เจาะลึกงานเปิดตัว Huawei P40 Series สมาร์ทโฟนเรือธงซีรีส์หรูของ Huawei กับ 5 ฟังก์ชันหลัก ที่จะสะท้อนแนวคิดและเทรนด์ผู้ใช้ยุคนี้อย่างแท้จริง
บอกใบ้ก่อนการเปิดตัวด้วยแฮชแท็ก #VisionaryPhotography ที่ทำให้เราพอจะเดาได้ว่า Huawei จะกลับมาเขย่าวงการการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนตามสไตล์ จนกระทั่งการไลฟ์เปิดตัวปลายสัปดาห์ก่อน โดยริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ถึงได้ถึงบางอ้อว่าหัวเว่ยได้พัฒนาฟังก์ชันและฟีเจอร์หลัก 5 อย่าง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้ ทั้งยังเพิ่มมูลค่าให้แก่ประโยชน์ใช้สอยอย่างครบถ้วนทุกมิติ ภายใต้คอนเซ็ปท์เดียวกันคือ Visionary
#VisionaryDesign สะท้อนตัวตนของผู้ใช้ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด
การดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปท์ Visionary Design ไปไกลกว่าแค่ความสวยงาม แต่ต้องสามารถตอบโจทย์ด้านประโยชน์ใช้สอย รวมถึงแก้ปัญหาการใช้งาน pain point ที่ผู้บริโภคประสบ คราวนี้หัวเว่ยจึงได้ออกแบบขอบจอภาพที่เหนือกว่า Full View ด้วยการทำขอบจอให้โค้งมนทั้งสี่มุม Huawei Quad-curve Overflow Display
ซึ่งใช้ใน Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ ให้ความรู้สึกเหมือนหยดน้ำที่กำลังไหลริน เสมือนไร้ขอบจอ จึงรับชมภาพได้อย่างเต็มตา โดยที่ดีไซน์ดังกล่าวก็ยังสอดรับกับกายภาพของผู้ใช้ จับได้อย่างถนัดมือ ไม่ลื่นหลุด ทั้งยังสามารถสไลด์หน้าจอได้ตั้งแต่ขอบจอ
นอกจากนี้ Huawei P40 Series ยังมาพร้อมสีสันและผิวสัมผัสที่หลากหลาย เพื่อสนองตอบผู้ใช้ที่ต้องการแสดงตัวตนผ่านไอเท็ม โดยมีไฮไลท์เป็นวัสดุเซรามิกเคลือบเทคโนโลยีนาโนในรุ่น Huawei P40 Pro+
#VisionaryPhotography สร้างปรากฎการณ์ให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน ในระดับที่สะท้านวงการกล้องดิจิทัล
ด้วยคำเปรียบเทียบที่ว่าสมาร์ทโฟนเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนในปัจจุบัน จึงหลีกเลี่ยงเลยไม่ได้ว่าสมาร์ทโฟนจะเป็นไอเท็มสำคัญที่บันทึกทุกภาพความประทับใจ ทุกโมเมนต์ของชีวิต หัวเว่ยยืนหนึ่งด้วยการพาร์ทเนอร์กับ Leica ในการพัฒนากล้องซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญ
โดย Huawei P40 Series มีกล้องหลัง 3,4 และ 5 ตัวตามลำดับรุ่น มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด รองรับแสงและสเปคตรัมของสีได้มากยิ่งขึ้น จึงให้ภาพภ่ายที่คมชัดและสีสันถูกต้อง ไม่ผิดเพี้ยนจากแบบ รวมกับอัลกอริทึมของระบบ AI ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น
โดยได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ Huawei Golden SnapTM ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาการถ่ายภาพสุด cliché ที่ทุกคนต้องเจอ อย่างการพลาดชอตสำคัญที่ทารกยิ้ม ด้วยการเก็บภาพจากกล้องหลังทุกตัวเป็นภาพเคลื่อนไหวและนำมาเลือกชอตที่ดีที่สุด (AI Best Moment) การลบคนที่เดินผ่านเข้ากล้องแบบไม่ตั้งใจ ด้วยการนำภาพแบ็คกราวด์มาซ้อน (AI Remove Passerby) หรือการตัดแสงสะท้อน (AI Remove Reflection) เพื่อให้ได้ภาพที่สวยไร้ที่ติ
ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์คือฟีเจอร์ SuperZoom ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการถ่ายภาพจากระยะไกล แบบไม่เสียรายละเอียด ซูมได้ดีกว่าเดิมทั้งในรุ่นปกติ ไล่เรียงไปจนถึงรุ่นท็อป อย่าง Huawei P40 Pro+ ที่สามารถซูมแบบออพติคัล (ซูมจริงด้วยเลนส์) ได้ถึง 10 เท่า รวมกับการซูมแบบไฮบริดที่ 20 เท่า
และการซูมดิจิทัลที่ไปไกลถึง 100 เท่า ให้รายละเอียดดวงจันทร์แบบจัดเต็มยิ่งกว่าเก่า โดยมาพร้อมกับระบบกันสั่นที่ผสานการทำงานของระบบกันสั่นแบบออพติคัล และระบบกันสั่นแบบ AI ที่ควบคุมการ ให้ความสเถียร ในทุกครั้งที่ลั่นชัตเตอร์ ครบถ้วนด้วยฟังก์ชันที่ทำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้สวยในทุกสภาพแสง ทุกที่ ทุกเวลา
ภาพที่ได้จากการซูมด้วยกล้อง Huawei P40 Pro+ จากมุมกว้าง และเมื่อซูม 5 เท่า และ 100 เท่า โดยรายละเอียดของภาพที่อยู่หลังวัตถุหลักยังคงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ดูได้จากก้อนเมฆที่ดวงอาทิตย์พาดผ่าน
ภาพที่ได้จากการซูมด้วยกล้อง Huawei P40 Pro ในระยะต่างๆ ซึ่งยังคงเก็บรายละเอียดของภาพในมุมกว้างได้อย่างครบถ้วน
