รีวิว realme 5 Pro จอใหญ่ 6.3 นิ้ว ขุมพลัง Snapdragon 712 AIE กล้องหลัง 4 ตัว แบตอึด 4035 mAh และสเปคที่ดีที่สุดในเรทราคาเดียวกัน!!

รีวิว realme 5 Pro จอใหญ่ 6.3 นิ้ว ขุมพลัง Snapdragon 712 AIE กล้องหลัง 4 ตัว แบตอึด 4035 mAh และสเปคที่ดีที่สุดในเรทราคาเดียวกัน!!

realme 5 Pro

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ 🙂 หลังจากที่ realme ประสบความสำเร็จไปอีกขั้นด้วยการขึ้นแท่นเป็นสมาร์ทโฟนติดอันดับ 1 ใน 10 แบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุด รวมถึงมีผู้ใช้งานครบ 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุด realme ได้เปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ด้วยการปล่อยหมัดเด็ดเปิดตัว realme 5 และ realme 5 Pro สมาร์ทโฟนกล้อง 4 ตัวรุ่นแรกของค่ายออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ (ดูข่าว)

โดยมาพร้อมสเปคการใช้งานที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนเรทราคาระดับเดียวกัน ชูสโลแกน “Leap To Quad Camera สู่การพัฒนาที่เหนือชั้นด้วยกล้องหลัง 4 ตัว” และวันนี้หลังจากที่เปิดตัวในประเทศไทยไปแบบหมาดๆ ทาง ninethaiphone จะขอหยิบนำเอา realme 5 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ระดับท็อปมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันเป็นรุ่นแรกค่ะ

DSCF0043_resize

โดย realme 5 Pro มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB ราคาจำหน่าย 7,999 บาท และรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคาจำหน่าย 8,999 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Sparking Blue และ Crystal Green เปิด Pre Order แล้วในไทยระหว่างวันที่ 3 – 13 กันยายน 2562 พร้อมเตรียมเปิดขายวันแรกอย่างเป็นทางการวันที่ 14 กันยายน 2562 พิเศษสุดๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สั่งจองจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ ได้แก่ VIP Card จำนวน 1 ใบ และหูฟัง realme มูลค่า 899 บาทฟรี!

DSCF0097

realme 5 Pro มาพร้อมดีไซน์คริสตัลใหม่ฝาหลัง Holographic Diamond สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้เทคนิคสี Nanometer Holographic ตัวเครื่องมีการซีลเครื่องกันน้ำแบบ Airtight Waterproof หน้าจอ Full HD+ ใหญ่ 6.3 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 712 AIE หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 616 มีระบบ Hyper Boost 2.0 ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น และใช้งานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4035 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge 3.0 กำลังไฟ 20W

screen-15.21.01[04.09.2019]

ไฮไลท์กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX586, เลนส์ Wind Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 119 องศา, เลนส์ Depth Sensor ถ่ายภาพ Portrait และเลนส์ Macro ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP พร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ AI Beauty จดจำมากถึง 296 จุดบนใบหน้า ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 และสเปคการใช้งานต่างๆ ที่ครบครัน คุ้มค่า คุ้มราคา

สำหรับวันนี้ทาง ninethaiphone มีรีวิว realme 5 Pro ตัวเครื่องสี Sparkling Blue มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ซึ่งตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีน้ำเงินผสมผสานสีน้ำเงินกับสีม่วงสวยงาม ดีไซน์ลวดลายคล้ายเพชร สะท้อนแสงให้เฉดสีที่ต่างกันออกไป ดูพรีเมียมหรูหราเกินราคา ให้เท็กเจอร์สะท้อนแสงสดใสในทุกมุมมอง พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค realme 5 Pro

