รีวิว Realme 2 Pro จอรอยบากทรงหยดน้ำ 6.3 นิ้ว ขุมพลัง Snapdragon 660 AIE แรม 8GB คู่ความจุ 128GB กล้องผสาน AI มีสแกนใบหน้า ในราคาเข้าถึงได้!!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ หากพูดถึง Realme ถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่มาแรงที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีผู้ก่อตั้งเคยเป็นหนึ่งในทีมบริหารของ OPPO ซึ่งหลังจากที่เราได้รีวิว Realme C1 สมาร์ทโฟนน้องเล็กสเปคคุ้ม ดีไซน์ทันสมัย ราคาถูก ให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้แล้ว (คลิกชมรีวิว)
วันนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งรุ่นที่กำลังมาแรงเช่นเดียวกัน “Realme 2 Pro“ สมาร์ทโฟนดีไซน์สวย สเปคแรง ราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ง่าย ภายใต้สโลแกน “Power Meet Style – ที่สุดของพลัง ที่สุดของสไตล์” เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมีสไตล์ และสมาร์ทโฟนสเปคที่แรงไปพร้อมๆ กันค่ะ
Realme 2 Pro มาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 4GB + 64GB ราคา 6,590 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Black Sea), สีฟ้า (Ice Lake) โดยวางจำหน่ายแบบ Flash Sale ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บ Lazada
และรุ่น 8GB + 128GB ราคา 8,990 บาท มีให้เลือก 1 สี ได้แก่ สีดำ (Black Sea) โดยวางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะที่ร้าน True Shop เท่านั้น (สาขาที่มีวางจำหน่าย) พร้อมมีโปรโมชั่นราคาพิเศษเหลือเพียง 4,990 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจรายเดือน 4G+ FUN Unlimited 699 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,500 บาท (ระยะสัญญา 12 เดือน) อีกด้วย
Realme 2 Pro มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังเคลือบด้วยลามิเนต 15 ชั้น ตัวเครื่องจับได้กระชับมือมีสัมผัสที่เรียบลื่น ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยจอไร้ขอบขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 มีรอยบากทรงหยดน้ำตามสมัยนิยมที่ซ่อนกล้องเซลฟี่และเซ็นเซอร์ต่างๆ อย่างปราณีต
จอคมชัดระดับ Full HD+ สามารถรับชมคอนเท้นท์ได้อย่างเต็มอรรถรส สัดส่วนพื้นที่แสดงผลมากถึง 90.8% ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 660 AIE และแบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh พร้อมระบบ AI Power ช่วยจัดการพลังงานในตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ ColorOS 5.2 บนพื้นฐาน Android 8.1 Oreo
ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP พร้อม AI Beauty เทคโนโลยีจดจำใบหน้าด้วย 296 จุด ส่วนด้านหลังติดตั้งกล้องเลนส์คู่มีความละเอียด 16MP + 2MP ใช้เลนส์ 6P เซ็นเซอร์ Sony IMX398 รูรับแสงกว้าง f/1.7 รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot, การโคลนแอปฯ, การใช้งาน 2 หน้าจอ ทั้งยังมีฟังก์ชัน Game Space ให้ใช้งานอีกด้วย
และสำหรับวันนี้ทาง ninethaiphone จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมรีวิวเจ้า Realme 2 Pro รุ่น 8GB + 128GB เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะซื้อกันค่ะ และหากเพื่อนๆ เห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ทีมงาน และบอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นด้วยนะคะ ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปติดตามกันเลย
ข้อมูลสเปค Realme 2 Pro
Features | Realme 2 Pro |
วันเปิดตัว : | – ตุลาคม 2561 |
ราคา : | – 6,590.- (4GB + 64GB) |
– 8,990.- (8GB + 128GB) | |
– (ณ วันที่ 23 ม.ค. 62) | |
OS : | – Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.2 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.3 นิ้ว | |
– อัตราส่วน 19.5:9 | |
– ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+) | |
– Corning Gorilla Glass 3 | |
– Multitouch | |
CPU : | – Snapdragon 660 AIE แบบ Octa-core ความเร็ว 1.95GHz |
GPU : | – Adreno 512 |
RAM : | – 4GB |
– 8GB | |
ROM : | – 64GB |
– 128GB | |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 16MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.7 และ f/2.4 | |
– LED flash | |
– PDAF | |
– HDR | |
– panorama | |
– AR sticker | |
– AI Beauty 2.0 | |
กล้องหน้า : | – 16MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– AI Beauty 2.0 | |
Video : | – 2160p@30fps, 1080p@30fps |
Battery : | – 3500 mAh |
ขนาด : | – 156.7×74.0×8.5 มม. |
น้ำหนัก : | – 174 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900MHz |
– 3G : WCDMA 850/900/2100MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 а/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz |
– Bluetooth 5.0 | |
– microUSB 2.0 | |
– OTG | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– GLONASS | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Accelerometer | |
– Gyro | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Light sensor | |
– Gravity | |
สี : | – ดำ (Black Sea) สำหรับรุ่น 4GB + 64GB, 8GB + 128GB |
– ฟ้า (Ice Lake) สำหรับรุ่น 4GB + 64GB |
แกะกล่อง Realme 2 Pro
Realme 2 Pro บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาวแดง หน้ากล่องระบุชื่อรุ่นและชื่อแบรนด์ไว้เด่นชัด
ด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์มีรายละเอียดสเปคเด่นแบบคร่าวๆ ระบุเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ, ความละเอียดกล้องหลังและกล้องหน้า, ขนาด, น้ำหนัก, และความจุในตัวเครื่อง เป็นต้น
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– Realme 2 Pro ตัวเครื่องสีดำ รุ่น 8GB + 128GB
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ (5V2A)
– สาย micro USB
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– ใบรับประกันสินค้า
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejection pin)
– ฟิล์มกันรอยแบบใส (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสกันรอย
สำหรับ Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Realme 2 Pro มีโลโก้แบรนด์ OPPO สกรีนไว้ด้วยค่ะ
ทำความรู้จัก Realme 2 Pro
ด้านหน้า Realme 2 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+) มีสัดส่วนพื้นที่แสดงผลมากถึง 90.8% ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
โดยหน้าจอมีขนาดกว้างเต็มตา ระบบทัชสกรีนลื่นไหลดีเยี่ยม ใช้งานได้ครบทุกอรรถรสไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกม และมีคุณภาพเสียงดีกว่าที่เคยด้วย Smart PA
ด้านหน้าส่วนบน เพิ่มความสวยงามสะดุดตาด้วยดีไซน์รอยบากทรงหยดน้ำค้าง (Dewdrop Screen) ที่ซ่อนกล้องหน้า, เซ็นเซอร์ตรวจจับแสง และเซ็นเซอร์วัดระยะไว้ได้อย่างปราณีต ขณะที่ฟิล์มกันรอยนั้นเป็นแบบใสติดมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่มีความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0
พร้อมรองรับ AI Beauty 2.0 ที่เป็นระบบปฏิบัติการของกล้องซึ่งจะวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งอายุ เพศ และผิวพรรณเป็นรายบุคคล เพื่อปรับแต่งภาพให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติแบบ 360 องศา และดูดีตามแบบฉบับของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังรองรับระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกตัวเครื่องโดยเป็นเทคโนโลยีจดจำใบหน้าถึง 296 จุดอีกด้วย
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ส่วนขอบด้านล่างมีการเว้นว่างไว้พอประมาณ แต่จะไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ
ด้านหลัง ตัวเครื่องรูปลักษณ์สวยงาม เสริมความแวววาวโดดเด่นของฝาหลังโดยการเคลือบด้วยลามิเนต 15 ชั้น เพื่อให้ตัวเครื่องจับได้กระชับมือ มีสัมผัสที่เรียบลื่น ได้ความงดงามที่ต่างกันในแต่ละมุมเมื่อแสงมาตกกระทบ โดยขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 156.7×74.0×8.5 มม. และมีน้ำหนัก 174 กรัม ส่วนมุมซ้ายบนติดตั้งกล้องหลังเลนส์คู่พร้อม LED flash ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือทรงกลม และมีโลโก้แบรนด์ Realme ที่ด้านล่าง
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.7 และ f/2.4 พร้อม LED flash ใช้เลนส์ 6P เซ็นเซอร์ Sony IMX398 รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps มีโหมด Portrait ที่มีเอฟเฟกต์แสงให้เลือกถึง 5 เอฟเฟกต์ รวมถึงมีระบบ AI, AR และตัวเลือกอีกมากมายให้ใช้งาน โดยมีกรอบสแตนเลสสีเงินล้อมรอบเลนส์กล้องคู่ค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง มีแค่เพียงโลโก้แบรนด์ Realme สกรีนสีเงินสะท้อนแสงเท่านั้น
ด้านบนตัวเครื่อง มีรูไมโครโฟนเพียง 1 จุด
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบพอร์ต micro USB, รูไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง
โดยช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่เหนือปุ่มปรับระดับเสียงค่ะ
Realme 2 Pro รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot โดยรองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว โดยไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ รูปแบบจำนวน 3 ช่อง คือ SIM + SIM + microSD Card
