iPhone 11 Pro Max ไอโฟน 11 โปร แม็กซ์ ราคา
iPhone 11 Pro Max ราคา 39,900 บาท (64GB), 45,900 บาท (256GB), 52,900 บาท (512GB) (ณ วันที่ 24 ส.ค. 63)
iPhone 11 Pro Max มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ 1.สีเทาสเปซเกรย์ 2.สีเงิน 3.สีเขียวมิดไนท์กรีน 4.สีทอง
สเปกเครื่อง iPhone 11 Pro Max
Features | iPhone 11 Pro Max |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2562 |
ราคา : | – 39,900.- (64GB) |
– 45,900.- (256GB) | |
– 52,900.- (512GB) | |
– (ณ วันที่ 24 ส.ค. 63) | |
OS : | – iOS 13 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.5 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2688×1242 พิกเซล | |
– อัตราส่วน 19.5:9 | |
– แบบ Super Retina XDR | |
– การแสดงผลแบบ True Tone | |
CPU : | – Apple A13 Bionic |
GPU : | – |
RAM : | – 6GB |
ROM : | – 64GB |
– 256GB | |
– 512GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP (Wide) + 12MP (Telephoto) + 12MP (Ultra Wide) |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.0 + f/2.4 | |
– True tone LED flash | |
– PDAF | |
– OIS | |
– HDR | |
– Panorama | |
– 2x Optical Zoom | |
– Digital Zoom สูงสุด 10x | |
– Night Mode | |
กล้องหน้า : | – TrueDepth 12MP |
– Retina Flash | |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– HDR | |
– Slofie | |
Video : | – 4K@60fps, 1080p, Slo‑mo 1080p@120fps |
Battery : | – 3500 mAh |
– ใช้งานได้นานกว่า iPhone XS Max สูงสุด 5 ชั่วโมง | |
– สนับสนุน Fast Charging 18W | |
ขนาด : | – 158.0×77.8×8.1 มม. |
น้ำหนัก : | – 226 กรัม |
รองรับซิม : | – Nano-SIM และ eSIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | |
– 4G VoLTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi‑Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax |
– Bluetooth 5.0 | |
– NFC | |
– USB 2.0 | |
GPS : | – A-GPS |
– GLONASS | |
– GALILEO | |
– QZSS | |
Sensor : | – Face ID |
– Accelerometer | |
– Gyro | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Barometer | |
สี : | – เขียวมิดไนท์กรีน |
– เทาสเปซเกรย์ | |
– เงิน | |
– ทอง |
• เทิร์น Pro แล้ววันนี้ ระบบสามกล้องที่ปฏิวัติมาใหม่มาพร้อมกับความสามารถมากมายที่ถึงจะใหม่แต่รับรองว่าไม่มีอะไรซับซ้อน ในส่วนของแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังมาพร้อมชิพแรงสุดขั้วที่จะยกระดับการเรียนรู้ของระบบไปอีกขั้นและขยายขอบเขตความเป็นไปได้ให้กับสมาร์ทโฟนขอแนะนำให้รู้จักกับ iPhone รุ่นแรกที่ทรงพลังสมชื่อ Pro
– มาดูกันใกล้ๆ 2 ขนาด 4 สี ในดีไซน์แบบสแตนเลสสตีลและกระจก
• ระบบกล้องระดับโปรสองดีกว่าหนึ่งแต่สามดีที่สุด
– มุมมองภาพกว้างขึ้น iPhone 11 Pro ให้คุณซูมได้ตั้งแต่กล้องเทเลโฟโต้ไปจนถึงกล้องอัลตร้าไวด์ใหม่ ด้วยช่วงซูมแบบออปติคอลที่สูงน่าทึ่งถึง 4 เท่า
เทเลโฟโต้
ไวด์
อัลตร้าไวด์
• อินเทอร์เฟซที่สวยงามเต็มตา เราใช้ประโยชน์จากมุมมองภาพที่กว้างขึ้นเพื่อให้คุณเห็นสิ่งที่อยู่นอกเฟรม จากนั้นเพียงแค่แตะก็สามารถเก็บภาพนั้นได้ทันที ที่สำคัญแทบไม่มีอะไรมาขวางระหว่างคุณกับสิ่งที่คุณถ่าย จึงไม่แปลกถ้าคุณจะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของภาพที่อยู่ตรงหน้า
• วิดีโอระดับ 4K ถ่าย กลับด้าน ซูมครอบตัด ตัดต่อ เพิ่มแสงปรับแต่ง แล้วก็ตกหลุมรัก iPhone 11 Pro ให้คุณบันทึกวิดีโอที่สวยงามสมจริง มีรายละเอียดที่ครบถ้วนยิ่งขึ้นและเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังมาพร้อมพลังการประมวลผลที่แรงสุดขีดจึงสามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น
พร้อมระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวในคุณภาพระดับภาพยนตร์ ทั้งหมดนี้ด้วยอัตราความเร็วของเฟรมที่ 60 fps แค่นี้ยังไม่พอ เพราะคุณยังจะสร้างสรรค์ผลงานได้ดังใจยิ่งขึ้น ด้วยการเก็บภาพได้กว้างขึ้นถึง 4 เท่า และมีเครื่องมือปรับแต่งใหม่ๆอันทรงพลังให้ลองเล่นอีกเพียบ
• อัลตร้าไวด์ วิวเต็มมมมมๆ ที่เต็มตา ถ้าใส่ทุกอย่างเข้ามาในเฟรมได้ไม่หมด ก็แค่ซูมออกเท่านั้นเอง เพราะกล้องอัลตร้าไวด์ใหม่สามารถเก็บภาพได้กว้างยิ่งกว่าที่เคยถึง 4 เท่า เหมือนกับคุณถอยออกมาไกล ไกลมากๆ โดยไม่ต้องขยับเท้าสักก้าว ทีนี้ไม่ว่าจะเป็นภูเขาทั้งเทือก ยอดวิหารที่สูงเสียดฟ้า หรือวิวทิวทัศน์สุดอลังการก็ไม่มีปัญหา
อัลตร้าไวด์ช่วยเปิดมุมมองแบบอาร์ตๆ เมื่อคุณเข้าไปใกล้ๆ สิ่งที่จะถ่าย ซึ่งเป็นเทคนิคระดับโปรแบบสนุกๆ ที่คุณเองก็
ย่อตัวลงให้ต่ำกว่าแบบแล้วถ่ายเสยขึ้นมาเพื่อให้ได้ภาพที่ดูทรงพลังและยิ่งใหญ่
เมื่ออยู่ในที่แคบ การใช้อัลตร้าไวด์ก็เหมือนกับการถอยออกมาเพื่อให้สามารถเก็บภาพของสิ่งที่อยู่รอบๆ ได้มากขึ้น
เมื่อมีพื้นที่สร้างสรรค์กว้างขึ้น คุณก็สามารถเก็บภาพที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่าที่เคย
อัลตร้าไวด์มีมุมมองภาพที่กว้างถึง 120 องศา จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์
• โหมดกลางคืนเมื่อเทคโนโลยีที่ล้ำมากมาเจอกับสภาวะแสงน้อย โหมดกลางคืนใหม่ใช้ซอฟต์แวร์อันชาญฉลาดร่วมกับชิพ A13 Bionic เพื่อให้คุณถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบน iPhone ตั้งแต่ร้านอาหารไฟสลัวจนถึงชายหาดใต้แสงจันทร์ และทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้คุณยังสามารถทดลองปรับค่าต่างๆ ได้ด้วยตัวเองเพื่อเผยให้เห็นรายละเอียดมากขึ้นและลดนอยซ์ให้น้อยลงไปอีก
• โหมดภาพถ่ายบุคคลภาพถ่ายบุคคลที่ทรงพลังมากขึ้น เมื่อกล้องทั้งสามทำงานร่วมกัน คุณก็สามารถใส่อะไรต่อมิอะไรเข้ามาในภาพถ่ายบุคคลได้มากยิ่งกว่าที่เคย และ iOS 13 ยังเพิ่มเอฟเฟ็กต์แสงไฟขาวดำไฮคีย์ที่ให้คุณถ่ายภาพขาวดำในสไตล์สตูดิโอ ส่วนคุณสมบัติ “การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” ก็ให้คุณควบคุมความเข้มของแสงเพื่อเน้นความงามของคนในภาพได้เหมือนกับในสตูดิโอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าสวยแน่
ไม่ว่าจะถ่ายที่ไหน เอฟเฟ็กต์แสงไฟขาวดำไฮคีย์ก็จะเนรมิตภาพนั้นให้กลายเป็นภาพบุคคลในสไตล์สตูดิโอที่สวยสะดุดตา
• HDR อัจฉริยะใครว่ารูปของคุณจะดูดีกว่านี้ไม่ได้ HDR อัจฉริยะเจเนอเรชั่นถัดไปใช้อัลกอริทึมอันล้ำสมัยเพื่อเนรมิตรายละเอียดส่วนไฮไลท์และเงามืดในภาพของคุณให้สวยขึ้นทันตา และวันนี้ยังใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของระบบเพื่อหาใบหน้าในภาพแล้วเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้านั้นอย่างชาญฉลาด นั่นหมายความว่า iPhone 11 Pro สามารถปรับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งตัวคนและฉากหลังให้คุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่กล้อง DSLRบางรุ่นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
HDR อัจฉริยะช่วยให้แสงเงาและรายละเอียดบนใบหน้าดูโดดเด่น ขณะที่ฉากหลังยังคงแสดงเฉดสีได้อย่างสวยงามเนียนตา
• เปลี่ยนจาก 1, 2, 3, แชะไปเป็น 3, 2, 1, แอ็คชั่นได้อย่างรวดเร็ว สมมติว่าคุณกำลังถ่ายรูปอยู่ แล้วเผอิญเห็นอะไรที่คุณอยากถ่ายเก็บไว้เป็นวิดีโอก็ไม่ต้องสลับโหมดให้วุ่นวาย เพราะเมื่อมี QuickTake เพียงแค่แตะชัตเตอร์ค้างไว้ก็เริ่มบันทึกวิดีโอได้ทันที แล้วถ้าอยากถ่ายวิดีโอต่อไปเรื่อยๆ ก็แค่ปัดไปทางขวาหรือปัดไปทางซ้ายเพื่อถ่ายภาพต่อเนื่อง
• จะเซลฟี่อยู่ทำไม ถ้า Slofie ได้แล้ว กล้อง TrueDepth ความละเอียด 12MP ใหม่ ให้คุณถ่ายวิดีโอเซลฟี่สโลว์โมชั่นสุดสนุกที่ 120 fps หรือถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่ 60 fps และวันนี้เมื่อคุณหมุน iPhoneขณะถ่ายภาพนิ่ง กล้องก็จะซูมออกโดยอัตโนมัติเพื่อให้คุณเก็บภาพของทุกคนได้ครบนี่แหละการเซลฟี่แบบโปรๆ
ยังมีคุณสมบัติเจ๋งๆ ของกล้องอีกเยอะ
– เทเลโฟโต้รับแสงได้มากขึ้น 40%
– แฟลช True Tone พร้อมคุณสมบัติสโลว์ซิงค์ สว่างขึ้น 36%
– ความหน่วงของชัตเตอร์เป็นศูนย์
– เอฟเฟ็กต์การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล 6 แบบ
– ถ่ายภาพพาโนรามาแนวตั้งสูงขึ้น 2 เท่า
– ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล OIS
• จอภาพระดับโปร Super Retina XDR คอนทราสต์คมๆ ที่คอนทราสต์กับทุกอย่าง
• จอภาพ Super Retina XDR ไม่ได้มาพร้อมความสว่างสูงสุดแค่เพียงหนึ่งระดับ แต่มีถึงสอง และยังรู้ด้วยว่าควรใช้แต่ละระดับเมื่อไหร่ โดยความสว่างจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็น 800 นิตเมื่ออยู่กลางแดด ซึ่งช่วยได้มากเมื่อคุณต้องเลือกรูปทันทีหลังถ่ายเสร็จ และจะเพิ่มความสว่างขึ้นสูงสุดเป็น 1,200 นิต เมื่อคุณดูคอนเทนต์ระดับ Extreme Dynamic Range เรียกว่าเหมือนกับมี Pro Display XDR อยู่บน iPhone ยังไงยังงั้น เป็นจอภาพ iPhone ที่สว่างและคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
• ประสิทธิภาพระดับโปรชิพที่ล้ำหน้าสุดๆจนเราเองยังตามแทบไม่ทัน เราสร้างชิพ A13 Bionic ขึ้นในแบบของเราเองโดยโฟกัสที่เรื่องการเรียนรู้ของระบบในทุกๆ ส่วนของชิพ เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากสมาร์ทโฟนไหนๆ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้วต้องบอกเลยว่าทั้งเร็ว ทรงพลัง และฉลาดกว่าชิพอื่นๆ หลายขุม เรียกว่านำหน้าไปค่อนข้างไกลเลยล่ะ
– สถาปัตยกรรม Fusion แบบ 64 บิต คอร์ประมวลผลการทำงานจัดการกับงานที่สลับซับซ้อนได้เร็วยิ่งกว่าที่เคย ในขณะที่คอร์ประหยัดพลังงานแบบเฉพาะรับมือกับงานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ผลที่ได้คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้นแบบก้าวกระโดด
– CPU เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน คอร์ประมวลผลการทำงานทั้ง 2 คอร์ของ CPU เร็วขึ้นสูงสุด 20% และใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 40%ในขณะที่คอร์ประหยัดพลังงานทั้ง 4 คอร์เร็วขึ้นสูงสุด 20%และใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 25%
– GPU เร็วที่สุด ในสมาร์ทโฟน GPU ที่ออกแบบโดย Apple นั้นเร็วขึ้นสูงสุด 20% และใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 30% ซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและประสบการณ์ AR แบบล่าสุด
– NeuralEngine เพื่อการเรียนรู้ของระบบสุดล้ำ Neural Engine แบบ 8 คอร์ ที่ออกแบบโดย Apple นั้นเร็วขึ้นสูงสุด 20% และใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 15% เรียกว่าเป็นขุมพลังในเบื้องหลังที่ขับเคลื่อนทั้งระบบสามกล้อง, Face ID, แอพ AR และอีกมากมาย
– การเรียนรู้ของระบบ ที่มาพร้อมตัวเร่งความเร็ว ตัวเร่งความเร็วใหม่ด้านการเรียนรู้ของระบบทั้งสองตัวบน CPUช่วยให้การคำนวณทางคณิตศาสตร์แบบเมทริกซ์เร็วขึ้นถึง 6 เท่าทำให้ CPU สามารถดำเนินการต่างๆได้มากกว่า 1 ล้านล้านรายการต่อวินาทีี
– Core ML 3 เพื่อการเรียนรู้ของระบบในแอพต่างๆ Core ML 3 ทำงานร่วมกับตัวควบคุมด้านการเรียนรู้ของระบบเพื่อส่งงานต่างๆ ไปยัง CPU, GPUหรือ Neural Engine โดยอัตโนมัติเพื่อช่วยให้นักพัฒนาใช้ประโยชน์จากขุมพลังด้านการเรียนรู้ของระบบในชิพ A13 Bionic ได้อย่างเต็มที่
• ถ้าแบตเตอรี่อึดเพิ่มอีกซักชั่วโมงก็คงดีแต่นี่เอาไปเลยห้า นี่คือระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดที่สุดของเรา
– สูงสุดนานขึ้น 4 ชั่วโมง คือระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 11 Pro
– สูงสุด นานขึ้น5 ชั่วโมง คือระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 11 Pro Max
– สูงสุด ชาร์จได้ 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยการชาร์จแบบเร็ว
• การสร้างกระจกที่แข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องผิวๆ แต่เราต้องลงลึกไปถึงระดับโมเลกุล กระจกที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
– ตัดแต่งอย่างแม่นยำ จากกระจกแผ่นเดียว
– กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนคู่ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
• สาดมาเลย สบายมาก iPhone ที่ทนน้ำได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของเรา
– ที่ระดับ IP68 ทนน้ำถึงระดับความลึก 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
– ทนน้ำที่หกใส่ อย่างของเหลวทั่วไป เช่น กาแฟ ชา และน้ำอัดลม
– ทนฝุ่น ด้วยการปิดผนึกอย่างแม่นยำ
• แม่นราวกับตาเห็น โดยชิพ U1 ใหม่ที่ออกแบบโดย Apple นั้นใช้เทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ในการรับรู้ตำแหน่งจึงทำให้ iPhone 11 Pro สามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ที่มีชิพ U1 ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งก็เหมือนเป็นการเพิ่มประสาทสัมผัสอีกด้านให้กับ iPhone ซึ่งแน่นอนว่าจะนำไปสู่ความสามารถใหม่ๆ อันน่าทึ่งอีกมากมาย วันนี้เมื่อมีชิพ U1 และ iOS 13 เพียงแค่หัน iPhoneของคุณไปทาง iPhone ของคนอื่น แล้ว AirDropก็จะให้ความสำคัญกับเครื่องนั้นเพื่อให้คุณแชร์ไฟล์ต่างๆ ได้เร็วขึ้น4 และนี่ก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
– วันนี้ Face ID เร็วขึ้น 30% ทำงานจากระยะที่ไกลยิ่งขึ้น แล้วยังทำงานได้จากหลากหลายมุมมากขึ้นด้วย และยังคงเป็นการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนเช่นเดิม
– ความเป็นส่วนตัวที่มีในตัว ทุกรายละเอียดของ iPhone ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวขอ%8