Features realme 5 Pro
วันเปิดตัว :  – กันยายน 2562
ราคา :  – 7,999.- (4GB + 128GB)
 – 8,999.- (8GB + 128GB)
 – (ณ วันที่ 4 ก.ย. 62)
OS :  – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ ColorOS 6.0
หน้าจอ :  – หน้าจอ IPS LCD
 – ขนาด 6.3 นิ้ว
 – ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+)
 – กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
CPU :  – Snapdragon 712 AIE แบบ Octa Core ความเร็ว 2.3GHz
GPU :  – Adreno 616
RAM :  – 4GB
 – 8GB
ROM :  – 128GB
 – microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :  – 48MP + 8MP + 2MP + 2MP
 – Sony IMX586 + Wide Angle + Depth Sensor + Macro Lens
 – ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.25 + f/2.4 + f/2.4
 – LED flash
 – AI Beauty
 – PDAF
 – กันสั่น EIS
 – 10x Digital Zoom
 – AI HDR
 – AI Scene Recognition
 – Super Nightscape
 – Chrome Boost
 – Panorama
กล้องหน้า :  – 16MP (Sony IMX471)
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – AI Beauty
Video :  – 4K, 1080p@30fps
 – Slow-mo
Battery :  – 4035 mAh สนับสนุน VOOC 3.0 Fast Charging
ขนาด :  – 157×74.2×8.9 มม.
น้ำหนัก :  – 184 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  – Airtight Waterproof
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
 – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
 – Bluetooth 5.0
 – USB Type-C
 – 3.5mm jack
GPS :  – A-GPS
 – GLONASS
 – GALILEO
 – BDS
Sensor :  – Fingerprint
 – Face Unlock
 – Accelerometer
 – Gyro
 – Proximity
 – Compass
สี :  – Sparkling Blue
 – Crystal Green

แกะกล่อง realme 5 Pro

realme 5 Pro (28)

realme 5 Pro ถูกบรรจุมาในกล่องสีขาวขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องมีตัวเครื่องสี Sparkling Blue เผยดีไซน์ครบทุกสัดส่วน ด้านบนมีโลโก้แบรนด์ realme ชื่อรุ่นสมาร์ทโฟน และระบุฟีเจอร์โดดเด่นไว้ 2 ประการ ได้แก่ สนับสนุน VOOC Flash Charge 3.0 และกล้องหลังแบบ Quad Camera หรือกล้อง 4 ตัว เซ็นเซอร์ความละเอียดถึง 48MP

realme 5 Pro (29)

ส่วนด้านหลังกล่องบรรจุจะมีการระบุเลข IMEI ตัวเครื่อง รุ่นความจุ และสีตัวเครื่อง เป็นต้น

realme 5 Pro (25)

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– ตัวเครื่อง realme 5 Pro สี Sparkling Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน VOOC Flash Charge 3.0  กำลังไฟ 20W
– สาย USB Type-C
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejection Pin)
– เคสกันรอยซิลิโคนแบบใสสีออกขุ่นๆ

realme 5 Pro (27)

realme 5 Pro รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 กำลังไฟ 20W ที่มีระบบความปลอดภัยพิเศษมากถึง 3 ชั้น และมีแถมมาให้ในกล่องเรียบร้อยค่ะ ปลายพอร์ตสายชาร์จมีซิลิโคนนุ่มๆ สำหรับป้องกันฝุ่นละอองหุ้มมาให้ด้วย

ทำความรู้จัก realme 5 Pro

realme 5 Pro (12)

ด้านหน้า มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล หรือระดับ Full HD+ คมชัดกว่าเดิม พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ขอบจอเล็ก สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 90.6%

realme 5 Pro (16)

ด้านหน้าส่วนบน มีดีไซน์หยดน้ำสวยงาม ส่วนนี้เป็นตำแหน่งติดตั้งเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16MP โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ AI Beauty ที่สามารถจดจำได้มากกว่า 296 จุดบนใบหน้า และสามารถปรับแต่งความสวยงามตามเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวเราจะไปทำความรู้จักกันในส่วนของโหมดการใช้งานกล้องถ่ายภาพของ realme 5 Pro

realme 5 Pro (19)

รอยหยดน้ำมีขนาดเล็ก สามารถใช้งานได้แบบสบายตา เนื่องจากไม่บดบังรายละเอียดระหว่างใช้งานเลยค่ะ

realme 5 Pro (13)

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ เหลือขอบล่างไว้เล็กน้อย

realme 5 Pro (2)

ด้านหลัง realme 5 Pro มาพร้อมดีไซน์เอฟเฟกต์แสง Holographic Diamond สไตล์ฝาหลังเป็นเอกลักษณ์ โดยมาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Sparkling Blue และ Crystal Green ตัวเครื่องสีสันสดใสระดับนาโนที่ระบุว่ามีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้เฉดสีที่งดงาม พร้อมเทคโนโลยีสลักฝาหลังขนาดไมครอนลากยาวรูปแบบ 3D Daimond Cutting หรูหราราวคล้ายกับเพชร ไล่เฉดสีแบบลงตัวมีมิติที่แตกต่างกับการออกแบบทั่วไป ตัวเครื่องสวยงามเป็นประกายเมื่อแสงตกกระทบ รูปทรงถือจับกระชับมือ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีดีไซน์พิเศษแบบ Airtight Waterproof ที่ป้องกันละอองน้ำจากภายนอกอีกด้วย

realme 5 Pro (9)

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้อง 4 ตัว จัดวางในกรอบสีเงินแนวตั้ง ถัดมาด้านข้างเป็นไฟแฟลช และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกึ่งกลางตัวเครื่องค่ะ

realme 5 Pro (31)

ลำดับเลนส์กล้องด้านหลังของ realme 5 Pro เริ่มจากเลนส์บนสุด มีดังนี้ค่ะ

กล้องตัวที่ 1 : Wide Angle Lens ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.25 สำหรับถ่ายภาพ Super Wide มุมกว้าง 119 องศา มี realme ring วงแหวนสีทองล้อมรอบเลนส์กล้อง
กล้องตัวที่ 2 : เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX586 ความละเอียด 48MP ค่ารูรับแสง f/1.79
กล้องตัวที่ 3 : Depth Sensor ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่าย Portrait ภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ
กล้องตัวที่ 4 : Macro Lens ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพวัตถุใกล้ๆ หรือชิ้นเล็ก

screen-15.22.26[04.09.2019]

โดยถือได้ว่า realme 5 Pro เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่มีกล้องหลัง 4 ตัว และมีสเปคที่ดีที่สุดในเรทราคาระดับเดียวกัน ตรงกับสโลแกนที่ว่า “4 เลนส์ สเปคแรง”

realme 5 Pro (10)

เลนส์กล้องนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย เมื่อสวมใส่เคสจะพอดีกันเลยค่ะ

realme 5 Pro (4)

ด้านหลังส่วนล่าง มุมซ้ายมีโลโก้แบรนด์ realme ลวดลายของตัวเครื่องชัดเจนสวยงามทีเดียว

realme 5 Pro (18)

ด้านบนตัวเครื่อง มีรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

realme 5 Pro (17)

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง

DSCF0172_resize

เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นด้วยตำแหน่งของลำโพงเสียงที่อยู่ด้านล่างทางขวา ทำให้ระหว่างที่เราเล่นเกมมือที่จับเครื่องสมาร์ทโฟนอยู่นั้นไม่ไปบังลำโพง และมีระบบเสียงที่ดังกว่าเดิมถึง 2 เท่า เสียงเกมดังออกมาได้อย่างเต็มที่ ใช้งานได้อย่างเต็มอรรถรสด้วยระบบเสียง Dirac HD Sound

realme 5 Pro (22)

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง

realme 5 Pro (23)

โดยช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่เหนือปุ่มปรับระดับเสียงค่ะ

realme 5 Pro (24)

realme 5 Pro รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot โดยรองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว โดยไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ รูปแบบจำนวน 3 ช่อง คือ SIM + SIM + microSD Card ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายค่ะ

realme 5 Pro (20)

ด้านขวาตัวเครื่อง มีแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับรีสตาร์ท, เปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่อง

realme 5 Pro (21)

การแคปภาพหน้าจอ ให้กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่องค่ะ

ทดสอบประสิทธิภาพ

AnTuTu (1)

เมื่อนำ realme 5 Pro ที่มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 712 AIE แบบ Octa Core ความเร็ว 2.3GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 616 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 เวอร์ชันล่าสุด บนพื้นฐาน Android 9.0 (Pie) เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 177726 คะแนน ซึ่งทำคะแนนได้มากกว่า realme 3 Pro ที่เราได้รีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)

AnTuTu (2)AnTuTu (3)

สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ realme 5 Pro ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล RMX1971 ภายใต้แบรนด์ realme, รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 712, GPU Adreno 616, หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล, แบตเตอรี่ความจุ 4050 mAh, ไม่รองรับ NFC, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 3560MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 101.22GB เป็นต้น

DSCF0165_resize

ด้านประสิทธิภาพในการเล่นเกม ทางทีมงานได้ดาวน์โหลดเกม PUBG Mobile และ Asphalt 9 มาทดลองเล่นดู

Game (1)

realme 5 Pro รองรับฟีเจอร์ Game Space สามารถปรับแต่งการเล่นเกมให้ราบรื่นยิ่งขึ้น, เพิ่มประสิทธิภาพเกม, จำกัดการเข้าถึงเครือข่าย, ปิดกั้นการแจ้งเตือน หรือการรบกวนอื่นๆ เป็นต้น

Game (2)

ค่าเริ่มต้นตามสเปคของอุปกรณ์เมื่อเข้าสู่เกม PUBG Mobile เริ่มต้นที่ความละเอียดสูง นั่นหมายความว่า realme 5 Pro สามารถเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกคมชัดความละเอียดสูงได้ค่ะ

Game (3)

ภาพกราฟิกปรับอยู่ในระดับ HD ช่วยลดอาการค้างระหว่างเล่นเกม ส่วนเฟรมเรทปรับได้ที่ระดับสูงเลย หากเฟรมเรทแกว่งก็สามารถปรับลดเฟรมเรทลงเพื่อให้เหมาะสมได้

Screenshot_2019-09-04-13-06-39-06_dac7cc7571c39b392df64923967cf7da_resizeScreenshot_2019-09-04-13-09-53-21_dac7cc7571c39b392df64923967cf7da_resize

ภาพเกมสวยสมจริง ระบบทัชสกรีนลื่นไหลดี

Screenshot_2019-09-04-13-58-22-14_dac78dbb8b9d35e2ecbeaf4ec6ecff5b_resize

ส่วน Asphalt 9 เกมแข่งรถยอดฮิต ภาพกราฟิกสวยสดเช่นเดียวกัน ระบบทัชสกรีนไหลลื่น ระบบประมวลผลได้รวดเร็ว ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี

YouTube (1)

มาดูกันที่กันรับชมวิดีโอบน YouTube กันบ้าง

YouTube (2)

สามารถปัดหน้าจอไปทางด้านข้างเพื่อเรียกแถบใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นการแชทตอบข้อความ, Facebook, YouTube, การแคปภาพหน้าจอ และการบันทึกวิดีโอหน้าจอ เป็นต้น

YouTube (3)YouTube (4)

ภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอเหลือขอบดำด้านข้างไว้เล็กน้อย แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้ค่ะ

Interface

Screenshot (1)

หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้นค่ะ หรือหากใครที่ลงทะเบียนปลดล็อกด้วยใบหน้าแล้ว ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องเพื่อเป็นการปลุกหน้าจอขึ้นมา จากนั้นก็ใช้สแกนใบหน้าได้เลยทันที

Screenshot (2)

หลังจากที่เราปลดล็อกหน้าจอเรียบร้อยแล้ว จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก UI แบบใหม่จาก ColorOS 6.0 หากปัดหน้าจอด้านล่างขึ้นจะเข้าสู่เมนูแอปฯ การใช้งานทั้งหมดภายในเครื่องค่ะ

Screenshot (3)

เมื่อปัดหน้าจอซ้ายสุดไปทางขวาจะพบกับหน้าผู้ช่วยอัจฉริยะ หรือการเปิดใช้งาน Smart Assistant

Screenshot (5)Screenshot (6)

หากกดค้างไปยังบริเวณพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่นๆ ได้ หรือหากต้องการลบแอปฯ ก็ให้กดค้างไปที่แอปฯ นั้นๆ แล้วจะปรากฏข้อความให้ลบ

Screenshot (4)

เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings เมนูแถบแจ้งเตือนสามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

Screenshot (8)

ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, Google Chrome, Gmail, Play Music หรือ YouTube เป็นต้น สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play และ App Store

Screenshot (27)

