รีวิว Vivo Y12 จัดเต็ม! แบตมหึมา 5000 mAh หน้าจอ Halo FullView ขนาด 6.35 นิ้ว กล้องหลัง AI Triple Camera ในเรทราคาไม่เกิน 5 พันบาท

รีวิว Vivo Y12 จัดเต็ม! แบตมหึมา 5000 mAh หน้าจอ Halo FullView ขนาด 6.35 นิ้ว กล้องหลัง AI Triple Camera ในเรทราคาไม่เกิน 5 พันบาท

Vivo Y12

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ 🙂 ก็เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Vivo Y12 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากตระกูล Y Series ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,999 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Burgundy Red และ Aqua Blue พร้อมเริ่มวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย โดยเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วไป และช่องทางออนไลน์ค่ะ

screen-10.05.01[11.07.2019]

สำหรับ Vivo Y12 ชูจุดเด่นที่กล้องหลัง AI Triple Camera จอแสดงผล Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว คมชัด HD+ สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89% ขับเคลื่อนด้วย Helio P22 หน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB กล้องหลัง AI Triple Camera กล้องหน้าพร้อม AI Face Beauty มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง บอดี้เงาไล่เฉดงดงาม รองรับ Ultra Game Mode เอาใจคอเกม และแบตเตอรี่ความจุยักษ์ 5000 mAh ใช้งานได้อย่างยาวนาน ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

สำหรับวันนี้ทาง ninethaiphone มีรีวิว Vivo Y12 ตัวเครื่องสี Aqua Blue ไล่เฉดงดงามส่วนบนเป็นสีฟ้าน้ำเงินไล่ลงมาด้านล่างเป็นสีเขียวน้ำทะเล บอดี้ดูหรูหราพรีเมียม ให้เฉดสีที่แตกต่างกันไปยามแสงตกกระทบ ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปชมรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค Vivo Y12

Features Vivo Y12
วันเปิดตัว :  – กรกฎาคม 2562
ราคา :  – 4,999.- (ณ วันที่ 15 ก.ค. 62)
ระบบปฏิบัติการ :  – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch OS 9
หน้าจอ :  – หน้าจอ IPS LCD
 – ขนาด 6.35 นิ้ว
 – ความละเอียด 720×1544 พิกเซล (HD+)
 – multi-touch
CPU :  – Helio P22 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
GPU :  – PowerVR GE8320
RAM :  – 3GB
ROM :  – 32GB
 – microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :  – 13MP + 8MP + 2MP
 – Main Sensor + Ultrawide + Depth Sensor
 – ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4
 – LED flash
 – PDAF
 – HDR
 – Panorama
 – Portrait Bokeh
 – AI Face Beauty
 – Super Wide-Angle
กล้องหน้า :  – 8MP
 – ค่ารูรับแสง f/1.8
 – AI Face Beauty
Video :  – 1080p@30fps
Battery :  – 5000 mAh
ขนาด :  – 159.43×76.77×8.92 มม.
น้ำหนัก :  – 190.5 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
 – 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4G + 5G
 – Bluetooth 5.0
 – microUSB 2.0
 – OTG
GPS :  – GLONASS
 – BeiDou
 – Galileo
Sensor :  – Fingerprint
 – Accelerometer
 – Ambient Light
 – Proximity
 – E-compass
 – Gyroscope
สี :  – Burgundy Red
 – Aqua Blue

แกะกล่อง Vivo Y12

DSCF8071

Vivo Y12 ถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาว หน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ vivo, ชื่อรุ่น Y12 และความจุแบตเตอรี่สูงถึง 5000 mAh ระบุไว้อย่างชัดเจน มุมขวาบนมีข้อมูลความจุของเครื่องคาดสีทองโดดเด่นสะดุดตา โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อม RAM 3GB + ROM 32GB หน้ากล่องมีภาพตัวเครื่องสี Aqua Blue เผยอยู่กลางกล่อง แสดงให้เห็นสมาร์ทโฟนหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำ ด้านหลังมาพร้อมกล้อง 3 ตัว และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกลางตัวเครื่อง บอดี้ไล่เฉดสวยงาม

DSCF8073

ส่วนด้านหลังกล่องมีการชูสเปคเด่นๆ เอาไว้ 3 อย่าง ได้แก่ กล้องหลัง AI Triple Camera, แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh และหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว รวมถึงมีข้อมูลโมเดลเครื่อง เลข IMEI และตัวเลือกสีระบุไว้ด้วย

