รีวิว Vivo Y30 จอใหญ่ Ultra O Screen ชิป Helio P35 คู่ความจุ 128GB กล้องหลัง 4 ตัว แบตยักษ์ 5000 mAh ในราคาโดนใจ!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่าน วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo Y30 สมาร์ตโฟนน้องใหม่อีกหนึ่งรุ่นจากตระกูล Y Series มาฝากให้ได้ชมกัน หลังจากที่เราได้รีวิว Vivo Y50 ให้ได้ชมกันไปแล้ว (คลิกชมรีวิว) สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนจอใหญ่ แบตอึด กล้องสวยครบเลนส์ ในงบไม่เกิน 7,000 บาท ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาดเลยค่ะ
Vivo Y30 มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ดีไซน์ Ultra O Screen ขนาด 6.47 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD+ สัดส่วนพื้นที่จอสูงถึง 90.77% ใช้ชิปเซ็ต Helio P35 หน่วยความจำตอบโจทย์ RAM 4GB + ROM 128GB รันระบบปฏิบัติการใหม่ Funtouch 10 บนพื้นฐาน Android 10 ตอบสนองการใช้งานได้ลื่นไหล
กล้องหลัง AI ครบเลนส์ 4 ตัว เซ็นเซอร์หลัก 13MP พร้อมเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8MP ถ่ายภาพมุมกว้างถึง 120 องศา เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP เก็บภาพในระยะใกล้สุด 4 ซม. กล้องหน้า 8MP พร้อม Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนทันใจ และใช้งานต่อเนื่องยาวนานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh
ตัวเครื่องใช้ดีไซน์การออกแบบ Dazzling 3D บอดี้โค้งมนแบบ 3D มีความหรูหรา บางเบา ให้ความรู้สึกสะดวกสบายต่อการถือจับ พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าอันฉับไว
Vivo Y30 ราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 6,999 บาท มาพร้อม 2 เฉดสี ได้แก่ สีน้ำเงิน Dazzle Blue และสีขาว Moonstone White โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับวันนี้ ninethaiphone มีรีวิว Vivo Y30 ตัวเครื่องสี Moonstone White มาฝากให้เพื่อน ๆ ได้รับชมกัน เราไปชมรายละเอียดทั้งหมดเลยค่ะ
**อัปเดต Vivo Y30 ได้ปรับลดราคาเหลือเพียง 5,999 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
ข้อมูลสเปก Vivo Y30
Features | Vivo Y30 |
วันเปิดตัว : | – พฤษภาคม 2563 |
ราคา : | – 5,999.- (ณ วันที่ 31 พ.ค. 63) |
OS : | – Android 10 ครอบทับ Funtouch 10.0 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.47 นิ้ว | |
– ความละเอียด 720×1560 พิกเซล (HD+) | |
– ดีไซน์ Ultra O Screen | |
– อัตราส่วน 19.5:9 | |
CPU : | – Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.35GHz |
GPU : | – PowerVR GE8320 |
RAM : | – 4GB |
ROM : | – 128GB |
– microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 13MP + 8MP + 2MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 | |
– LED flash | |
– PDAF | |
– HDR | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 8MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 5000 mAh |
ขนาด : | – 162.04×76.46×9.11 มม. |
น้ำหนัก : | – 197 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4GHz /5GHz |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | |
– OTG | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– BeiDou | |
– GLONASS | |
– GALILEO | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Face Unlock | |
– Accelerometer | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Ambient Light | |
– Gyroscope | |
สี : | – Dazzle Blue |
– Moonstone White |
แกะกล่อง Vivo Y30
Vivo Y30 บรรจุมาในกล่องสีขาว หน้ากล่องมุมซ้ายบนมีชื่อแบรนด์ Vivo มุมขวาบนมีข้อมูลความจุ RAM และ ROM กึ่งกลางกล่องระบุชื่อรุ่นไว้เด่นชัด ด้านหลังกล่อง มีข้อมูลโมเดลรุ่น, สีตัวเครื่อง, เลข IMEI เครื่อง พร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Vivo Y30 ระบุเอาไว้ 3 ประการ ได้แก่ หน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว พร้อม Eye Protection Screen, กล้องหลัง 4 ตัว และแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh
ภายในกล่องแถม Adapter ชาร์จแบตเตอรี่มาให้ โดยเป็นการชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ส่วนเคสกันรอยที่แถมมาให้เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo Y30 ตัวเครื่องสี Moonstone White
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
– เคสกันรอยซิลิโคนแบบใส
ทำความรู้จัก Vivo Y30
ด้านหน้า Vivo Y30 มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ดีไซน์ Ultra O Screen ขนาด 6.47 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD+ หรือ 1560×720 พิกเซล บนพื้นที่หน้าจอสูงถึง 90.77% และมีอัตราส่วนจอภาพ 19.5:9
หน้าจอมีขนาดใหญ่กำลังดี สามารถฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม หรือท่องอินเทอร์เน็ตได้แบบเพลิน ๆ เลยค่ะ
อีกทั้งยังมีการพัฒนาการใช้งานหน้า Interface ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับจอแสดงผลมากยิ่งขึ้น และมาพร้อม Eye Protection Screen หรือโหมดถนอมสายตาขณะใช้งาน ที่ช่วยปรับสีของหน้าจอแสดงผลเพื่อลดแสงสีฟ้า ช่วยให้ถนอมสายตาขณะใช้งานอีกด้วย
ด้านหน้าส่วนบน เหนือหน้าจอด้านบนเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
ส่วนมุมซ้ายบนเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ะ
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลัง Vivo Y30 ใช้ดีไซน์การออกแบบ Dazzling 3D ตัวเครื่องโค้งมนแบบ 3D มีความหรูหรา บางเบา ให้ความรู้สึกสะดวกสบายต่อการถือจับ
มาพร้อม 2 เฉดสี ได้แก่ Dazzle Blue สีน้ำเงินเงางาม หรูหรามีเสน่ห์ และ Moonstone White เปรียบเสมือนหยกสีขาวที่มีประกายมุกระยิบระยับ มุมมองจะออกไปทางสีฟ้าอ่อน ๆ และมีการสะท้อนเป็นเฉดรุ้ง สีสันสวยงามมีสไตล์
ด้านหลังส่วนบน กึ่งกลางด้านบนติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถัดมามุมซ้ายบนมีเลนส์กล้อง 4 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานอันหลากหลาย เลนส์กล้องจัดวางเรียงกันในแนวตั้งบนกรอบสี่เหลี่ยมมุมมีความโค้งมน เลนส์กล้องด้านหลังของ Vivo Y30 มีดังนี้ค่ะ
• เซ็นเซอร์หลัก ความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสง f/2.2 เก็บภาพสวยทันใจ
• เลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสงขนาด f/2.2 ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 120 องศา (แต่เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ระบบจะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศา)
• เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ
• เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพ Macro ในระยะใกล้เพียง 4 ซม.
ด้านหลังส่วนล่าง มุมซ้ายล่างมีโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้อยู่
ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องใส่ถาดซิมการ์ด
โดย Vivo Y30 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใช้งานในรูปแบบ SIM + SIM + microSD Card ได้พร้อมกันเลยค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิด และรีสตาร์ทตัวเครื่อง
การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ หรือใช้ 3 นิ้ว รูดลงบนหน้าจอค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Vivo Y30 ที่มาพร้อมขุมพลัง Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.35GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ Funtouch 10 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน CPU-Z, GPU Mark – Benchmark และ Geekbench 5 พบว่าทำคะแนนทดสอบรวมเกือบ 4 แสนคะแนน
ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 1920MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 96.72GB
สำหรับวันนี้ในด้านการทดสอบเกม เราได้ดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง PUBG MOBILE และ Asphalt 9: Legends มาลองเล่นกันดูค่ะ
เริ่มกันที่เกม PUBG MOBILE ภาพกราฟิกสามารถปรับอยู่ในระดับสมดุล และเฟรมเรทระดับกลาง ตามค่าสเปกของเครื่อง
ภาพในเกมคมชัดดี ไม่หน่วง หรือกระตุก เล่นได้ต่อเนื่องแบบเพลิน ๆ เลยค่ะ
ขณะที่เกม Asphalt 9: Legends คุณภาพการแสดงผลปรับที่ระดับสูงได้เลย แต่การปรับเปลี่ยนคุณภาพการแสดงผลสูง ๆ อุปกรณ์อาจไม่รองรับการตั้งค่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้อาจเกิดปัญหาด้านเฟรมเรตได้
ส่วนภาพแสดงผลบนหน้าจอสีสดคมชัดดี และไม่พบปัญหาใดระหว่างการเล่นเกมค่ะ
นอกจากนี้ Vivo Y30 ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Ultra Game Mode ช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลได้อย่างชาญฉลาด สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ระหว่างเล่นเกมได้ เช่น การปฏิเสธสาย, การนับถอยหลังก่อนเริ่มเกม, การล็อคความสว่างหน้าจอ และการป้องกันการสัมผัสแบบไม่ตั้งใจ
พร้อมรองรับ Multi-Turbo 3.0 เพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองได้ไว ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Vivo Process Guardian ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปฯ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และระบบ Turbo ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถวิเคราห์ปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ ได้ล่วงหน้า และสามารถแก้ไขพร้อมลดปัญหาที่จะเกิดได้
แถมยังช่วยเร่งความเร็วเพิ่มประสิทธิภาพ CPU, GPU และ RAM สามารถกำหนดเวลาทรัพยากร AI ในเครื่อง เพิ่มความเสถียร และความเร็วของเครือข่าย รวมไปถึงเร่งความเร็วการระบายความร้อนในเครื่องขณะใช้งาน เป็นต้น
Interface
สำหรับหน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน หรือหากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ และปลดล็อกด้วยใบหน้าแล้ว ก็สามารถสแกนนิ้วมือด้านหลังเครื่อง หรือกดปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลย นอกจากนี้ยังเข้าถึงเมนูโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้าย หรือกล้องถ่ายภาพที่มุมขวาล่าง
หลังจากปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง โดยขวามือหน้าแรกเลยจะเข้าถึงแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบ ดูสะอาดตา
เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับหน้าแจ้งเตือน และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิด Wi-Fi, Internet 4G, ไฟฉาย, โหมดเครื่องบิน, การใช้หน้าจอแยก, โหมดถนอมสายตา, Dark Mode, เครื่องคิดเลข, การบันทึกวิดีโอหน้าจอ, โหมด Ultra Game และการเปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง เป็นต้น
กลุ่มเครื่องมือการใช้งานต่าง ๆ เริ่มที่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง
วิทยุ FM, เข็มทิศ, ข้อเสนอแนะของแอปฯ Vivo.com
ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก, แอปฯ วัดสภาพอากาศ
ถัดมาเป็นสมุดโน๊ต, หน้าจัดการไฟล์ภายในเครื่อง และรองรับ Multi-Turbo 3.0 ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี VPG หรือ Vivo Process Guardian โดย Center Turbo ที่ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปฯ ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ AI Turbo ทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถวิเคราะห์พร้อมแก้ไขปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ ได้ล่วงหน้า
ในส่วนนี้เป็นศูนย์รวมธีม, V-Appstore และ Play Store สามารถดาวน์โหลดแอปฯ หรือธีมที่ต้องการได้เลยค่ะ
รองรับ Game Center, แอปฯ Vivo.com และ Vivo Cloud
รองรับแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมมี Hot Apps และ Hot Games แนะนำเกมหรือแอปฯ ยอดนิยมให้อีกด้วย
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
หน้าจอของ Vivo Y30 รองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดถนอมสายตากรองแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง
รองรับ Dark Mode เปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง, ปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอง่าย ๆ และปรับขนาดตัวอักษรได้เอง
นอกจากนี้พวกไอคอนบนหน้าจอ อย่างเช่น ไอคอนสแกนใบหน้า หรือเอฟเฟ็กต์การปลดล็อก ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้เองตามใจชอบ
รองรับการใช้งาน Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ หรือช่วยวางแผนการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน เป็นต้น โดยระบบจะแนะนำให้ตามข้อมูลอายุ, ส่วนสูง และน้ำหนักของผู้ใช้งาน
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo Y30 รองรับทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อน
ส่วนการปลดล็อกด้วยใบหน้า สามารถลงทะเบียนได้ง่าย ๆ เพียงยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาสแกนใบหน้า ส่วนการใช้งานต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน
รองรับ Ultra-Game Mode เวอร์ชันใหม่ล่าสุด 8.0 ฟังก์ชันสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลมากขึ้น สามารถบันทึกหน้าจอขณะเล่นเกม และจะบันทึกไว้ในอัลบั้มเกมได้โดยเฉพาะ เพื่อให้สะดวกในการค้นหา และแชร์ได้อย่างรวดเร็ว
พร้อมล็อกความสว่างของหน้าจอ ปิดโหมดปรับความสว่างอัตโนมัติ เพื่อให้ไม่รบกวนการเล่นเกม ซึ่งการล็อกความสว่างหน้าจอนี้จะไม่ถูกบันทึกไว้ เมื่อเปิดเกมขึ้นมาใหม่ จะกลับไปเป็นโหมดปรับแสงหน้าจออัตโนมัติเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย อาทิ การโทรเบื้องหลัง, ป้องกันการสัมผัสแบบไม่ตั้งใจ, บล็อคการแจ้งเตือนต่าง ๆ, ปฏิเสธสายโทรเข้า และการเล่นอัตโนมัติขณะหน้าจอดับ เป็นต้น
รองรับโหมดมอเตอร์ไซค์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟนร่วมกับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ โดยสามารถตั้งค่าปฏิเสธสายแบบอัตโนมัติ, ตอบกลับอัตโนมัติด้วย SMS, ปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ หรือประเมินความเร็วก่อนการรับสาย เป็นต้น
รองรับทางลัดการเข้าถึง เช่น การใช้งานอัจฉริยะ เป็นการเปิดการใช้งานฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เพื่อปลุกหน้าจอ อาทิ SmartWake การวาดตัวอักษรที่กำหนดผ่านหน้าจอที่กำลังสลีป, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย และการเตือนอัจฉริยะ เป็นต้น
ส่วนการแคปหน้าจอก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ทั้งการใช้ 3 นิ้วลากลง หรือการกดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง
รองรับการเปิดใช้งาน 2 หน้าจอ ฟังก์ชันนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, LINE, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว (แต่ใช้ได้แค่ 2 แอปฯ พร้อมกันเท่านั้นนะ) เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน
ในส่วนนี้เป็นหน้าอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ และหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยความจำ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูล
รองรับ EasyShare สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการถ่ายโอนข้อมูลจากโทรศัพท์เครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการจะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เหมาะสม
ถัดมาเป็นโหมดจัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น
รองรับการโคลนแอปฯ หรือการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี
รองรับ iManager อีกหนึ่งผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับผู้ใช้งานที่ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะ, จัดการพื้นที่ต่าง ๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น หรือสแกนหาปัญหาการใช้งานต่าง ๆ เป็นต้น
โหมดสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม มีโหมดถนอมสายตา และล็อกแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ๆ โดยสามารถเลือกแอปฯ ที่จะใช้งานได้เอง
เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่รูปกุญแจมุมขวาบน หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนใกล้ ๆ กันค่ะ
สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสาย USB Type C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC และสามารถเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้า โดย Vivo Y30 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 เดี๋ยวเราไปดูโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ
สำหรับโหมดการใช้งานของกล้องหน้า เริ่มที่ Panorama Selfie ถ่ายภาพในมุมมองมองที่กว้างขึ้น ซึ่งโหมดนี้ค่อนข้างถ่ายยากนิดนึง มือไม่นิ่งภาพที่ได้จะมีความสั่นเบลอเล็กน้อย ถัดมาเป็น โหมด Portrait หรือถ่ายภาพบุคคล รองรับ Selfie Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่าย, HDR, การปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย และการถ่าย Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ
ตัวอย่างภาพถ่าย Panorama Selfie
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
นอกจากนี้ยังเอาใจสายเซลฟี่ด้วยโหมด Face Beauty ที่สามารถปรับค่ารายละเอียดต่าง ๆ ได้เองตามใจชอบ อาทิ ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก และรองรับ Pose Master อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Face Beauty
Face Beauty ระดับ 50
Face Beauty ระดับ 100
สำหรับ Pose Master ให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสกับประสบการณ์การถ่ายภาพเซลฟี่แบบใหม่ ฟีเจอร์นี้คิดท่าทางมาให้เสร็จสรรพ สามารถวิเคราะห์ฉากต่าง ๆ พร้อมปรับแต่งให้อัตโนมัติ แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อยู่
ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR, ฟิลเตอร์สีสวย ๆ ที่สามารถปรับความเข้มความจางของฟิลเตอร์ได้เอง จากนั้นเป็น โหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกที่ความละเอียด HD 480p, 720p และ 1080p หรือระดับ Full HD
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติไม่ปรับแต่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพิเศษ โดยกล้องหน้าของ Vivo Y30 จะรองรับเฉพาะ Live Photo เท่านั้น โดยเป็นการสร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ
มาต่อที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังกันเลยค่ะ โดย Vivo Y30 มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย 13MP (Main Sensor) + 8MP (Super Wide-Angle) + 2MP (Macro) + 2MP (Bokeh) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 ตามลำดับ พร้อมไฟแฟลช LED
สำหรับเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8MP รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 120 องศา ทำให้เก็บทิวทัศน์ได้กว้างขึ้น และถ่ายภาพกลุ่มคนได้มากขึ้น แต่เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์กล้องจะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศา เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. และเลนส์ Bokeh กล้องวัดระยะชัดลึกชัดตื้น สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ลำดับถัดมาเราไปชมโหมดถ่ายภาพต่าง ๆ กันเลยค่ะ
เริ่มที่ Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้าง เห็นภาพได้กว้างขึ้น จากนั้นเป็น โหมด Portrait รองรับไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย และรองรับการซูมได้สูงสุด 4 เท่า
รองรับการถ่ายภาพมุมมองกว้างพิเศษ Ultra Wide-Angle, การถ่ายภาพ Bokeh, Face Beauty ที่รองรับการปรับตั้งค่าผิวนวล กับโทนสีผิว และรองรับ Pose Master เหมือนกับกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่าย Portait Bokeh
ซึ่งหลังจากที่เราถ่ายภาพ Bokeh มาแล้ว แต่เมื่อมาดูมันยังเบลอไม่สะใจพอ เบลอมากไป หรือเบลอไม่ตรงจุด ก็สามารถนำมาปรับลดความเบลอ และปรับโฟกัสในภายหลังได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portait Wide-Angle
ตัวอย่างภาพถ่าย Face Beauty
Face Beauty ระดับ 50
Face Beauty ระดับ 100
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูมสูงสุด 4 เท่า และมีฟังก์ชันการถ่ายภาพ 3 แบบ
