รีวิว Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G ฟีเจอร์โฟนระดับตำนาน มาพร้อมเกมงูสุดคลาสสิค ลุคสดใสทันสมัยมากยิ่งขึ้น!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ หลังจากที่เราได้ทำการรีวิว Nokia 3, Nokia 5, Nokia 6 และเรือธง Nokia 8 กันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิวที่ชื่อรุ่นได้เลยจ้า) ซึ่งนอกจาก HMD Global (เอชเอ็มดี โกลบอล) เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ออกมาให้เราได้เชยชมกันแล้ว
เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง HMD Global ยังได้เปิดตัวพร้อมกับวางจำหน่าย Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G ฟีเจอร์โฟนระดับตำนานที่มาพร้อมลุคใหม่สีสันสดใส และมีราคาจำหน่ายเบาๆ ในประเทศไทยอีกด้วย
โดย Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,790 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเหลือง, สีแดงส้ม, สีฟ้า และสีเทาชาร์โคล มาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น มีขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก ตัวเครื่องสีสันสดใส
มาพร้อม UI ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนธีม ปรับแต่งตำแหน่งไอคอนได้ตามไลฟ์สไตล์ และตามความต้องการของตัวเอง เป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว และแน่นอนว่ายังคงมีเกมงูมาให้แฟนๆ Nokia อีกเช่นเคย
และในวันนี้ทาง ninethaiphone จะขอนำเจ้า Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน และสำหรับท่านใดที่กำลังมองหาฟีเจอร์โฟนเพื่อใช้งานเป็นเครื่องสำรอง หรือจะซื้อเป็นของขวัญให้ญาติผู้ใหญ่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปติดตามกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G
Features | Nokia 3310 (2017) |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2560 |
ราคา : | – 1,790.- (ณ วันที่ 19 ธ.ค. 60) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Java Powered |
หน้าจอ : | – หน้าจอ TFT |
– ขนาด 2.4 นิ้ว | |
– ความละเอียด 320×240 พิกเซล (QVGA) | |
CPU : | – |
GPU : | – |
RAM : | – |
ความจำตัวเครื่อง : | – 128MB |
– microSD Card สูงสุด 32GB | |
กล้องหลัง : | – 2 ล้านพิกเซล |
– LED flash | |
กล้องหน้า : | – |
Video : | – |
Battery : | – 1200 mAh |
ขนาด : | – 117×52.4×13.35 มม. |
น้ำหนัก : | – 84.9 กรัม |
รองรับซิม : | – Single SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 3G Dual band 900/1800 MHz +3G Band 1 and 8 |
– GSM 850/900/1800/1900 + 3G Band 1, 2, 5, 8 | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Bluetooth 2.1 |
– Micro USB 2.0 | |
– 3.5mm jack | |
– วิทยุ FM | |
– เครื่องเล่น MP3 | |
– ตัวเชื่อมต่อ AV | |
– Flash Light | |
– WAP 2.0 Browser | |
GPS : | – GPRS |
– EDGE | |
Sensor : | – |
สี : | – ฟ้า |
– เหลือง | |
– แดงส้ม | |
– เทาชาร์โคล |
แกะกล่อง Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G
ด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G จะมีสเปคการใช้งานเด่นๆ ระบุเอาไว้ อาทิ กล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, เกมงูในตำนาน, ดาวน์โหลดเกมหรือแอปฯ ผ่าน Opera Store, รองรับวิทยุ FM, microSD Card, microSIM และแบตเตอรี่ที่สแตนด์บายได้นาน 27 วัน หรือคุยสนทนาได้นาน 6.5 ชั่วโมง เป็นต้น
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G ตัวเครื่องสีเหลือง
– แบตเตอรี่ชนิด BL-4UL ความจุ 1200 mAh
– สายชาร์จ Micro USB
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– หูฟังสมอลทอล์ค
– คู่มือการใช้งาน
Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G มาพร้อมแบตเตอรี่ชนิด Li-ion ความจุ 1200 mAh ที่รองรับการชาร์จ 3.7V
ทำความรู้จัก Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G
ด้านหน้า ตัวเครื่องสีเหลืองหน้าจอขอบดำไซส์ขนาดพอดี ตัดขอบบริเวณด้านนอกหน้าจอด้วยสีขาว ปุ่มโทรเข้า, ตัดสาย และปุ่มกดเมนูอยู่ในโซนสีขาว ขณะที่ปุ่มกดตัวเลขจะอยู่ในโซนสีเหลือง
ด้านหน้าส่วนบน มาพร้อมหน้าจอ TFT ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 320×240 พิกเซล (QVGA) หน้าจอไม่รองรับระบบทัชสรีนนะคะ เหนือโลโก้แบรนด์จะเป็นลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มกดตัวเลข, ปุ่มกดตัวอักษร, ปุ่มโทรเข้า, ปุ่มตัดสาย, ปุ่มเลือก, ปุ่มกลับ และปุ่มเมนูหลัก
ด้านหลัง ดีไซน์ตัวเครื่องทรงสุดคลาสสิค ในร่างที่กะทัดรัดมากยิ่งขึ้น และมีพื้นผิวสัมผัสเรียบด้าน
ฝาหลังสามารถแกะออกได้เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ ใส่ซิมการ์ด และ microSD Card ค่ะ
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย LED flash สำหรับใช้งานในการถ่ายภาพ และใช้งานเป็นไฟฉาย ถัดลงมาจะเป็นกล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ตัดขอบด้วยวงกลมสีขาว และโลโก้แบรนด์ Nokia
ด้านหลังส่วนล่าง พบลำโพงเสียงที่มีความดังชัดเจนในระดับนึง
ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องเสียบ Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
ด้านล่างตัวเครื่อง พบร่องสำหรับแกะฝาหลังออก
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไร้ปุ่มกด หรือฟังก์ชันใช้งานใดๆ
ด้านขวาตัวเครื่อง ไร้ปุ่มกด หรือฟังก์ชันใช้งานใดๆ
เมนูการใช้งานเด่นๆ
เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง รองรับภาษาที่หลากหลาย
เสียงริงโทนสายเรียกเข้ายังคงคลาสสิคเหมือนเดิม และระหว่างสนทนาสามารถพักสาย บันทึกเสียง หรือประชุมสายได้
รองรับการส่งข้อความแบบ SMS และ MMS ปุ่มกดใหญ่ใช้งานสะดวก
รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 32GB สามารถกักเก็บเพลงได้หลายร้อยเพลง มีเมนูเล่นเพลงที่ใช้งานง่ายๆ ขณะที่วิทยุ FM จะต้องเสียบหูฟังเพื่อใช้งานเป็นเสารับสัญญาณค่ะ
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้ก็คือเกมงูในตำนานที่มีความทันสมัยขึ้น ซึ่งผู้เล่นจะต้องนำพาเจ้างูตัวนี้ไปกินแอปเปิ้ล โดยห้ามชนหางตัวเองและสิ่งกีดขวางใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีเกมอื่นๆ ที่มีให้ทดลองเล่นฉบับ Demo เป็นเวลา 3 นาทีอีกด้วย และสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ Opera Mini แต่ไม่แนะนำให้ใช้นะคะ เพราะอาจจะต้องมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ
เกม Demo ที่มีให้ทดลองเล่น, สามารถปรับแต่งธีมต่างๆ ในตัวเครื่องได้ตามสะดวก ขณะที่การปลดล็อคตัวเครื่องให้กดปุ่มเมนูและกด * ปลดล็อคเหมือนเดิมค่ะ
รองรับนาฬิกาปลุก, นาฬิกาจับเวลา, ไฟฉาย, ตัวแปลงค่าต่างๆ และมีหน้าไฟล์บอกความจุภายในตัวเครื่องอีกด้วย
เครื่องคิดเลข, บันทึกเสียง และปฏิทิน
เมนูการใช้งานกล้องหลังมีเอฟเฟ็กต์สีให้เลือกใช้ รองรับการบันทึกวิดีโอ และการซูมระหว่างถ่ายภาพ
สำหรับการกดถ่ายภาพของ Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G จะใช้ปุ่มเมนูหลักในการกดชัดเตอร์ค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G
ภาพถ่ายปกติ (ซ้าย) และภาพถ่ายเปิดแฟลช (ขวา)
กล้องหลังของ Nokia 3310 (2017) เวอร์ชัน 3G มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มาพร้อม LED flash ภาพที่ได้ถ่ายออกมามีความละเอียดน้อยไปนิดแต่ก็สมราคา ไม่ค่อยซีเรียสมากหากซื้อมาใช้เป็นเครื่องสำรองโทรเข้าโทรออก หรือใช้เก็บภาพธรรมดาๆ บางครั้งบางคราว โดยรวมถือว่าพอรับได้ค่ะ
สรุป
– รูปลักษณ์ดีไซน์สวยงามทันสมัยมากขึ้น ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด จับกระชับพอดีมือ แข็งแรงทนทาน
– เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องสำรองแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน และผู้สูงอายุที่ใช้โทรออกโทรเข้าแบบง่ายๆ
– ปุ่มกดสีเงิน ตัวอักษรใหญ่ เห็นได้อย่างชัดเจน
– แบตเตอรี่ความจุน้อยก็จริง แต่สามารถใช้งานได้นานหลายวัน
– มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash
– รองรับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– หน้าจอ TFT ขนาด 2.4 นิ้ว เคลือบชั้นโพลาไรซ์
– ความจุในตัวเครื่อง 128MB รองรับ microSD Card สูงสุด 32GB
– รองรับการใช้งาน 1 ซิมการ์ด พร้อมกับ microSD Card
– เลือกภาษาเมนูได้หลากหลาย
– สนับสนุนเครือข่าย 3G เพื่อการโทร และการส่งข้อความ ใช้งานได้ทุกค่ายค่ะ
– UI สามารถปรับแต่งการจัดเรียงไอคอน เลือกสีธีมได้เอง
– รองรับ Bluetooth 2.1, ไฟฉาย, วิทยุ FM และเครื่องเล่น MP3
– ลำโพงเสียงดังชัดเจนในระดับนึง
– มาพร้อมเกมงูสุดคลาสสิกในตำนาน และลงเกม java อื่นๆ ได้อีก
– ตัวเครื่องสีสันสดใสมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเหลือง, สีแดงส้ม, สีฟ้า และสีเทาชาร์โคล
ข้อสังเกต
– มือถือฟีเจอร์โฟนราคาไม่เกิน 2,000 บาท
– รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะรองรับการใช้งานแค่ซิมเดียว
– สนับสนุนเครือข่าย 2G และ 3G/ เท่านั้น
– แต่งเสียงริงโทนไม่ได้
– กล้องถ่ายภาพไม่ค่อยคมชัด แต่ถ่ายออกมาก็พอดูได้ค่ะ
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– อาม่า 3G
– Samsung Hero 3G
– Wiko Sunny 2 Plus
– dtac Phone Joey Jet 2
– True SUPER 4
– AIS Super Combo LAVA 4G VoLTE 560
ขอขอบคุณ HMD Global
Leave a Reply