรศัพท์ที่โทรเข้ามารวมถึงการโต้ตอบกับ Siri ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งที่ทำอยู่ขณะนั้นต่อไปได้ พร้อมด้วยการรองรับ Picture-in-Picture ที่ช่วยให้วันนี้ผู้ใช้ iPhone สามารถดูวิดีโอหรือคุย FaceTime ไปด้วยได้ขณะใช้งานอีกแอปหนึ่งอยู่

“iOS 14 พลิกโฉมองค์ประกอบต่าง ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ในประสบการณ์การใช้งาน iPhone โดยเริ่มจากการอัปเดตหน้าจอโฮมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” Craig Federighi ซึ่งเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว “วิดเจ็ตในหน้าจอโฮมได้รับการออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ทั้งยังมี App Library ที่จะจัดระเบียบแอปทั้งหมดของคุณโดยอัตโนมัติ รวมถึง App Clips ที่ค้นพบได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้ iPhone ทรงพลังและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น”

– iOS 14 มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัดแบบใหม่หมดที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ แบบมัลติทาสก์ในขณะรับสาย ถามคำถามกับ Siri และดูวิดีโอได้

– ประสบการณ์การใช้งาน Siri ได้รับการออกแบบใหม่ในทุกรายละเอียดเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งที่ทำอยู่ขณะนั้นต่อไปได้

– เมื่อมี Picture-in-Picture ผู้ใช้ก็สามารถดูวิดีโอหรือคุย FaceTime ไปด้วยได้ขณะใช้งานอีกแอปหนึ่งอยู่

วิธีใหม่ในการค้นพบ และใช้งานแอปด้วย App Clips

App Clips คือส่วนเล็ก ๆ ในประสบการณ์การใช้งานแอปที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้ค้นพบในเวลาที่จำเป็นต้องใช้ โดยที่ App Clips จะเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง และจะโหลดขึ้นมาในเวลาไม่กี่วินาทีเพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เสร็จเรียบร้อย อย่างการเช่าสกู๊ตเตอร์ ซื้อกาแฟ หรือต่อเวลาจอดรถ อีกทั้งยังค้นพบและเข้าใช้ได้ง่าย ๆ เพียงแค่สแกนรหัส App Clips ใหม่ที่ออกแบบโดย Apple หรือ ใช้งานผ่านแท็ก NFC และรหัส QR หรือแชร์ผ่านแอปข้อความหรือจาก Safari ก็ได้ โดยที่ยังคงปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวอย่างที่คุณควรได้รับจากแอปเช่นเดิม

– App Clips ค้นพบได้ง่ายและรวดเร็ว และช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของแอปได้ทันทีในเวลาที่ต้องการ

– App Clips รวมเป็นหนึ่งเดียวกับ Apple Pay เพื่อให้ชำระเงินได้ง่าย และรวมเข้ากับ “ลงชื่อเข้าด้วย Apple” เพื่อให้ล็อกอินแบบเป็นส่วนตัวได้รวดเร็ว

การอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับการสนทนาในแอปข้อความ

แอปข้อความคือศูนย์กลางในการติดต่อกับเพื่อน ๆ และครอบครัว มาวันนี้การติดต่อถึงกันนั้นก็จะง่ายยิ่งขึ้น และยังเปิดดูข้อความสำคัญได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้ใช้สามารถปักหมุดการสนทนาไว้ด้านบนสุดของรายการข้อความ รวมถึงติดตามกลุ่มสนทนาที่คุยกันเยอะ ๆ ได้ง่ายโดยใช้วิธีพูดถึงและตอบกลับแบบอ้างอิงข้อความเดิม

อีกทั้งยังปรับแต่งการสนทนาได้มากขึ้นโดยการตั้งรูปภาพประจำกลุ่มเป็นรูปหรืออิโมจิก็ได้ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกใหม่ ๆ ที่หลากหลายและครอบคลุมยิ่งขึ้นสำหรับ Memoji ในแอปข้อความ ไม่ว่าจะเป็นทรงผม อุปกรณ์สวมศีรษะ รวมถึงหน้ากากแบบใหม่ ๆ และอีกมากมาย

– สามารถปักหมุดการสนทนาที่คุยบ่อยไว้ด้านบนสุดของรายการสนทนาในแอปข้อความได้ โดยจะมีสัญลักษณ์แสดงข้อความล่าสุด, Tapbacks และกำลังพิมพ์ปรากฏอยู่เหนือหมุด

– แอปข้อความให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความใดข้อความหนึ่งได้โดยตรงและติดตามการตอบกลับทั้งหมดหลังจากนั้นได้แบบไม่มีพลาด

สำรวจเมืองด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น พร้อมด้วยคู่มือนำเที่ยวใหม่ในแอปแผนที่

แอปแผนที่ช่วยให้การนำทางและสำรวจเมืองเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติใหม่ ๆ อย่างเส้นทางการขี่จักรยาน การกำหนดเส้นทางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และคู่มือแนะนำสถานที่ โดยเส้นทางการขี่จักรยานจะพิจารณาจากระดับความสูง ปริมาณรถบนท้องถนน และยังดูว่าในเส้นทางนั้นมีบันไดหรือไม่ ส่วนการกำหนดเส้นทางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีการเพิ่มจุดชาร์จตามเส้นทางที่วางแผนไว้โดยอ้างอิงจากระดับแบตเตอรี่ปัจจุบันของรถและประเภทของเครื่องชาร์จ

นอกจากนี้ยังมีคู่มือแนะนำสถานที่น่าสนใจสำหรับเมืองนั้น ๆ ซึ่งคัดสรรมาจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือหลายแห่ง เรียกได้ว่าคู่มือนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีดี ๆ ในการค้นพบร้านอาหารใหม่ที่กำลังมาแรง การค้นหาสถานที่น่าสนใจที่เป็นที่นิยม และการสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ ที่แนะนำโดยแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ เช่น AllTrails, Complex, The Infatuation, TimeOut Group, The Washington Post และอื่น ๆ

– แอปแผนที่มาพร้อมเส้นทางการขี่จักรยาน รวมถึงเลนจักรยาน ทางจักรยาน และถนนที่เอื้อต่อการขี่จักรยาน

– เส้นทางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีการเพิ่มจุดชาร์จตามเส้นทางที่วางแผนไว้โดยอ้างอิงจากระดับแบตเตอรี่ปัจจุบันของรถและประเภทของเครื่องชาร์จ

– คู่มือนำเที่ยวช่วยให้การค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ สถานที่น่าไปช่วงวันหยุด หรือกิจกรรมน่าสนใจในเมืองต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องง่าย

ยกระดับความโปร่งใสและการควบคุมด้วยคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวที่ดียิ่งขึ้น

จากนี้ไปแอปทั้งหมดจะต้องขออนุญาตจากผู้ใช้ก่อนติดตามการใช้งาน  และภายในปีนี้ บนหน้าผลิตภัณฑ์ App Store จะมีบทความสรุปแนวทางด้านความเป็นส่วนตัวของนักพัฒนาในรูปแบบที่อ่านและทำความเข้าใจง่าย

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถอัพเกรดบัญชีที่มีอยู่เดิมให้ใช้การลงชื่อเข้าด้วย Apple รวมถึงเลือกแชร์ตำแหน่งคร่าว ๆ กับนักพัฒนาแอปโดยไม่ต้องบอกตำแหน่งจริงเมื่ออนุญาตให้แอปเข้าถึงตำแหน่งของตน และยังเพิ่มความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลการใช้ไมโครโฟนและกล้องของแอปอีกด้วย

– บนหน้าผลิตภัณฑ์ App Store จะมีบทความสรุปแนวทางด้านความเป็นส่วนตัวของแต่ละแอปก่อนการดาวน์โหลด

คุณสมบัติอื่น ๆ ของ iOS 14

• Translate ได้รับการออกแบบมาให้เป็นแอปที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดสำหรับแปลการสนทนา โดยสามารถแปลทั้งเสียงและข้อความเป็นภาษาต่าง ๆ ได้ถึง 11 ภาษาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีโหมดการทำงานในตัวอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานคุณสมบัติต่าง ๆ ของแอปแบบออฟไลน์เพื่อแปลเสียงและข้อความในแบบส่วนตัวได้

• Siri ขยายขอบเขตความรู้และช่วยหาคำตอบจากทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต และวันนี้ยังสามารถส่งข้อความเสียงได้ด้วย ส่วนการป้อนตามคำบอกบนคีย์บอร์ดก็จะทำงานอยู่ในตัวอุปกรณ์เมื่อผู้ใช้บอกให้พิมพ์ข้อความ โน้ต อีเมล และอื่น ๆ

• แอป Home ทำให้การควบคุมสมาร์ทโฮมง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีคุณสมบัติใหม่ ๆ อย่างการแนะนำการทำงานอัตโนมัติ และส่วนควบคุมในศูนย์ควบคุมที่ขยายเพิ่มเพื่อให้เข้าถึงอุปกรณ์เสริมและบรรยากาศต่าง ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังมี Adaptive Lighting สำหรับระบบแสงไฟที่รองรับ HomeKit ซึ่งจะคอยปรับอุณหภูมิสีให้เหมาะกับแต่ละช่วงของวันโดยอัตโนมัติ พร้อมด้วยการรู้จำใบหน้าในตัวอุปกรณ์ที่ทำให้กริ่งประตูบ้านแบบวิดีโอและกล้องที่รองรับสามารถระบุตัวตนของเพื่อนและครอบครัวได้ นอกจากนี้แอป Home และ HomeKit ยังออกแบบมาให้มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว จึงมีการเข้ารหัสข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมภายในบ้านของผู้ใช้ตั้งแต่ต้นจนจบ

• AirPods สามารถสลับเสียงระหว่างอุปกรณ์ Apple แต่ละชิ้นได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยคุณสมบัติการสลับอุปกรณ์อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงสมจริงรอบทิศทางพร้อมด้วยการติดตามศีรษะแบบไดนามิกที่จะนำประสบการณ์ระดับโรงภาพยนตร์มาสู่ AirPods Pro ยิ่งกว่านั้นยังมีการใส่ฟิลเตอร์กำหนดทิศทางของเสียง และปรับความถี่ที่หูแต่ละข้างได้ยินอย่างละเอียด จึงสามารถวางตำแหน่งของเสียงต่าง ๆ ได้แทบทุกจุดเพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มสมจริง

• กุญแจรถดิจิตอล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อคและสตาร์ทรถได้อย่างปลอดภัยโดยใช้ iPhone หรือ Apple Watch อีกทั้งยังสามารถแชร์กุญแจรถดิจิตอลได้ง่าย ๆ ด้วยแอปข้อความ หรือปิดการทำงานผ่านทาง iCloud ในกรณีที่อุปกรณ์สูญหาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเริ่มใช้งานได้ในปีนี้ผ่านทาง NFC นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัวกุญแจรถดิจิตอลเจเนอเรชั่นถัดไปที่ใช้เทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ในการรับรู้ตำแหน่งโดยอาศัยชิพ U1 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อครถรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคตได้โดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกจากกระเป๋า หรือกระเป๋าถือ โดยที่คุณสมบัตินี้จะเริ่มใช้งานได้ในปีหน้า

• คุณสมบัติ “ค้นหาของฉัน” จะเพิ่มการรองรับอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมของบริษัทอื่นด้วยโปรแกรม Find My เน็ตเวิร์กอุปกรณ์เสริม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามสิ่งของสำคัญอื่น ๆ ที่หายไปนอกเหนือจากอุปกรณ์ Apple นอกจากนี้เรายังคงคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสำคัญ จึงมีการเข้ารหัสการค้นหาแบบออฟไลน์ตั้งแต่ต้นจนจบ และในวันนี้ยังได้มีการจัดทำข้อกำหนดฉบับร่างสำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว

• Safari มีรายงานความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูการติดตามข้ามเว็บไซต์ที่ถูกบล็อคได้ง่าย ๆ และมีการตรวจสอบความปลอดภัยของรหัสผ่าน ซึ่งจะเตือนให้ผู้ใช้ทราบเมื่อตรวจพบว่ารหัสผ่านที่บันทึกไว้อาจอยู่ในกลุ่มข้อมูลที่รั่วไหล อีกทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติการแปลภาษาทั้งหน้าเว็บไซต์อีกด้วย

• แอปสุขภาพ มาพร้อมประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่หมดสำหรับจัดการกับการนอน ทำความเข้าใจกับระดับเสียงที่อาจส่งผลกระทบต่อการได้ยินให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงรายการตรวจสอบสุขภาพใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำหรับจัดการกับคุณสมบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น SOS ฉุกเฉิน, ID ทางแพทย์, ECG, การตรวจจับการล้ม และอื่น ๆ นอกจากนี้แอปสุขภาพ ยังรองรับข้อมูลประเภทใหม่ ๆ สำหรับการเคลื่อนไหว ข้อมูลสุขภาพ อาการต่าง ๆ และ ECG อีกด้วย

• แอปสภาพอากาศ และวิดเจ็ตจะคอยอัปเดตข้อมูลสภาพอากาศรุนแรงให้ผู้ใช้ทราบอยู่ตลอด และยังมีแผนภูมิใหม่ที่จะแสดงโอกาสเกิดฝนตกในชั่วโมงถัดไปแบบนาทีต่อนาทีเมื่อมีการพยากรณ์ว่าฝนอาจตก

• คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง มาพร้อม Headphone Accommodations ที่จะขยายหรือลดเสียงในคลื่นความถี่หนึ่งเพื่อให้เสียงดนตรี ภาพยนตร์ โทรศัพท์ และพ็อดคาสท์คมชัดยิ่งขึ้น ส่วนการตรวจจับภาษามือใน FaceTime แบบกลุ่มก็จะทำให้เห็นภาษามือที่ใช้ในการโทรแบบวิดีโอได้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม

และตัวอ่านหน้าจอสำหรับผู้มีปัญหาด้านการมองเห็นระดับชั้นแนวหน้าของวงการอย่าง VoiceOver ก็สามารถบอกได้โดยอัตโนมัติว่าสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอคือภาพของอะไร ซึ่งช่วยให้ผู้คนอีกมากมายสามารถเข้าถึงแอปและเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น

– แอป Translate ช่วยให้ผู้ใช้แปลเสียงพูดหรือข้อความเป็นภาษาต่าง ๆ ที่รองรับได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้เต็มรูปแบบเพื่อให้การสนทนามีความเป็นส่วนตัว

– กุญแจรถดิจิตอลช่วยให้ผู้ใช้ปลดล็อคและสตาร์ทรถได้อย่างปลอดภัยโดยใช้แค่ iPhone หรือ Apple Watch

– แอป Home มีการบอกสถานะแบบใหม่ด้วยภาพโดยจะแสดงมุมมองสรุปข้อมูลอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฮมของผู้ใช้แบบคร่าว ๆ

ความพร้อมในการใช้งาน