Pocophone F1 โปโกโฟน เอฟ1 ราคา
Pocophone F1 ราคา 10,990 บาท (64GB), 12,990 บาท (128GB) (ณ วันที่ 3 ธ.ค. 62)
Pocophone F1 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ 1.สีเทา 2.สีน้ำเงิน
สเปคเครื่อง Pocophone F1
Features | Pocophone F1 |
วันเปิดตัว : | – สิงหาคม 2561 |
ราคา : | – 10,990.- (64GB) |
– 12,990.- (128GB) | |
– (ณ วันที่ 3 ธ.ค. 62) | |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 8.1 Oreo ครอบทับ MIUI 9.6 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.18 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2246×1080 พิกเซล | |
– Corning Gorilla Glass | |
– Multitouch | |
CPU : | – Snapdragon 845 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.8GHz |
GPU : | – Adreno 630 |
RAM : | – 6GB |
ROM : | – 64GB |
– 128GB | |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP + 5MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 และ f/2.0 ตามลำดับ | |
– LED flash | |
– dual pixel autofocus | |
– กันสั่น EIS | |
– HDR | |
– AI Beautify | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 20MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– HDR | |
– portrait | |
Video : | – 4K@30fps, 1080@30fps, 720p@30fps |
Battery : | – 4000 mAh สนับสนุน Quick Charge 3.0 |
ขนาด : | – 155.5×75.2×8.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 182 กรัม |
รองรับซิม : | – Hybrid Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – WiFi 802.11a/b/g/n/ac |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPRS |
– GPS | |
– AGPS | |
– GLONASS | |
– Beidou | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Face recognition | |
– Face unlock | |
– Proximity | |
– Gyroscope | |
– Accelerometer | |
– Compass | |
– barometer | |
– Hall | |
– Ambient light | |
สี : | – สีเทา (Graphite Black) |
– สีน้ำเงิน (Steel Blue) |
Pocophone F1 สุดยอดแห่งความเร็ว
Pocophone F1 คือฝันที่เป็นจริงสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะ Pocophone F1 มีค่าเฟรมเรตสูง และมาพร้อมความสามารถในการเปิดใช้งานแอปต่างๆ ได้พร้อมกันจำนวนมาก โดยไม่ต้องกลัวว่าการประมวลผลจะช้าลงเพราะเครื่องร้อน เนื่องด้วยศักยภาพของชิปเซ็ต Snapdragon™ 845 SoC อันทรงพลัง จาก Qualcomm®
และเทคโนโลยี LiquidCool ที่ทำให้เครื่องสามารถประมวลผล ด้วยสมรรถนะสูงสุดได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน จากผลการทดสอบโดย Pocophone ชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยีใหม่นี้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องเพิ่มสูงขึ้นกว่าระบบที่ไม่มีการใช้เทคโนโลยี LiquidCool กว่า 300% หรือ 3 เท่า เพราะสามารถช่วยระบายความร้อนจาก CPU ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น Pocophone F1 มีแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง และด้วย RAM LPDDR4x ขนาด 6GB กับหน่วยความจำ UFS 2.1 ขนาดสูงสุด 128GB ที่มีความไวสูงทำให้ Pocophone F1 สามารถทำคะแนน AnTuTu ได้มากกว่า 290,000 คะแนน ได้อย่างง่ายดาย
กล้องคู่ AI กับกล้องหน้า 20 MP ให้คุณถ่ายภาพได้คมชัดเหนือใคร
Pocophone F1 ช่วยให้คุณถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม ด้วยกล้องคู่ AI ซึ่งมีเซนเซอร์หลักคือ Sony IMX363 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลมาพร้อมระบบ Dual Pixel Autofocus ที่ทำให้คุณถ่ายภาพ ได้คมชัดแม้ในสภาพที่มีแสงน้อย พร้อมด้วยเซนเซอร์ตัวรองขนาดความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ช่วยจับความลึก ให้คุณสามารถถ่ายภาพแบบ Bokeh ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่กล้องหน้าใช้เซนเซอร์ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Super Pixel ที่อาศัยการรวมพิกเซลย่อย 4 พิกเซลเข้าเป็น 1 พิกเซลใหญ่ที่มีขนาด 1.8µm เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีรายละเอียดชัดเจน ปราศจาก Noise
โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มาพร้อมโหมด AI ต่างๆ เช่น AI Portrait, AI Beautify และ AI Scene Detection เป็นต้น นอกจากนั้น ตัวเครื่องยังมีเทคโนโลยีปลดล็อคใบหน้าแบบ AI ด้วยกล้องอินฟราเรด และเซนเซอร์อินฟราเรด สามารถตรวจจับใบหน้าของคุณ ได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาพที่มืดสนิท หรือสภาพที่มีแสงจ้าในเวลากลางวัน
MIUI สำหรับ POCO
เพื่อเป็นการปลดปล่อยพลังแห่งสมรรถนะขั้นสูงสุด MIUI ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับ Pocophone F1 ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและลื่นไหลยิ่งขึ้น Pocophone F1 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบให้ดียิ่งขึ้น ที่เรียกว่า “turbocharged engine”
ซึ่งทำให้สามารถเปิดแอปต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เล่นเกมได้ไวขึ้น และใช้งานสลับจอไปมาได้แบบไม่มีสะดุด ด้วยระบบตอบสนองของหน้าจอและค่าเฟรมเรตที่ได้รับการพัฒนามาแบบเต็มพิกัด
Pocophone F1 ใช้ POCO Launcher ตัวใหม่ล่าสุดทำให้มี App Drawer ที่ช่วยจัดกลุ่มแอปให้ผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ ให้คุณสามารถค้นหาแอปต่างๆ ได้อย่างง่ายดายMIUI สำหรับ POCO ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานเป็นลำดับต้นๆ ทำให้มีการอัปเดตความปลอดภัยจาก Google อย่างสม่ำเสมอ และจะได้รับการอัปเดตเป็น Android P ในอนาคตอันใกล้นี้
Leave a Reply