เปรียบเทียบ Huawei P20 และ iPhone 8 กล้องคู่ปะทะกล้องเดี่ยว รุ่นไหนน่าสนใจ ไปดูกันเลย!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับครั้งนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเปรียบเทียบสเปคการใช้งานของ Huawei P20 และ iPhone 8 สมาร์ทโฟนระดับเรือธงต่างค่ายกันแบบชัดๆ ซึ่งหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังเล็งๆ สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้อยู่นั่นเอง สำหรับ Huawei P20 และ iPhone 8 เมื่อดูดีไซน์ภายนอกแล้วพบว่ามีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย
เริ่มที่ Huawei P20 มีดีไซน์หน้าจอรอยบากด้านบน มีปุ่มโฮมฝังสแกนลายนิ้วมือที่ขอบด้านล่าง ด้านหลังติดตั้งกล้องเลนส์คู่จาก Leica ขณะที่ iPhone 8 ใช้หน้าจอ LCD ที่ดูคุ้นตา เหลือขอบบนและล่างไว้พอสมควร สแกนลายนิ้วมือฝังไว้ใต้ปุ่มโฮมด้านหน้า และด้านหลังติดตั้งกล้องเลนส์เดี่ยว ส่วนสเปคการใช้งานจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เราไปชมกันเลยค่ะ
เปรียบเทียบสเปคการใช้งาน Huawei P20 และ iPhone 8
Features | Huawei P20 | iPhone 8 |
วันเปิดตัว : | – เมษายน 2561 | – กันยายน 2560 |
ราคา : | – 19,990.- (128GB) | – 28,500.- (64GB) |
– | – 34,500.- (256GB) | |
OS : | – Android 8.1 Oreo ครอบทับ EMUI 8.1 | – iOS 11 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ LCD | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 5.8 นิ้ว | – ขนาด 4.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2244×1080 พิกเซล (Full HD+) | – ความละเอียด 1334×750 พิกเซล | |
– Multitouch | – Multitouch | |
– | – แสดงผลแบบ True Tone | |
– | – รองรับ 3D Touch | |
CPU : | – Kirin 970 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.36GHz | – Apple A11 Bionic แบบ Hexa-core |
GPU : | – Mali-G72 MP12 | – Apple GPU |
RAM : | – 4GB | – 2GB |
ROM : | – 128GB | – 64GB |
– | – 256GB | |
– ไม่รองรับ microSD Card | – ไม่รองรับ microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 12MP (RGB) + 20MP (Monochrome) เลนส์ Leica | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/1.6 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
– dual LED flash | – Quad LED flash | |
– 2x lossless zoom | – Dual OIS กันสั่นคู่ | |
– 4D Predictive Focus | – ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า | |
– PDAF | – PDAF | |
– Geo-tagging | – Geo-tagging | |
– touch focus | – touch focus | |
– Portraits | – Focus Pixels | |
– face/smile detection | – face/smile detection | |
– HDR | – HDR | |
– panorama | – panorama | |
กล้องหน้า : | – 24MP | – 7MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– | – Retina Flash | |
Video : | – 2160p@30fps, 1080p@30/60fps, 720p@960fps | – 2160p@24/30/60fps, 1080p@30/60/120/240fps |
Battery : | – 3400 mAh | – 1821 mAh |
ขนาด : | – 149.1×70.8×7.65 มม. | – 138.4×67.3×7.3 มม. |
น้ำหนัก : | – 165 กรัม | – 148 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano SIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP53 | – IP67 |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz | – 2G : GSM 850/900 /1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz | – 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | – 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) |
– Bluetooth 4.2 | – Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | – USB 2.0 | |
– NFC | – NFC | |
– 3.5mm jack | – Lightning | |
– Infrared port | – Apple Pay | |
– Fast charging | – Fast charging | |
– | – Wireless charging | |
– | – Siri | |
GPS : | – GPRS | – GPRS |
– A-GPS | – A-GPS | |
– GLONASS | – GLONASS | |
– BeiDou | – BeiDou | |
Sensor : | – Fingerprint | – Fingerprint |
– Face Unlock | – Barometer | |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Proximity | – Proximity | |
– Gyro | – Gyro | |
– Compass | – Compass | |
สี : | – ดำ (Black) | – เงิน |
– มิดไนท์บลู (Midnight Blue) | – เทาสเปซเกรย์ | |
– พิงค์โกลด์ (Pink Gold) | – ทอง | |
– | – แดง |
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเปรียบเทียบสเปคการใช้งานของ Huawei P20 และ iPhone 8 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเมื่อดูจากสเปคการใช้งานข้างต้นแล้วพบว่า Huawei P20 มีราคาอยู่ที่ 19,990 บาท และมีให้เลือกเพียงความจุเดียวคือ 128GB พร้อมจุดเด่น ได้แก่ หน้าจอขนาด ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Kirin 970 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.36GHz มีหน่วยความจำแรม 4GB จับคู่ความจุ 128GB ติดตั้งกล้องหลังเลนส์คู่จาก Leica ความละเอียด 12MP (RGB) + 20MP (Monochrome) ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/1.6 ขณะที่กล้องเซลฟี่มีความละเอียดสูง 24MP ค่ารูรับแสง f/2.0 แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh พร้อมรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และรองรับฟีเจอร์ Face Unlock
Features | Huawei P20 | iPhone 8 |
ราคา : | – 19,990.- (128GB) | – 28,500.- (64GB) |
– | – 34,500.- (256GB) | |
หน้าจอ : | – ขนาด 5.8 นิ้ว | – ขนาด 4.7 นิ้ว |
– ความละเอียด 2244×1080 พิกเซล (Full HD+) | – ความละเอียด 1334×750 พิกเซล (HD+) | |
CPU : | – Kirin 970 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.36GHz | – Apple A11 Bionic แบบ Hexa-core |
RAM : | – 4GB | – 2GB |
ROM : | – 128GB | – 64GB |
– | – 256GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP (RGB) + 20MP (Monochrome) เลนส์ Leica Optics | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/1.6 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
กล้องหน้า : | – 24MP | – 7MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
Battery : | – 3400 mAh | – 1821 mAh |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano SIM |
ระบบเชื่อมต่อ : | – USB Type-C | – USB 2.0 |
Sensor : | – Face Unlock | – Fingerprint |
ขณะที่ iPhone 8 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 28,500 บาท จุดเด่นที่หน้าจอแสดงผลแบบ True Tone รองรับ 3D Touch มีความจุ 64GB และ 256GB ให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อ ส่วนกล้องหลังรองรับ Quad LED flash, Dual OIS กันสั่นคู่ และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า กล้องหน้ารองรับ Retina Flash บอดี้กันน้ำกันฝุ่น IP67 ตัวเครื่องมีขนาดบางและเบากว่า Huawei P20 รองรับ Bluetooth 5.0, Wireless charging และ Siri
Features | iPhone 8 | Huawei P20 |
หน้าจอ : | – แสดงผลแบบ True Tone | – |
– รองรับ 3D Touch | – Multitouch | |
ROM : | – 64GB | – 128GB |
– 256GB | – | |
กล้องหลัง : | – Quad LED flash | – dual LED flash |
– Dual OIS กันสั่นคู่ | – | |
– ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า | – | |
กล้องหน้า : | – Retina Flash | – |
ขนาด : | – 138.4×67.3×7.3 มม. | – 149.1×70.8×7.65 มม. |
น้ำหนัก : | – 148 กรัม | – 165 กรัม |
ระบบกันน้ำ : | – IP67 | – IP53 |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 4.2 |
– Wireless charging | – | |
– Siri | – |
นอกจากนี้เมื่อดูจากราคาวางจำหน่ายแล้วพบว่า Huawei P20 มีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า iPhone 8 อยู่ที่ราว 8,500 บาท และดูเหมือนว่าสมาร์ทโฟนจากแบรนด์จีนนั้นดูจะคุ้มกว่า ที่มีราคาถูกแถมยังมีความจุสูงกว่ารุ่นเริ่มต้นของ Apple อีกด้วย
อย่างไรก็ดีสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น Huawei P20 รองรับสแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้า ส่วน iPhone 8 นั้นรองรับสแกนลายนิ้วมือ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อนๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบของแบรนด์ไหน หรือรุ่นไหนมากกว่ากัน เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกันค่ะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยจ้า
Leave a Reply