เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A80 และ Samsung Galaxy A70 สมาร์ทโฟนจอใหญ่ แบตอึด กล้อง 3 ตัว เลือกรุ่นไหนดี มาดูกัน!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้เรามีบทความรีวิวเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A80 และ Samsung Galaxy A70 มาฝากให้ได้ชมกันหลังจากที่เราได้ทำบทความรีวิวฉบับเต็มกันไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยบทความรีวิวเปรียบเทียบทั้งในส่วนของข้อมูลสเปคการใช้งานเด่น, ดีไซน์การออกแบบ, ราคาวางจำหน่าย, คะแนนการทดสอบ และรายละเอียดอื่นๆ
เบื้องต้น Samsung Galaxy A70 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 13,990 บาท มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขุมพลัง Snapdragon 675 หน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 32MP + 5MP + 8MP กล้องหน้า 32MP แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh รองรับ Fast Charging 25W ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และรองรับฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีฟ้า, สีดำ และสีขาว
ขณะที่ Samsung Galaxy A80 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 18,990 บาท ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ขุมพลัง Snapdragon 730 หน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB ไม่รองรับ microSD Card ใช้กล้องแบบ Rotating Camera ความละเอียด 48MP + 8MP + 3D Depth เท่ากันทั้งด้านหน้าและหลัง แบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh รองรับ Fast Charging 25W สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีทอง และสีเงิน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะแตกต่างกันแค่ไหน เราไปชมเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A70 และ Galaxy A80 กันเลยค่ะ
ตารางสรุปเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A80 และ Samsung Galaxy A70
Features | Samsung Galaxy A70 | Samsung Galaxy A80 |
วันเปิดตัว : | – เมษายน 2562 | – กรกฎาคม 2562 |
ราคา : | – 13,990 บาท | – 18,990 บาท |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI |
หน้าจอ : | – หน้าจอ Super AMOLED | – หน้าจอ Super AMOLED |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1080×2400 (Full HD+) | – ความละเอียด 1080×2400 (Full HD+) | |
– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 | – กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 | |
– อัตราส่วน 20:9 | – อัตราส่วน 20:9 | |
CPU : | – Snapdragon 675 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz | – Snapdragon 730 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz |
GPU : | – Adreno 612 | – Adreno 618 |
RAM : | – 8GB | – 8GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 128GB | – 128GB |
– microSD Card สูงสุด 1TB | – ไม่รองรับ microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 32MP + 5MP + 8MP | – 48MP + 8MP + 3D Depth |
– ค่ารูรับแสง f/1.7, f/2.2, f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 + f/1.2 | |
– LED flash | – LED flash | |
– PDAF | – PDAF | |
– Digital Zoom up to 8x | – Digital Zoom up to 8x | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– Panorama | – Panorama | |
– HDR | – HDR | |
กล้องหน้า : | – 32MP | – 48MP + 8MP + 3D Depth |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | – ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 + f/1.2 | |
Video : | – Slow Motion 240fps@HD | – Slow Motion 480fps @HD, 240fps @HD |
– UHD 4K@30fps | – UHD4K@30fps | |
Battery : | – 4500 mAh รองรับ Fast Charging 25W | – 3700 mAh รองรับ Fast Charging 25W |
ขนาด : | – 164.3×76.7×7.9 มม. | – 165.2×76.5×9.3 มม. |
น้ำหนัก : | – 183 กรัม | – 220 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual-SIM | – Dual-SIM |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : 8500/900/1900/2100 MHz | – 3G : 850/900/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | – 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz |
– Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | – USB Type-C | |
– ANT+ | – NFC | |
– 3.5mm jack | – | |
GPS : | – GPS | – GPS |
– Glonass | – Glonass | |
– Galileo | – Galileo | |
– Beidou | – Beidou | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Fingerprint Under Display |
– Face Unlock | – | |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Gyroscope | – Gyroscope | |
– Geomagnetic | – Geomagnetic | |
– Ambient light | – Ambient light | |
– RGB Light Sensor | – RGB Light Sensor | |
– Proximity | – Proximity | |
– Hall Sensor | – Hall Sensor | |
สี : | – ฟ้า | – ทอง |
– ดำ | – ดำ | |
– ขาว | – เงิน |
Features | Samsung Galaxy A70 | Samsung Galaxy A80 |
ราคา : | – 13,990 บาท | – 18,990 บาท |
RAM : | – 8GB | – 8GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 128GB | – 128GB |
– microSD Card สูงสุด 1TB | – ไม่รองรับ microSD Card | |
Battery : | – 4500 mAh รองรับ Fast Charging 25W | – 3700 mAh รองรับ Fast Charging 25W |
ขนาด : | – 164.3×76.7×7.9 มม. | – 165.2×76.5×9.3 มม. |
น้ำหนัก : | – 183 กรัม | – 220 กรัม |
ระบบเชื่อมต่อ : | – 3.5mm jack | – |
Sensor : | – Face Unlock | – |
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A70 คือมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่า Galaxy A80 อยู่ราว 5,000 บาท โดยราคาอยู่ที่ 13,990 บาท มีหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB เท่ากัน แต่สามารถใส่ microSD Card ได้สูงสุด 1TB ขณะที่รุ่น Galaxy A80 ไม่รองรับ microSD Card อีกทั้งยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงกว่าถึง 4500 mAh รองรับ Fast Charging 25W เท่ากัน มีขนาดตัวเครื่องบาง และเบามากกว่า รองรับสแกนลายนิ้วมือฝังใต้จอเช่นเดียวกัน แต่รุ่น Galaxy A70 รองรับฟีเจอร์ Face Unlock ขณะที่รุ่น Galaxy A80 ไม่รองรับค่ะ
Features | Samsung Galaxy A80 | Samsung Galaxy A70 |
CPU : | – Snapdragon 730 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz | – Snapdragon 675 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz |
GPU : | – Adreno 618 | – Adreno 612 |
กล้องหลัง : | – 48MP + 8MP + 3D Depth | – 32MP + 5MP + 8MP |
กล้องหน้า : | – 48MP + 8MP + 3D Depth | – 32MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 + f/1.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
Video : | – Slow Motion 480fps @HD, 240fps @HD | – Slow Motion 240fps@HD |
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A80 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 730 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz กล้องเป็นแบบ Rotating Camera ทั้งกล้องหน้าและหลังใช้ตัวเดียวกันค่ะ มาพร้อมความละเอียด 48MP + 8MP + 3D Depth ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 + f/1.2 รองรับการบันทึกวิดีโอ Slow Motion ได้ที่ระดับสูงสุด 480fps @HD ขณะที่ Galaxy A70 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 675 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 32MP + 5MP + 8MP กล้องหน้าเซลฟี่ 32MP และบันทึกวิดีโอ Slow Motion ได้ที่ระดับสูงสุด 240fps@HD
เปรียบเทียบรูปลักษณ์ดีไซน์
ในส่วนของหน้าจอ Galaxy A70 และ Galaxy A80 มาพร้อมจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วนจออยู่ที่ 20:9 โดยรุ่น Galaxy A70 จอมีดีไซน์แบบ Infinity-U Display ส่วนรุ่น Galaxy A80 ใช้จอ Infinity แบบใหม่ ดีไซน์ไร้ขอบ สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ขนาดกว้างขวางและเต็มตายิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 และฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ใช้งานได้อย่างเพลิดเพลินแบบเต็มพื้นที่
ด้านหน้าส่วนบน Galaxy A70 มีรอยบากทรงหยดน้ำเป็นรูปตัว U ซึ่งเป็นตำแหน่งของเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ เหนือรอยบากมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา ขณะที่ Galaxy A80 เป็นจอไร้ขอบ ไม่มีรอยต่อมารบกวนสายตา
โดยกล้องหน้าของ Galaxy A80 ถูกซ่อนไว้ในตัวเครื่อง เป็นกล้องแบบ Rotating Camera ซึ่งถือได้ว่าเป็นกล้องที่หมุนได้ครั้งแรกของค่ายเลยก็ว่าได้ หากต้องการถ่ายภาพเซลฟี่กล้องทั้ง 3 ตัวจะ Pop-Up ขึ้นจากด้านหลังโดยอัตโนมัติและหมุนกลับเพื่อทำงานเป็นกล้องหน้า กลไกของนวัตกรรมกล้องมีคุณภาพแบบเดียวกันทั้งกล้องหน้าและหลัง
เลนส์กล้อง 3 ตัวเรียงกันเป็นแนวนอน ความละเอียด 48MP (Wide Angle) + 8MP (Ultra Wide) + 3D Depth (ToF 3D) ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.2 + f/1.2
ขณะที่ Galaxy A70 ใช้กล้องเซลฟี่ความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 ตำแหน่งกล้องอยู่ในรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก
ตัวเครื่องของ Galaxy A70 มาพร้อมดีไซน์เรียบง่าย บอดี้ผสมผสานกับดีไซน์แบบ 3D Glasstic โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว และสีฟ้า ขนาดอยู่ที่ 164.3×76.7×7.9 มม. และมีน้ำหนัก 183 กรัม ขณะที่ Galaxy A80 ตัวเครื่องจับได้อย่างถนัดมือใช้งานได้สะดวก ดีไซน์สุดพรีเมี่ยม ส่วนโค้งของ Galaxy A80 ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น โดดเด่นด้วยกระจกกับโลหะที่ถือได้สบายมือ ขนาดอยู่ที่ 165.2×76.5×9.3 มม. น้ำหนัก 220 กรัม
ด้านหลังส่วนบนของ Galaxy A70 ประกอบด้วยเลนส์กล้องหลัง 3 ตัว จัดวางกันในแนวตั้งมุมซ้ายบน ด้านล่างมีไฟแฟลช ส่วนของ Galaxy A80 เลนส์กล้อง 3 ตัวเรียงกันเป็นแนวนอน พร้อมไฟแฟลช LED
สำหรับ Galaxy A70 ลำดับเลนส์กล้องเริ่มจากบนสุด คือ Depth Sensor ความละเอียด 5MP ตามด้วย Main Sensor ความละเอียด 32MP และเลนส์ล่างสุด Ultra Wide ความละเอียด 8MP ถัดลงมาเป็นไฟแฟลช LED
ส่วนของ Galaxy A80 ประกอบด้วย Rotating Triple Camera เลนส์กล้อง 3 ความละเอียด 48MP (Wide Angle) + 8MP (Ultra Wide) + 3D Depth (ToF 3D) พร้อม LED flash
ด้านบนตัวเครื่องของทั้ง Galaxy A70 และ Galaxy A80 พบแค่รูไมค์ตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างตัวเครื่องของ Galaxy A70 ประกอบด้วยช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C รองรับ Super Fast Charging 25W, รูไมค์โครโฟน และลำโพงเสียงหลัก ขณะที่ของ Galaxy A80 ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด, พอร์ต USB Type-C รองรับ Super Fast Charging 25W, รูไมค์โครโฟน และลำโพงเสียงหลัก
โดย Galaxy A80 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบหน้าและหลัง จะไม่รองรับ microSD Card นะคะ
ด้านซ้ายตัวเครื่องของ Galaxy A70 พบแค่เพียงช่องใส่ซิมการ์ด ส่วนของ Galaxy A80 มีแค่เพียงปุ่มเพิ่ม/ลดปรับระดับเสียง
โดยช่องใส่ซิมการ์ดของ Galaxy A70 จะอยู่บนสุดเลยค่ะ
Galaxy A70 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) แบบ Triple Slot คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card
ด้านขวาตัวเครื่องของ Galaxy A70 พบปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด/ปิดการใช้งานตัวเครื่อง และปุ่มเพิ่ม/ลดปรับระดับเสียง ขณะที่ของ Galaxy A80 ประกอบด้วย ปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิด/ปิดการใช้งานตัวเครื่อง หรือพักหน้าจอค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Samsung Galaxy A70 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 675 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 612 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 166611 คะแนน
ขณะที่ Samsung Galaxy A80 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 730 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 618 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 204589 คะแนน มากกว่า Galaxy A70 อยู่พอสมควรค่ะ
ราคาวางจำหน่าย
Samsung Galaxy A70 ราคาพิเศษ 13,990 บาท จากเดิม 14,990 บาท
Samsung Galaxy A80 ราคาพิเศษ 18,990 บาท จากเดิม 21,990 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A80 และ Samsung Galaxy A70 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากสเปคการใช้งานโดยรวมแล้ว สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น มีราคาต่างกันราว 5,000 บาท ซึ่งหากเพื่อนๆ ยอมจ่ายเพิ่มแล้วเลือกซื้อเป็นรุ่น Galaxy A80 สิ่งที่จะได้เพิ่มมาตามราคา คือ ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 730 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz และกล้องแบบ Rotating Camera โดยมีทั้งหมด 3 เลนส์ ความละเอียดสูง 48MP + 8MP + 3D Depth รองรับการบันทึกวิดีโอ Slow Motion สูงสุด 480fps@HD
แต่หากเลือกรุ่น Galaxy A70 นอกเหนือจากสเปคการใช้งานอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกับรุ่น Galaxy A80 แล้ว อาทิ ขนาดหน้าจอ และความจุในตัวเครื่อง เป็นต้น สิ่งที่จะได้คือ แบตเตอรี่ความจุมากกว่าอยู่ที่ 4500 mAh สามารถใส่ microSD Card ได้สูงสุด 1TB รองรับฟีเจอร์ Face Unlock ปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า ตัวเครื่องบางเบากว่า แต่ไม่ได้กล้อง Rotating Camera
ขณะที่รุ่น Galaxy A80 ไม่รองรับ microSD Card มีแบตเตอรี่ความจุ 3700 mAh และไม่รองรับฟีเจอร์ Face Unlock แต่สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนั้นมาพร้อมเทคโนโลยี Fast Charging กำลังไฟ 25W เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อนๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และรุ่นไหนตอบโจทย์การใช้งานของตนเอง หรือเพื่อนๆ จำกัดงบไว้ที่เท่าไหร่
แต่ต้องบอกเลยว่างานนี้สูสีกันอยู่ไม่น้อย หากไม่ซีเรียสเรื่องกล้อง Rotating Camera ที่มีความละเอียดสูงกว่า และใช้งานเป็นทั้งกล้องหน้าและหลัง ก็ดูเหมือนว่า Galaxy A70 จะโดดเด่นไม่น้อยไปกว่ารุ่น Galaxy A80 ทั้งในเรื่องของความจุแบตเตอรี่ และสามารถใส่ microSD Card เพิ่มเติมได้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน หรืออยากให้ทางทีมงานเปรียบเทียบรุ่นไหนให้ชมกันอีกแบบชัดๆ สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยค่ะ 🙂
Leave a Reply