สรุปฟีเจอร์ใหม่บน Android O แพลตฟอร์มเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด!
เมื่อไม่นานมานี้ Google ได้ทำการปล่อยอัพเดท Android O สำหรับนักพัฒนา (Developer) เวอร์ชั่นแรกออกมาเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Google I/O 2017 ช่วงเดือนพฤษภาคม และจะปล่อยให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพโหลดกันช่วงไตรมาส 3 วันนี้เราจึงจะขอนำฟีเจอร์เด่นๆ ของ Android O เวอร์ชั่น Developer Preview มาฝากให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามรายละเอียดกันเลยค่ะ
– Background limits ขีดจำกัดของการทำงานเบื้องหลัง Android O ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ จึงได้มีการเพิ่มระบบจำกัดการทำงานของแอปพลิเคชั่นแบบอัตโนมัติ สำหรับการทำงานเบื้องหลังของแอปฯ implicit broadcasts, background services และ location updates เป็นเหตุให้แอปฯ ที่ทำงานเบื้องหลังประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
– Notification channels การแจ้งเตือนอิสระมากขึ้น สามารถแบ่งประเภทการแจ้งเตือนของแอปฯ ได้เอง ไม่ว่าจะเป็นการปิดแจ้งเตือนเป็นหมวด หรือเปลี่ยนการทำงานโดยไม่ต้องปิดการแจ้งเตือนทั้งแอปฯ
– Autofill APIs เข้าสู่ระบบต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัติ สำหรับ Android O จะรองรับการตั้งค่า Default App ผู้ใช้งานสามารถใส่ข้อมูลอัตโนมัติเพื่อเข้าสู่ระบบต่างๆ แทนการกรอกข้อมูลซ้ำๆ ทำให้ประหยัดเวลาในการกรอกข้อมูล และจำเป็นที่นักพัฒนาแอปฯ จะต้องเป็นผู้ติดตั้งเองถึงจะเรียกใช้งานได้
– Picture In Picture mode (PIP) โหมดภาพซ้อน Google ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ PIP รองรับการแสดงผลหลายจอที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมวิดีโอพร้อมกับคุยโทรศัพท์ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานของแอปฯ ในโหมด PIP และกำหนดอัตราส่วนหน้าต่างได้เอง
– Fonts resources in XML จัดการแบบตัวอักษรได้มากขึ้น มีการปรับปรุงฟอนต์ภาษาที่สามารถใช้แบบอักษรที่มีอยู่ หรือจะอัพโหลดไฟล์แบบอักษร หรือฟอนต์ด้วยโครงสร้างภาษา XML เพิ่มเติมได้
– Adaptive icons รองรับการปรับแต่งการใช้งานไอคอน เพื่อให้อินเทอร์เฟสดูหลากหลายสวยงามมากยิ่งขึ้น ทั้งยังรองรับภาพเคลื่อนไหวเมื่อมีการโต้ตอบกับไอคอน การแสดงผลจะแตกต่างไปแต่ละอุปกรณ์ที่กำหนด
– Wide-gamut color for apps ช่วงสีแอปฯ กว้างขึ้น ฟีเจอร์ดังกล่าวจะรองรับแอปฯ กำหนดการแสดงผลที่มีช่วงสีกว้างขึ้น สนับสนุนโปรไฟล์สีของ AdobeRGB, Pro Photo RGB, DCI-P3 สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับการแสดงผลช่วงสีกว้าง
– Connectivity การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น Android O ถูกพัฒนาให้มีคุณภาพเสียง Hi-Fi audio ผ่าน Bluetooth ดียิ่งขึ้น และรองรับ WiFi Aware หรือ Neighbor Awareness Networking (NAN) เพื่อให้อุปกรณ์ค้นหาหรือสื่อสารกับอุปกรณ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
– Keyboard Navigation คีย์บอร์ดเดาคำได้ดีขึ้น เพิ่มการรองรับแป้นพิมพ์ที่สามารถคาดเดาคำล่วงหน้าได้ดีขึ้น พร้อมกับปรับปรุงการเลื่อนตำแหน่งควบคุมทิศทางส่วนติดต่อผู้ใช้งานใหม่
– AAudio API for Pro Audio ระบบเสียงประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถเล่นเสียงคุณภาพสูงพร้อมมีความหน่วงต่ำในแอปฯ สตรีมมิ่งที่ใช้ AAudio
– WebView enhancements ปรับปรุงแอปฯ หลักเพิ่มความเสถียร ในตัวแอปเบราว์เซอร์จะจัดการเนื้อหาคอนเทนต์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และชูเสถียรภาพการทำงานที่ดีขึ้น มีการแยก WebView ออกจากแอปฯ หลักเพื่อหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
– Java 8 Language APIs and runtime optimizations เพิ่มการรองรับการทำงานของ API ของ Java 8 เวอร์ชั่นใหม่ที่ใช้เวลาในการ Runtime รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า
– Partner platform contributions ผลงานจากพาร์ทเนอร์บนแพลตฟอร์ม สำหรับกลุ่มพาร์ทเนอร์ของ Google และนักพัฒนาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา Android O ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่ Sony ที่ช่วยจัดการบั๊กได้มากกว่า 250 บั๊ก ช่วยพัฒนาฟีเจอร์กว่า 30 ฟีเจอร์ และมีการนำ LDAC เทคโนโลยีเสียงไร้สายความละเอียดสูงมาผสมผสานเข้ากับ Android O อีกด้วย
ชมคลิป
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ android-developers, www.phonearena.com
Leave a Reply