#VisionaryVideography ฟังก์ชันการถ่ายภาพวิดีโอที่คมชัด ไม่แพ้ภาพนิ่ง
สนองตอบต่อเทรนด์โลก ที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจในการสร้างคอนเทนต์วิดีโอ หรือ Vlog ใน Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ ถ่ายภาพเคลื่อนไหวในอัตราส่วนภาพ 3:2 สามารถได้แม้ที่มืดหรือแสงน้อย โดยไม่สร้างเกรนภาพรบกวน เพราะมี ISO 51200 ทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชันได้ดีและสร้างเอฟเฟคท์ Bokeh (หน้าชัด หลังเบลอ) ได้แบบเรียลไทม์ ณ ขณะที่ถ่าย
ที่น่าตื่นเต้นคือฟีเจอร์ Directional Audio Zoom ที่สามารถซูมเสียงได้อย่างแม่นยำ ให้เสียงชัดเจนตรงตามทิศทาง สมจริง พร้อมกล้องหน้าระดับ 4K ที่ให้ภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูง ให้เหล่า Vlogger สามารถถ่ายวิดีโอตนเองเองแบบแบบหน้าชัด หลังเบลอ ได้คอนเทนต์วิดีโอคุณภาพแบบไม่ต้องปรับแต่งหรือใช้สกิลตัดต่อเพิ่มเติมให้วุ่นวาย
#VisonaryPerformance สร้างนิยามใหม่ให้สมาร์ทโฟนเรือธง ด้วยความสามารถในการประมวลผลระดับ 5G
Huawei P40 Series ทั้งสามรุ่นที่เปิดตัวไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ใช้ชิปเซ็ต Kirin 990 5G ที่รองรับการใช้งาน 5G ครบทุกย่านความถี่ และเทคโนโลยี Wi-Fi 6 Plus หรือการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ความเร็วสูง ซึ่งทำให้ดาวน์โหลดและโอนถ่ายข้อมูลออนไลน์ได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 2,400 Mbps โดยรองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ด สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารความเร็วสูง
#VisionaryExperience มุ่งมั่นพัฒนาทุกมิติ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบและเหนือระดับ
ระบบปฏิบัติการอัพเดทล่าสุด EMUI 10.1 มาพร้อมลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่มากมาย ภาพธีมศิลปะแบบพาโนโรมา และโหมดหน้าจอ always on ที่พริ้วไหว การแสดงผลหน้าจอแบบหลายวินโดว์ และฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของผู้ใช้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เมื่อสามารถแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ของหัวเว่ย ได้เพียงแค่นำอุปกรณ์มาสัมผัสกัน ผ่าน Huawei Share ที่ช่วยให้สามารถเรียกดูหน้าจอหลายอุปกรณ์ได้พร้อมกัน และยังแก้ไขไฟล์ต่างๆ ของมือถือได้ด้วยโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต
โดยมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์การ work from home และการ stay connected ให้กับผู้คนในสถานการณ์นี้ ด้วยฟีเจอร์วิดีโอคอล Huawei MeeTime วิดีโอคอลระหว่าสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย ที่จะแตกต่างจากวิดีโอคอลในโปรแกรมอื่นๆ ตรงความคมชัดระดับ แบบ Full HD 1080p ที่แม้จะอยู่ในที่มืดหรือจุดอับสัญญาณ ก็ยังให้ภาพวิดีโอและเสียงที่คมชัด และยังสามารถแชร์จอ หรือโน๊ตให้คู่สนทนาได้ระหว่างคุยงาน ให้ผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
โดยสมาร์ทโฟนของ Huawei รวมถึง P40 Series มาพร้อมบริการ Huawei Mobile Service หรือ HMS ที่ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยการมีพาร์ทเนอร์เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ผลิตคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบทั้งวิดีโอและดนตรี ที่สำคัญคือการร่วมมือกับนักพัฒนาทั่วโลกในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชันให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้โดย Huawei AppGallery
โดยแบ่งประเภทการใช้งานของแอปไว้ถึง 18 ประเภท มีครบถ้วนทุกหมวดหมู่ ตัวอย่างเช่น การท่องเที่ยว การเงินการธนาคาร ช้อปปิ้ง การศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี Quick Apps อีโคซิสเต็มของแอปพลิเคชันที่รวบรวมแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานโดยไม่ต้องติดตั้งเข้าไว้ ช่วยให้ประหยัดเนื้อที่หน่วยความจำ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เข้าในการเข้าถึงและทดลองแอปพลิเคชันได้หลากหลาย
สามารถติดตามผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของหัวเว่ยได้ที่ Huawei Official Website
Leave a Reply