ได้แก่ Super Macro ถ่ายภาพวัตถุได้สวยคมชัดในระยะใกล้ 4 ซม., Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และ Ultra Wide-Angle ถ่ายภาพมุมมองกว้างพิเศษถึง 120 องศา (ฟังก์ชันนี้เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศาค่ะ)
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide-Angle
นอกจากนี้โหมดถ่ายภาพปกติยังรองรับฟิลเตอร์สีสวย ๆ อีกหลายฟิลเตอร์ จากนั้นเป็น โหมดบันทึกวิดีโอ สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ HD 480p, 720p และ Full HD 1080p เปิดใช้งานไฟแฟลชระหว่างบันทึกวิดีโอได้ และรองรับการบันทึกวิดีโอแบบ Ultra Wide-Angle เก็บภาพมุมมองกว้างอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี
ด้านโหมดการใช้งานพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่ Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ สามารถซูมได้สูงสุด 4 เท่า
วิดีโอ Time-Lapse ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง และรองรับการบันทึกแบบมุมกว้างพิเศษ
และสุดท้ายรองรับ DOC Mode สำหรับถ่ายภาพเอกสาร โดยจะเป็นการครอปส่วนเฉพาะที่เป็นตัวอักษรเท่านั้น สามารถตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแก้ไขเพิ่มเติมโหมดถ่ายภาพบนหน้าอินเตอร์เฟชได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย DOC Mode
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปดูตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังของ Vivo Y30 แบบไม่ปรับแต่งกันต่อเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo Y30
สรุป
- สเปกตอบโจทย์การใช้งาน ดีไซน์สวย ราคาไม่แพง เข้าถึงได้ง่าย
- ใช้หน้าจอแบบใหม่ Ultra O Screen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.47 นิ้ว พื้นที่หน้าจอสูงถึง 90.77% อัตราส่วนจอภาพ 19.5 : 9 ความคมชัดระดับ HD+ พร้อม Eye Protection Screen ถนอมสายตาขณะใช้งาน ที่ช่วยปรับสีของหน้าจอแสดงผลเพื่อลดแสงสีฟ้า
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch 10.0 บนพื้นฐาน Android 10 ใช้งานได้ลื่นไหล Interface สะอาด สบายตา
- ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.35GHz พร้อมหน่วยความจำ RAM 4GB + ROM 128GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ วีดีโอ หรือรูปภาพได้ตามที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องล้างข้อมูล หรือคอยลบแอปฯ บ่อย ๆ
- กล้องหลัง 4 ตัวครบเลนส์ ประกอบด้วย เซ็นเซอร์หลัก 13MP + 8MP เลนส์ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 120 องศา + 2MP เลนส์ Macro ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. + 2MP เลนส์ Bokeh สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมโหมดการใช้งานต่าง ๆ อีกเพียบ
- ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP รองรับ Face Beauty ปรับค่าความสวยเนียนทันใจ ถึงแม้ว่าความละเอียดกล้องจะดูน้อย ๆ ไปหน่อย แต่ภาพถ่ายที่ได้มีความสวยคมชัดเป็นธรรมชาติดีค่ะ
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน โดยชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ซึ่งหากรองรับชาร์จเร็วด้วยจะแจ๋วกว่านี้มากเลย แต่ถ้ามองในแง่ของราคากับความจุที่ให้มาก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ
- รองรับ Multi-Turbo 3.0 ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผสาน AI Turbo ทำงานได้อย่างชาญฉลาดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ ได้ล่วงหน้า
- สำหรับคอเกมมี Ultra-Game Mode เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากขึ้น พร้อมฟีเจอร์ตัวช่วยดี ๆ อีกมากมาย
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยมีถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot ใช้งานได้ในรูปแบบ SIM + SIM + microSD Card
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า
- ตัวเครื่องออกแบบมาสไตล์ Dazzling 3D มีความหรูหรา บางเบา ตัวเครื่องโค้งมนแบบ 3D ถือจับกระชับมือ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Dazzle Blue และ Moonstone White
ข้อสังเกต
- ในกล่องไม่มีหูฟังแถมมาให้
- โหมด Panorama Selfie ถ่ายค่อนข้างยากนิดนึง หากมือไม่นิ่งภาพที่ได้จะมีความสั่นเบลอเล็กน้อย
- กล้องถ่ายภาพไม่มี Night Mode หรือโหมดถ่ายภาพในช่วงกลางคืน
- ไม่รองรับชาร์จเร็ว
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
- Huawei Y7p
- Huawei Y9s
- Moto G7
- OPPO A5 2020
- realme 6i
- realme 5 Pro
- Samsung Galaxy M21
- Vivo Y19
- Vivo S1
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply