รีวิว Moto G5S Plus หน้าจอ Full HD แรม 4GB กล้องหลังคู่ 13MP พร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ

รีวิว Moto G5S Plus หน้าจอ Full HD แรม 4GB กล้องหลังคู่ 13MP พร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ

Moto G5S Plus

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว ninethaiphone ทุกท่าน เมื่อประมาณวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสทดลองใช้ Moto G5S Plus สมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับการออกแบบให้ดูแกร่ง และมีสไตล์ด้วยวัสดุอะลูมิเนียมระดับพรีเมียมดีไซน์สวยตัวเครื่องโลหะแบบ Unibody สีชมพูอมทอง เป็นระยะเวลาประมาณ 7 วัน

สมาร์ทโฟนเครื่องนี้มาพร้อมกับตัวเครื่องขนาด 153.5X76.2X9.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 168 กรัม ซึ่งสำหรับผมแล้วขอบอกตามตรงว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้หนักอยู่พอสมควร แต่ก็ยังสามารถถือใช้งานได้อย่างถนัดมือเพราะที่ขอบด้านข้างมีความโค้งมนเล็กน้อย

โดยที่ผมมองดูจากภายนอกตัวเครื่องแล้ว ความแตกต่างระหว่าง Moto G5 Plus กับ Moto G5S Plus ก็หน้าจะอยู่ตรงที่ขนาดตัวเครื่อง และกล้องด้านหลังที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 ตัวที่มาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทั้ง 2 เลนส์ มีค่ารูรับแสง f/2.0 และโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอที่เพิ่มมิติการถ่ายรูปให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยสนนราคาของ Moto G5S Plus อยู่ที่ 9,990 บาท  ซึ่งในส่วนถัดไปผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักสเปคเครื่องของเจ้า Moto G5s Plus กันต่อนะครับ

สเปคเครื่อง Moto G5S Plus

Features Moto G5S Plus
วันเปิดตัว :  – กันยายน 2560
ราคา :  – 9,990.- (ณ วันที่ 31 ต.ค. 60)
ระบบปฏิบัติการ :  – Android 7.1 (Nougat)
หน้าจอ :  – หน้าจอ IPS LCD
 – ขนาด 5.5 นิ้ว
 – ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล
 – กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
 – Multitouch
CPU :  – Snapdragon 625 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0 GHz
GPU :  – Adreno 506
RAM :  – 4GB
ความจำตัวเครื่อง :  – 32GB
 – microSD card สูงสุด 128GB
กล้องหลัง :  – 13MP + 13MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – dual tone LED flash + Color-Balance
 – Geo-tagging
 – Face detection
 – Panorama
 – Auto-HDR
 – Touch focus
กล้องหน้า :  – 8MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – LED flash
Video :  – 2160p@30fps
Battery :  – 3000 mAh รองรับ TurboPower
ขนาด :  – 153.5×76.2×8.0 มม.
น้ำหนัก :  – 168 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  – Nano-Coating
ระบบเครือข่าย :  – 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n (2.4 GHz + 5 GHz)
 – Bluetooth 4.2 LE + EDR
 – Micro USB 2.0
 – NFC
 – 3.5mm jack
GPS :  – A-GPS
 – GLONASS
 – GPRS
Sensor :  – Fingerprint
 – Accelerometer
 – Ambient Light
 – Gyroscope
 – Proximity
สี :  – เทา (Lunar Grey)
 – ทอง (Blush Gold)

แกะกล่อง Moto G5S Plus 

2

กล่องด้านหน้าของ Moto G5S Plus เป็นสีเขียวมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็น Moto ถัดลงมาเป็นชื่อรุ่น รูปทรงของกล่องขนาดกำลังพอเหมาะไม่ใหญ่หรือว่าเล็กจนเกินไป

3

ด้านหลังของกล่องที่ด้านบนจะมีชื่อรุ่นพร้อมกับรูปตัวเครื่องที่มี สีเทา และสีทอง ถัดลงมาจะเป็นคุณสมบัติเด่นของ Moto G5S Plus ที่แสดงให้เข้าใจง่าย

1

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
– ตัวเครื่อง Moto G5S Plus
– หูฟัง
– สายชาร์จ แบบ USB พร้อมหัวเสียบ
– เข็มสำหรับเอาไว้จิ้มถาดใส่ซิม
– คู่มือสำหรับการใช้งานเบื้องต้น

