รีวิว Asus ZenFone 4 Max Pro Edition แบตอึดสะใจ 5000 mAh กล้องเลนส์คู่ 16MP สแกนนิ้วฉับไว ราคาไม่ถึงหมื่น!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ หลังจากที่ Asus แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังจากไต้หวันได้ยกทัพเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล ZenFone 4 Series จำนวน 6 รุ่น ไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนำทัพด้วยรุ่นท็อป Asus ZenFone 4 Pro, Asus ZenFone 4, Asus ZenFone 4 Selfie, Asus ZenFone 4 Selfie Pro, Asus ZenFone 4 Max และ Asus ZenFone 4 Max Pro
และวันนี้ทาง ninethaiphone ได้มีโอกาสทดลองใช้งาน Asus ZenFone 4 Max Pro (ZC554KL) หรือ ZenFone 4 Max Pro Edition ซึ่งเราจะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในครั้งนี้ และตลอดทั้งบทความเราจะเรียกกันว่า ZenFone 4 Max Pro Edition โดยเครื่องที่เราได้รับมาในครั้งนี้จะเป็นตัวเครื่องสีดำ (Deepsea Black) แต่สีที่ออกมาจะเป็นในทางสีกรมเข้มๆ มากกว่าค่ะ
สำหรับ ZenFone 4 Max Pro Edition เริ่มวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย สนนราคาอยู่ที่ 7,990 บาท มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Power Master” ชูจุดเด่นที่กล้องหลังเลนส์คู่ และแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh ตอบโจทย์ผู้ใช้งานสายลุยได้เป็นอย่างดี รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray พร้อมสเปคการใช้งานต่างๆ ที่ครบครัน เราไปทำความรู้จักกับ ZenFone 4 Max Pro Edition ให้มากขึ้นกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
Features | Asus ZenFone 4 Max Pro (ZC554KL) |
วันเปิดตัว : | – สิงหาคม 2560 |
ราคา : | – 7,990.- (ณ วันที่ 27 ส.ค. 60) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 7.0 Nougat ครอบทับ ZenUI |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS |
– ขนาด 5.5 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1280×720 พิกเซล (HD) | |
– กระจกกันรอย Gorilla Glass | |
– Multitouch | |
CPU : | – Snapdragon 430 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.4GHz |
GPU : | – Adreno 505 |
RAM : | – 3GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 32GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– LED flash | |
– Dual Pixel PDAF | |
– HDR | |
– Panorama | |
– Auto Focus | |
– Touch Focus | |
– Face Beauty | |
– Face Detection | |
– กันสั่น Shake Reduction | |
กล้องหน้า : | – 16 ล้านพิกเซล |
– Softlight LED flash | |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
Video : | – 1080p |
Battery : | – 5000 mAh |
ขนาด : | – 154×76.9×8.9 มม. |
น้ำหนัก : | – 181 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : WCDMA | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n |
– Bluetooth 4.1 | |
– FM radio | |
– OTG | |
– Micro USB 2.0 | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – AGPS |
– GLONASS | |
– BDS | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Accelerator | |
– E-Compass | |
– Gyroscope | |
– Proximity | |
– Ambient light | |
สี : | – ดำ (Deepsea Black) |
– ทอง (Sunlight Gold) | |
– ชมพู (Rose Pink) |
แกะกล่อง Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
Asus ZenFone 4 Max Pro Edition ถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมสีฟ้าสดใสขนาดพอเหมาะ ระบุชื่อรุ่นเด่นชัดตรงกลางด้านบน มุมล่างซ้ายจะมีสติ๊กเกอร์วงกลมขอบทองติดไว้ว่าเป็นรุ่น Pro Edition ชูจุดเด่นที่กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP เลนส์มุมกว้าง 120 องศา และกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16MP พร้อมสโลแกน “We Love Photo” ของสมาร์ทโฟนตระกูล ZenFone 4 Series
ด้านหลังกล่องระบุรหัสโมเดลเครื่อง และสเปคการใช้งานคร่าวๆ เอาไว้ อาทิ ตัวเครื่องสีดำ, หน่วยความจำ RAM 3GB, ROM 32GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, สนับสนุน 4G LTE, หน้าจอ HD ขนาด 5.5 นิ้ว และกล้องหน้าหลังความละเอียด 16MP เป็นต้น
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– ตัวเครื่อง Asus ZenFone 4 Max Pro Edition สีดำ
– เคสกันรอยแบบใส
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และใบรับประกันสินค้า
– หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– จุกหูฟังสำหรับเปลี่ยน
– สายชาร์จ micro USB
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– USB OTG
สำหรับ Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition จะไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Output: 5V 2A 10W) และสาย USB OTG ทำหน้าที่เป็น Host Device หรือใช้จ่ายไฟเป็นพาวเวอร์แบงค์ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้
ทำความรู้จัก Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
ด้านหน้า Asus ZenFone 4 Max Pro Edition มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280×720 พิกเซล (HD) ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass ระบบ Multitouch ทำงานได้ลื่นไหลดี มาพร้อมโหมดการใช้งาน Bluelight filter ปกป้องดวงตาด้วยแสงสีนวลระหว่างใช้งาน
ด้านหน้าส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 76 องศา ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมดใช้งาน PixelMaster 4.0, Softlight LED flash, โหมดแต่งหน้าสวย (Beautification Mode), เซลฟี่พาโนรามา 140 องศา และลำโพงฟังสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม Recent Apps ที่ใช้งานแบบ Capacitive Button สกรีนด้วยสีเงินไม่มีไฟ Backlight ขณะที่ปุ่มโฮมตรงกลางจะฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ค่ะ
ด้านหลัง ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุโลหะเกรดพรีเมียมดีไซน์ธรรมดา มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ (Deepsea Black), สีทอง (Sunlight Gold), และสีชมพู (Rose Pink) ติดตั้งกล้องหลังเลนส์คู่พร้อม LED flash ขอบด้านบน-ล่างพาดด้วยเส้นรับสัญญาณสะท้อนเงา
ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 5MP (Ultra Wide ) เลนส์มุมกว้าง 120 องศา เก็บภาพหมู่กับเพื่อนได้ง่ายยิ่งขึ้น ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อม LED flash, โหมด PixelMaster 4.0 เพื่อการถ่ายภาพที่สวยงาม ความละเอียดสูง และชัตเตอร์ว่องไว , Dual Pixel PDAF, กันสั่น Shake Reduction, บันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD และเส้นเสาสัญญาณ
ด้านหลังส่วนล่าง พบเส้นเสาสัญญาณสะท้อนเงา 1 เส้น
ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมค์ตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย พอร์ตเชื่อมต่อ micro USB และลำโพงเสียงสำหรับความบันเทิง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM แบบ Triple-Slot Tray
โดยช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray จะรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และ MicroSD Card ได้ในถาดเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น ซิมที่สองจะรองรับ 3G
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มปรับระดับเสียง
การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดระดับเสียง + พาวเวอร์ทางด้านขวาตัวเครื่องค้างไว้ค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 430 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.4GHz หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505 หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB ความจุ 32GB และมีราคาอยู่ที่ 7,990 บาท เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด
พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 42065 คะแนน ถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ Nokia 5 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon 430 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.4GHz หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505 หน่วยความจำ RAM ขนาด 2GB ความจุ 16GB และมีราคาอยู่ที่ 6,490 บาท ที่ทำได้ 45364 คะแนน (ชมรีวิว)
สำหรับสเปคการใช้งานของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด ระบุว่ามีรหัสรุ่นโมเดล Asus_X00ID รันระบบ Android 7.1.1 ชิปเซ็ตแบบ Octa-Core จำนวน 8 แกนสมอง จีพียู Adreno 505 หน้าจอความละเอียด HD กล้องหลังและหน้าความละเอียด 15.9MP หน่วยความจำแรมเหลือใช้ 1397MB ความจุใช้งานจริง 21.02GB ไม่รองรับ NFC
Interface
หน้าจอ Lock screen จะมีการระบุถึงระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ล่าสุดเอาไว้ด้วย สามารถปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น
หน้า Home screen มีมาให้จำนวน 2 หน้า แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน จัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง
หน้า Home screen จะมีแอปฯ BeautyLive ให้ใช้งานสวยรวดเร็วทันใจ ทั้งยังสามารถเลือกการสตรีมสดผ่าน YouTube และ Instagram แบบสวยๆ ได้อีกด้วย
เมื่อกดเข้าไปที่หน้า Home screen ด้านในจะพบกับหน้ารวมของเมนูการใช้งาน
แอปพลิเคชันจาก Google มีให้ใช้งานอย่างครบครัน สามารถใช้งาน Google ได้อย่างรวดเร็วทันใจด้วยการปัดไปทางด้านซ้ายในหน้า Home screen
สามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store
ดาวน์โหลดธีม หรือวอลเปเปอร์น่ารักๆ โดยมีทั้งเสียค่าบริการ และดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
สำหรับ ZenUI FAQ เป็นการรวมเคล็ดลับสำหรับการใช้งาน และคำถามเกี่ยวกับการใช้งาน ZenUI บนอุปกรณ์ ZenFone
มีแชทออนไลน์ถามตอบในช่วงเวลาทำการ หรือค้นหาศูนย์ซ่อมในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย
Asus Zenfone 4 Max Pro Edition ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้ปุ่มโฮมด้านหน้าตัวเครื่อง รองรับลายนิ้วมือสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ
เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฏหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด ในการเคลียร์แอปฯ จะสไลด์แอปฯ ไปทางขวามือเพื่อลบทีละแอปฯ ก็ได้ หรือจะกดไปที่รูปจรวดมุมขวาล่างเพื่อเคลียร์แอปฯ ทั้งหมดอย่างรวดเร็วก็ได้ค่ะ
เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง
โหมดการใช้งานอย่างง่าย เหมาะสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้งานระดับต้น
การโทรสนทนา และการส่งข้อความ
โหมดเครื่องมือการใช้งาน เริ่มต้นที่เครื่องคิดเลข
สภาพอากาศ และตัวจัดการไฟล์
เครื่องคิดเลข และสภาพอากาศโดยรวมตลอดทั้งสัปดาห์
หน้าปรับแต่งวิดเจ็ต
เมื่อสไลด์หน้าจอลงจะพบกับหน้า Quick Settings มีการแจ้งเตือน การตั้งค่า หรือเปิดการใช้งานต่างๆ ที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
Zenfone 4 Max Pro Edition รองรับ OTG ถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทันใจ
แบตเตอรี่ของ Zenfone 4 Max Pro Edition มีการประเมินว่าจะสามารถเหลือใช้งานได้อีกกี่ชั่วโมง และมี PowerMaster ระบบจัดสรรพลังงานที่มีประสิทธิภาพในตัวเครื่อง
Google Maps แผนที่ทำงานได้ดี การใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว
PowerMaster แอปพลิเคชั่นที่ช่วยจัดการการใช้งานแบตเตอรี่ ยืดอายุการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จบ่อยๆ ด้วยระบบการจัดการที่หลากหลาย
ในส่วนนี้จะเป็นตัวจัดการมือถือ ใช้ในการสแกนหาไวรัส ดูการใช้ข้อมูลในตัวเครื่อง เร่งความเร็วเพิ่มศักยภาพในการใช้งาน จัดการแจ้งเตือนต่างๆ ล้างข้อมูล หรือตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่กล้องหลังของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition โหมดถ่ายภาพปกติมีให้เปิดใช้งานแฟลช, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ 2 วินาที 5 วินาที และ 10 วินาที, อัตราส่วนภาพถ่าย 4:3 และ 16:9, เปิดใช้งาน HDR
โหมดการใช้งานพิเศษ ประกอบไปด้วย โหมดแต่งสวย, GIF, ถ่ายปกติ, ถ่ายภาพความละเอียดสูง และถ่ายไทม์แลปส์
สำหรับโหมดแต่งสวย จะช่วยเพิ่มผิวขาวเนียน, ปรับขนาดดวงตา, หน้าอมชมพู, ปรับคางเรียว และเมื่อเลื่อนวงกลมสีชมพูขึ้นจะเป็นการตั้งเวลาในการถ่ายภาพ
โหมด GIF ช่วยสร้างภาพเคลื่อนไหวทั้งแบบด้านหน้า และแบบย้อนกลับ
โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 21 ล้านพิกเซล
โหมดถ่ายวิดีโอแบบไทม์แลปส์ ถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที มีให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2.5 วินาที ดังภาพ
โหมดถ่ายวิดีโอ สามารถเลือกบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด HD และสูงสุดคือความละเอียดระดับ Full HD
โหมดถ่ายภาพฟิลเตอร์สีต่างๆ
เมนูการตั้งค่ากล้องหลังของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
กล้องหลังของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด HD และสูงสุดคือความละเอียดระดับ Full HD
ถัดมาจะเป็นโหมดการใช้งานของกล้องหน้า ซึ่งมีให้เลือกตั้งค่าใช้งานเหมือนกับกล้องหลัง
ปัดเมนูกล้องไปทางขวามือจะเป็นโหมดการถ่ายภาพฟิลเตอร์สีต่างๆ
โหมดการใช้งานพิเศษของกล้องหน้า ประกอบไปด้วย โหมดแต่งสวย, GIF, ถ่ายปกติ และถ่ายเซลฟี่แบบพาโนรามา
โหมด GIF ช่วยสร้างภาพเคลื่อนไหวทั้งแบบด้านหน้า และแบบย้อนกลับ
โหมดถ่ายภาพเซลฟี่พาโนรามา ถ่ายเซลฟี่กล้องหน้าในแนวกว้าง
โหมดถ่ายวิดีโอ สามารถเลือกบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด HD และสูงสุดคือความละเอียดระดับ Full HD
เมนูการตั้งค่ากล้องหน้าของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
กล้องหน้าของ Asus ZenFone 4 Max Pro Edition มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด HD และสูงสุดคือความละเอียดระดับ Full HD เหมือนกับกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Asus ZenFone 4 Max Pro Edition
Asus Zenfone 4 Max Pro Edition มีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Softlight LED flash, Touch Focus และ Auto Focus ภาพถ่ายมีความคมชัดในระดับนึง จากภาพตัวอย่างใช้โหมดแต่งสวยตามปกติปรับโฟกัสเอง แต่การถ่ายภาพในที่แสงน้อยแล้วใช้ Softlight LED flash เป็นตัวช่วย ภาพที่ได้ดูไม่สมส่วนหน้าเทาเล็กน้อยดูไม่เป็นธรรมชาติ
ขณะที่เมนูการใช้งานของโหมดแต่งสวยมีให้ปรับแต่งค่าสีผิว ผิวอมชมพูปัดบรัชออน ผิวเนียนสวย ผิวขาว ความกลมโตของดวงตา และปรับความเรียวของคาง ถูกใจสาวๆ สายเซลฟี่เลยค่ะ โดยรวมแล้วกล้องหน้าทำออกมาไม่ได้ขี้เหร่อะไร ภาพสวยคมชัด แต่ต้องปรับโฟกัสดีๆ ค่ะ
จุดเด่น
– สมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดรุ่นใหม่ราคาไม่เกิน 10,000 บาท
– หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280×720 พิกเซล (HD) กันรอย Gorilla Glass
– ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ครอบทับ ZenUI
– ชิปเซ็ต Snapdragon 430 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.4GHz จีพียู Adreno 505
– หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB ความจุ 32GB
– รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 5MP (Ultra Wide 120 องศา) ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash, Dual Pixel PDAF, กันสั่น Shake Reduction, บันทึกวิดีโอระดับ Full HD
– กล้องหน้าความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Softlight LED flash
– ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot Tray จะรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และ MicroSD Card ได้ในถาดเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น (Full Netcom 3.0)
– สนับสนุน 4G LTE
– มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ระบบจัดสรรพลังงานในเครื่องทำงานได้ดี ใช้งานได้นาน
– บอดี้โลหะแบบ Unibody ขนาดบาง 8.9 มิลลิเมตร
– รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ micro USB และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ (Deepsea Black), สีทอง (Sunlight Gold) และสีชมพู (Rose Pink)
ข้อสังเกต
– แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh แต่ไม่มีเทคโนโลยี Fast Charge หรือระบบชาร์จเร็วมาให้ ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มพอสมควร
– กล้องถ่ายภาพในที่ร่มได้ไม่ค่อยถูกใจนัก ไวท์บาลานซ์เพี้ยน โฟกัสไม่ค่อยตรงจุด
– จอภาพความละเอียดระดับ HD
– โหมดการใช้งานกล้องมีให้เลือกใช้ค่อนข้างน้อย
– เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่ความจุสูง ใช้งานได้นาน กล้องถ่ายภาพปานกลาง
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– Asus ZenFone 3 Max
– Huawei GR5 2017
– Lenovo VIBE K5 Note
– Moto G Turbo
– Nokia 6
– OPPO F1s
– Samsung Galaxy J7 Prime
– Samsung Galaxy J7 Version2
–Sony Xperia XA1
– Sony Xperia XA
– vivo V5
– Wiko U feel Prime
ขอขอบคุณ บริษัท เอซุสเทค (ประเทศไทย) จำกัด
Leave a Reply