เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Note 3 กับ Note 3 LTE
สวัสดีท่านผู้อ่านค่ะ วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบมือถือในตระกูล Note กันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เป็น Note 3 เหมือนกันด้วย หลายคนคงจะงงว่า ใช้ชื่อ Samsung Galaxy Note 3 เหมือนกัน หน้าตาก็เหมือนกัน แค่เพิ่มคำว่า LTE มาแค่นั้น มันจะมีอะไรแตกต่างกันเหรอ? ต้องขอบอกเลยว่า ต้องมีอะไรแตกต่างอยู่แล้วค่ะ ในเรื่องของระบบภายใน เนื่องจากคำว่า LTE เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับ 4G นั่นเอง
ส่วนคำว่า 4G นั้นก็เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้ แถมยังมีแค่ค่ายเดียวที่รองรับ ซึ่งก็คือ Truemove และยังโฆษณาปาวๆ อีกว่าครอบคลุมแล้วทั่วประเทศด้วยความเร็วสูงจนน่าตกใจ เป็นอย่างนั้นจริงรึเปล่านะ? หากใครได้ลองใช้แล้ว อย่าลืมเอามาเล่าสู่กันบ้างนะคะ ส่วนเครือข่ายอื่นๆอย่าง AIS และ Dtac นั้น ก็มีข่าวแว่วๆว่าจะใช้ปลายปีนี้ แท้จริงอย่างไรก็ต้องรอดูกันล่ะ
เอาล่ะ กลับมาเข้าเรื่องที่ Samsung Galaxy Note 3 กันต่อ ฝาแฝด Note 3 นี้ มีโมเดลในการผลิตที่แตกต่างกัน Note 3 ธรรมดานั้นมีชื่อโมเดลว่า N9000 ซึ่งรองรับได้แค่ 3G ส่วน Note 3 LTE นั้น มีชื่อว่า N9005 นั้นมีการรองรับ 4G แล้ว หลายคนอาจจะมีคำถาม แล้วมันจำเป็นหรือเปล่าล่ะ? อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละคนค่ะ อาจจะสรุปให้ไม่ได้ว่า อันไหนมันดีกว่ายังไง แต่อย่างน้อยเราจะมาทำข้อมูลเปรียบเทียบให้ดูกันค่ะ ว่ามีความแตกต่างกันตรงไหน เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้อ่านได้ลองตัดสินใจกันดูค่ะ
Design
Samsung Galaxy Note 3
Samsung Galaxy Note 3 LTE
Spec
Features | Note 3 | Note 3 LTE |
ราคา : | 21,900.- (ณ วันที่ 24 เม.ย. 57) | 23,900.- (ณ วันที่ 24 เม.ย. 57) |
ระบบปฏิบัติการ : | Android 4.3 (Jelly Bean) | Android 4.3 (Jelly Bean) |
หน้าจอ : | Super AMOLED 16 ล้านสี กว้าง 5.7 นิ้ว | Super AMOLED 16 ล้านสี กว้าง 5.7 นิ้ว |
ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล | ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล | |
CPU : | Samsung Exynos 5420 Octa Core (A15 1.9 GHz + A7 1.3 GHz) 1.9 GHz |
Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 Quad Core 2.3 GHz |
RAM : | 3 GB | 3 GB |
ความจำตัวเครื่อง : | 32 GB เพิ่ม microSD สูงสุด 64 GB | 32 GB เพิ่ม microSD สูงสุด 64 GB |
กล้องหน้า : | 2 ล้านพิกเซล | 2 ล้านพิกเซล |
Video Call | Video Call | |
กล้องหลัง : | 13 ล้านพิกเซล | 13 ล้านพิกเซล |
LED Flash | LED Flash | |
Zoom 4 เท่า | Zoom 4 เท่า | |
ขนาดภาพสูงสุด 4128 x 3096 พิกเซล | ขนาดภาพสูงสุด 4128 x 3096 พิกเซล | |
ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ | ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ | |
Video : | ความละเอียด HD 1920 x 1080 พิกเซล | ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล |
รองรับไฟล์ MPEG-4, 3GP, WMV, H.264, H.263 | รองรับไฟล์ MPEG-4, 3GP, FLV, H.264, H.263 | |
Battery : | 3,200 mAh | 3,200 mAh |
ขนาด : | 79.2 x 151.2 × 8.3 มม. | 79.2 x 151.2 × 8.3 มม. |
น้ำหนัก : | 168 กรัม | 168 กรัม |
รองรับซิม : | 1 ซิม | 1 ซิม |
ระบบกันน้ำ : | ไม่มี | ไม่มี |
ระบบเครือข่าย : | – 2G: EDGE/GPRS | 2G: EDGE/GPRS |
– 3G: HSPA+ 42 Mbps, HSDPA , HSUPA | 3G: HSPA+ 42 Mbps, HSDPA , HSUPA | |
– | 4G | |
– Wifi | Wifi | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Bluetooth 4.0 | Bluetooth 4.0 |
– Micro USB 3.0 | USB Port | |
– ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. | ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. | |
– รองรับ NFC (Near Field Communication) | รองรับ NFC (Near Field Communication) | |
– เชื่อมต่อแบบ MHL (Mobile High-Definition Link) | – เชื่อมต่อแบบ MHL (Mobile High-Definition Link) | |
GPS : | – GPS | GPS |
– GLONASS | GLONASS | |
Sensor : | – ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light) | ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light) |
– ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer) | ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer) | |
– ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity) | ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity) | |
– ระบบตรวจจับคลื่นแม่เหล็ก (Geomagnetic) | ระบบตรวจจับคลื่นแม่เหล็ก (Geomagnetic) | |
– ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope) | ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope) | |
– ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation) | ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation) | |
– รองรับ S-Pen | รองรับ S-Pen | |
สี : | – ขาว | เจ็ทแบล็ค / คลาสิกไวท์ / บลัชพิงค์ |
– ดำ | Jet black / Classic White / Blush Pink |
สรุป
จากตารางจะเห็นได้ว่า แทบจะเหมือนกันเลยนี่หน่า ในเรื่องของดีไซน์ภายนอก แทบจะเหมือนกันหมดเลยค่ะ แตกต่างแค่แบบ LTE จะมีสี บลัชพิงค์ เพิ่มมาด้วย แต่แค่นี้ อาจจะยังไม่ใช่เหตุผลที่คนที่ใช้ Note 3 จะเปลี่ยนมาเป็น LTE หรอกค่ะ แต่พอดู ราคาแล้ว โอ้โห แตกต่างกันตั้ง 2,000 บาทเชียว คิดได้ 2 แง่ค่ะ ทั้งๆที่เหมือนกัน ทำไมต้องเสียเงินอีกสองพันไปซื้อกัน หรือ แตกต่างตั้งสองพัน แสดงว่ามีอะไรที่เหนือกว่าแน่ๆเลย เราลองมาดูส่วนที่แตกต่างแบบเป็นข้อๆกันค่ะ
– CPU ถึงจะใช้ชิปคนละตัว แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้แตกต่างในเรื่องของความเร็วกันมากเท่าไหร่ค่ะ
– ความละเอียดกล้องวิดิโอ ของ Note 3 LTE จะเป็นแบบ FullHD เลยค่ะ ซึ่งเทียบได้กับทีวีราคาแพงๆเลย (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนใช้เยอะเท่าไหร่นะ)
หมดแล้ว! นอกเหนือจากรองรับ 4G ก็มีแค่นี้เองค่ะ ที่แตกต่างกัน ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ อาจจะเหมาะกับผู้ที่กำลังใช้ Truemove อยู่ เพราะสามารถไปแจ้งเปลี่ยนได้เลย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจนถึงสิ้นปีนี้ (ธ.ค. 2557) แต่สำหรับผู้ที่ใช้เครือข่ายอื่น ต่อให้เปลี่ยนมาใช้ Note 3 LTE ก็ไม่รองรับ 4G อยู่ดีจ้า! อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี LTE ถือว่าเป็นของใหม่ ที่กำลังเข้ามาในบ้านเรา และประโยชน์ของมันก็เหมาะกับชีวิตประจำวันในยุคนี้ ที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ และการแข่งขัน ถ้าหากมี 4G มาช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อโลกไซเบอร์ได้อย่างรวดเร็วก็คงจะดี ยังไงก็ต้องรอกันต่อไปค่ะ เอาจริงๆ กว่าบ้านเราจะเต็มไปด้วย 4G ที่อื่นคงไปถึง 5…6…7G กันหมดแล้วมั้ง…
ตามไปดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นในเชิงลึกได้ที่
Leave a Reply