ทำความรู้จักกับ Moto G5S Plus

4
ด้านหน้า Moto G5S Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920X1080 พิกเซล (Full HD) กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3

5

ด้านหน้าส่วนบน ประกอบไปด้วยกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash ลำโพงฟังเสียงสนทนา

6

ด้านหน้าส่วนล่าง ที่หน้าจอจะมีปุ่มแบบทัชสกรีนทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกัน คือปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ซึ่งที่ปุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านล่างสุดเป็นเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่อง

7

ด้านหลัง Moto G5S Plus เป็นแบบโลหะ Unibody ที่ให้ความเงางามเมื่อกระทบกับแสงทำเพิ่มความหรูหราดูสวยงาม ที่ขอบด้านข้างมีความโค้งมนเล็กน้อยทำให้สามารถถือใช้งานได้อย่างถนัดมือ

8

ด้านหลังส่วนบน ด้านบนสุดจะมีรูไมโครโฟนหนึ่งตัวช่วยตัดเสียงรบกวน ถัดลงมาจะเป็นกล้องหลังแบบคู่ความละเอียด 13MP + 13MP พร้อมไฟแฟลชคู่ LED และตัวโลโก้ของ Moto อยู่ตรงกลางเครื่อง

9

ด้านหลังส่วนล่าง เป็นแบบเรียบเนียนมีเส้นเสาอากาศ

10

ด้านบนตัวเครื่อง จะมีพอร์ตเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

11

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ไมค์สำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อ micro USB และลำโพงเสียง

12

ด้านซ้ายตัวเครื่อง เป็นแบบพลาสติกมีความโค้งมนเล็กน้อย พร้อมมีถาดใส่ซิมรองรับ 2 ซิม

13

ระบบซิมของ Moto G5S Plus เป็นแบบไฮบริด ที่สามารถเลือกใช้งานเป็น ระบบ 2 ซิม หรือจะใช้แบบ ซิมเดียว + MicroSD Card

14

ด้านขวา ประกอบไปด้วย 2 ปุ่มการใช้งานด้วยกัน สำหรับปุ่มยาวๆ ที่ด้านบนเป็นปุ่มสำหรับการเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนปุ่มที่อยู่ทางด้านล่างเป็นปุ่มพาวเวอร์สำหรับใช้เปิด/ปิดเครื่อง

การแคปภาพหน้าจอ กดปุ่มพาวเวอร์ + ปุ่มลดเสียงค้างไว้

ทดสอบประสิทธิภาพ

S1

S2

เมื่อนำ Moto G5S Plus ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz มาทำการทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุดพบว่า Moto G5S Plus สามารถทำคะแนนรวมไปได้ถึง 63623 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่เกิน 10,000 บาทครับ

S3

S4

S5

สำหรับสเปคการใช้งานตามฐานข้อมูลจากแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด ระบุว่า Moto G5S Plus ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 (Nougat) หน้าจอความละเอียด 1920×1080 พิกเซล กล้องหลังแบบคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล หน่วยความจำ RAM 4GB กับ ROM 32GB  พร้อมกับรองรับ NFC และ Wi-Fi

Interface

S6

เพื่อนๆ สามารถเข้าสู่หน้าจอ Home screen ของ Moto G5S Plus ได้โดยง่ายซึ่งมีด้วยกัน 2 วิธี คือเลื่อนสไลด์จากด้านล่างขึ้นบนบริเวณหน้าจอ (จากนั้นใส่รหัสผ่านในกรณีที่ตั้งรหัสไว้) ส่วนอีกวิธีคือการเข้าถึงหน้า Home screen ด้วยการใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือที่สามารถเข้าถึงหน้า Home screen ได้อย่างรวดเร็ว

S7

นอกจากนั้นแล้วเพื่อนๆ ยังสามารถเข้าถึงโหมดบันทึกเสียง และกล้องถ่ายภาพ ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่แตะไปที่รูปโหมดที่ต้องการแล้วเลื่อนสไลด์ขึ้นด้านบนก็สามารถเข้าถึงโหมดที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

S8

พอเข้ามาถึงหน้า Home screen ของ Moto G5S Plus แล้ว หากเพื่อนๆ ต้องการเข้าถึงหน้า Quick setting  ก็สามารถทำได้แบบง่ายๆ ด้วยเลื่อนสไลด์จากบนลงล่างสองครั้ง ก็จะสามารถเลือกเปิด/ปิด การตั้งค่าต่างๆ ได้ และถ้าหากแตะที่สัญลักษณ์ ^ ก็จะพบกับแอปฯ ต่างๆ ที่ถูกเก็บซ่อนไว้