ด้านขวาตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่อง
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่องค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Realme 2 Pro ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 660 AIE แบบ Octa-core ความเร็ว 1.95GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 512 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Color OS 5.2 บนพื้นฐาน Android 8.1 Oreo เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 122322 คะแนน ซึ่งมากกว่าคะแนนรวมของ Realme C1 ที่เราได้รีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Realme 2 Pro ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล RMX1807 ภายใต้แบรนด์ OPPO, รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 660, GPU Adreno 512, หน้าจอ 6.29 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล, กล้องหลัง 16MP + 2MP, กล้องหน้า 16MP, แบตเตอรี่ 3500 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 4698MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 99.79GB เป็นต้น
เมื่อนำเครื่อง Realme 2 Pro มาทดสอบเล่นเกม PUBG MOBILE โดยปรับความละเอียดและเฟรมเรทอยู่ที่ระดับปานกลาง พบว่าตัวเครื่องเล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่มีติดขัด หรืออาการกระตุก หน้าจอใหญ่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น
รวมถึงมีตัวช่วยระหว่างเล่นเกมด้วยฟังก์ชัน Game Space มีการเร่งความเร็วกราฟิก ปรับแต่งเกมให้ราบรื่น และปิดกั้นการรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายเรียกเข้าหรือข้อความ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมดียิ่งกว่าที่เคย
ส่วนการใช้งาน YouTube บนหน้าจอมีแถบการใช้งานที่เรียกว่า Smart Side Bar ซ่อนอยู่ด้านซ้ายของจอแสดงผล ได้แก่ การแจ้งเตือนข้อความ, การกดบันทึกหน้าจอ, การแคปภาพหน้าจอ และการปิดแจ้งเตือนต่างๆ
โดยภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอ แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้ค่ะ
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้นค่ะ
หลังปลดล็อกหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครันจัดวางเป็นระเบียบไม่รกหน้าจอ
รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Google Assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัวของเรา มีความสามารถในการตอบรับ โต้ตอบกลับ และเข้าถึงการทำงานต่างๆ บนเครื่องสมาร์ทโฟนอย่างรวดเร็ว
เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick settings และเมนูแถบแจ้งเตือนสามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
และหากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือลบได้เลย
ศูนย์รวมแอปฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, Google Chrome, Gmail, Play Music หรือ YouTube เป็นต้น และเพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Google Play นอกจากนี้ยังมีเบราว์เซอร์ Opera ให้ใช้งานอีกด้วย
โหมดเครื่องมือการใช้งานมีมาให้แบบครบครัน เริ่มต้นที่ เครื่องบันทึกเสียง
เข็มทิศ, เครื่องคิดเลข
สมุดโน้ตที่รองรับทั้งการพิมพ์ตัวอักษรและการวาดเขียนค่ะ
ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก
แอปฯ วัดสภาพอากาศ และการโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน,ไฟล์ในตัวเครื่อง และการอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
สำหรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ เป็นตัวช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย
Game Space ตัวช่วยดีๆ สำหรับคอเกม โดยสามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเกมสุดโปรด
อาทิ ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น
เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
เมนูการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง
Realme 2 Pro สามารถปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดการปกป้องในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้ค่ะ
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ Realme 2 Pro รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง และมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า ซึ่งก่อนที่จะลงทะเบียนต้องตั้งค่ารหัสผ่านเป็นตัวเลขหรือรูปแบบก่อน และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลงทะเบียนระบบการจดจำด้วยใบหน้า ควรถือเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากใบหน้าราว 20-50 ซม. และควรหลีกเลี่ยงการบันทึกใบหน้าในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป
มีตัวช่วยด้านความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด อาทิ ปุ่มการนำทาง : นำทางด้วยปุ่มเสมือน หรือลากนิ้วขึ้น, ผู้ช่วยขับรถ : การเชื่อมต่อ Bluetooth ในรถแบบอัตโนมัติ, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ระหว่างขับรถ, ลูกบอลช่วยเหลือ : ลักษณะจะคล้ายกับปุ่ม Assistive Touch ของ iPhone ใช้งานด้วยการแตะ ยกตัวอย่างเช่น แตะ 1 ครั้ง เพื่อย้อนกลับ หรือแตะค้างเพื่อไปยังหน้าจอหลัก เป็นต้น
รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่างๆ
รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ
สามารถปรับตั้งค่าธีมและวอลเปเปอร์รวมถึงผังตำแหน่งของแอปฯ บนหน้าจอได้เอง
สำหรับการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen สามารถเข้าถึงได้หลากหลายวิธี อาทิ การลาก 3 นิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเปิดการใช้งาน หรือการกดค้างไปที่ปุ่ม Recent Apps เพื่อเข้าสู่โหมดแบ่งหน้าจอในแอปฯ ที่รองรับ เป็นต้น
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ และล็อคแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ เพื่อเข้าถึงอย่างรวดเร็วและสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen
นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายโอนไฟล์ภาพและไฟล์วิดีโอได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเสียบสาย USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ และปิด-เปิดเครื่องด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานกล้องหน้าของ Realme 2 Pro กันเลยค่ะ โดยกล้องเซลฟี่มีความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อม AI Beauty ทำให้ภาพถ่ายสวยงามแบบ 360 องศา และดูเป็นธรรมชาติตามแบบฉบับของผู้ใช้งานแต่ละคน
เราไปดูโหมดการใช้งานกล้องหน้าทั้งหมดของ Realme 2 Pro กันเลยค่ะ ได้แก่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse นั่นเอง >> โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD ที่รองรับการเปิดใช้งาน AI Beauty และฟิลเตอร์สี >> ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ หรือฟังก์ชัน Depth Effect (รูปหยดน้ำด้านบน), AI Beauty, ฟิลเตอร์สี, ไฟแฟลช LED, HDR, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ และอัตราส่วนภาพถ่าย
สำหรับ AI Beauty สามารถปรับค่าความสวยเนียนได้ในพริบตาแบบ Auto ด้วยระบบ AI และเลือกปรับค่าได้ถึง 6 ระดับ >> โหมด Sticker ที่ช่วยเพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่ายด้วย >> และโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง
ลำดับถัดไปเรามาชมโหมดถ่ายภาพของกล้องหลังของ Realme 2 Pro กันต่อเลยค่ะ โดยด้านหลังติดตั้งกล้องเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.7 ใช้เลนส์ 6P เซ็นเซอร์ Sony IMX398 พร้อม LED flash เริ่มกันที่โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse >> โหมดบันทึกวิดีโอแบบ Slo-Motion >> โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD (720p@30fps), Full HD (1080p@30fps) และสูงสุด 4K (4K@30fps) ที่รองรับโหมด Beauty, ไฟแฟลช LED และฟิลเตอร์สี
โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการถ่ายภาพ HDR, AI Beauty, เปิดแฟลช LED, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, อัตราส่วนภาพถ่าย และฟิลเตอร์สีต่างๆ แต่จะไม่รองรับฟังก์ชัน Depth Effect เหมือนกับกล้องหน้า ซึ่งจะแยกออกมาเป็นโหมด Portrait ถ่ายภาพบุคคลหรือรูปคนแทนค่ะ
โดยเป็นการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง ที่มีเอฟเฟกต์แสงให้เลือกถึง 5 เอฟเฟกต์ ไม่ว่าจะเป็น แสงธรรมชาติ : ให้สีที่เป็นธรรมชาติ มีเอฟเอฟเฟกต์หน้าชัด-หลังเบลอ, แสงแบบภาพยนตร์ : ปรับแต่งสีแบบนวลๆ คล้ายกับฟิล์มเก่า มีความเบลอที่พื้นหลัง, แสงสีเดียว : ฟิลเตอร์โทนสีเทา และแบบสีขาว-ดำ, แสงเค้าโครง : มีแสงเปร่งประกาย และแสงแบบสองสี : มีแสงแบบสองสีสาดบนใบหน้าและตัวบุคคลแบบมีมิติ
มีโหมด Sticker ช่วยเพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่าย และโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้างเช่นเดียวกับกล้องหน้า และยังมีโหมดผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Realme 2 Pro กันเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Realme 2 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Realme 2 Pro
สำหรับกล้องหน้าของ Realme 2 Pro มีความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียนทันใจด้วย AI Beauty 2.0 ซึ่งการปรับแต่งสีผิวนั้นแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ปรับแบบ Auto คือให้กล้อง AI ประมวลผลให้เราเลย จากนั้นค่อยมาปรับระดับความเนียนของผิวตามใจชอบ และแบบปรับระดับของ AI Beauty ด้วยตนเอง ที่สามารถปรับได้เองทั้งหมด 6 ระดับ
ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าเซลฟี่ออกมาได้สวยงามรายละเอียดคมชัด ระบบมีความชาญฉลาด ปรับแต่งออกมาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนตัวแล้วชอบการปรับที่ระดับ 3 ใบหน้าเนียน ลดรอยคล้ำรอบดวงตา ภาพถ่ายเป็นธรรมชาติ เห็นรายระเอียดเส้นผมและเสื้อผ้าคมชัด ระบบโฟกัสทำงานได้ดี ภาพถ่ายโหมด Sticker จับใบหน้าได้หลายคน รวมๆ แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยค่ะ เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลยค่ะ
ถ่ายภาพปกติ > ถ่ายภาพ Beauty 2.0 ด้วยระบบ AI แบบ Auto > ปรับ Beauty 2.0 ระดับ 1 ตามลำดับ
ปรับ Beauty 2.0 ระดับ 3 > ระดับ 6 > โหมดถ่ายภาพ Sticker
จุดเด่น
- Realme 2 Pro มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 4GB + 64GB และรุ่น 8GB + 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
- หน้าจอขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+) เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่นบาท มาพร้อมรอยบากทรงหยดน้ำค้างที่ซ่อนกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ ไว้อย่างปราณีต ซึ่งจอแสดงผลมีสัดส่วนพื้นที่แสดงผลมากถึง 90.8%
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.2
- สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
- ดีไซน์พรีเมียมรูปลักษณ์สวยงาม ฝาหลังใช้วัสดุเคลือบด้วยลามิเนต 15 ชั้น ตัวเครื่องจับได้กระชับมือ
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว และระบบสแกนใบหน้าที่ฉับไว
- กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.7 และ f/2.4 พร้อม LED flash ใช้เลนส์ 6P เซ็นเซอร์ Sony IMX398 รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps มีโหมด Portrait ที่มีเอฟเฟกต์แสงให้เลือกถึง 5 เอฟเฟกต์ รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อม AI Beauty อันชาญฉลาด ทำให้ภาพถ่ายสวยงามแบบ 360 องศา และดูเป็นธรรมชาติตามแบบฉบับของผู้ใช้งานแต่ละคน
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานข้ามวัน โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh และมีระบบ AI ช่วยจัดสรรพลังงานในเครื่องให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ และเมื่อทดลองใช้งานแบตเตอรี่ใน 1 วัน จาก 100% ลดเหลือราว 60% ถือว่าทำออกมาได้ดีค่ะ
- รองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ, การโคลนแอปฯ, โคลนโทรศัพท์ และอื่นๆ อีกมากมาย
- เอาใจคอเกมด้วยฟังก์ชัน Game Space สามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเกมสุดโปรด อาทิ ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น
- เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 660 AIE ในราคาเหมาะสมมากที่สุด โดยมีราคาเพียง 6,590 บาท (4GB + 64GB) และ 8,990 บาท (8GB + 128GB) รวมถึงมีการจัดโปรโมชั่นกับ TrueMove H และโปรโมชั่น Flash Sale กับ Lazada ในราคาคุ้มๆ อีกด้วย
- ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Black Sea) และสีฟ้า (Ice Lake) โดยรุ่น 4GB + 64GB มีให้เลือกครบทั้ง 2 สี ขณะที่รุ่น 8GB + 128GB มีให้เลือกเพียงสีดำเท่านั้น
- หากมองในภาพรวมทั้งหมดแล้วพบว่า Realme 2 Pro แทบจะเป็นระดับ Flagship เลยก็ว่าได้ โดยมีสเปคการใช้งานที่ดีเยี่ยมและดีไซน์ทันสมัยจัดเต็มรอบด้าน แต่มีราคาที่ผู้ใช้งานสามารถจับต้องได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนมีสไตล์และราคาไม่แพงค่ะ
ข้อสังเกต
- ยังมีบางแอปฯ ที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับหน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำค้าง (Dewdrop Screen) ในอัตราส่วน 19.5:9 ได้ค่ะ
- ด้านหลังตัวเครื่องเป็นวัสดุมันวาว หากไม่สวมใส่เคสอาจเกิดคราบรอยนิ้วมือหรือคราบเปื้อนอื่นๆ ได้ง่าย
- เมื่อใช้งานกลางแจ้งเป็นระยะเวลานานๆ ตัวเครื่องมีการสะสมความร้อน
- Realme 2 Pro วางจำหน่ายเฉพาะที่ True Shop สำหรับรุ่น 8GB + 128GB และ Lazada สำหรับรุ่น 4GB + 64GB
- รุ่น 8GB + 128GB มีให้เลือกเพียงสีดำเท่านั้น
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– OPPO A3s
– Samsung Galaxy J6+
– OPPO A7
– Huawei Y9 2019
– Asus ZenFone Max Pro (M2)
– Xiaomi Mi 8 Lite
– Honor 8X
– Huawei nova 3i
– Wiko View 2 Pro
– Honor Play
– vivo V11i
– Xiaomi Mi A2
ขอขอบคุณ บริษัท Realme Thailand
Leave a Reply