รีวิว OPPO F9 สีใหม่ Jade Green บอดี้ไล่เฉดสีเขียวหยกผสานขาวมุกสุดพรีเมียม! ชูจุดเด่น VOOC Flash Charge ขุมพลัง Helio P60 แรม 6GB กล้องเซลฟี่ 25MP จอรอยบากทรงหยดน้ำ 6.3 นิ้ว ราคาเป็นมิตร

รีวิว OPPO F9 สีใหม่ Jade Green บอดี้ไล่เฉดสีเขียวหยกผสานขาวมุกสุดพรีเมียม! ชูจุดเด่น VOOC Flash Charge ขุมพลัง Helio P60 แรม 6GB กล้องเซลฟี่ 25MP จอรอยบากทรงหยดน้ำ 6.3 นิ้ว ราคาเป็นมิตร

OPPO-F9-Jade-Green

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ ก็เปิดตัวพร้อมกับวางจำหน่ายไปสักพักแล้วสำหรับ OPPO F9 สมาร์ทโฟนกล้องเซลฟี่ 25MP พร้อมเซ็นเซอร์ HDR รองรับการทำงานของกล้อง AI อัจฉริยะ หน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำให้พื้นที่แสดงผลถึง 90.8% ฝาหลังพ่นสีไล่เฉด และลวดลายกลีบดอกไม้บนฝาหลัง

ชูจุดเด่นเทคโนโลยี VOOC Flash Charge ชาร์จ 5 นาที คุยได้ถึง 2 ชั่วโมง และสเปคอื่นๆ ที่จัดเต็มตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยครั้งแรกที่เปิดตัวนั้น OPPO F9 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง (Sunrise Red), สีน้ำเงิน (Twilight Blue) และ Special Edition สีม่วง (Starry Purple)

แต่ในเวลาต่อมาเมื่อช่วงปลายปี 2018 ได้มีการเปิดตัว OPPO F9 สีใหม่ Limited Edition กับสีเขียว Jade Green ตัวเครื่องสีเขียวหยกผสานสีขาวมุกดูเรียบหรูสุดพรีเมียมกรอบเครื่องสีทองออกมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้แก่ผู้ใช้งานได้เลือกสรรในราคาจำหน่ายเท่ากับตัวเครื่องสีอื่นๆ ราคาจำหน่ายเพียง 10,990 บาท

Oppo

เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับ OPPO F9 ที่เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำกับการไล่เฉดสีที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการดีไซน์สมาร์ทโฟน จนเป็นที่พูดถึงกันมากมาย และนอกจากดีไซน์แล้ว OPPO F9 ยังมาพร้อมกล้องหลังคู่ 16MP + 2MP กล้องเซลฟี่ 25MP ที่รองรับ AI Beauty 2.1 เซ็นเซอร์ HDR และเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge

OPPO F9 ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P60 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.0GHz รองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งการเล่นเกม และการใช้งานแอปฯ หลายตัวพร้อมกัน มีหน่วยความจำแรมสุดแรง 6GB รองรับการทำงานของกล้อง AI อัจฉริยะ ช่วยให้ประมวลผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายในโหมด Bokeh และการทำงานของเซ็นเซอร์ HDR ได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งระบบจดจำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบจดจำใบหน้า เสียง และ Face ID

สำหรับวันนี้ทาง ninethaiphone ก็มีรีวิว OPPO F9 ตัวเครื่องสีเขียว Jade Green ใหม่ล่าสุดมาฝากให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะซื้อกันค่ะ และหากเพื่อนๆ เห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ทีมงาน และบอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นด้วยนะคะ ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปติดตามกันเลย

Oppo-F9-Jade-Green

ข้อมูลสเปค OPPO F9

 Features OPPO F9
วันเปิดตัว :  – สิงหาคม 2561
ราคา :  – 10,990.- (ณ วันที่ 30 ม.ค. 62)
ระบบปฏิบัติการ :  – Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.2
หน้าจอ :  – หน้าจอ TFT
 – ขนาด 6.3 นิ้ว
 – อัตราส่วน 19.5:9
 – ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล
 – Multitouch
CPU :  – Helio P60 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
GPU :  – ARM Mali-G72 MP3
RAM :  – 6GB
ROM :  – 64GB
 – microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :  – 16MP + 2MP
 – ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4
 – LED Flash
 – Auto Focus
 – Touch Focus
 – Bokeh
 – AI Beauty 2.1
กล้องหน้า :  – 25MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – LED Flash
 – AI Beauty 2.1
Video :  –
Battery :  – 3500 mAh
ขนาด :  – 156.7×74.0×7.99 มม.
น้ำหนัก :  – 169 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM: 850/900/1800/1900MHz
 – 3G : WCDMA: 850/900/2100MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi : 802.11 a/b/g/n/ac 2.4/5GHz
 – Bluetooth 4.2
 – OTG
 – Micro USB 2.0
 – 3.5mm jack
GPS :  – GPS
 – A-GPS
 – GLONASS
Sensor :  – Fingerprint
 – Face Detection
 – Accelerometer
 – Proximity
 – Gyroscope
 – E-Compass
 – Acceleration
 – Light Sensor
สี :  – แดง (Sunrise Red)
 – น้ำเงิน (Twilight Blue)
 – ม่วง (Starry Purple)
 – เขียว (Jade Green)

แกะกล่อง OPPO F9

DSCF2404

OPPO F9 บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาว หน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ OPPO และชื่อรุ่น F9 ตัวโตๆ ส่วนมุมซ้ายบนมีข้อมูลของ RAM และ ROM คาดสีทองระบุไว้ พร้อมมีภาพดีไซน์ตัวเครื่องที่มาในเฉดสีม่วง (Starry Purple) เผยบนหน้ากล่องแบบชัดๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่ากล่องบรรจุภัณฑ์ล็อตใหม่ของ OPPO F9 จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกกล่องค่ะ แต่จะแยกสีตัวเครื่องด้วยการระบุชื่อสีไว้บนสติ๊กเกอร์ด้านหลังกล่องนั่นเอง

DSCF2406DSCF2407

โดยด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์มีการระบุชื่อสีตัวเครื่อง ความจุตัวเครื่อง, เลข IMEI เครื่อง และสเปคการใช้งานเด่นๆ ไว้

DSCF2326

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– OPPO F9 ตัวเครื่องสีเขียว (Jade Green)
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สาย micro USB
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– ใบรับประกันสินค้า
– เคสยางแบบใส
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejection Pin)
– ฟิล์มกันรอยแบบใส (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)

DSCF2332

OPPO F9 รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge สนับสนุนการชาร์จไฟ 5V/4A การันตีความปลอดภัยด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ ใช้จุดเชื่อมต่อพิเศษ 7 เส้น Pin ของ USB (ซึ่งระบบชาร์จเร็วทั่วไปใช้เพียง 5 เส้น) ทำให้สามารถป้องกันแรงดันไฟฟ้า และความร้อนที่มากเกินไปได้ค่ะ

DSCF2335

หูฟังรองรับสมอลทอร์คสำหรับการพูดคุยสื่อสาร ด้านระบบเสียงก็คมชัดดี

ทำความรู้จัก OPPO F9 

DSCF2370

ด้านหน้า ใช้จอแสดงผล LTPS IPS แบบ Full Screen ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีรอยบากทรงหยดน้ำแบบใหม่ดีไซน์ Waterdrop Screen จออัตราส่วน 19.5:9 สัดส่วนพื้นที่แสดงผลอยู่ที่ 90.8% ให้ภาพที่เต็มตา ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ผู้ใช้งานสามารถดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม หรือท่องอินเทอร์เน็ตได้แบบเต็มอรรถรสผ่านจอกว้างเต็มสายตา และหากสังเกตดีๆ บนหน้าจอจะมีขอบสีขาวเล็กๆ บริเวณฝั่งขวามือ ส่วนนี้เราเรียกกันว่า Smart Side Bar เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันอีกครั้งในหัวข้อ Interface ค่ะ

DSCF2381

ด้านหน้าส่วนบน มีรอยบากทรงหยดน้ำบริเวณกึ่งกลางหน้าจอด้านบน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ติดตั้งเลนส์กล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ เหนือรอยบากเพียงเล็กน้อยเป็นลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ โดยกล้องหน้าของ OPPO F9 คมชัดด้วยความละเอียด 25MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อม AI Beauty 2.1, AR Sticker และรองรับฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า

DSCF2383

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ มีการเว้นขอบด้านล่างไว้เพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

DSCF2350

ด้านหลัง OPPO F9 ตัวเครื่องสีเขียว (Jade Green) ดีไซน์ไล่เฉดสีสุดพรีเมียมสีเขียวหยกผสานสีขาวมุกแบบละมุนมีกลิตเตอร์วิ้งวับเล็กน้อย พร้อมขอบสีทองให้ความรู้สึกเรียบหรูน่าสัมผัส โดยจะไล่ความหนักของเฉดสีจากสีขาวมุกด้านบนลงมาเรื่อยๆ เป็นสีเขียวหยก กรอบด้านข้างตัวเครื่องเป็นสีทอง ภาพรวมดูหรูหราสุดๆ

OPPO-F96

ขณะที่ตัวเครื่องสีแดง (Sunrise Red) และสีน้ำเงิน (Twilight Blue) ฝาหลังพ่นสีไล่เฉดโทนเข้มๆ พร้อมลวดลายกลีบดอกไม้ที่ฝาหลัง เพิ่มมิติและลวดลายที่เปล่งประกายตามมุมมองที่แตกต่างระหว่างแสงตกกระทบ ส่วนตัวเครื่องสีม่วง (Starry Purple) มีดีไซน์ฝาหลังแบบไล่เฉดสี พร้อมด้วยลวดลายประกายกลิตเตอร์แวววับ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนฟีลแบบลึกลับน่าค้นหา

Oppo

ซึ่งสรุปแล้ว OPPO F9 มีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีแดง (Sunrise Red), สีน้ำเงิน (Twilight Blue), สีม่วง (Starry Purple) และสีเขียว (Jade Green) ตัวเครื่องถือใช้งานง่ายจับกระชับมือ มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 156.7×74.0×7.99 มม. และมีน้ำหนัก 169 กรัม

DSCF2359

ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 2MP พร้อมไฟแฟลช LED ครอบด้วยกรอบสีทองสุดหรูหรา ถัดลงมาตรงกลางเพียงเล็กน้อยคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือขอบทอง และโลโก้แบรนด์ OPPO

DSCF2366

ด้านหลังส่วนล่าง เป็นโซนของโทนสีเขียวหยกแบบเน้นๆ ค่ะ

DSCF2390

ด้านบนตัวเครื่อง มีรูไมโครโฟนเพียง 1 จุด

DSCF2388

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบพอร์ต micro USB, รูไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

DSCF2396

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง

DSCF2398

โดยช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่เหนือปุ่มปรับระดับเสียงค่ะ

DSCF2416

OPPO F9 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot โดยรองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว โดยไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ รูปแบบจำนวน 3 ช่อง คือ SIM + SIM + microSD Card

DSCF2417

ด้านขวาตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่อง

การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่องค่ะ

ทดสอบประสิทธิภาพ

Screenshot_ (1)

เมื่อนำ OPPO F9 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P60 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz มีหน่วยประมวลภาพกราฟิก ARM Mali-G72 MP3 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.2 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 137034 คะแนน

Screenshot_ (2) Screenshot_ (3)

สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ OPPO F9 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล CPH1823, รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1, ใช้ชิปเซ็ต Helio P60, GPU Mali-G72, หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล, กล้องหลัง 16MP + 2MP, กล้องหน้า 24.8MP, แบตเตอรี่ 3500 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 2597MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 22.15GB เป็นต้น

Screenshot_2019-01-15-22-41-50-96

เมื่อทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile โดยเปิดใช้งาน Game Space และปรับเฟรมเรทกลาง พบว่า OPPO F9 สามารถเล่นเกม PUBG Mobile ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน้าจอค้างหรือกระตุกมากวนใจ ระบบทัชสกรีนไหลลื่น ภาพกราฟิกสวย มุมมองแบบเต็มหน้าจอไร้ขอบ เล่นได้อย่างเต็มอรรถรสทั้งประสิทธิภาพความลื่นไหล ภาพกราฟิก ความคมชัด หรือระบบเสียง

และด้วยการที่ OPPO F9 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ Waterdrop Screen ดีไซน์รอยบากทรงหยดน้ำ ทำให้จอแสดงผลนั้นใหญ่ขึ้น เล่นเกมได้แบบกว้างเต็มตา เห็นรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจน แต่หากปิดใช้งานรอยบากก็จะปรากฏแถบสีดำที่ด้านข้างบังสายตาเล็กน้อยค่ะ

ส่วนประสิทธิภาพด้านแบตเตอรี่เราได้ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile เป็นเวลา 30 นาที และรับชม YouTube อีกราว 30 นาที เริ่มต้นกันด้วยแบตเตอรี่ 100% จากนั้นพบว่าการเล่นเกมในระยะเวลาดังกล่าวแบตเตอรี่ของ OPPO F9 ลดเหลือ 60% ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานต่อเนื่อง และตัวเครื่องไม่มีอาการร้อนแต่อย่างใด

12

สำหรับ Game Space เราสามารถปรับตั้งค่าการใช้งานได้เอง ทั้งการเร่งความเร็วกราฟิก, ปรับแต่งการเล่นเกมให้ราบรื่น, เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานแบตเตอรี่, ปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ, ล็อคความสว่างหน้าจอ และปิดแจ้งเตือนกั้นการรบกวนต่างๆ ระหว่างเล่นเกม

4

ระหว่างเล่นเกมหรือรับชม YouTube สามารถดึงแถบการใช้งานที่ซ่อนอยู่ข้างหน้าจอแสดงผลด้วยการปัดหน้าจอด้านซ้ายไปทางขวา จากนั้นก็จะมีแอปฯ มาให้เลือกใช้งาน เราสามารถตอบกลับข้อความหรือแชทต่างๆ ได้เลย โดยจะแสดงขึ้นเป็นหน้าต่างเล็กๆ ไม่กระทบกับเกมที่เรากำลังเล่น ซึ่งในส่วนนี้เราเรียกกันว่า Smart Side Bar

นอกจากนี้ยังรองรับการแคปภาพหน้าจอ, การบันทึกวิดีโอหน้าจอ ปิดกั้นการรบกวนต่างๆ, ตอบข้อความหรือแชทต่างๆ, การเข้าถึงโซเชียลมีเดีย, ไฟล์ในตัวเครื่อง, กล้องถ่ายภาพ และสามารถเพิ่มแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ ได้อีกด้วย

Screenshot_2019-01-24-16-41-03-36Screenshot_2019-01-24-16-41-23-42

การใช้งาน YouTube สามารถกางหรือบีบนิ้วเพื่อปรับให้ภาพพอดีกับหน้าจอได้ค่ะ ซึ่งการขยายจนเต็มหน้าจอจะเป็นการซูมภาพเข้าจนไม่เหลือขอบด้านข้างและเห็นภาพได้ใกล้ตามากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดมาตรฐานจะยังคงเหลือขอบด้านข้างอยู่เพียงเล็กน้อย

Interface

Screenshot (1)

หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้นค่ะ

Screenshot (2)

หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นรองรับการใช้งานได้อย่างครบครันจัดวางแอปฯ เป็นระเบียบ

Screenshot (8)

และหากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือลบได้เลย

Screenshot (3)

หน้า Home screen สไลด์ไปทางขวาจะเป็นฟังก์ชัน Google Assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัวของเรา ที่มีความสามารถในการตอบรับ โต้ตอบกลับ และเข้าถึงการทำงานต่างๆ บนเครื่องสมาร์ทโฟนอย่างรวดเร็ว ใช้งานง่ายๆ ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ (ต้องตั้งค่าเปิดใช้งานก่อนนะคะ)

สำหรับ Smart Side Bar ซึ่งหากดึงบริเวณขอบสีขาวเล็กๆ บริเวณมุมขวาของหน้าจอ จะปรากฏเป็นแถบการใช้งานเป็นแอปฯ หลักๆ ที่เราใช้งานบ่อย ในส่วนนี้สามารถเพิ่มเติมแอปฯ ตั้งค่าเป็น Shotcut ได้ด้วย ระหว่างเล่นเกม หรือดูหนัง ใช้งาน YouTube ต่างๆ สามารถปัดหน้าจอทางฝั่งซ้ายเพื่อเข้าถึง Smart Side Bar แล้วตั้งค่าการแจ้งเตือนข้อความ, การกดบันทึกหน้าจอ, การแคปภาพหน้าจอ, การปิดแจ้งเตือนต่างๆ หรือเข้าถึงโซเชียลมีเดียได้ค่ะ

Screenshot (4)

เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings เมนูแถบแจ้งเตือนสามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

Screenshot (5)

ศูนย์รวมแอปฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, Google Chrome, Gmail, Play Music หรือ YouTube เป็นต้น และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Google Play

Screenshot (6)

สำหรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ เป็นตัวช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย

Screenshot (7)

เมนูหน้าโทรศัพท์ และการรับส่งข้อความ

Screenshot (9)

รองรับนาฬิกาปลุก, เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข

Screenshot (11)

วิทยุ FM, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, ปฏิทิน

Screenshot (14)

การโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว, มีแอปฯ เคล็ดลับในการใช้งานที่รวบรวมทริคต่างๆ ไว้ในที่เดียว อาทิ การใช้งานระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า, การทำงานของ Multitasking ที่ง่ายขึ้น, การแก้ไข้วิดีโอ, การถ่ายภาพด้วยปุ่มปรับระดับเสียงข้างตัวเครื่อง, การใช้งานคำสั่งเสียง, ฟังก์ชันลดการรบกวนระหว่างขับขี่, การใช้งาน 2 หน้าจอ, การแคปหน้าจอในแนวยาว, การใช้งาน OPPO Share, การ Clone มือถือ เป็นต้น และเข็มทิศ

Screenshot (10)

หน้าจัดไฟล์ต่างๆ ภายในเครื่อง, หน้าอัปเดทเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ และหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน

Screenshot (12)

Game Space ตัวช่วยดีๆ สำหรับคอเกม โดยสามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเกมสุดโปรด

Screenshot (13)

อาทิ ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น

Screenshot (15)

รองรับ Music Party เปิดเพลงจากสมาร์ทโฟนหลายๆ เครื่องได้พร้อมกันเพื่อกระจายเสียงออกมาเป็นเหมือนชุดเครื่องเสียง เข้าร่วมง่ายๆ ด้วยการสแกน QR Code และรองรับ OPPO Cloud การสำรองข้อมูลภายในตัวเครื่อง

Screenshot (16)

การตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง

Screenshot (17)

สามารถปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดการปกป้องในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้ค่ะ

Screenshot (18)

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ OPPO F9 รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง และมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า ซึ่งก่อนที่จะลงทะเบียนต้องตั้งค่ารหัสผ่านเป็นตัวเลขหรือรูปแบบก่อน และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลงทะเบียนระบบการจดจำด้วยใบหน้า ควรถือเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากใบหน้าราว 20-50 ซม. และควรหลีกเลี่ยงการบันทึกใบหน้าในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป

Screenshot (19)

มีตัวช่วยด้านความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด อาทิ ปุ่มการนำทาง : นำทางด้วยปุ่มเสมือน หรือลากนิ้วขึ้น, ผู้ช่วยขับรถ : การเชื่อมต่อ Bluetooth ในรถแบบอัตโนมัติ, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ระหว่างขับรถ, ลูกบอลช่วยเหลือ : ลักษณะจะคล้ายกับปุ่ม Assistive Touch ของ iPhone ใช้งานด้วยการแตะ ยกตัวอย่างเช่น แตะ 1 ครั้ง เพื่อย้อนกลับ หรือแตะค้างเพื่อไปยังหน้าจอหลัก เป็นต้น

Screenshot (20)

รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่างๆ

Screenshot (21)

รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ

Screenshot (22)

สำหรับการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen สามารถเข้าถึงได้หลากหลายวิธี อาทิ การลาก 3 นิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเปิดการใช้งาน หรือการกดค้างไปที่ปุ่ม Recent Apps เพื่อเข้าสู่โหมดแบ่งหน้าจอในแอปฯ ที่รองรับ เป็นต้น

Screenshot (23)

สามารถปรับตั้งค่าธีมและวอลเปเปอร์รวมถึงผังตำแหน่งของแอปฯ บนหน้าจอได้เอง

Screenshot (24)

หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ และล็อคแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ เพื่อเข้าถึงอย่างรวดเร็วและสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น

Screenshot (25)

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen

Screenshot (26)

สามารถถ่ายโอนไฟล์ภาพและไฟล์วิดีโอได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเสียบสาย USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ และปิด-เปิดเครื่องด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

หน้า (1)

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้ากันเลย โดยกล้องหน้าของ OPPO F9 มาพร้อมความละเอียด 25MP ค่ารูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ HDR มีโหมดการใช้งาน ได้แก่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse นั่นเอง, โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD รองรับโหมด AI Beauty 2.1 ปรับความสวยเนียนทันใจได้ 6 ระดับ และฟิลเตอร์สี

หน้า (2)

โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติที่รองรับฟังก์ชัน Depth Effect สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือถ่ายภาพ Portrait (รูปหยดน้ำด้านบน), ถ่ายภาพสีจัด, AI Beauty 2.1 ปรับค่าความสวยเนียนแบบ AI อัตโนมัติ และแบบกำหนดเอง, HDR สำหรับถ่ายภาพย้อนแสง, แฟลช LED, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, อัตราส่วนภาพถ่าย และฟิลเตอร์สีต่างๆ

หน้า (3)

สำหรับ AI Beauty 2.1 ที่แบบกำหนดเองมีโหมดให้เลือกปรับอีก 6 แบบ ได้แก่ ปรับค่าผิวเนียน, ปรับใบหน้าเรียว, ปรับใบหน้าให้เล็กลง, ลดกราม, เพิ่มตาโต และปรับสันจมูกให้เล็กลง, มีโหมด Sticker ที่ช่วยเพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่ายสามารถจับโฟกัสใบหน้าได้ไว และถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง

หลัง (1)

ลำดับถัดไปเรามาชมโหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดยกล้องหลังของ OPPO F9 มีความละเอียด 16MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4 พร้อม LED flash เริ่มกันที่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse, โหมดถ่ายภาพ Slow-Motion, บันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD และสูงสุด Full HD ที่รองรับโหมด Beauty 2.1, ไฟแฟลช LED, ถ่ายสีจัด และฟิลเตอร์สี

หลัง (2)

โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติที่รองรับฟังก์ชัน Depth Effect สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือถ่ายภาพ Portrait (รูปหยดน้ำด้านบน), ถ่ายภาพสีจัด, AI Beauty 2.1 ปรับค่าความสวยเนียนแบบ AI อัตโนมัติ และแบบกำหนดเอง, HDR สำหรับถ่ายภาพย้อนแสง, แฟลช LED, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, อัตราส่วนภาพถ่าย และฟิลเตอร์สีต่างๆ

หลัง (3)

โหมดถ่ายภาพบุคคลเป็นการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่มีเอฟเฟกต์แสงให้เลือกถึง 5 เอฟเฟกต์ ไม่ว่าจะเป็น แสงธรรมชาติ : ให้สีที่เป็นธรรมชาติ มีเอฟเอฟเฟกต์หน้าชัด-หลังเบลอ, แสงแบบภาพยนตร์ : ปรับแต่งสีแบบนวลๆ คล้ายกับฟิล์มเก่า มีความเบลอที่พื้นหลัง, แสงสีเดียว : ฟิลเตอร์โทนสีเทา และแบบสีขาว-ดำ, แสงเค้าโครง : มีแสงเปร่งประกาย และแสงแบบสองสี : มีแสงแบบสองสีสาดบนใบหน้าและตัวบุคคลแบบมีมิติด้วยสีฟ้าและสีแดง รวมถึงมีโหมด Sticker ช่วยเพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่ายเช่นเดียวกับกล้องหน้าค่ะ

หลัง (4)

ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง และโหมดผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ OPPO F9 กันเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก OPPO F9 

IMG20190127163248
IMG20190125182238
IMG20190127163514
IMG20190127164719
IMG20190125182252
IMG20190127163729
IMG20190123133746
IMG20190123134226
IMG20190123134249
IMG20190123134327
IMG20190123134544
IMG20190123134851
IMG20190123134940
IMG20190123135008
IMG20190123135048
IMG20190123135128
IMG20190123135247
IMG20190123140046
IMG20190123142549
IMG20190121204912
IMG20190120103156
IMG20190120103459

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก OPPO F9 

สำหรับกล้องหน้าของ OPPO F9 มีความละเอียด 25MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียนอัจฉริยะ AI Beauty 2.1 ซึ่งการปรับแต่งสีผิวนั้นแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ปรับแบบ Auto คือให้กล้อง AI ประมวลผลให้เราเลย และถ่ายภาพ Beauty 2.1 แบบกำหนดเองตามใจชอบ

โดยมีให้เลือกปรับทั้งหมด 6 อย่าง ได้แก่ ค่าผิวเนียน, ใบหน้าเรียวขึ้น, ใบหน้าเล็กลง, กราม, ตาโต และจมูกเล็กลง ซึ่งจากภาพตัวอย่างเลือกปรับทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 30 ค่ะ นอกจากนี้กล้องเซลฟี่ของ OPPO F9 ยังรองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ให้ภาพฉากหลังละลายนวลตา, ภาพสีจัดคมชัดทุกอณูสี และฟิลเตอร์สีต่างๆ อีกด้วย

ด้านผลลัพธ์ที่ได้กล้องเซลฟี่มีความคมชัดดี ระบบ AI Beauty 2.1 มีความชาญฉลาดเป็นตัวช่วยที่ดีในการถ่ายภาพเซลฟี่ ทำให้ได้ภาพที่สวยงามทันใจ ระบบโฟกัสจับจุดได้ไว เห็นรายระเอียดเส้นผมและเสื้อผ้าคมชัด ภาพถ่ายโหมด Sticker จับใบหน้าได้หลายคน ต้องบอกเลยว่าเพื่อนๆ ที่รักในการเซลฟี่ไม่ควรมองข้ามสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยค่ะ เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลย

ปกติ+AI+ปรับ

ถ่ายภาพปกติ > ถ่ายภาพ Beauty 2.1 ด้วยระบบ AI แบบ Auto พร้อมเปิดใช้งานหน้าชัดหลังเบลอ > ถ่ายภาพ Beauty 2.1 แบบกำหนดเอง

Sticker

โหมดถ่ายภาพ Sticker

จุดเด่น

  • OPPO F9 ราคาจำหน่าย 10,990 บาท มีให้เลือกมากถึง 4 สี ได้แก่ สีแดง (Sunrise Red), สีน้ำเงิน (Twilight Blue), สีม่วง (Starry Purple) และสีเขียว (Jade Green)
  • หน้าจอไร้ขอบมีขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+) มีรอยบากทรงหยดน้ำ จอแสดงผลมีสัดส่วนพื้นที่แสดงผลมากถึง 90.8%
  • ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Helio P60 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz มีหน่วยความจำแรม 6GB คู่ความจุ 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
  • แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge มีระบบ AI ช่วยจัดสรรพลังงานในเครื่องให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ
  • ตัวเครื่องดีไซน์ Unibody ฝาหลังพ่นสีไล่เฉด และลวดลายกลีบดอกไม้บนฝาหลังสุดงาม มีการเปลี่ยนสีได้ตามมุมแสงที่ตกกระทบ ให้มิติมุมมองสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร
  • รองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ, การโคลนแอปฯ, โคลนโทรศัพท์ และอื่นๆ อีกมากมาย
  • กล้องหน้าเซลฟี่ 25MP ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม AI Beauty 2.1 เซ็นเซอร์ HDR ถ่ายภาพออกมาได้สวยเนียนทันใจดูเป็นธรรมชาติ มีโหมดบิวตี้ให้เลือกปรับได้อย่างหลากหลาย
  • กล้องหลังเลนส์คู่ 16MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4 พร้อม LED Flash, Bokeh, ปรับแต่งแสงเทคนิคแบบ 3D, ระบบกันสั่น EIS ถ่ายภาพคมชัด โฟกัสไว
  • รองรับระบบ Face ID ปลดล็อกด้วยใบหน้า และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว มีความแม่นยำ
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.2
  • สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
  • เอาใจคอเกมด้วยฟังก์ชัน Game Space สามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเกมสุดโปรด อาทิ ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล

DSCF2349

ข้อสังเกต

  • ยังมีบางแอปฯ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำค้าง (Dewdrop Screen) ในอัตราส่วน 19.5:9 ได้ค่ะ
  • ด้านหลังตัวเครื่องเป็นวัสดุมันวาว หากไม่สวมใส่เคสอาจเกิดคราบรอยนิ้วมือหรือคราบเปื้อนอื่นๆ ได้ง่าย
  • ตำแหน่งของลำโพงเสียง อาจส่งผลต่อการใช้งานในแนวนอน
  • ใช้หน้าจอ TFT
  • ความจุ 64GB น่าจะมีรุ่น 128GB ให้เลือกด้วย
  • เมื่อใช้งานกลางแจ้งเป็นระยะเวลานานๆ ตัวเครื่องมีการสะสมความร้อนเล็กน้อย

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Asus ZenFone 5
Samsung Galaxy A8 (2018)
Samsung Galaxy A6+
Pocophone F1
vivo V11
Nokia 7 Plus
Xiaomi Mi A2
Honor 10
Huawei nova 3e
Sony Xperia XZ1

ขอขอบคุณ บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng