ซัมซุง เปิดตัว “Galaxy S9 และ Galaxy S9+” ตอบโจทย์การสื่อสารของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด “กล้องไม่เหมือนใคร ทำอะไรไม่เหมือนเดิม”
• ถ่ายภาพสวยในทุกสภาพแสง ด้วยกล้องรูรับแสงคู่ ปรับได้เองแบบอัตโนมัติ
• เออาร์ อีโมจิ ถ่ายทอดความเป็นคุณในรูปแบบใหม่ ด้วยคาแรคเตอร์ 3 มิติ
• สนุกกับการถ่ายวีดีโอแบบซูเปอร์สโลว์-โม สูงสุด 960 เฟรมต่อวินาที
บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกในงาน “Galaxy Unpacked 2018” ซึ่งมีการเปิดตัว “กาแลคซี่ เอส 9” และ “กาแลคซี่ เอส 9 พลัส” ( (Samsung Galaxy S9 / S9+) สมาร์ทโฟนที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “กล้องไม่เหมือนใคร ทำอะไรไม่เหมือนเดิม” (The Camera. Reimagined.) ให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร
ทั้งการสื่อสาร การแชร์คอนเท้นต์ หรือการสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ โดย Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของซัมซุง โดยเฉพาะเทคโนโลยีกล้องบนสมาร์ทโฟนที่ก้าวล้ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดดเด่นด้วยเลนส์รูรับแสงแบบคู่ที่สามารถปรับได้อัตโนมัติ เสริมศักยภาพการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น
พร้อมยกระดับการสื่อสารให้แสดงความเป็นตัวคุณได้อย่างสนุกสนาน ผ่านคลิปวีดีโอและอีโมจิที่เป็นตัวอาวาตาร์ของคุณเอง รวมถึงฟังก์ชั่นการถ่ายวีดีโอแบบซูเปอร์สโลว์-โม ที่ช่วยเก็บภาพความประทับใจในรูปแบบที่พิเศษมากขึ้นกว่าเดิม สมาร์ทโฟน “Galaxy S9” และ “Galaxy S9+” ช่วยให้คุณมั่นใจว่าจะไม่มีวันพลาดช่วงเวลาสำคัญและเติมเต็มให้ทุกวันของคุณเปี่ยมไปด้วยความยิ่งใหญ่ที่ไม่เหมือนเดิม
“Galaxy S9” และ “Galaxy S9+” มอบอีกระดับของประสบการณ์ความบันเทิงด้วยลำโพงสเตอริโออันทรงพลังที่ปรับจูนเสียงโดยเอเคจี (AKG) ให้เสียงดังกระหึ่มรอบทิศทางด้วยเทคโนโลยีดอลบี้ แอทโมส (Dolby Atmos) ภายใต้รูปลักษณ์เรียบสวยด้วยจอภาพไร้กรอบแบบโค้ง (Immersive Infinity Display) ที่ปรับปรุงใหม่ให้แสดงภาพในมุมมองที่เต็มตายิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนกาแลคซี่รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมสมาร์ทธิงส์ แอพ (SmartThings App) ที่เชื่อมต่อประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือไอโอที (Internet of Things – IOT) ที่ชาญฉลาดของซัมซุง ให้เป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ต่างๆ ภายในบ้าน และจากทุกที่ ทุกเวลา
มร. ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “รูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฟน ของผู้บริโภคปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะการสื่อสารและการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ใช้งานได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เราจึงมุ่งสร้างสรรค์กล้องสมาร์ทโฟนในรูปแบบใหม่สำหรับ Galaxy S9 และ Galaxy S9+
ซึ่งไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ถ่ายภาพและวีดีโอที่ดีที่สุดในทุกสถานที่เท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมสุดล้ำหน้าที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงและครอบครัว รวมทั้งการแสดงออกถึงตัวตนในรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ ตอบรับกับความต้องการด้านการสื่อสารของคนยุคนี้อย่างตรงใจ”
กล้องไม่เหมือนใคร ทำอะไรไม่เหมือนเดิม (Camera Reimagined)
กล้องสมาร์ทโฟนในปัจจุบันเป็นมากกว่าอุปกรณ์เพื่อการถ่ายภาพ แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อและเป็นสื่อกลางเพื่อการสื่อสาร ผู้บริโภคจึงต้องการกล้องสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด คุณภาพดีที่สุด และยังต้องสามารถใช้เป็นเครื่องมือบอกเล่าเรื่องราวของผู้ใช้งานอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเป็นที่มาของการพัฒนากล้องของ Galaxy S9 และ Galaxy S9+
โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก ด้วยเซ็นเซอร์ ซูเปอร์ สปีด ดูอัล พิกเซล (Super Speed Dual Pixel) ใช้ระบบประมวลผลประสิทธิภาพทรงพลังพิเศษ สามารถผนวกรวมภาพได้สูงสุด 12เฟรมในการกดชัทเตอร์เพียงครั้งเดียว ภาพที่ได้จึงมีคุณภาพและความคมชัดสูงสุด
คุณสมบัติอันโดดเด่นของกล้องใน Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ประกอบด้วย:
• กล้องสำหรับสภาพแสงน้อย (Low Light Camera): สภาพแสงที่ดีส่งผลให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงาม แต่บ่อยครั้งที่ต้องถ่ายภาพภายใต้สภาวะที่ไม่เป็นใจอย่างในที่แสงน้อย และกล้องสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ก็มีแต่รูรับแสงที่มีค่าคงที่ไม่สามารถปรับให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือมีความสว่างมาก ด้วยรูรับแสงคู่ (Dual Aperture F1.5 – F2.4) ของซัมซุง
ทำงานแบบอัตโนมัติด้วยกลไกที่คล้ายกับการขยายและหดตัวของรูม่านตามนุษย์ จึงสามารถเปิดรับแสงได้มากขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืด และปรับให้รับแสงน้อยลงเมื่อถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่สว่างเกินไป ผู้ใช้งานจึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดในทุกที่ทุกสภาพแสง
• เออาร์ อีโมจิ (AR Emoji): ซัมซุงให้ผู้ใช้งาน Galaxy S9 / Galaxy S9+ ใหม่ สามารถสร้างอีโมจิบ่งบอกอารมณ์ที่มีรูปลักษณ์ เสียง และท่าทางเหมือนกับตัวเจ้าของสมาร์ทโฟน โดยฟีเจอร์ เออาร์ อีโมจิ ใช้การประมวลผลข้อมูลด้วยอัลกอริทึมในการเรียนรู้ของตัวเครื่อง ซึ่งจะวิเคราะห์ภาพสองมิติของผู้ใช้งานผ่านทางกล้องและกำหนดภาพร่างที่เป็นรูปใบหน้ามากกว่า 100 รูปแบบ
ก่อนนำมาสร้างโมเดลใบหน้าสามมิติที่สะท้อนและเลียนแบบการแสดงออก อาทิ การกระพริบตา หรือพยักหน้าขึ้นลง เพื่อให้สอดคล้องกับบุคลิกของเจ้าของมากที่สุด โดยคุณไม่เพียงแค่แบ่งปันความรู้สึกในชีวิตจริงผ่านเออาร์ อีโมจินี้ได้ในวีดีโอเท่านั้น แต่ยังสามารถครีเอทสติ๊กเกอร์หลากหลายรูปแบบในไฟล์ฟอร์แม็ท AGIF มาตรฐาน เพื่อแชร์อีโมจิของตนทางแพลทฟอร์มแชทต่างๆ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันได้เกือบทั้งหมด
• ซูเปอร์ สโลว์-โม (Super Slow-mo): ทำให้ทุกช่วงเวลาเป็นความยิ่งใหญ่ด้วยการถ่ายวีดีโอที่จับภาพเคลื่อนไหวแบบสโลว์สุดๆ ถึง 960 เฟรมต่อวินาที และ Galaxy S9/ Galaxy S9+ ยังมาพร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Detection) แบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นฟีเจอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวในเฟรมและเริ่มบันทึกโดยอัตโนมัติเพียงผู้ใช้งานแค่ตั้งกล่องเตรียมถ่ายวิดีโอเท่านั้น หลังจากบันทึกวีดีโอแบบซูเปอร์ สโลว์-โม
ผู้ใช้จะสามารถเลือกดนตรีแบ็คกราวนด์ได้ถึง 35 เพลง หรือจะเลือกใช้เสียงจากเพลย์ลิสต์สุดโปรดก็ทำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถสร้างสรรค์ ตัดต่อ และแชร์ไฟล์ GIF ได้ถึง 3 รูปแบบ ทั้งแบบเดินหน้า ถอยหลัง หรือวนซ้ำ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับแอ็คชั่นของวิดีโอได้อย่างไม่จำเจ
• บิ๊กซ์บี้ (Bixby): แพลทฟอร์มอัจฉริยะของซัมซุงที่ติดตั้งไว้ในกล้อง โดยใช้เทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality) ที่มีซอฟท์แวร์การเรียนรู้ขั้นสูงเพื่อมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานโดยปกติของผู้ใช้ ด้วยระบบตรวจจับและจำแนกวัตถุแบบเรียลไทม์
บิ๊กซ์บี้สามารถแสดงข้อมูลได้แบบทันท่วงทีบนภาพที่กล้องกำลังจับหรือบันทึก โดยผู้ใช้งานสามารถแปลภาษาต่างประเทศและผันค่าเงินสกุลต่างๆ ได้ทันทีด้วยฟังก์ชั่น Live Translation พร้อมความสามารถในการเรียนรู้สภาพแวดล้อมรอบๆ สมาร์ทโฟน
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ ฉีกความจำเจในแบบเดิมๆ (Entertainment Reimagined)
สมาร์ทโฟนมักเป็นดีไวซ์ที่เราเลือกใช้เพื่อความบันเทิง ซัมซุงจึงได้สร้างสรรค์สมาร์ทดีไวซ์ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ด้วยระบบเสียงระดับพรีเมียมในลำโพงสเตอริโอบน Galaxy S9 / Galaxy S9+ ที่ได้รับการปรับแต่งเสียงโดยเอเคจี (AKG) ไม่ว่าผู้ใช้จะชมภาพยนตร์เรื่องโปรดหรือฟังเพลงสตรีมมิ่งจากอัลบั้มล่าสุดของศิลปินที่ชื่นชอบ เสียงที่ได้รับฟังนั้นจะมีความชัดเจน คมชัด และเปี่ยมด้วยคุณภาพอย่างมีมิติ นอกจากนี้ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ยังรองรับระบบเสียงดอลบี้ แอทโมส (Dolby Atmos) ที่ให้เสียงสมจริงรอบทิศทางแบบ 360 องศา
ประสบการณ์ด้านเสียงของ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ได้รับการเติมเต็มให้สมบูรณ์แบบด้วยจอภาพอินฟินิตี้ ดิสเพลย์แบบไร้กรอบ นวัตกรรมสุดล้ำของซัมซุงซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Galaxy S8 โดยเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสว่างชัด สดใสเป็นธรรมชาติ ออกแบบมาให้โค้งมนกลมกลืนไปกับตัวเครื่องโดยไม่มีขอบรบกวนสายตาแบบ Immersive Infinity Display และยังมีฟังก์ชั่น Adaptive Contrast Enhancement ที่ช่วยปรับแสงสะท้อนบนหน้าจอให้ผู้ใช้งานสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้แม้ในขณะที่อยู่ใต้แสงแดดโดยตรง
สมาร์ทโฟนที่ตอบทุกโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วยการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ (A Device that Fits with the Connected Lifestyle)
ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับสมาร์ทธิงส์ แอพ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ คือศูนย์กลางของการบริหารจัดการไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมต่อถึงกันระหว่างดีไวซ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในสำนักงาน หรือขณะเดินทาง สมาร์ทธิงส์ แอพจะติดตั้งไว้ใน Galaxy S9 และ Galaxy S9+ และจะเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ของซัมซุง และของแบรนด์อื่นๆ
สำหรับผู้ที่เดินทางเป็นประจำ ซัมซุง เด็กซ์ (Samsung DeX) เสริมประสิทธิภาพการใช้งานของนักเดินทางด้วยการมอบประสบการณ์ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้แบบเต็มจอขนาดใหญ่ เด็กซ์ แพด (DeX Pad) คืออุปกรณ์ติดตั้งเสริมรูปแบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ เข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่ คียบอร์ด และเมาส์ ได้อย่างง่ายดายเพื่อยกระดับประสบการณ์ใช้งานขณะเดินทาง
ทั้งการทำงานเอกสารหรือการเล่นเกมแบบเต็มจอ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยน Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ให้เป็นทัชคีย์บอร์ด (Touch Keyboard) และทัชแพดได้ง่ายๆ เพียงเชื่อมต่อเข้ากับเด็กซ์ แพด3
มอบมาตรฐานที่ดีที่สุดด้วยพื้นฐานของสมาร์ทโฟนในตระกูลกาแลคซี่ (The Best Comes Standard with the Galaxy Foundation)
ซัมซุงสร้างมาตรฐานสูงสุดสำหรับสมาร์ทโฟนด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น (IP68) และการชาร์จแบตเตอรี่ได้ไวแบบไร้สาย โดย Galaxy S9 และ Galaxy S9+ มีความก้าวล้ำหน้ายิ่งกว่าด้วยการมีหน่วยความจำที่รองรับการขยายเพิ่มได้สูงสุดเป็น 400GB และมาพร้อมระบบประมวลผลระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุดที่มอบประสิทธิภาพอันทรงพลังและการประมวลผลภาพที่เป็นเลิศ
นอกจากนี้ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ยังมอบความอุ่นใจให้แก่ผู้ใช้งานด้วยแพล็ตฟอร์มรักษาความปลอดภัยระดับโลกที่เป็นมาตรฐานทางการทหารเทคโนโลยีล่าสุด ซัมซุง น็อกซ์ 3.1 (Knox 3.1) ผนวกกับระบบยืนยันตัวบุคคลผ่านเทคโนโลยีแบบไบโอแมทริกซ์อันล้ำหน้า 3 รูปแบบ ได้แก่ สแกนม่านตา (Iris Scan) สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scan) และระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition)
ผู้ใช้งานจึงสามารถเลือกวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันความปลอดภัยของอุปกรณ์และการใช้งานตัวเครื่อง สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังรองรับการสแกนอัจฉริยะ (Intelligent Scan) การยืนยันตัวตนรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความรัดกุมของเทคโนโลยีการสแกนม่านตาเข้ากับการจดจำใบหน้าอย่างชาญฉลาด เพื่อให้สามารถปลดล็อกเข้าใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายในทุกสภาพแวดล้อมและสภาพแสง
มากไปกว่านี้ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือเฉพาะ (Dedicated Fingerprint) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกสแกนลายนิ้วมือที่แตกต่างกันของแต่ละนิ้วเพื่อใช้ในการเข้าสู่แฟ้มข้อมูลที่มีการตั้งค่าความปลอดภัยแบบพิเศษ หรือ Secure Folder
เป็นเจ้าของก่อนใคร! ประเทศไทยได้รับสิทธิ์จำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงเป็นกลุ่มประเทศแรกในโลก
Galaxy S9 และ Galaxy S9+ จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นกลุ่มประเทศของโลก โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถจองล่วงหน้าได้ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2561 นี้ เพียง 7 วันเท่านั้น และได้สิทธิ์รับเครื่องก่อนใคร ระหว่างวันที่ 9 – 11 มีนาคม 2561 พร้อมของสมนาคุณ ได้แก่ รับประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี
และฟรีแท่นชาร์จไร้สายแบบ Fast Charge (Wireless Charger Convertible) มูลค่า 2,090 บาท และลูกค้าสามารถร่วมโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่ โดยนำสมาร์ทโฟนซัมซุงเครื่องเก่าเฉพาะซีรีส์ เอส หรือ โน้ต รุ่นที่ร่วมรายการ (ไม่รวม Tablet) มาแลกเป็นส่วนลดพิเศษมูลค่า 3,000 บาท เพิ่มเติมจากราคาประเมินเพื่อแลกซื้อสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 และ Galaxy S9+ (เงื่อนไขตามโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่)
โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าทำการจองก่อนใครได้ 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ ซัมซุง แบรนด์ ช้อป ทั่วประเทศ, ร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงที่ S-estore (https://www.s-estore.com) รวมถึงสาขาที่ร่วมรายการของพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการเครือข่าย ทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรู หรือผ่าน Lazada
Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black, สีฟ้า Coral Blue และเฉดสีใหม่ล่าสุด สีม่วง Lilac Purple โดยรุ่น Galaxy S9 มาในความจุขนาด 64GB วางจำหน่ายที่ราคาเครื่องละ 27,900 บาท
และรุ่น Galaxy S9+ สามารถเลือกความจุภายในตัวเครื่องขนาด 64GB ในราคาเครื่องละ 31,900 บาท และ 128GB ในราคา 33,900 บาท และพิเศษ 256GB ในราคา 37,900 บาท เฉพาะช่องทางของพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการเครือข่าย
นอกจากนี้ ขอเชิญรับชมไลฟ์สด แกะกล่องโชว์ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ก่อนใครได้ที่ Facebook Samsung Thailand นำโดย เจ้าหญิงวงการไอที ซี-ฉัตรประวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ และ ดีเจนุ้ย -ธนวัตน์ ประสิทธิสมพร ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 20.00 น.พร้อมกันทั่วประเทศ
และผู้สนใจสามารถชมวิดีโอถ่ายทอดสดการเปิดตัวซัมซุง Galaxy S9 ณ กรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ย้อนหลังได้ที่: www.samsung.com ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่: www.samsungmobilepress.com หรือ www.samsung.com/galaxy
– รูรับแสงคู่ F1.5 และ F2.4 รูรับแสงคู่ติดตั้งที่กล้องด้านหลัง (Galaxy S9) และกล้องด้านหลังมุมกว้าง (Galaxy S9+)
– ประสิทธิภาพการให้บริการของบิ๊กซ์บี้อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา) จีนกลาง และเกาหลี แต่ไม่ได้รองรับทุกสำเนียง ภาษาเฉพาะและการออกเสียง ประสิทธิภาพการบริการอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศหรือผู้ให้บริการเครือข่าย การสั่งงานด้วยเสียงใช้งานได้กับแอพที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของซัมซุงและแอพของบริษัทบุคคลที่สาม เข้าชมรายชื่อแอพที่รองรับการใช้งานได้ที่ “Apps with Voice” ในบิ๊กซ์บี้
– อาจแตกต่างกันตามแต่ละตลาดและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์
– มีในสมาร์ทโฟนซัมซุงบางรุ่นที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ 8.0+
– ฟังค์ชั่นทัช คีย์บอร์ดจะถูกติดตั้งเพิ่มเติมไว้ในการอัพเดตซอฟต์แวร์ครั้งต่อไป
– เด็กซ์แพดมาพร้อมสาย HDMI แท่นชาร์จกับผนังและสายชาร์จ อุปกรณ์เสริมอย่างจอภาพมีจำหน่ายแยก ซัมซุงแนะนำให้ใช้สาย HDMI และแท่นชาร์จของเดิมที่มาพร้อมกับเด็กซ์ แพด เด็กซ์ แพดรองรับการใช้งานกับ Galaxy S8, Galaxy S8+ และ Galaxy Note8 เช่นกัน
ข้อมูลจำเพาะด้านผลิตภัณฑ์ของสมาร์ทโฟน Galaxy S9 และ Galaxy S9+
– วัดจอภาพแนวทแยงมุมแบบเต็มสี่เหลี่ยมมุมฉากโดยไม่วัดมุมโค้งมน
– ความละเอียดมาตรฐานคือ Full HD+ และสามารถเปลี่ยนเป็น Quad HD+ (WQHD+) ได้ด้วยการตั้งค่า
– ได้รับรองมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP68 จากการทดลองใต้น้ำลึกสูงสุด 1.5 เมตรเป็นเวลานานสูงสุด 30 นาที
– อาจแตกต่างกันตามแต่ละตลาดและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์
– อาจแตกต่างในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ หน่วยความจำสำหรับใช้งานน้อยกว่าหน่วยความจำทั้งหมด เนื่องจากมีการจัดเก็บระบบปฏิบัติงานและซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการทำงานของตัวเครื่อง หน่วยความจำสำหรับใช้งานจริงจะแตกต่างไปตามผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และอาจเปลี่ยนแปลงหลังจากการอัพเกรดซอฟต์แวร์
– การใช้งานระบบนำทาง Galileo และ BeiDou อาจมีจำกัด
*ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน คุณสมบัติ สเปค และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงคุณประโยชน์ การออกแบบ ราคา ชิ้นส่วนประสิทธิภาพ ความพร้อมสำหรับใช้งาน และศักยภาพของผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหรือข้อผูกพันใดๆ
Leave a Reply