ใหญ่-กฤดา เสพมงคลเลิศ กูรูด้านการถ่ายภาพร่วมแชร์มุมมองที่มีต่อคนไทย และความเป็นไทย ในแคมเปญ “ThaiPicStory” จาก Huawei
“เพราะภาพถ่ายคือเครื่องมือที่หยุดเวลาไว้” คุณใหญ่-กฤดา เสพมงคลเลิศ ผู้คร่ำหวอดให้วงการถ่ายภาพ ได้กล่าวถึงแคมเปญ “ThaiPicStory” จากหัวเว่ย แคมเปญเอาใจผู้ชื่นชอบถ่ายภาพ วิถีชีวิตผู้คน และถ่ายชีวิตรอบตัวในมุมมองต่างๆ ไว้บอกเล่าเรื่องราวภายใต้แนวคิด “The People of Thailand” หรือเรื่องราวของคนไทยและเมืองไทยที่คุณประทับใจมากที่สุด
สำหรับคุณใหญ่แล้วแคมเปญนี้มีความน่าสนใจตรง แคมเปญ “ThaiPicStory” ดึงเอา ‘มุมมอง’ ที่น่าสนใจของคนไทยออกมาผ่านภาพถ่าย “ ผมมองว่านอกจากจะต้องมีเครื่องมือที่ดีแล้ว มุมมองในการถ่ายภาพเป็นสิ่งสำคัญ ต้องใช้ไหวพริบและความใจเย็นด้วย เพราะภาพถ่ายเป็นเครื่องมือหยุดเวลา หากเราพลาดเหตุการณ์นั้นไปเพียงเสี้ยววินาที เราก็อาจจะพลาดโมเมนต์ภาพสวยๆที่เราอยากจะหยุดไว้ด้วย ดังนั้น ThaiPicstory เป็นอีกหนึ่งแคมเปญดีๆ ที่ไม่เพียงแต่จะชวนให้คนไทยชวนกันแชร์รูปถ่าย แต่เป็นการแชร์ ‘มุมมอง’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน อีกด้วย”
หากให้คุณใหญ่แชร์ถึงมุมมองที่ตนเองมีต่อประเทศไทยและคนไทยแล้ว คุณใหญ่บอกว่า “ผมอยากบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยเสมือนว่าผมเป็นฝรั่ง เพราะว่าบางอย่างที่เรามองว่าดูธรรมดา ในฐานะคนไทย เช่น คนกำลังทานข้าวอยู่ริมถนน คนกำลังกวาดบ้าน หรือคนกำลังวิ่งขึ้นรถเมล์ ล้วนแต่เป็นมุมมองที่น่าสนใจและแปลกใหม่สำหรับชาวต่างประเทศ”
นอกจากภาพที่แสดงถึงวิธีชีวิตของคนไทยในมุมมองที่ไม่ธรรมดาแล้ว คุณใหญ่ยังชื่นชอบการถ่ายภาพวิวอีกด้วย ซึ่งคุณใหญ่ได้อธิบายเหตุผลว่า “ภาพวิวเป็นภาพที่ถ่ายได้ในทุกๆที่ แต่จะถ่ายให้สวยนั้น เช่นเดียวกับการถ่ายภาพคนหรือวิถีชีวิต ต้องอาศัยจังหวะและมุมมองของคนถ่ายที่น่าสนใจ ภาพวิวแม้จะเรียบง่าย แต่การที่จะให้ได้ภาพเหล่านั้น ต้องใช้ทักษะของคนถ่ายรูป ความอดทน ต้องรอจังหวะ เวลา เพื่อให้ได้สี และอุณหภูมิของแสงที่พอเหมาะ จากธรรมชาติ
สำหรับแคมเปญ “ThaiPicStory” คุณใหญ่ได้แชร์รูป 2 รูปที่แสดงถึงมุมมองของคุณใหญ่ที่มีต่อประเทศไทย “เหตุผลที่ผมเลือกสองรูปนี้เพราะว่า ทั้งสองรูปถ่ายในเวลา ‘the golden hours’ หรือช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆของแต่ละวัน สำหรับนักถ่ายภาพช่วงเวลานี้แหละ ที่เรียกว่าเป็นนาทีทอง ที่ต้องถ่ายเก็บไว้ให้ได้จริงๆ
สำหรับภาพทุ่งนา ภาพนี้บ่งบอกความเป็นไทยมากที่สุด ไม่ใช่เพราะแค่ว่าเป็นภาพของทุ่งนา ที่ใครๆก็รู้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเรา แต่เพราะตอนที่ถ่ายรูปนี้ผมได้มีโอกาสลงไปเดินบนนาจริงๆ จะมีคนไทยสักกี่คนที่ได้ลงมาเดินบนพื้นนาแบบนี้นะ ภาพทุ่งนาในช่วงตะวันกำลังขึ้นจากขอบฟ้านี้ จึงสื่อมุมมองของผมที่มีต่อประเทศไทยได้ดีที่สุด”
สำหรับใครที่เป็นสายชอบถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพบรรยากาศหรือวิถีชีวิตผู้คน ไว้บอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายแบบคุณใหญ่ สามารถร่วมแคมเปญ “ThaiPicStory” กับหัวเว่ยได้จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เพียงแค่ถ่ายรูปพร้อม #ThaiPicStory ตั้งค่าภาพเป็นสาธารณะและแชร์บน Facebook หรือ Instagram หยิบกล้องของคุณขึ้นมา และมาร่วมแชร์มุมมองของคุณกัน!
Leave a Reply