S18

เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง

S19

สามารถเข้าไปตรวจสอบเวอร์ชันหรืออัปเดตระบบปฏิบัติการได้โดยการเข้าไปที่ > การตั้งค่า > เกี่ยวกับโทรศัพท์ ก็จะปรากฎข้อมูลดังภาพครับ

เทคนิคพิเศษการใช้งาน Moto G5S Plus 

S9.5

สำหรับ Moto G5S Plus นั้นก็ยังคงมีเทคนิคการใช้งานที่บ่งบองถึงความเป็น Moto ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสังคมในปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยมีโหมดต่างๆ ให้ใช้งานที่สามารถเปิด/ปิด ได้ตามความต้องการ

S10

โหมดนำทางด้วยปุ่มเดียว เมื่อเพื่อนๆ เปิดการใช้งานก็จะทำให้ปุ่มเซ็นเซอร์ที่เอาใว้สำหรับสแกนลายนิ้วมือนั้นมีประโยชน์มากขึ้น ซึ่งเมื่อเพื่อนๆ กวาดนิ้วไปทางซ้ายก็จะเป็นการย้อนกลับไปยังการใช้งานก่อนหน้านี้ และเมื่อกวาดนิ้วไปทางขวาจะแสดงแอปฯ ล่าสุด

S11

เขย่าสองครั้งเพื่อใช้งานไฟฉาย สำหรับโหมดนี้จะทำให้เพื่อนๆ เข้าถึงการเปิดไฟฉายได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องปลดล็อคเครื่อง ด้วยการเขย่า 2 เครื่องเพื่อเปิด และเขย่า 2 ครั้งเมื่อต้องการปิด

S12

บิดสำหรับการถ่ายภาพด่วน โดยส่วนตัวแล้วชอบอันนี้มากๆ ครับ เพราะเมื่อเปิดใช้งานแล้ว มันจะทำให้เพื่อนๆ เข้าถึงโหมดกล้องได้อย่างรวดเร็วทันใจ ด้วยท่าเท่ๆ โดยการหมุนข้อมือสองครั้งอย่างเร็วเพียงเท่านี้ Moto G5S Plus ก็จะเข้าสู่โหมดกล้องถ่ายภาพได้อย่างทันที

S13

ปัดเพื่อย่อ สามารถทำได้โดยกวาดนิ้วจากตรงกลางไปยังมุมล่างซ้าย/ขวาเพื่อทำการย่อหน้าจอ

S14

ยกขึ้นเพื่อให้เสียงเรียกเข้าหยุด หากเพื่อนๆ เปิดการงานในโหมดนี้ เพียงแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นก็จะทำการปิดเสียงเรียกเข้าแล้วเข้าสู่โหมดสั่นทันที

S15

พลิกเพื่อห้ามรบกวน โหมดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจ เพราะสามารถปิดการแจ้งเตือนและการโทรได้ เพียงแค่พลิกหน้าจอคว่ำลง

S9

การสนทนาและส่งข้อความ

S16

เครื่องคิดเลขและวิทยุ

S17

ในส่วนของ Play Store ก็มีมาให้พร้อมดาวน์โหลดแบบครบถ้วน ส่วนอีกอันในภาพเป็นปฏิทิน

Screenshot_20171029-155156Screenshot_20171029-161334

ซึ่งในส่วนของการเล่นเกมผมก็ได้ทำการทดสอบ Moto G5S Plus ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว หน่วยประมวลผล Snapdragon 625 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz เครื่องนี้ด้วยการทดลองเล่นเกมยอดนิยมอย่าง ROV ซึ่งเป็นการปรับการตั้งค่าตามที่ทางตัวเกมได้ตั้งไว้ให้ผ่านสัญญาณ Wi-Fi

ผลปรากฏว่าสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่พบอาการกระตุกหรือสะดุดแต่อย่างใด และด้วยรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มอิ่มไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม, ดูหนัง หรือแม้แต่การท่องโลกโซเชียล บอกเลยว่าหากเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่นที่สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นผมขอแนะนำเจ้า Moto G5S Plus เครื่องเลยนี้ครับ