DSCF8169

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– Vivo Y12 ตัวเครื่องสี Aqua Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สาย USB
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งาน
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสกันรอยพลาสติกแบบใส

DSCF8160

ภาพตัวเครื่องสมาร์ทโฟน Vivo Y12 ขณะใส่เคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง

DSCF8164

ด้านล่างบริเวณช่องเสียบ microUSB เคสกันรอยที่แถมมาให้มีช่องปิดกันฝุ่นในส่วนนี้ด้วยค่ะ

ทำความรู้จัก Vivo Y12

DSCF8118

ด้านหน้า Vivo Y12 มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ดีไซน์ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว อัตราส่วน 19.3:9 ความละเอียด HD+ หรือ 720×1544 พิกเซล สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89% ใช้งานมือเดียวได้แบบสบายๆ ระบบมัลติทัชลื่นไหล จอกว้างเต็มตา ใช้งานได้แบบเพลินๆ ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง เล่นเกม หรือเล่นโซเชียลต่างๆ

DSCF8123

ด้านหน้าส่วนบน มีรอยบาก Waterdrop Design หรือทรงหยดน้ำขนาดเล็ก บริเวณนี้เป็นตำแหน่งของเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/1.8 รวมถึงมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อยู่ในบริเวณส่วนบนนี้ด้วย

DSCF8127

เหนือรอยบากมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา

DSCF8129

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ส่วนนี้มีการเว้นขอบด้านล่างไว้เพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

DSCF8091

ด้านหลัง บอดี้ของ Vivo Y12 เงางามคล้ายกระจกมีการไล่เฉดสีสะท้อนแสงในมุมตกกระทบ ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Burgundy Red และ Aqua Blue ซึ่งทาง Vivo กล่าวว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และความสวยงามของสีน้ำทะเล มีการเปลี่ยนแปลงของสีเมื่อตกกระทบแสง ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 159.43×76.77×8.92 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 190.5 กรัม

DSCF8100

สำหรับตัวเครื่องสี Aqua Blue ที่เราได้นำมารีวิวให้ชมกันนั้น บอดี้ไล่เฉดสีฟ้าน้ำทะเลออกสีเขียว ด้านบนเป็นโทนสีเข้มเริ่มจากสีน้ำเงิน ไล่เฉดลงมาเป็นสีฟ้า และด้านล่างเป็นสีเขียวมรกตสวยงามมาก

DSCF8107

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP (เซ็นเซอร์หลัก) + 8MP (AI Super Wide-Angle) + 2MP (Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ พร้อม LED flash และฟีเจอร์ใช้งานอื่นๆ ซึ่งตรงนี้เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในส่วนของกล้องต่อค่ะ

DSCF8111

เลนส์กล้อง 3 ตัวอยู่ในกรอบสีทองนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย ด้านล่างกรอบมีไฟแฟลช LED และข้อความสกรีนว่า AI Triple Camera จากนั้นขยับไปตรงกลางเครื่องมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

DSCF8114

ด้านหลังส่วนล่าง มีแค่เพียงโลโก้แบรนด์ Vivo สกรีนสีเงินปรากฏอยู่

DSCF8136

ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ ค่ะ

DSCF8137

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต micro USB และลำโพงเสียงหลัก

DSCF8147

ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีแค่เพียงช่องใส่ซิมการ์ด

DSCF8153

โดยอยู่บริเวณส่วนปลายบนสุดเลยค่ะ

DSCF8156

Vivo Y12 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

DSCF8141

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด/ปิดการใช้งานตัวเครื่อง และปุ่มเพิ่ม/ลดปรับระดับเสียง

DSCF8145

การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค่ะ

ทดสอบประสิทธิภาพ Vivo Y12

Y12 (1)

เมื่อนำ Vivo Y12 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P22 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch OS 9 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 78590 คะแนน ได้คะแนนน้อยกว่า Vivo Y17 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320 ที่สามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 88046 คะแนน (คลิกชมรีวิว)

Y12 (2)Y12 (3)

สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Vivo Y12 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล Vivo 1904, รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie), ใช้ชิปเซ็ต MT6762V/WR หรือ Helio P22, หน้าจอ 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1544×720 พิกเซล, กล้องหลัง 13.5MP, กล้องหน้า 8MP, แบตเตอรี่ 5000 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 1324MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 16.51GB เป็นต้น

Y12 (1)

Vivo Y12 รองรับ Ultra Game Mode โหมดเกมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เล่นเกมในขั้นสุด เล่น e-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้โหมดการแข่งขัน ซึ่งมีการจัดสรรทรัพยากรในตัวเครื่องเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของเกม พร้อมมี Dual-Turbo สำหรับใครที่ต้องการความรวดเร็ว รวมถึงมีการลดเฟรมเรทเพื่อให้เล่นเกมได้สมูทมากยิ่งขึ้น โดยระบบนี้จะปรับให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม

สามารถเปิดใช้งานตั้งค่าระหว่างเล่นเกมได้ที่ Game Box ไม่ว่าจะเป็น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport เป็นต้น หรือเข้าไปที่การตั้งค่า >> Ultra Game Mode เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติมค่ะ

Screenshot_25620712_105021Screenshot_25620712_104854

การเรียกใช้งาน Ultra Game Mode ก็ทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ ให้สไลด์หน้าจอด้านซ้ายไปทางขวา จะปรากฏแถบการใช้งานต่างๆ ขึ้นมาในหน้า Game Box มีการจัดสรรในส่วนของทรัพยากรระบบเพื่อจัดลําดับความสําคัญของเพอร์ฟอร์แมนซ์เกม และทวินเทอร์โบที่ช่วยลดปัญหาภาพกระตุก ทําให้เกมไหลลื่นแบบสุดๆ

Y12 (3)

แรกเริ่มเมื่อเข้าสู่เกม ระบบได้ปรับอัตโนมัติที่ความละเอียดต่ำคุณภาพลื่นตามสเปคของอุปกรณ์เพื่อให้สามารถเล่นเกมได้แบบไม่สะดุด

Y12 (7)

ภาพกราฟิกอยู่ในระดับสมดุลช่วยลดอาการค้าง ส่วนเฟรมเรทอยู่ที่ระดับกลาง (อุปกรณ์ยังไม่รองรับการตั้งค่า สมดุล, HD, HDR HD และ Ultra HD) หากเฟรมเรทแกว่งสามารถปรับลดเฟรมเรทลงเพื่อให้เหมาะสมได้

DSCF8199

จากการทดสอบทางทีมงานได้ลองเล่นเกม PUBG Mobile พบว่า Vivo Y12 สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น ปรับเฟรมเรทอยู่ที่ระดับกลางภาพกราฟิกสวย จอคมชัด หน้าจอใหญ่กว้าง ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลยค่ะ

Y12 (4)

ส่วนการใช้งาน YouTube สามารถกางและบีบนิ้วเข้าเพื่อปรับให้พอดีกับหน้าจอ

Y12 (6)Y12 (5)

โดยภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอเหลือขอบดำด้านข้างไว้เล็กน้อย แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้ค่ะ

Interface

Y12 (1)

หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วที่มุมล่างซ้าย และโทรศัพท์ที่มุมล่างขวา

Y12 (5)

หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง แต่หากปัดหน้าจอไปทางขวาจะพบกับหน้าทางลัด ที่สามารถเข้าถึงแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นก็รองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน

Y12 (13)

หากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือกดกากบาทลบได้เลย นอกจากนี้เมื่อกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนจอแสดงผลจะปรากฏแถบเอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวแบบไดนามิกขึ้นมาด้านล่าง สามารถเพิ่มลงสู่หน้า Home Screen ได้เองเลยค่ะ

Y12 (14)

เมื่อสไลด์ล่างขึ้นจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และปรากฏแอปฯ ที่เพิ่งใช้งานไปล่าสุดด้วย แต่เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับหน้าแจ้งเตือนต่างๆ

Y12 (2)

V-Appstore, Play Store และศูนย์รวมแอปฯ จาก Google

Y12 (33)

แอปฯ NEWS, iReader และ WeSing

Y12 (10)Y12 (30)

โหมดสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม มีโหมดถนอมสายตา และล็อคแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ สามารถเลือกแอปฯ ที่จะใช้งานได้

Y12 (7)

iManager เป็นการจัดการพื้นที่ต่างๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลขึ้น ด้วยการล้างข้อมูลขยะต่างๆ ในตัวเครื่อง หรือตั้งค่าการรับส่งข้อมูล รายละเอียดของข้อมูล รวมไปถึงการตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายด้วยค่ะ

Y12 (8)

EasyShare แอปฯ ช่วยให้การแบ่งปันง่ายขึ้น หรือการย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าไปยัง Vivo เครื่องใหม่ในขั้นตอนง่ายๆ รวมถึงแบ่งปันไฟล์ข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ หลากหลายรูปแบบได้ด้วย

Y12 (9)

สำหรับแอปฯ Vivo.com เป็นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Vivo รวมถึงช่องทางการให้บริการได้ภายในแอปฯ เดียว

Y12 (3)

ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก และศูนย์รวมธีม

Y12 (4)

โทรศัพท์, ข้อความ และโน๊ต

Y12 (6)

เว็บเบราว์เซอร์, แอปฯ วัดสภาพอากาศ และ Vivo Cloud

Y12 (11)

เครื่องมือการใช้งานมีมาให้ครบครัน เริ่มต้นที่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง

Y12 (12)

เข็มทิศ, วิทยุ FM และหน้าจัดการไฟล์

Y12 (15)

เมนูการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง

Y12 (16)

รองรับการใช้งาน Jovi ซึ่งสมาร์ทโฟนรองรับการใช้งาน Google Lens การใช้งานฟังก์ชันนี้ให้เข้าสู่กล้อง เปิดใช้งาน Google Lens เพียงเท่านี้ก็สามารถสแกนเพื่อหาข้อมูลสิ่งที่คุณต้องการได้

Y12 (21)

หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่, หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ และหน้าแสดงข้อมูลหน่วยความจำภายในเครื่อง

Y12 (22)

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ Vivo Y12 รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งก่อนจะลงทะเบียนต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบการเสียก่อน

Y12 (23)

นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Face Access หรือระบบจดจำใบหน้าอีกด้วย โดยการใช้งานต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน จากนั้นส่องใบหน้าแล้วสแกนปลดล็อกได้เลยค่ะ

Y12 (20)

จอแสดงผลรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตา เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้

Y12 (19)

โหมดมอเตอร์ไซค์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนร่วมกับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุอีกด้วย โดยมีการตั้งค่าปฏิเสธสายแบบอัตโนมัติ, ตอบกลับอัตโนมัติด้วย SMS, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ หรือประเมินความเร็วก่อนการรับสาย เป็นต้น

Y12 (24)

โหมดจัดการพลังงานแบตเตอรี่ เปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย, โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น

Y12 (32)

EasyTouch เครื่องมืออำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเป็นปุ่มลอยตัว คล้ายๆ กับ Assistive Touch ของ iPhone รองรับการแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช และสามารถคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด รวมถึงล้างข้อมูลในตัวเครื่องได้ที่หน้าการสำรองและคืนค่าข้อมูล

Y12 (25)

การใช้งานอัจฉริยะ เป็นการเปิดการใช้งานฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เพื่อปลุกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น SmartWake การวาดตัวอักษรที่กำหนดผ่านหน้าจอที่กำลังสลีป, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์, การเตือนอัจฉริยะ และรองรับการสะท้อนอัจฉริยะ ได้ทั้งวิดีโอ เพลง รูปภาพ และไฟล์สื่อ ซึ่งสามารถสะท้อนไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเล่น และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับโทรทัศน์ได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ

Y12 (27)

มีโหมดการใช้งานมือเดียวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และสามารถแคปหน้าจอได้แบบง่ายๆ ด้วยการกดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ หรือจับภาพหน้าจอโดยการปัดสามนิ้วลงบนจอแสดงผล

Y12 (28)

รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ

Y12 (26)

รองรับ Smart Split เวอร์ชันล่าสุด ฟังก์ชั่นนี้ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, WhatsApp, LINE, WeChat, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ให้ผู้ใช้งานได้สนุกทั้งความบันเทิง และการแชทได้อย่างอิสระ

Y12 (29)

กดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ และสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยได้ ตัวอย่างการใช้งาน Smart Split ให้กดไปที่กรอบสีแดงตามรูปแรกจะเป็นการแบ่งใช้งานสองหน้าจอค่ะ

Y12 (17)

รองรับ Ultra Game Mode โหมดเกมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เล่นเกมในขั้นสุด ใช้งานด้วยการเปิด Game Box ซึ่งจะทำงานในขณะที่ผู้ใช้งานเล่นเกมเท่านั้น การใช้งานอื่นๆ ยังคงปกติไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ส่วนฟังก์ชันที่รองรับก็สามารถกำหนดได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ปฏิเสธสายเรียกเข้า หรือบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ

Y12 (18)

สามารถเปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ ระหว่างเล่นเกมได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport เป็นต้น การใช้งานให้ไปที่การตั้งค่า >> Ultra Game Mode เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติม

Y12 (34)

ถ่ายโอนข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสาย microUSB แล้วต่อเข้าเครื่อง PC พร้อมรองรับ Google Assistant ใช้งานง่ายๆ ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มโฮม และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องก็จะเป็นการเปิด-ปิด และรีสตาร์ทตัวเครื่องค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

หลัง (1)

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหลังกันเลย โดยกล้องหลังของ Vivo Y12 เป็น AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว มาพร้อมความละเอียด 13MP + 8MP  (Ultrawide) + 2MP (Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ มีโหมดการใช้งานครบครัน ได้แก่ โหมด DOC สำหรับถ่ายภาพเอกสาร ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้, โหมดมืออาชีพสามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้ ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง

หลัง (2)

โหมด AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับค่าความสวยเนียนภายในพริบตาได้ 6 ระดับ พร้อมปรับโทนสีผิวได้เอง, รองรับการถ่ายภาพมุม Wide เก็บภาพได้กว้างยิ่งขึ้น และเปิดใช้งาน HDR

หลัง (3)

ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการถ่ายภาพ Live Photo เข้ามาด้วย, มีโหมดการถ่ายภาพบุคคลในระยะ 2 เมตร ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ และถ่ายภาพ AI Super Wide-Angle เก็บภาพมุมกว้างพิเศษ พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีต่างๆ

หลัง (4)

ถัดมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD 480p, 720p จนถึง Full HD 1080p รองรับโหมด AI Super Wide-Angle พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่น และวิดีโอไทม์แลปส์

หลัง (5)

สำหรับวิดีโอไทม์แลปส์ สามารถตั้งค่าความเร็วได้ตามต้องการ และกล้องถ่ายภาพก็ตั้งค่าเองได้ตามสะดวก

หน้า (1)

มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้ากันเลย โดยกล้องหน้าของ Vivo Y12 มาพร้อมความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/1.8 มีโหมดการใช้งาน ได้แก่ โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD เช่นเดียวกับกล้องหลัง, โหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง และโหมด AI Face Beauty รองรับการตั้งค่า HDR สามารถเลือกปรับค่าความสวยเนียนได้ 6 ระดับ พร้อมปรับโทนสีผิวได้เอง รวมถึงเปิดใช้งานให้ระบบ AI ปรับแต่งให้เองอีกด้วย

หน้า (2)

จากนั้นเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ มีโหมด Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, เปิดใช้งาน HDR และโหมด Live Photo พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo Y12

Photo_Y12 (3)
Photo_Y12 (4)
Photo_Y12 (5)
Photo_Y12 (6)
Photo_Y12 (7)
Photo_Y12 (8)
Photo_Y12 (9)
Photo_Y12 (14)
Photo_Y12 (18)
Photo_Y12 (10)
Photo_Y12 (11)
Photo_Y12 (19)
Photo_Y12 (17)
Photo_Y12 (20)
Photo_Y12 (21)
Photo_Y12 (22)
Photo_Y12 (23)
Photo_Y12 (24)
Photo_Y12 (25)

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Super Wide-Angle

Photo_Y12 (16)Photo_Y12 (15)

ภาพถ่ายปกติ (บน) & AI Super Wide-Angle (ล่าง)

Photo_Y12 (1)Photo_Y12 (2)

ภาพถ่ายปกติ (บน) & AI Super Wide-Angle (ล่าง)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Vivo Y12

สำหรับกล้องหน้าของ Vivo Y12 มีความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/1.8 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียน AI Beauty เลือกปรับใบหน้าสวยได้เองตามต้องการ โดยมีให้เลือกปรับถึง 6 ระดับ และเลือกปรับโทนสีผิวได้เอง ซึ่งหากเลื่อนปรับไปในระดับที่มากขึ้นสีผิวจะออกโทนส้มนิดๆ

พร้อมรองรับการเปิดใช้งาน HDR และรองรับการถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ มีฟีเจอร์ Live Photo และฟิลเตอร์สีต่างๆ ให้เลือกใช้งานที่โหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนวิดีโอของกล้องหน้าสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด HD จนสูงสุดระดับ Full HD

สำหรับภาพตัวอย่างโหมด AI Beauty เลือกปรับโทนสีผิวอยู่ที่ระดับมาตรฐาน ซึ่งจะมีจุดวงกลมขาวๆ ระบุไว้ค่ะ หากต้องการลดหรือเพิ่มก็เลื่อนปรับได้เลย ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องเซลฟี่ของ Vivo Y12 ภาพถ่ายมีความคมชัดดี ระบบ AI ปรับภาพได้สวยเนียน หรือหากปรับเองควรเลือกปรับให้อยู่ในระดับกลางๆ ภาพถ่ายจะออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ แต่หากปรับในระดับที่สูงเกินไปภาพจะดูหลอกตาเล็กน้อย เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลย

ปกติ+PT+AI

โหมดถ่ายภาพปกติ >> ภาพถ่าย Portrait >> โหมดถ่ายภาพ AI Beauty

AI1+3+6

ภาพถ่าย AI Beauty ระดับ 1 >> ระดับ 3 >> ระดับ 6

66425934_1228966813949279_517629943845224448_n

สรุป

Vivo Y12 อยู่ในกลุ่มสมาร์ทเรทราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะด้วยราคาค่าตัวที่ไม่แพงแล้วเมื่อเทียบกับสเปคการใช้งานที่ให้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว กล้องหลัง AI Triple Camera มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง บอดี้ไล่เฉดสีสวยงาม และแบตเตอรี่ความจุมหึมา 5000 mAh ถือว่าคุ้มทีเดียว

ส่วนสเปคการใช้งานอื่นๆ ก็ตอบโจทย์ในเรทราคานี้ คือใช้ชิปเซ็ต Helio P22 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นแรกที่ใช้กระบวนการผลิต 12 นาโนเมตร รัน Funtouch OS 9 บนพื้นฐาน Android 9.0 (Pie) มีหน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุด 256GB

รายละเอียดกล้องหลัง 3 ตัว มีความละเอียด 13MP + 8MP (Ultrawide) + 2MP (Depth Sensor) รองรับ AI Face Beauty และ Super Wide-Angle ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8MP พร้อม AI Face Beauty ปรับค่าความสวยเนียนได้ทันใจเพียงปลายนิ้วสัมผัส ตัวเครื่องมีความมันวาวไล่เฉดสีสวยงามสะดุดตา มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Burgundy Red กับ Aqua Blue และถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีน้ำหนักที่มากหน่อย แต่แลกมาด้วยแบตเตอรี่ความจุถึง 5000 mAh ก็ถือว่าคุ้มสะใจดีค่ะ

และในเรื่องความอึดของแบตเตอรี่ 5000 mAh คือใช้งานได้นานมากทีเดียว เล่นเกมต่อเนื่องได้ในระยะเวลานานๆ โดยแบตเตอรี่ลดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ Vivo Y12 ไม่ได้มาพร้อมระบบชาร์จเร็วค่ะ และจากการที่เราได้ลองจับเวลาในการชาร์จดูนั้น พบว่าจากแบตเตอรี่เหลืออยู่ที่ 77% ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงสามารถชาร์จได้เพียง 20% เท่านั้น

มาพูดกันถึงระบบรักษาความปลอดภัยภายในตัวเครื่องกันบ้าง Vivo Y12 จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้าอันฉับไว พร้อมรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น ท้ายสุดสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเป็นเจ้าของ Vivo Y12 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

66497780_1230253740487253_6105696147597164544_n

รวมถึงบนช่องทางออนไลน์ส่งถึงบ้านพร้อมโปรโมชั่นพิเศษและของแถมมากมาย ดังนี้ค่ะ

Lazada : https://bit.ly/2JwSB9g
Shopee : https://bit.ly/2JzfhGc
JD Central : http://bit.ly/2LR3Rij
Thisshop : https://bit.ly/2LOb9DL

ข้อสังเกต

– หน้าจอความละเอียด HD+
– ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ไม่แถมหูฟังมาให้
– ตัวเครื่องใช้วัสดุที่มีความมันวาว ควรสวมใส่เคสเพื่อป้องกันการเกิดคราบรอยนิ้วมือ
– หน่วยความจำ RAM + ROM อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของบางท่าน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะ Vivo Y12 รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 256GB ค่ะ

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Vivo Y93
OPPO A5s
realme 3
Huawei Y5 2019
Huawei Y7 Pro 2019
Redmi Note 7
Wiko View 3
Nokia 3.2
Samsung Galaxy A10

ขอขอบคุณ บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng