ผู้ก่อตั้ง Huawei กล่าว “เราไม่สนเรื่องสหรัฐฯ แบนเราอีกแล้ว” ลั่น!! ให้อเมริกาใส่ชื่อ Huawei ในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบายๆ อยู่แล้ว

ผู้ก่อตั้ง Huawei กล่าว “เราไม่สนเรื่องสหรัฐฯ แบนเราอีกแล้ว” ลั่น!! ให้อเมริกาใส่ชื่อ Huawei ในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบายๆ อยู่แล้ว

Huawei

มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย

หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุด และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลก ประกาศกร้าวว่าบริษัทเลิกสนใจการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลทรัมป์ไปนานแล้ว  “เราไม่คาดหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะถอนชื่อหัวเว่ยออกจากบัญชีดำ” มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประกาศระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ กับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล “ให้อเมริกาใส่ชื่อหัวเว่ยในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว” มร. เหริน กล่าวเสริม

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หัวเว่ยถูกรวมเข้าไปอยู่ในบัญชี Entity List ของสหรัฐอเมริกา มีผลบังคับไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจใด ๆ  กับบริษัทสัญชาติอเมริกัน นับเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หัวเว่ยมองว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับธุรกิจของบริษัท

ภายหลังจากการขึ้นบัญชีดำ มร. เหริน เองได้คาดการณ์ไว้ว่า หัวเว่ยอาจต้องสูญเสียรายได้ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  แต่การประเมินของเขากลับไม่ถูกต้อง เพราะบริษัทประกาศว่ารายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเติบโตสูงขึ้นถึง 24%  ในเดือนกันยายน มร. แอนดี้ เพอร์ดี้ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทอเมริกาไปเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 ซึ่งหากขาดรายได้จากการสั่งซื้อของหัวเว่ย บริษัทสหรัฐฯ จะต้องขาดทุนมหาศาล

แม้ว่าจะโดนแบน มร. เหริน กล่าวย้ำว่า เขาไม่เคยเกลียดสหรัฐฯ และหัวเว่ยก็จะไม่ปิดประตูใส่ประเทศใด ๆ เพื่อประโยชน์ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็วของโลก ซีอีโอของหัวเว่ยกล่าวย้ำมาโดยตลอดว่าตนยึดถือหลัก “ความร่วมมือที่เปิดกว้างเพื่อความสำเร็จร่วมกัน”

และต้องการที่จะทำงานกับทุกประเทศทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโลกยุคดิจิทัล เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มร. เหริน ได้ประกาศขายเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย รวมถึงองค์ความรู้และลิขสิทธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้แก่บริษัทสหรัฐฯ ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เขาย้ำว่าข้อเสนอของเขานั้นเป็นเรื่องจริง และยังเปิดรับอยู่ แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่มีบริษัทใดติดต่อเข้ามา

เมื่อนักข่าวถามเรื่องข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานของสหรัฐฯ ที่ว่า หัวเว่ยอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการส่งข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้แก่รัฐบาลจีน หากมีการร้องขอ มร. เหริน กำชับว่า เขาและพนักงานเกือบ 200,000 คนทั่วโลกจะปฏิเสธคำร้องขอนั้น  พร้อมยืนยันว่า บริษัทมีมาตรการที่เข้มงวดต่อการทำผิดกฎระเบียบของพนักงาน และบุคคลใดก็ตามที่ทำความผิด จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง

มร. เหริน รวมถึงผู้บริหารระดับสูงทุกคน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องการสอดแนมมาหลายต่อหลายครั้งว่า มันไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด นี่เป็นเพียงการโจมตีโดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งหวังทำลายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย

ถึงกระนั้นก็ตาม บริษัทก็ยังนำโด่งในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่น 5G ที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุด และได้คว้าสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ไปแล้วกว่า 50 ฉบับทั่วโลก  หัวเว่ยจะไม่มีวันหยุดพัฒนานวัตกรรมด้าน 5G, AI และโมบายเทคโนโลยี โดยถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนด้าน R&D มากที่สุดในโลก ในอีก 5 ปีข้างหน้า หัวเว่ยมีแผนที่จะทุ่มงบถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมและ R&D ทั่วโลก