เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S9 และ iPhone 8 เรือธงกล้องเลนส์เดี่ยว รุ่นไหนน่าซื้อ มาดูกัน!!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังสนใจซื้อสมาร์ทโฟนเรือธงต่างค่ายอย่าง Samsung Galaxy S9 และ iPhone 8 แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมเปรียบเทียบสเปคการใช้งานของทั้ง 2 รุ่นกันแบบชัดๆ เบื้องต้น Galaxy S9 มาพร้อมกล้องหลังแบบ Dual Pixel ที่สามารถปรับค่ารูรับแสงได้กว้างถึง f/1.5 ถ่ายได้ดีทุกสภาพแสง
หน้าจอดีไซน์ไร้กรอบไร้ปุ่มแบบ Infinity Display อัตราส่วน 18.5:9 ลำโพงสเตอริโอคู่ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ที่ปรับแต่งโดย AKG ให้เสียงที่ทรงพลังมากถึง 1.4 เท่าเมื่อเทียบกับ Galaxy รุ่นก่อนๆ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 9810 ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP68 รองรับ AR Emoji เปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ของตัวเองเป็นอีโมจิ ทำให้ข้อความดูมีชีวิตชีวาขึ้น และสเปคการใช้งานอื่นๆ ที่ครบเครื่อง
ขณะที่ iPhone 8 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว รองรับ 3D Touch กล้องหลังเลนส์เดี่ยวค่ารูรับแสง f/1.8 พร้อม Dual OIS กันสั่นคู่ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ Hexa-core ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP67 และสเปคการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครัน ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ
เปรียบเทียบสเปคการใช้งาน Samsung Galaxy S9 และ iPhone 8
| Features | iPhone 8 | Samsung Galaxy S9 |
| วันเปิดตัว : | – กันยายน 2560 | – กุมภาพันธ์ 2561 |
| ราคา : | – 28,500.- (64GB) | – 27,900.- (64GB) |
| – 34,500.- (256GB) | – | |
| OS : | – iOS 11 | – Android 8.0 Oreo |
| หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD | – หน้าจอ Super AMOLED |
| – ขนาด 4.7 นิ้ว | – ขนาด 5.8 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 1334×750 พิกเซล | – ความละเอียด 2960×1440 พิกเซล |
|
| – Multitouch | – Multitouch | |
| – รองรับ 3D Touch | – | |
| CPU : | – Apple A11 Bionic แบบ Hexa-core | – Exynos 9810 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.8GHz |
| GPU : | – Apple GPU | – Mali-G72 MP18 |
| RAM : | – 2GB | – 4GB |
| ROM : | – 64GB | – 64GB |
| – 256GB | – |
|
| – ไม่รองรับ microSD Card | – microSD Card สูงสุด 400GB | |
| กล้องหลัง : | – 12MP | – 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.8 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 – f/2.4 | |
| – Quad LED flash | – LED flash | |
| – PDAF | – Dual Pixel PDAF | |
| – Dual OIS กันสั่นคู่ | – OIS | |
| – ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า | – ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 8 เท่า | |
| – Focus Pixels | – Super Slow-mo | |
| – geo-tagging | – Auto/Pro | |
| – touch focus | – Panorama | |
| – face/smile detection | – Hyperlapse | |
| – HDR | – Auto HDR | |
| – panorama | – | |
| กล้องหน้า : | – 7MP | – 8MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.7 | |
| – Retina Flash | – | |
| Video : | – 2160p@24/30/60fps, 1080p@30/60/120/240fps | – 2160p@60fps, 1080p@240fps, 720p@960fps |
| Battery : | – 1821 mAh | – 3000 mAh |
| ขนาด : | – 138.4×67.3×7.3 มม. | – 147.7×68.7×8.5 มม. |
| น้ำหนัก : | – 148 กรัม | – 163 กรัม |
| รองรับซิม : | – Nano SIM | – Dual SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – IP67 | – IP68 |
| ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900 /1800/1900 MHz | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
| – 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | – 3G : HSDPA 850/900/1700 MHz | |
| – 4G LTE | – 4G LTE | |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) |
| – Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 5.0 | |
| – NFC | – NFC | |
| – USB 2.0 | – USB type-C | |
| – Lightning | – 3.5mm jack | |
| – Apple Pay | – ANT+ | |
| – Siri | – Bixby | |
| – Wireless charging | – Wireless charging | |
| – Fast charging | – Fast charging | |
| GPS : | – GPRS | – GPRS |
| – A-GPS | – A-GPS | |
| – GLONASS | – GLONASS | |
| Sensor : | – Fingerprint | – Fingerprint |
| – accelerometer | – Iris sensor | |
| – Gyro | – Accelerometer | |
| – proximity | – Proximity | |
| – compass | – Gyro | |
| – Barometer | – Barometer | |
| สี : | – เงิน | – ดำ (Midnight Black) |
| – เทาสเปซเกรย์ | – ฟ้า (Coral Blue) | |
| – ทอง | – ม่วง (Lilac Purple) | |
| – แดง | – |
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเปรียบเทียบสเปคการใช้งานของ Samsung Galaxy S9 และ iPhone 8 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเมื่อดูจากสเปคการใช้งานข้างต้นแล้ว Galaxy S9 ราคาอยู่ที่ 27,900 บาท ซึ่งมีให้เลือกเพียงความจุเดียวคือ 4GB จุดเด่นได้แก่ หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 9810 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.8GHz แรม 4GB ความจุ 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 400GB กล้องหลังค่ารูรับแสง f/1.5 – f/2.4 รองรับ Dual Pixel PDAF, Auto HDR และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 8 เท่า ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/1.7 บอดี้กันน้ำ IP68 แบตเตอรี่ 3000 mAh รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พอร์ต USB type-C และมีเซ็นเซอร์สแกนม่านตา
| Features | Samsung Galaxy S9 | iPhone 8 |
| ราคา : | – 27,900.- (64GB) | – 28,500.- (64GB) |
| – | – 34,500.- (256GB) | |
| หน้าจอ : | – หน้าจอ Super AMOLED | – หน้าจอ IPS LCD |
| – ขนาด 5.8 นิ้ว | – ขนาด 4.7 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2960×1440 พิกเซล |
– ความละเอียด 1334×750 พิกเซล | |
| CPU : | – Exynos 9810 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.8GHz | – Apple A11 Bionic แบบ Hexa-core |
| RAM : | – 4GB | – 2GB |
| ROM : | – microSD Card สูงสุด 400GB | – ไม่รองรับ microSD Card |
| กล้องหลัง : | – ค่ารูรับแสง f/1.5 – f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 |
| – Dual Pixel PDAF | – PDAF | |
| – ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 8 เท่า | – ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า | |
| – Auto HDR | – HDR | |
| กล้องหน้า : | – 8MP | – 7MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.7 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
| Battery : | – 3000 mAh | – 1821 mAh |
| รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP67 |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – USB type-C | – USB 2.0 |
| Sensor : | – Iris sensor | – Fingerprint |
ส่วน iPhone 8 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 28,500 บาท จุดเด่นที่หน้าจอรองรับฟีเจอร์ 3D Touch มีความจุรุ่น 256GB ให้เลือกซื้อ กล้องหลังมาพร้อมไฟแฟลช Quad LED flash, Dual OIS กันสั่นคู่ กล้องหน้ารองรับ Retina Flash ตัวเครื่องมีขนาดบางและเบากว่า Galaxy S9
| Features | iPhone 8 | Samsung Galaxy S9 |
| หน้าจอ : | – รองรับ 3D Touch | – |
| ROM : | – 256GB | – 64GB |
| กล้องหลัง : | – Quad LED flash | – LED flash |
| – Dual OIS กันสั่นคู่ | – OIS | |
| กล้องหน้า : | – Retina Flash | |
| ขนาด : | – 138.4×67.3×7.3 มม. | – 147.7×68.7×8.5 มม. |
| น้ำหนัก : | – 148 กรัม | – 163 กรัม |
ข้อสังเกตที่เด่นชัดคือ Galaxy S9 และ iPhone 8 มีความแตกต่างกันไม่น้อยเลย อาทิ ชนิดหรือขนาดหน้าจอ, ตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ราคาวางจำหน่าย หรือความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายที่ต่างกันเพียง 600 บาทเท่านั้น และเมื่อดูจากสเปคการใช้งานข้างต้นพบว่า Galaxy S9 มีข้อได้เปรียบในส่วนของราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า และสเปคการใช้งานที่ดีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบส่วนตัวของเพื่อนๆ ด้วย เนื่องจากความชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกันค่ะ
Leave a Reply