เปรียบเทียบ iPhone 5S กับ Samsung Galaxy S4

มาดูการเปรียบเทียบมือถือระหว่าง iPhone กับ Samsung กับอีกซักรอบนะคะ โดยในรอบนี้ จะว่าสูสีคู่คี่กันก็ไม่เชิง แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงในเรื่องของระยะเวลาในการเปิดตัว อย่าง Samsung Galaxy S4 อาจจะเปิดตัวก่อนถึงครึ่งปี แต่ในช่วงระยะเวลานั้น ก็ถือว่าเป็นมือถือสเปคเทพเลยทีเดียว และหลังจากที่ไอโฟน 5S ออก ก็มียังคงมีการนำไปพูดถึงในเชิงเปรียบเทียบกัน ไม่น้อยไปกว่า Galaxy S5 ตอนนี้เลย

อย่างที่รู้กันว่าซัมซุงนั้นทำมือถือออกมาแทบจะเรียกได้ว่ากวาดได้ทุกกลุ่มตลาดลูกค้า แต่แยกซีรีย์ไว้ในแต่ละรุ่น อย่างรุ่นที่จะเอามาสู้กับไอโฟนได้ ก็จะเป็นตระกูล S กับ Note นอกนั้นก็จะเอาไว้แข่งกับแบรนด์อื่นๆ แต่สำหรับไอโฟน ก็มีเพียงมือถือไอโฟนที่เป็นสมาร์ทโฟน เพียงตัวเดียว และอยู่ในระดับบนๆอีกต่างหาก ถ้าจะทำอะไรออกมาทั้งที น่าจะทำให้เห็นถึงความแตกต่างของแต่ละรุ่น (แต่ถ้าทำเหมือนกันมากนัก ระวังจะขายไม่ออกนะ) แต่สำหรับซัมซุงนั้น อันที่จริงก็มีหลายกระแสพูดกันว่า Galaxy S5 ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปนี้ ไม่ค่อยมีความแตกต่างจาก Galaxy S4 มากนัก ทั้งวัสดุที่ใช้ สเปคเครื่อง รวมไปถึงดีไซน์ อาจจะด้วยเพราะ ซัมซุงไม่อยากจะแหวกแนวจากตระกูล S มากนักก็เป็นได้

Design

Samsung Galaxy S4

iPhone 5S

Spec

 Features  iPhone 5S
 Samsung Galaxy S4
วันเปิดตัว :  กันยายน 2556  มีนาคม 2556
ราคา :  23,900.- (ขึ้นไป) (ณ วันที่ 30 เม.ย. 57)  17,500.- (ณ วันที่ 30 เม.ย. 57)
ระบบปฏิบัติการ :  iOS 7  Android 4.2.2 (Jelly Bean)
หน้าจอ : – กว้าง 4 นิ้ว- Retina Display 16 ล้านสี

– ความละเอียด 640 x 1136 พิกเซล (326 ppi)- กว้าง 5 นิ้ว- Super AMOLED 16 ล้านสี

– ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (441 ppi)CPU : Dual Core ARM Apple A7 64-bit ความเร็ว 1.3 GHz Octa-Core 1.6 GHz (Quad-Core 1.6 GHz + Quad-Core 1.2 GHz) / Quad Core ความเร็ว 1.9 GHzRAM : 1 GB 2 GBความจำตัวเครื่อง :- 16 GB- 32 GB

– 64 GB- 16 GBกล้องหลัง :- 8 ล้านพิกเซล- Dual LED

– Auto Focus / Touch focus

– Panorama

– Face Detection – 13 ล้านพิกเซล ขนาด 4128 x 3096 พิกเซล- LED Flash

– Auto Focus) / Touch Focus

– Panorama

– Face Detectionกล้องหน้า :- 1.2 ล้านพิกเซล 2 ล้านพิกเซลVideo :- 1920 x 1080 พิกเซล 1920 x 1080 พิกเซลBattery : 1,558 mAh 2,600 mAhขนาด : 123.8 × 58.6 × 7.6 มม. 136.6 × 69.8 × 7.9 มม.น้ำหนัก : 112 130 กรัมรองรับซิม : Nano-Sim Micro-SIMระบบกันน้ำ : ไม่มี ไม่มีระบบเครือข่าย :- GSM 850/900/1800/1900 MHz- UMTS 850/900/2100 MHz

– 2G: EDGE/GPRS

– 3G: HSPA+

– 4G: LTE DL

– Wifi 802.11b/g/n/a- GSM 850/900/1800/1900 MHz- UMTS 850/900/1900/2100 MHz

– 2G: EDGE/GPRS

– 3G: HSPA+ 42 Mbps

– WiFi 802.11b/g/n/aระบบเชื่อมต่อ :- Bluetooth 4.0- USB Port

– ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร- Bluetooth 4.0- Micro USB 2.0

– รองรับ NFC

– ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรGPS :- GPS- GLONASS

– รองรับ Google Map- GPS- GLONASS

– รองรับ Google MapSensor :- เซ็นเซอร์ยืนยันตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือ (Touch ID)- ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)

– ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)

– ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)

– ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ 3 แกน (Three-axis gyroscope)- ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)- ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)

– ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity)

– ระบบตรวจจับคลื่นแม่เหล็ก (Geomagnetic)

– ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)

– ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation)สี :- เทาสเปซเกรย์- ทอง

– เงิน- ขาว- ดำ

สรุป

เท่าที่ดู สเปคแทบจะไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเทียบในเรื่องของการใช้งานระบบ หลายคนอาจจะถนัดใช้ระบบแอนดรอยด์มากกว่า และถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ยึดติดความเก่า – ใหม่ ของสมาร์ทโฟน หรือ ยึดติดแบรนด์ ถ้าจะยังคงใช้ ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 4 ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะนอกจากสเปคจะไม่ได้ไก่กาแล้ว ยังสูสีกับไอโฟน 5S อีกด้วย

แต่ก็อีกนั่นแหละ ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวไปไว หลายคนอาจจะติดภาพลักษณ์ที่ต้องอัพเดท gadget อยู่ตลอดเวลา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้าจะสังเกตดีๆ จะเห็นว่า มีการก้าวกระโดดในเทคโนโลยีจากมือถือมาเป็นสมาร์ทโฟน อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะคงตัวแล้วเคลื่อนที่แบบช้าๆมาซักพัก สังเกตจากมือถือรุ่นใหม่ๆที่ออกมา มีการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์ อัพเดทสเปคไม่มากนักแบบผลิกฝ่ามือ หลายคนอาจจะสนใจการเปลี่ยนแปลงแม้นิดเดียวก็มีผล แต่ใครอีกหลายคนก็ไม่ได้เดือดร้อนที่จะต้องใช้มือถือเดิมๆไปซักพักใหญ่ๆ ไปจนกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยน

เกริ่นมาซะเยอะ ยังไม่ได้สรุปความแตกต่างของ 2 รุ่นนี้เลยแฮะ ถ้างั้นมาลองไล่ดูเป็นข้อๆไปเลยละกัน

– ในเรื่องของราคาซัมซุง เอส 4 จากราคาเปิดตัว 21,900 บาท ผ่านมา 1 ปี เหลือ 17,500 เป็นราคาที่พอซื้อได้ระดับนึง ซึ่งถูกกว่าไอโฟนอีกนะ (แม้แต่ราคาเปิดตัวก็ยังถูกกว่า)
– ระบบปฏิบัติการ Android กับ iOS ก็คงต้องฟาดฟันกันตลอดเวลา อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดใช้ของแต่ละคนละกัน แต่อย่างที่รู้ๆกัน แอนดรอยด์ใช้ง่ายกว่าเย้อออ
– หน้าจอซัมซุง ใหญ่กว่า แต่ก็ไม่ถึงกับสะใจอะไร
– หน่วยประมวลผลของ ซัมซุงเร็วกว่าที่ 1.9 GHz ในขณะที่ไอโฟน 5S อยู่ที่ 1.3 GHz
– RAM ซัมซุงก็มากกว่า
– ในส่วนของความจำตัวเครื่องซัมซุง มีขนาด 16 GB ซึ่งเท่ากับขนาดที่เล็กที่สุดของไอโฟน แต่อย่าลืมว่า ถ้าอยากได้พื้นที่เยอะๆในไอโฟน ก็ต้องมีเงินเยอะขึ้นด้วยนะ
– กล้องซัมซุง เอส 4 ความละเอียด 13 ล้าน แต่ไอโฟน 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้าซัมซุง 2 ล้านพิกเซลแล้ว แต่ไอโฟนยัง 1.2 ล้านพิกเซล
– แบตเตอรี่ ซัมซุงจุได้มากกว่า ในขณะที่ของไอโฟนน้อยกว่า แถมหน้าจอก็ยังกินไฟอีก ต้องมี power bank แล้วล่ะ
– ด้วยหน้าจอที่ใหญ่กว่า ขนาดตัวเครื่องของซัมซุง เอส4 ก็ต้องมากกว่าและหนักกว่า
– ซิมไอโฟน ถอดไม่ได้จ้า
– น่าเสียดายที่ เอส 4 ยังไม่รองรับ 4G เลย แต่ในขณะเดียวกัน ไอโฟน 5S ก็ไม่รองรับ NFC นะเออ
– ซัมซุง เอส 4 ยังไม่มีเซนเซอร์แสกนลายนิ้วมือจ้า แต่ก็ไม่รู้ว่ามีคนใช้งานส่วนนี้มาก น้อยเท่าไหร่ จำเป็นแค่ไหน?
– ซัมซุง เอส 4 มีแค่สองสี ขาว ดำ ไอโฟนมีให้เลือก 3 สี มากกว่า แต่สุดท้ายก็เอาไปใส่เคสอยู่ดีนี่หน่า

ดูในภาพรวมแล้ว สองรุ่นนี้ แตกต่างกันแบบที่เห็นชัดก็ในเรื่องของระบบการใช้งาน นอกนั้น อย่างเช่นสเปคก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ทั้งนี้น่าจะขึ้นอยู่กับใครชอบแอนดรอยด์ก็ใช้ ซัมซุง แถมจอใหญ่กว่านิดนึง ใครติดแบรนด์ apple ก็หันไปใช้ไอโฟน ก็ไม่ผิดเช่นกัน

สามารถตามไปดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยจ้า

iPhone 5S ไอโฟน 5S ราคา

Samsung Galaxy S4 ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 4 ราคา