รีวิว realme 5 จอใหญ่ 6.5 นิ้ว ขุมพลัง Snapdragon 665 AIE กล้องหลัง 4 ตัว แบตเกินพิกัด 5000 mAh ราคาเป็นมิตร!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ 🙂 ก็เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย สำหรับ realme 5 และ realme 5 Pro สมาร์ทโฟนกล้อง 4 ตัวรุ่นแรกของค่าย ที่สเปคจัดหนักจัดเต็ม ในราคาสุดประหยัด เรียกได้ว่ามาพร้อมสเปคการใช้งานที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนเรทราคาระดับเดียวกันเลยก็ว่าได้ ชูสโลแกน “Leap To Quad Camera สู่การพัฒนาที่เหนือชั้นด้วยกล้องหลัง 4 ตัว” และหลังจากที่เราได้นำ realme 5 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ระดับท็อปมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว) ล่าสุดมาถึงคิว realme 5 รุ่นน้องสเปคไม่ธรรมดากันบ้างค่ะ
สำหรับ realme 5 มีให้เลือกซื้อถึง 2 ความจุ คือ รุ่น RAM 3GB + ROM 64GB ราคาจำหน่าย 4,599 บาท และรุ่น RAM 4GB + ROM 128GB ราคาจำหน่าย 5,999 บาท เตรียม Flash Sale ผ่านช่องทางออนไลน์ LAZADA ในราคาสุดพิเศษเพียง 4,299 บาท จากปกติ 4,599 บาท สำหรับรุ่น 3GB + 64GB เฉพาะวันที่ 19 กันยายน 2562 เท่านั้น สามารถสั่งซื้อได้ที่ http://
realme 5 มาพร้อมดีไซน์คริสตัลใหม่ฝาหลัง Holographic Diamond ส่องประกายสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้เทคนิคสี Nanometer Holographic มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Crystal Purple และ Crystal Blue ตัวเครื่องมีการซีลเครื่องกันน้ำแบบ Airtight Waterproof ใช้หน้าจอ HD+ ขนาด 6.5 นิ้ว ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 665 AIE หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Adreno 610 แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh พร้อม AI Cooling ช่วยประหยัดพลังงานหน้าจอ และยืดอายุการใช้งานให้กับแบตเตอรี่
ชูกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย มีเลนส์ Wind Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 119 องศา, เลนส์ Depth Sensor ถ่ายภาพ Portrait และเลนส์ Macro ขนาด 4 cm เก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็กได้ดี ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 13MP พร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ AI Beauty จดจำมากถึง 296 จุดบนใบหน้า และสเปคการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครัน
สำหรับวันนี้ทาง ninethaiphone มีรีวิว realme 5 ตัวเครื่องสี Crystal Purple มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ซึ่งตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีม่วงเข้มและม่วงสว่าง ดีไซน์ลวดลายคล้ายเพชร เฉดสีต่างกันออกไปเมื่อแสงตกกระทบ พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค realme 5
Features | realme 5 |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2562 |
ราคา : | – 4,599.- (3GB + 64GB) |
– 5,999.- (4GB + 128GB) | |
– (ณ วันที่ 18 ก.ย. 62) | |
OS : | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ ColorOS 6.0 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.5 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1600×720 พิกเซล (HD+) | |
– กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3+ | |
CPU : | – Snapdragon 665 AIE แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz |
GPU : | – Adreno 610 |
RAM : | – 3GB |
– 4GB | |
ROM : | – 64GB |
– 128GB | |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP + 8MP + 2MP + 2MP |
– Sony IMX586 + Wide Angle + Depth Sensor + Macro Lens | |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.25 + f/2.4 + f/2.4 | |
– LED flash | |
– AI Beauty | |
– PDAF | |
– กันสั่น EIS | |
– 10x Digital Zoom | |
– AI HDR | |
– AI Scene Recognition | |
– Super Nightscape | |
– Chrome Boost | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 13MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– AI Beauty | |
Video : | – 4K, 1080p@30fps |
– Slow-mo | |
Battery : | – 5000 mAh สนับสนุน Charging 10W |
ขนาด : | – 164.4×75.6×9.3 มม. |
น้ำหนัก : | – 198 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – Airtight Waterproof |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
– Bluetooth 5.0 | |
– microUSB 2.0 | |
– OTG | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – A-GPS |
– GLONASS | |
– GALILEO | |
– BDS | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Face Unlock | |
– Accelerometer | |
– Gyro | |
– Proximity | |
– Compass | |
สี : | – Crystal Purple |
– Crystal Blue |
แกะกล่อง realme 5
realme 5 บรรจุมาในกล่องสีขาวขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องมีตัวเครื่องสี Crystal Blue เผยดีไซน์ครบทุกสัดส่วนทั้งด้านหน้าและหลังตัวเครื่อง ด้านบนมีโลโก้แบรนด์ realme ชื่อรุ่นสมาร์ทโฟน และระบุฟีเจอร์โดดเด่นไว้ 2 ประการ ได้แก่ แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh และกล้องหลังแบบ Quad Camera หรือกล้อง 4 ตัว ส่วนด้านหลังกล่องไม่มีข้อมูลใดๆ ค่ะ
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– ตัวเครื่อง realme 5 สี Crystal Purple
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สาย microUSB
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejection Pin)
– เคสกันรอยซิลิโคนแบบใส
ทำความรู้จัก realme 5
ด้านหน้า realme 5 มาพร้อมหน้าจอกว้าง IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1600×720 พิกเซล หรือระดับ HD+ ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3+ หน้าจอเป็นแบบ Full Screen จึงให้ภาพที่กว้างกว่าเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งาน
ด้านหน้าส่วนบน มีดีไซน์รอยบากทรงหยดน้ำ ในบริเวณนี้เป็นตำแหน่งติดตั้งเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13MP มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ AI HDR และ AI Beauty ที่สามารถแยกลักษณะของบุคคลได้อย่างอัตโนมัติ และจดจำได้มากกว่า 296 จุดบนใบหน้า ซึ่งรายละเอียดเดี๋ยวเราจะไปทำความรู้จักกันในส่วนของโหมดการใช้งานกล้องถ่ายภาพของ realme 5 กันค่ะ
ดีไซน์ทรงหยดน้ำขนาดจิ๋วใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นที่แล้วถึง 30.9%* จึงทำให้มีอัตราการแสดงผลมากถึง 89% และจอดูกว้างขึ้น สามารถใช้งานได้อย่างสบายตา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และเหลือขอบล่างไว้เล็กน้อย
ด้านหลัง realme 5 มาพร้อมฝาหลังดีไซน์เอกลักษณ์ Diamond Cut เอฟเฟกต์แสง Holographic Diamond ส่องประกายความงามเมื่อแสงตกกระทบ มาด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ Crystal Blue และ Crystal Purple ตัวเครื่องเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโนมีการเคลือบกว่า 133 ครั้ง หรือที่เรียกว่าเทคนิคสี Nanometer Holographic พร้อมตัดแต่งเท็กเจอร์สะท้อนแสงทุกมุมมองเพื่อให้ได้เฉดสีที่สวยงาม ตัวเครื่องออกแบบมาให้บางเบา ถือจับถนัดมือ พร้อมเทคโนโลยีสลักฝาหลังขนาดไมครอนลากยาวรูปแบบ 3D Daimond Cutting
นอกจากนี้ยังมีการซีลเครื่องกันน้ำแบบ Airtight Waterproof ดีไซน์พิเศษที่จะช่วยปกป้องทั้งภายในและภายนอกเครื่อง รวมไปถึงหน้าจอ ฝาหลัง และปุ่มต่างๆ เพื่อป้องกันละอองน้ำอีกด้วย
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้อง 4 ตัว สัมผัสไปกับการพัฒนาที่เหนือชั้นด้วยกล้องหลัง 4 ตัว ซึ่งจัดวางในกรอบสีเงินแนวตั้ง ถัดมาด้านข้างเป็นไฟแฟลช และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือขยับลงมากึ่งกลางตัวเครื่องค่ะ
ส่วนลำดับเลนส์กล้องด้านหลังของ realme 5 เริ่มจากเลนส์บนสุด มีดังนี้ค่ะ
• กล้องตัวที่ 1 : Wide Angle Lens ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.25 ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา มี realme ring วงแหวนสีทองล้อมรอบเลนส์กล้อง
• กล้องตัวที่ 2 : Main Sensor ความละเอียด 12MP ค่ารูรับแสง f/1.8 รูรับแสงกว้างขึ้นทำให้ภาพสว่างมากกว่าเดิม
• กล้องตัวที่ 3 : Depth Sensor ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่าย Portrait ภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ รองรับโหมด Beauty แลถ่ายภาพ Bokeh
• กล้องตัวที่ 4 : Macro Lens ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 เก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็กได้ดี
เลนส์กล้องมีลักษณะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อสวมใส่เคสจะพอดีกันเลยค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง มุมซ้ายมีโลโก้แบรนด์ realme
ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ ค่ะ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต micro USB และลำโพงเสียง โดยที่ realme 5 เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นด้วยตำแหน่งของลำโพงเสียงที่อยู่ด้านล่างทางขวา ทำให้ระหว่างที่เราเล่นเกมมือที่จับเครื่องสมาร์ทโฟนอยู่นั้นไม่ไปบังลำโพง และมีระบบเสียงที่ดังกว่าเดิมถึง 2 เท่า เสียงเกมดังออกมาได้อย่างเต็มที่
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง
ช่องใส่ซิมการ์ดอยู่เหนือปุ่มปรับระดับเสียงเลยค่ะ
realme 5 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot โดยรองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว โดยไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง รูปแบบจำนวน 3 ช่อง คือ SIM + SIM + microSD Card ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ด้านขวาตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับรีสตาร์ท, เปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่อง
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่องค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ realme 5 ที่มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 665 AIE แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz ชิปนวัตกรรมการผลิตระดับ 11 นาโนเมตร มีหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 เวอร์ชันล่าสุด บนพื้นฐาน Android 9.0 (Pie) เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 137591 คะแนน ซึ่งทำคะแนนได้มากกว่า realme 3 ที่เราได้รีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ realme 5 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล RMX1911 รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 665, GPU Adreno 610, หน้าจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1600×720 พิกเซล,กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 12MP + 8MP + 2MP + 2MP, แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 1766MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 100.20GB เป็นต้น
ด้านประสิทธิภาพในการเล่นเกม ทางทีมงานได้ดาวน์โหลดเกม PUBG Mobile มาทดลองเล่นดูค่ะ
ค่าเริ่มต้นตามสเปคของอุปกรณ์เมื่อเข้าสู่เกม PUBG Mobile เริ่มต้นที่ความละเอียดต่ำ ซึ่งระบบได้เซ็ตไว้ตามความแรงของเครื่อง เพื่อคุณภาพที่ลื่นไหลระหว่างเล่นเกม
ภาพกราฟิกปรับอยู่ในระดับสมดุล ช่วยลดอาการค้างระหว่างเล่นเกม ซึ่งในส่วนนี้ realme 5 ยังไม่รองรับระดับ HD, HDR HD หรือ Ultra HD ได้นะคะ ส่วนเฟรมเรทปรับได้ที่ระดับกลาง หากเฟรมเรทแกว่งก็สามารถปรับลดเฟรมเรทลงระดับต่ำเพื่อให้เหมาะสมได้
realme 5 รองรับฟีเจอร์ Game Space สามารถปรับแต่งการเล่นเกมให้ราบรื่นยิ่งขึ้น, เพิ่มประสิทธิภาพเกม, จำกัดการเข้าถึงเครือข่าย, ปิดกั้นการแจ้งเตือน หรือการรบกวนอื่นๆ เป็นต้น เรียกใช้งานง่ายๆ ด้วยการเลื่อนขอบด้านซ้ายไปทางฝั่งขวาค่ะ
ประสิทธิภาพในการเล่นเกมลื่นไหลดี ไม่มีอาการกระตุก หรือติดขัดใดๆ สามารถเล่นได้แบบเพลินๆ เลยค่ะ
มาดูกันที่กันรับชมวิดีโอบน YouTube กันบ้าง
ภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอเหลือขอบดำด้านข้างไว้เล็กน้อย แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้ค่ะ
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น หรือหากใครที่ลงทะเบียนปลดล็อกด้วยใบหน้าแล้ว ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องเพื่อเป็นการปลุกหน้าจอขึ้นมา จากนั้นก็ใช้สแกนใบหน้าได้เลยทันทีค่ะ
หลังจากที่เราปลดล็อกหน้าจอเรียบร้อยแล้ว จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก UI แบบใหม่จาก ColorOS 6.0 หากปัดหน้าจอด้านล่างขึ้นจะเข้าสู่เมนูแอปฯ การใช้งานทั้งหมดภายในเครื่อง และเมื่อปัดหน้าจอซ้ายสุดไปทางขวาจะพบกับหน้าผู้ช่วยอัจฉริยะ หรือการเปิดใช้งาน Smart Assistant
เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings เมนูแถบแจ้งเตือนสามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือหากปัดขึ้นจะเป็นหน้ารวมแอปฯ ทั้งหมดภายในเครื่องค่ะ
หากกดค้างไปยังบริเวณพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่นๆ ได้ หรือหากต้องการลบแอปฯ ก็ให้กดค้างไปที่แอปฯ นั้นๆ แล้วจะปรากฏข้อความให้ลบ
มีการแนะนำให้ติดตั้งแอปฯ ยอดนิยม และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มได้ที่ App Market รวมถึงสามารถเปลี่ยนธีมได้เองตามใจชอบด้วย
สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play และ App Store
หน้าโทรศัพท์, ข้อความ และศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, Google Chrome, Gmail, Play Music หรือ YouTube เป็นต้น
สำหรับเครื่องมือการใช้งานก็มีให้ใช้งานครบเช่นกัน ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง, นาฬิกาปลุก จับเวลา
เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข มีฟังก์ชันแปลงสกุลเงิน และการแปลงค่าต่างๆ อาทิ น้ำหนัก, อุณหภูมิ, ความเร็ว, พลังงาน และแรงดัน เป็นต้น, วิทยุ FM
รองรับการโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ปฏิทิน, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, หน้าเปิดใช้งานเทคโนโลยี Real Original Sound
realme 5 สนับสนุน Game Space ตัวช่วยดีๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินขณะเล่นเกมสุดโปรด โดยสามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเล่นเกมได้
เช่น ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก, ค่าโหมดสมดุล, ใช้พลังงานต่ำ, เพิ่มประสิทธิภาพสูง และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Hyper Boost 2.0 ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย
สำหรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ เป็นตัวช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย
รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่างๆ สามารถเลือกการประหยัดพลังงานได้
มีโหมดประสิทธิภาพช่วยรักษาพลังงานแบตเตอรี่ภายในตัวเครื่อง
เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง
รองรับการแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ สามารถเปิด-ปิดการแสดงผลช่วงรอยบากได้เองอีกด้วย และรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดการปกป้องในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และเลือกปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้ โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันที
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ realme 5 รองรับทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าเลยค่ะ
ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลงทะเบียนระบบการจดจำด้วยใบหน้า ควรถือเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากใบหน้าราว 20-50 ซม. และควรหลีกเลี่ยงการบันทึกใบหน้าในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป
รองรับบริการ Smart อย่างตัวช่วยระหว่างขับขี่รถ และมีตัวช่วยด้านความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด อาทิ ปุ่มการนำทาง : นำทางด้วยปุ่มเสมือน หรือลากนิ้วขึ้น, ผู้ช่วยขับรถ : การเชื่อมต่อ Bluetooth ในรถแบบอัตโนมัติ, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ระหว่างขับรถ, ลูกบอลช่วยเหลือ : ลักษณะจะคล้ายกับปุ่ม Assistive Touch ของ iPhone ใช้งานด้วยการแตะ ยกตัวอย่างเช่น แตะ 1 ครั้ง เพื่อย้อนกลับ หรือแตะค้างเพื่อไปยังหน้าจอหลัก เป็นต้น
หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ, หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์, หน้าแสดงโปรแกรมจัดการไฟล์
รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ และล็อคแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ เพื่อเข้าถึงอย่างรวดเร็ว และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen
realme 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh รองรับชาร์จไฟ 10W แบบ 5V, 2A แถมมาพร้อมในกล่อง สามารถถ่ายโอนข้อมูลภายในเครื่องได้อย่างว่องไวเมื่อเสียบสายชาร์จ micro USB เข้ากับตัวเครื่องแล้วต่อเข้าคอมพิวเตอร์ หรือหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง จะปรากฎเมนูสำหรับการล็อกตัวเครื่องนิรภัย, รีสตาร์ท และปิดการใช้งานตัวเครื่องค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme 5 มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย 12MP (Sony IMX586) + 8MP (Wide Angle) + 2MP (Depth Sensor) + 2MP (Macro Lens) ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.25 + f/2.4 + f/2.4 พร้อม LED flash เซ็นเซอร์หลักถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด เลนส์ Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา แบบ Super Wide Angle เลยทีเดียว
ตามมาด้วย Depth Sensor สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างมีมิติ สมจริงทุกรายละเอียด สุดท้ายเป็น Macro Lens ให้ภาพละเอียดระดับ 4 cm เก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็กได้ดี สามารถจับภาพได้ชัดกระทั่งแมลงหรือดอกไม้ที่เล็กๆ รวมถึงถ่ายวัตถุแบบใกล้ๆ อีกด้วย
ส่วนโหมดการใช้งานก็มีให้เลือกใช้งานครบครัน เริ่มที่ โหมดบันทึกวิดีโออัตราเฟรม 30 fps และ 60 fps เริ่มที่ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD, Full HD และ 4K รองรับการซูม 5 เท่า, เปิดไฟแฟลช และมีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้งานมากมาย
โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการการซูม 5 เท่า, เปิดไฟแฟลช, HDR, มีโหมด Ultra Wide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างยิ่งขึ้นกว่า 119 องศา, Chroma Boost บันทึกภาพที่มีสีสดคมชัดขึ้นประมวลผลโดยโหมด AI เป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้ Filter หรือ Vivid mode ปรับอุณหภูมิให้สีของภาพ, เพิ่มสีให้ภาพแม้ถ่ายในแสงไฟสลัว, ปรับรายละเอียดให้ภาพแม้ในส่วนที่ไม่มีแสง, เพิ่มแสงให้การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก และคงความธรรมชาติไว้, เพิ่มเลเยอร์ของสี, มีฟิลเตอร์สีต่างๆ ให้เลือกใช้ด้วย นอกจากนี้กล้อง AI มีความฉลาดรองรับ AI Scene Recognition สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เรากำลังถ่ายนั้นคืออะไร อาทิ ตัวอักษร, ดอกไม้, ต้นไม้, วิวทิวทัศน์ หรือถ่ายภาพมาโคร เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Ultra Wide : สามารถเก็บภาพบรรยากาศรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น
ภาพถ่ายปกติ (บน) & ภาพถ่าย Ultra Wide (ล่าง)
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Chroma Boost : ภาพถ่ายสีสันสดใส และคมชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ภาพถ่ายปกติ (บน) & ภาพถ่ายโหมด Chroma Boost (ล่าง)
มีโหมด AI Beauty ปรับค่าความสวยเนียนได้ถึง 100 ระดับ ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ ฉากหลังละลาย มีเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้
มาดูกันที่โหมดการใช้งานพิเศษกันบ้าง เริ่มที่โหมด Nightscape โหมดถ่ายภาพในที่มืด ที่สามารถเก็บแสงกลางคืนได้มากกว่า ด้วยค่ารูรับแสง f/1.8 รองรับการถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ได้ภาพที่คมชัดมากกว่าเทคโนโลยี HDR ลดการเกิด noise ในภาพ สามารถเก็บรายละเอียดภาพในเวลากลางคืนที่ไม่สามารถเห็นภาพได้ด้วยตาเปล่า ลดการบีบอัดไฟล์ และโหมด Panorama ถ่ายภาพมุมมองมุมกว้าง
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Nightscape : ถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้สวยคมชัด
ภาพถ่ายโหมด Nightscape
โหมด Expert หรือโหมดผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้เอง, โหมดถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse และโหมดถ่ายวิดีโอ Slo-Mo
มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้า โดย realme 5 มีกล้องหน้าความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสง f/2.0 ส่วนโหมดการใช้งานเริ่มต้นที่ โหมดบันทึกวิดีโอ ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD มีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้
โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR และมีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้งาน
รองรับ AI Beauty มาพร้อมจุดจดจำที่มากถึง 296 จุด สามารถปรับแต่งความสวยงามตามเอกลักษ์เฉพาะบุคคล ปรับได้ 100 ระดับเช่นเดียวกันแต่จะพิเศษตรงที่สามารถเลือกปรับบนใบหน้าได้อีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้าสวยเนียน, ใบหน้าเรียว, ใบหน้าเล็ก, ปรับรูปคาง, ปรับดวงตาให้กลมโต, ปรับรูปทรงจมูก, การเก็บรายละเอียดโดยรวม และการสร้างมิติภาพให้โดดเด่นแบบ 3 มิติ หรือจะรีเซ็ตตั้งค่าให้ระบบ AI ปรับแต่งแบบอัตโนมัติเลยก็ได้ โดยสังเกตเห็นได้ที่จุดวงกลมเล็กๆ
โหมดถ่ายภาพ Portrait ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอมีเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้
จากนั้นเป็นโหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า ได้แก่ โหมด Panorama ถ่ายภาพมุมมองมุมกว้าง และโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse ค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme 5
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก realme 5
สำหรับกล้องหน้า AI ของ realme 5 มาพร้อมความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beauty และ AI HDR เพิ่ม AI Effect การแต่งภาพ 8 แบบ ปรับภาพให้สวยเนียนทันใจตามสไตล์
AI Beauty มีให้เลือกปรับทั้ง ใบหน้าสวยเนียน, ใบหน้าเรียว, ใบหน้าเล็ก, ปรับรูปคาง, ปรับดวงตาให้กลมโต, ปรับรูปทรงจมูก, เก็บรายละเอียดโดยรวม และการสร้างมิติภาพให้โดดเด่นแบบ 3D สามารถเลือกปรับได้ 100 ระดับ โดยจะสังเกตเห็นได้ที่จุดวงกลมเล็กๆ บนหน้าจอ หรือจะรีเซ็ตตั้งค่าให้ระบบ AI ปรับแต่งแบบอัตโนมัติเลยก็ได้
จากตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ในส่วนของโหมดปกติไม่ปรับแต่ง ภาพถ่ายที่ได้มีรายละเอียดคมชัด ทั้งฉากหลัง เสื้อผ้า เส้นผม หรือสภาพผิวบนใบหน้า จากนั้นเป็นโหมด AI Beauty โดยเลือกใช้งานแบบปรับแต่งอัตโนมัติให้ระบบ AI จัดการให้เลย ภาพถ่ายดูขเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเป็นธรรมชาติ และในส่วนของโหมดถ่ายภาพ Portrait ภาพถ่ายบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ เลือกปรับ AI Beauty อยู่ที่ระดับ 50 ที่มีเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้งานมากมาย ฉากหลังที่ได้นวลตา เราไปชมตัวอย่างภาพเซลฟี่กันเลยค่ะ
ภาพถ่ายปกติไม่ปรับแต่ง
ภาพถ่าย AI Beauty
ภาพถ่าย Portrait
สรุป
• realme 5 สมาร์ทโฟนกล้องหลัง 4 เลนส์ พลังแบตเกินพิกัด เริ่มต้นเพียง 4,599 บาท ราคาย่อมเยา กลุ่มผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ง่าย
• ถือเป็นสมาร์ทโฟนกล้อง 4 เลนส์รุ่นแรกในเรทราคาเดียวกัน ที่มาพร้อมสเปคการใช้งานคุ้มๆ คุณภาพเทียบเท่ารุ่นระดับท็อป รองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW และมีโหมดถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนด้วยค่ารูรับแสง f/1.8
• หน้าจอ IPS LCD กว้าง 6.5 นิ้ว ติ่งหน้าจอหรือรอยหยดน้ำเล็กลง ทำให้ใช้งานในพื้นที่กว้างยิ่งขึ้น โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 89% จอคมชัดระดับ HD+ และมีกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3+
• ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 665 AIE ขนาดเล็กเพียง 11 นาโนเมตร แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz ประมวลผลได้เร็วขึ้น และลดการใช้พลังงานลง 20%
• ตอบโจทย์ด้วยหน่วยความจำ 2 รุ่น ได้แก่ 3GB + 64GB และ 4GB + 128GB สามารถเพิ่ม microSD Card ได้ถึง 256GB
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บนพื้นฐาน Android P ระบบ UI ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหน้าจอล็อก, หน้าจอหลัก และการแจ้งเตือน
• แบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างยาวนานด้วยความจุ 5000 mAh สนับสนุน Charging 10W พร้อม AI Cooling ช่วยประหยัดพลังงานหน้าจอ ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับแบตเตอรี่ และมีระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษถึง 3 ชั้น ด้วยการป้องกันแบตเตอรี่ร้อน, ละลาย และระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
• สวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ Diamond Cut แบบ Holographic Diamond สะท้อนแสงหรูหราลวดลายคล้ายเพชร เอฟเฟกต์ไล่ระดับสีสุดงาม มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Crystal Blue และ Crystal Purple ตัวเครื่องออกแบบมาให้บาง จับถนัดมือ
• รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า สามารถสแกนได้อย่างฉับไว
• เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นด้วยตำแหน่งของลำโพงเสียงที่อยู่ด้านล่างทางขวา ทำให้ระหว่างที่เราเล่นเกมมือที่จับเครื่องสมาร์ทโฟนอยู่นั้นไม่ไปบังลำโพง และมีระบบเสียงที่ดังกว่าเดิมถึง 2 เท่า เสียงเกมดังออกมาได้อย่างเต็มที่ ใช้งานได้อย่างเต็มอรรถรสด้วยระบบเสียง Dirac HD Sound
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot ไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง
• กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 12MP (Sony IMX586) + 8MP (Wide Angle) + 2MP (Depth Sensor) + 2MP (Macro Lens) รองรับ 10x Digital Zoom พร้อมโหมด Nightscape ถ่ายภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อยคมชัด, Chrome Boost ให้ภาพที่สีสันสดใสมากยิ่งขึ้น และมี AI Scene Recognition สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ถ่ายอยู่นั้นคืออะไร, ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 119 องศา
• กล้องหน้าเซลฟี่ละเอียดคมชัด 13MP ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อมโหมด AI Beauty และ AI HDR
• ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ป้องกันละอองน้ำด้วยดีไซน์พิเศษแบบ Airtight Waterproof
ข้อสังเกต
– ไม่แถมหูฟังมาให้ในกล่อง
– มีบางแอปฯ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำได้
– ยังคงใช้พอร์ต micro USB
– ไม่รองรับชาร์จเร็ว
– โหมดถ่ายภาพ Nightscape ประมวลผลช้าไปนิด
– ตัวเครื่องด้านหลังใช้วัสดุมันวาว ควรสวมใส่เคสเพื่อป้องกันการเกิดคราบรอยนิ้วมือ หรือรอยเปื้อนต่างๆ
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– OPPO A5s
– Vivo Y17
– Samsung Galaxy A30
– Wiko View 3
– Honor 8C
– Huawei Y7 Pro 2019
– Redmi Note 7
– Nokia 4.2
ขอขอบคุณ บริษัท realme Thailand
Written by : Nan Kanyarat Thongpeng
[realme-price]
[mobile-price]
Leave a Reply