มีการแนะนำให้ติดตั้งแอปฯ ยอดนิยม รวมถึงสามารถเปลี่ยนธีมได้เองตามใจชอบ

Screenshot (9)

พวกเครื่องมือการใช้งานก็มีให้ใช้งานครบเช่นกัน ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง, นาฬิกาปลุก จับเวลา

Screenshot (10)

เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข มีฟังก์ชันแปลงสกุลเงิน และการแปลงค่าต่างๆ อาทิ น้ำหนัก, อุณหภูมิ, ความเร็ว, พลังงาน และแรงดัน เป็นต้น, วิทยุ FM

Screenshot (11)

รองรับการโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

Screenshot (13)

ปฏิทิน, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, แอปฯ O Roaming

Screenshot (14)

เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ

Screenshot (15)

เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง

Screenshot (16)

realme 5 Pro รองรับการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ สามารถเปิด-ปิดการแสดงผลช่วงรอยบากได้เองอีกด้วย และรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดการปกป้องในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และเลือกปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้ โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันที

Screenshot (17)

ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ realme 5 Pro จะรองรับทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าเลยค่ะ

Screenshot (18)

ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลงทะเบียนระบบการจดจำด้วยใบหน้า ควรถือเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากใบหน้าราว 20-50 ซม. และควรหลีกเลี่ยงการบันทึกใบหน้าในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป

Screenshot (22)

หน้าแสดงพื้นที่ของหน่วยความจำในเครื่อง, หน้าอัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ และหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน

Screenshot (23)

รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ

Screenshot (24)

สำหรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ สามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ ใช้ 3 นิ้วลากบนหน้าจอ และกดไปที่ปุ่ม Recent Apps เป็นต้น

Screenshot (25)

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen

Screenshot (26)

สำหรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ เป็นตัวช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย

Screenshot (20)

รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่างๆ สามารถเลือกการประหยัดพลังงานได้

Screenshot (21)

โหมดประสิทธิภาพช่วยรักษาพลังงานแบตเตอรี่ภายในตัวเครื่อง

Screenshot (19)

รองรับบริการ Smart อย่างตัวช่วยระหว่างขับขี่รถ และมีตัวช่วยด้านความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด อาทิ ปุ่มการนำทาง : นำทางด้วยปุ่มเสมือน หรือลากนิ้วขึ้น, ผู้ช่วยขับรถ : การเชื่อมต่อ Bluetooth ในรถแบบอัตโนมัติ, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ระหว่างขับรถ, ลูกบอลช่วยเหลือ : ลักษณะจะคล้ายกับปุ่ม Assistive Touch ของ iPhone ใช้งานด้วยการแตะ ยกตัวอย่างเช่น แตะ 1 ครั้ง เพื่อย้อนกลับ หรือแตะค้างเพื่อไปยังหน้าจอหลัก เป็นต้น

Screenshot (12)

สนับสนุน Game Space ตัวช่วยดีๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินขณะเล่นเกมสุดโปรด โดยสามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเล่นเกมได้

Screenshot (28)

เช่น ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก, ค่าโหมดสมดุล, ใช้พลังงานต่ำ, เพิ่มประสิทธิภาพสูง และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Hyper Boost 2.0 ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย

Screenshot (7)

realme 5 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 4035 mAh พร้อมสนับสนุน VOOC Flash Charge 3.0 ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถถ่ายโอนข้อมูลภายในเครื่องได้อย่างว่องไวเมื่อเสียบสายชาร์จ USB Type-C เข้ากับตัวเครื่องแล้วต่อเข้าคอมพิวเตอร์ หรือหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง จะปรากฎเมนูสำหรับการล็อกตัวเครื่องนิรภัย, รีสตาร์ท และปิดการใช้งานตัวเครื่องค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

หลัง (1)

มาเริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme 5 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย 48MP (Sony IMX586) + 8MP (Wide Angle) + 2MP (Depth Sensor) + 2MP (Macro Lens) ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.25 + f/2.4 + f/2.4 พร้อม LED flash โดยกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ให้ภาพคมชัดมากกว่าเดิม เห็นชัดทุกรายละเอียด สามารถถ่ายภาพหลายๆ ช็อตแล้วรวมกันเป็นภาพเดียวเพื่อความคมชัดได้ด้วยความละเอียดที่มากถึง 48MP ถือเป็นกล้องคุณภาพที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนรุ่นราคาเดียวกันเลยก็ว่าได้

ส่วนเลนส์ Wide Angle มาพร้อมความละเอียด 8MP สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา แบบ Super Wide Angle เลยทีเดียว บันทึกภาพมุมกว้างได้มากกว่าเดิม คงคุณภาพความคมชัดสวยงามมีมิติในทุกมุมมอง ตามมาด้วย Depth Sensor ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างมีมิติ ภาพดูคมชัดมีมิติสมจริงในทุกรายละเอียด สุดท้ายเป็น Macro Lens ความละเอียด 2MP ให้ภาพละเอียดระดับ 1.75 μm big pixel สามารถจับภาพได้ชัดทุกลายละเอียดแม้กระทั่งแมลงหรือดอกไม้ที่เล็กๆ รวมถึงถ่ายวัตถุแบบใกล้ๆ อีกด้วย

ส่วนโหมดการใช้งานก็มีให้เลือกใช้งานครบครัน เริ่มที่ โหมดบันทึกวิดีโออัตราเฟรม 30 fps และ 60 fps เริ่มที่ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD, Full HD และ 4K รองรับการซูม 5 เท่า, เปิดไฟแฟลช และมีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้งานมากมาย

หลัง (2)

โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการการซูม 5 เท่า, เปิดไฟแฟลช, HDR และมีโหมด AI Beauty ปรับค่าความสวยเนียนได้ถึง 100 ระดับ

Photo (14)Photo (15)

ตัวอย่างภาพถ่ายการซูม 5 เท่า พบว่ายังเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนดี

หลัง (3)

ตามมาด้วย Ultra Wide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างยิ่งขึ้นกว่า 119 องศา, Chroma Boost บันทึกภาพที่มีสีสดคมชัดขึ้นด้วยระบบอัจฉริยะ AI และฟิลเตอร์สีต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Ultra Wide : สามารถเก็บภาพบรรยากาศรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น

Photo (7)Photo (8)

ภาพถ่ายปกติ (บน) & ภาพถ่าย Ultra Wide (ล่าง)

ตัวอย่างภาพถ่าย Macro เปิดโหมด Chroma Boost : ภาพถ่ายสีสันสดใส และคมชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Photo (9)Photo (10)

ภาพถ่ายปกติ (บน) & ภาพถ่าย Macro เปิดโหมด Chroma Boost (ล่าง)

Photo (12)Photo (13)

ภาพถ่ายปกติ (บน) & ภาพถ่าย Macro เปิดโหมด Chroma Boost (ล่าง)

Camera (2)Camera (1)

กล้อง AI มีความฉลาดรองรับ AI Scene Recognition สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เรากำลังถ่ายนั้นคืออะไร อาทิ ตัวอักษร, ดอกไม้, ต้นไม้, วิวทิวทัศน์ หรือถ่ายภาพมาโคร เป็นต้น

หลัง (6)

ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ ฉากหลังละลาย มีเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้  6 รูปแบบ

หลัง (4)

มาดูกันที่โหมดการใช้งานพิเศษกันบ้าง เริ่มที่ Ultra 48MP ถ่ายภาพสุดคมชัดด้วยเลนส์ Sony IMX586 เห็นชัดทุกรายละเอียด โดยจะเป็นการถ่ายภาพหลายๆ ช็อตแล้วรวมกันเป็นภาพเดียวกันเพื่อความคมชัด และความละเอียดที่มากกว่าถึง 48MP

ตามด้วยโหมด Super Nightscape มาพร้อมกับ CMOS กว้างถึง 1/2.0 นิ้ว สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้และให้ภาพกลางคืนสวยชัด สามารถปรับความสว่างของภาพถ่ายในที่มืดได้ด้วย HDR คุณภาพไฟล์ RAW ชัดระดับ 1.6 μm big pixel เพิ่มความสว่างของแสงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดนอยส์ และใช้เวลาที่สั้นลงในการจับภาพ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Super Nightscape : ถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้สวยคมชัด 

Photo (23)Photo (24)Photo (19)

ภาพถ่ายโหมด Super Nightscape

หลัง (5)

โหมด Panorama ถ่ายภาพมุมมองมุมกว้าง, โหมด Expert หรือโหมดผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้เอง, โหมดถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse

หน้า (1)

มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้า โดย realme 5 Pro มีกล้องหน้าความละเอียด 16MP ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ค่ารูรับแสง f/2.0 ส่วนโหมดการใช้งานเริ่มต้นที่ โหมดบันทึกวิดีโอ ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD มีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้

หน้า (2)

โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR และมีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้งาน

หน้า (3)

รองรับ AI Beauty มาพร้อมจุดจดจำที่มากถึง 296 จุด สามารถปรับแต่งความสวยงามตามเอกลักษ์เฉพาะบุคคล ปรับได้ 100 ระดับเช่นเดียวกันแต่จะพิเศษตรงที่สามารถเลือกปรับบนใบหน้าได้อีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้าสวยเนียน, ใบหน้าเรียว, ใบหน้าเล็ก, ปรับรูปคาง, ปรับดวงตาให้กลมโต, ปรับรูปทรงจมูก, การเก็บรายละเอียดโดยรวม และการสร้างมิติภาพให้โดดเด่นแบบ 3 มิติ หรือจะรีเซ็ตตั้งค่าให้ระบบ AI ปรับแต่งแบบอัตโนมัติเลยก็ได้ โดยสังเกตเห็นได้ที่จุดวงกลมเล็กๆ

หน้า (4)

โหมดถ่ายภาพ Portrait ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอมีเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้  5 รูปแบบ

หน้า (5)

จากนั้นเป็นโหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า ได้แก่ โหมด Panorama ถ่ายภาพมุมมองมุมกว้าง และโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse ค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme 5 Pro

Photo (17)
Photo (27)
Photo (26)
Photo (25)
Photo (4)
Photo (3)
Photo (2)
Photo (1)
Photo (5)
Photo (11)
Photo (16)
Photo (18)
Photo (20)
Photo (21)
Photo (22)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก realme 5 Pro

สำหรับกล้องหน้า AI ของ realme 5 Pro มาพร้อมความละเอียด 16MP ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พิกเซลขนาดใหญ่ 1.0 um พร้อมฟีเจอร์ AI Beauty ปรับภาพให้สวยเนียนทันใจตามแบบฉบับของตัวเอง

โดย AI Beauty มีให้เลือกปรับทั้ง ใบหน้าสวยเนียน, ใบหน้าเรียว, ใบหน้าเล็ก, ปรับรูปคาง, ปรับดวงตาให้กลมโต, ปรับรูปทรงจมูก, เก็บรายละเอียดโดยรวม และการสร้างมิติภาพให้โดดเด่นแบบ 3D สามารถเลือกปรับได้ 100 ระดับ โดยจะสังเกตเห็นได้ที่จุดวงกลมเล็กๆ บนหน้าจอ หรือจะรีเซ็ตตั้งค่าให้ระบบ AI ปรับแต่งแบบอัตโนมัติเลยก็ได้

จากตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ในส่วนของโหมดปกติไม่ปรับแต่ง ภาพถ่ายที่ได้เห็นรายละเอียดคมชัด ทั้งฉากหลัง เสื้อผ้า เส้นผม หรือแม้แต่สภาพผิวบนใบหน้าของเราที่บอกได้ว่าเรียลมากๆ จากนั้นเป็นโหมด AI Beauty โดยเลือกใช้งานแบบปรับแต่งอัตโนมัติให้ระบบ AI จัดการให้เลย ภาพถ่ายดูขาวเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญภาพถ่ายนั้นดูเป็นธรรมชาติ ภาพไม่วอก ไม่หลอกตา หรือเนียนจนเกินไป แต่หากใครต้องการภาพที่ขาวเนียนยิ่งขึ้นก็สามารถเลื่อนปรับแต่งได้เองตามใจชอบเลยค่ะ

สุดท้ายเป็นในส่วนของโหมดถ่ายภาพ Portrait ภาพถ่ายบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่มีเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้งานมากมาย ฉากหลังที่ได้ละลายสวยงาม แต่อาจจะมีบางส่วนที่ยังเบลอไม่ค่อยถูกจุด สังเกตได้จากเสื้อผ้าในช่วงบ่าของภาพตัวอย่างนั่นเอง พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมตัวอย่างภาพเซลฟี่กันเลยค่ะ

ภาพปกติ

ภาพถ่ายปกติไม่ปรับแต่ง

AI Beauty

ภาพถ่าย AI Beauty

Portrait

ภาพถ่าย Portrait

สรุป

– realme 5 Pro ราคาจำหน่ายไม่แพง เข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับสเปคการใช้งานที่ให้มา โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 7,999 บาทเท่านั้น
– ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กล้องหลัง 4 ตัว ที่มีสเปคดีที่สุดในเรทราคาระดับเดียวกัน เหมาะสมกับสโลแกน “4 เลนส์ สเปคแรง”
– ใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ดีไซน์หยดน้ำสวยงามขนาดเล็ก จอคมชัดระดับ Full HD+ ครอบกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 90.6%
– ฝาหลังดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ Holographic Diamond สะท้อนแสงหรูหราลวดลายคล้ายเพชร เอฟเฟกต์ไล่ระดับสีสุดงาม มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Sparking Blue และ Crystal Green
– ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 712 AIE แบบ Octa Core ความเร็ว 2.3GHz มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 35%
– หน่วยความจำตอบโจทย์มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่  4GB + 128GB และ 8GB + 128GB พร้อมสนับสนุน microSD Card สูงสุด 256GB ในส่วนนี้อยากแนะนำให้เพิ่มเงินส่วนต่างอีกแค่ 1,000 บาท ก็จะได้แรมมากถึง 8GB จาก 4GB ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆ ค่ะ
– รันระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บนพื้นฐาน Android P ระบบ UI ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหน้าจอล็อก, หน้าจอหลัก และการแจ้งเตือน
– กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดคมชัด 48MP (Sony IMX586) + 8MP (Wide Angle) + 2MP (Depth Sensor) + 2MP (Macro Lens) รองรับ 10x Digital Zoom พร้อมโหมด Super Nightscape ถ่ายภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อยคมชัด ใช้เวลาประมวลผลไม่นาน, Chrome Boost ให้ภาพที่สีสันสดใสมากยิ่งขึ้น และมี AI Scene Recognition สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ถ่ายอยู่นั้นคืออะไร
– กล้องหน้าเซลฟี่สวยคมชัด 16MP พร้อม AI Beauty มีให้เลือกปรับหลายอย่างตามใจชอบ
– รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า สามารถสแกนได้อย่างฉับไว
– เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นด้วยตำแหน่งของลำโพงเสียงที่อยู่ด้านล่างทางขวา ทำให้ระหว่างที่เราเล่นเกมมือที่จับเครื่องสมาร์ทโฟนอยู่นั้นไม่ไปบังลำโพง และมีระบบเสียงที่ดังกว่าเดิมถึง 2 เท่า เสียงเกมดังออกมาได้อย่างเต็มที่ ใช้งานได้อย่างเต็มอรรถรสด้วยระบบเสียง Dirac HD Sound
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot ไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง
– แบตเตอรี่ความจุสูง 4035 mAh สนับสนุน VOOC Flash Charge 3.0 กำลังไฟ 20W
– ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ป้องกันละอองน้ำด้วยดีไซน์พิเศษแบบ Airtight Waterproof

ข้อสังเกต

– ไม่แถมหูฟังมาให้ในกล่อง
– ยังมีบางแอปฯ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำได้
– เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C และมีแถมมาให้ในกล่องแล้ว
– ตัวเครื่องด้านหลังใช้วัสดุมันวาว ควรสวมใส่เคสเพื่อป้องกันการเกิดคราบรอยนิ้วมือ หรือรอยเปื้อนต่างๆ

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Vivo S1
Vivo V15
Samsung Galaxy A50
Honor 20 Lite
Huawei Y9 Prime 2019
Huawei P30 Lite
OPPO F11

ขอขอบคุณ บริษัท realme Thailand

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng

[realme-price]


[mobile-price]