โหมดการใช้งานกล้องถ่ายภาพ Moto G5S Plus

C1

กล้องหน้าเป็นแบบตัวเดียวมาพร้อมกับความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 และมี LED flash ส่วน กล้องด้านหลังของ Moto G5S เป็นแบบคู่มาพร้อมกับความละเอียด 13MP + 13MP  ค่ารูรับแสง f/2.0 dual tone LED flash + Color-Balance และที่มีความพิเศษกว่าก็คือที่กล้องหลังของ Moto G5S Plus มีโหมดหน้าชัดหลังเบลอที่สามารถปรับได้ 7 ระดับให้ใช้งาน (ที่ผมได้วงกลมสีแดงไว้)

C2

ส่วนกล้องหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลนั้น ทาง Moto ก็ได้เอาใจสาวกเซลฟี่ด้วยการใส่โหมดปรับแต่งหน้าสวยมาให้ ที่สามารถเลือกปรับเองได้ถึง 7 ระดับ หรือจะให้ทางตัว Moto G5S Plus ปรับให้เองแบบอัตโนมติก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้งาน

P1

ภาพตัวอย่างจากการทดลองใช้โหมดปรับแต่งหน้าสวย โดยภาพนี้เป็นการปรับเพียงระดับ 4 เท่านั้น จากที่สามารถปรับได้ถึง 7 ระดับ

C3

ต่อมาเป็นโหมดถ่ายภาพอัจฉริยะที่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ตามความต้องการ ที่สำคัญสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

C5

ในส่วนของโหมดถ่ายวิดีโอของ Moto G5S Plus ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะรองรับการบันทึกความละเอียดสูงถึง 2160p ต่อ 30fps

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Moto G5S Plus

P8

P7

P12

P9

P10

P13

P11

P14

P2

P20

P16

P15

P18

P19

สำหรับภาพตัวอย่างของกล้องหลังนั้นผมได้ทดลองใช้งานในโหมดต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโหมดหน้าชัดหลังเบลอที่สามารถปรับความเบลอได้ถึง 7 ระดับ จากภาพจะเห็นได้ว่าโหมดหน้าชัดหลังเบลอของ Moto G5S Plus ที่มาพร้อมกับกล้องหลังแบบคู่ความละเอียด 13MP + 13MP ทำให้ภาพออกมามีความคมชัดและการเบลอที่สวยงามมีความใกล้เคียงกับกล้อง DSLR เลยก็ว่าได้ นี่ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ทาง Moto เพิ่มเติมลงไปให้กับ Moto G5S Plus เครื่องนี้

จุดเด่น
– หน้าจอ หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash มีโหมดปรับแต่งความสวยงามของใบหน้าที่สามารถปรับได้ถึง 7 ระดับ และมีโหมดมืออาชีพที่ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้เอง
– กล้องหลังแบบคู่ความละเอียด 13MP + 13MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มีdual tone LED flash + Color-Balance มีเทคโนโลยี Geo-tagging พร้อมด้วยโหมด หน้าชัดหลังเบลอที่สามารถปรับความเบลอได้ 7 ระดับ และมีโหมดมืออาชีพที่ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้เอง
– ชิปเซ็ต Snapdragon 625 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0 GHz
– ชิปกราฟฟิก Adreno 506
– ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 (Nougat)
– หน่วยความจำ RAM 4GB + ROM 32GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหนไม่มีสะดุด
– แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับ TurboPower
– มีระบบสแกนลายนิ้วมือที่สามารถปลดล็อคตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
– รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n (2.4 GHz + 5 GHz), Bluetooth 4.2 LE + EDR, Micro USB 2.0, NFC และ 3.5mm jack
– ซิมการ์ด ระบบ 2 ซิม เป็นแบบไฮบริด ที่สามารถเลือกใช้งานเป็น ระบบ 2 ซิม หรือจะใช้แบบ ซิมเดียว + MicroSD
– ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง (Blush Gold) และเทา (Lunar Grey)
– ราคา 9,990 บาท

ข้อสังเกต
– ตัวเครื่องมีน้ำหนักมากเกินไป
– ตัวเครื่องเคลือบสารกันน้ำ
– โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบกล้องหลังที่มีลักษณะนูนออกมาจากตัวเครื่อง ทำให้เวลาวางกับพื้นหรือโต๊ะเครื่องจะเอียงไปมา

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– OPPO A77
– Samsung Galaxy A3 (2017)
– Sony Xperia XA1 Ultra
– vivo V5s
– Nokia 6
– ZTE Axon 7 mini
– Huawei P9

ขอขอบคุณ บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด