5 เหตุผล ที่ไม่ควรซื้อ iPhone 6s 16GB มาใช้!

5 เหตุผล ที่ไม่ควรซื้อ iPhone 6s 16GB มาใช้!

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 6s ได้เผยสเปค ฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบน iOS 9 แล้ว เพื่อนๆ ที่สนใจจะซื้อ iPhone 6s ความจุ 16GB นั้นดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานอย่างแน่นอนค่ะ เพราะหากเพื่อนๆ ซื้อ iPhone 6s รุ่นความจุ 16GB มาใช้คงต้องประสบปัญหาหน่วยความจำในเครื่องเต็มภายในเวลาไม่กี่เดือน เพราะอะไรไปชมกันเลยค่ะ

1. เครื่องแรงขึ้น! กราฟฟิคดีขึ้น! ทำงานได้มากขึ้น! และแอพจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

เพราะว่าต่อจากนี้ในการใช้งานอุปกรณ์บน iOS นั้นมีโอกาสที่แอพจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ตามประสิทธิภาพของเครื่องที่มากขึ้น อย่าง iPhone 6s นั้นตัวชิปเป็น A9 ที่แรงขึ้นกว่าเดิม ประมวลผลกราฟฟิคได้ดีขึ้น การทำงานแอพทั้งด้านเอกสารต่างๆ การตัดต่อ VDO ฯลฯ

แอพเหล่านี้ขนาดอาจจะอยู่แค่ไม่กี่ร้อย MB แต่ไฟล์เอกสารที่เราทำงานในแอพ หรือไฟล์วิดีโอที่ตัดต่อนั้นมันใหญ่มาก ยิ่งตอนนี้ iMovie สามารถตัดต่อวิดีโอระดับความละเอียดสูงได้ด้วย รับประกันได้ว่า iPhone 6s 16GB มีพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลได้แค่ไม่กี่งานก็เต็มแล้ว

2. ภาพถ่ายขนาด 12 ล้านพิกเซล และ VDO 4K

เหตุผลของหลายคนที่อยากจะเปลี่ยนมาใช้ iPhone 6s ก็คือกล้องที่ถ่ายภาพได้ละเอียดคมชัดมากยิ่งกว่าเดิม โดยที่กล้องหลัง iSight นั้นเพิ่มจาก 8 ล้านพิกเซลขึ้นมาเป็น 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า Facetime HD ก็เพิ่มขึ้นมาจาก 1.2 ล้านพิกเซลเป็น 5 ล้านพิกเซล

แต่อย่าลืมนะคะว่าภาพถ่ายที่คมชัดมายิ่งขึ้น มันจะมาพร้อมกับขนาดไฟล์ภาพที่ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะ Apple ไม่เคยให้เราปรับขนาดภาพในตอนถ่ายได้ นั่นแปลว่าขนาดไฟล์ภาพที่ถ่ายใน iPhone 6s นั้น ถ่ายด้วยกล้องหลังไฟล์จะใหญ่ขึ้นประมาณ 50% ส่วนถ่ายภาพเซลฟี่จะใหญ่ขึ้นถึง 4 เท่า รวมถึงในส่วนของวิดีโอนั้นก็สามารถถ่ายได้ละเอียดถึง 4K ขนาดของไฟล์นั้นมันใหญ่มหาศาลมากๆ

แล้วเพื่อนๆ ลองคิดดูว่าความจุของ iPhone 6s ความจุ 16GB จะรับมือกับไฟล์ภาพและวิดีโอเหล่านี้ได้สักกี่ภาพกันเชียว?

3. เกมใหม่ๆ จะมาพร้อมกับแอพขนาดที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น!

Apple ยังพยายามผลักดันให้ iOS เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเล่นเกมมาโดยตลอด และด้วยประสิทธิภาพของ iPhone 6s ตอนนี้แรงเหลือเฟือสำหรับเล่นเกมที่กราฟฟิคระดับสูงได้แล้ว ถึงแม้ว่า Apple จะมี Metal ที่เป็น engine ช่วยในการทำกราฟฟิคเกมให้มีขนาดเล็กลง

แต่สังเกตให้ดีว่าตอนนี้ใน iTunes Store มีเกมขนาดที่ใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น BioShock (2.6GB), World of Tanks (2.5GB), Grand Thieft Auto: San Andreas (1.9GB) แค่ 3 เกมนี้รวมกันก็กินพื้นที่ไป 7GB กว่าแล้ว และคาดว่าในอนาคตจะมีเกมใหม่ๆ ที่กราฟฟิคดีพร้อมทั้งไฟล์ของแอพที่ขนาดใหญ่บิ้กเบิ้มออกมาอีกเป็นจำนวนมาก

ยังไม่นับบรรดาเกมที่มีดาวน์โหลดไฟล์เกมอัพเดตใหม่ๆ ตลอดเวลา เกมตอนโหลดจาก App Store ตอนแรกอาจจะแค่ไม่กี่สิบ MB แต่เล่นไปซักพักโหลดเพิ่มก็บวมกลายเป็นหลักร้อย MB โดยไม่รู้ตัว

4. ไฟล์ Cache ในแอพโซเชียล ยิ่งใช้ยิ่งเพิ่ม!

แม้ว่าคุณจะบอกว่าตัวเองเป็นประเภทไม่ค่อยใช้แอพอะไรมากมาย เกมก็ไม่เล่น 16GB ก็น่าจะพอแล้ว เราก็ต้องบอกว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะว่าแอพโซเชียลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือว่า LINE แอพพวกนี้คือแอพที่แอบบวมและมีข้อมูลเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพและไฟล์งานที่ส่งผ่านกัน, ข้อความที่สนทนา, สติกเกอร์ ฯลฯ ใช้งานไปไม่นานแอพก็ใหญ่ไปร่วม GB ได้ง่ายๆ

5. iCloud ทำได้แค่บรรเทา ไม่ได้ทำให้สะดวกสบาย

บริการคลาวด์ของ Apple ที่มีให้ใช้ฟรีๆ อย่างน้อยนิดแค่ 5GB นั้น ต้องบอกว่าแทบจะไม่ได้ช่วยให้ไฟล์ในเครื่อง iPhone 6s 16GB มีที่เหลือเยอะขึ้นได้เลย เพราะพื้นฐานของ iCloud บน iOS จะเอาไว้เก็บพวกไฟล์รูปภาพ, วิดีโอ, เอกสารใน iWorks และแอพของทาง Apple เป็นหลัก ถึงแม้ว่าตอนนี้ใน iOS 9 จะรองรับ iCloud Drive แล้วก็ตามก็ยังเพียงแค่สะดวกในการซิงค์ไฟล์กับบรรดาอุปกรณ์ iOS เครื่องต่างๆ และ Mac ของเราเป็นหลัก

ที่สำคัญ 5GB มันไม่พอใช้จริงๆ ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็คือต้องจ่ายเงินเพิ่มรายเดือนที่ถูกสุดตอนนี้ก็คือ 50GB ราคา $0.99 ที่จริงก็ถือว่าไม่ได้แพงมาก แต่อย่าลืมค่ะว่าการใช้คลาวด์ก็ต้องเชื่อมต่อสัญญาณในการอัพโหลดและดาวน์โหลด กลายเป็นว่าภาระการจัดการไฟล์คุณจะมาพร้อมกับเรื่องความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย

เราไม่ได้จะบอกว่า iPhone 6s รุ่น 16GB ไม่ดี แต่ที่มีปัญหาคือขนาดความจุของเครื่องที่น้อยจนน่าจะมีปัญหาในการใช้งาน ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Apple จะเลิกทำ iPhone 6s รุ่นความจุ16GB และเริ่มต้นด้วยความจุ 32GB แทน แต่ปรากฎว่ามันก็เป็นแค่ข่าวลือให้ฝันค้างไปซะอย่างงั้น

จึงแนะนำว่าถ้าจะซื้อ iPhone 6s นั้น ให้ข้ามรุ่น 16GB ไปแล้วเริ่มที่ 64GB หรืออัดเต็มๆ 128GB ไปเลย ราคาที่สูงขึ้นแต่ทำให้ประสบการณ์การใช้งาน iOS เวอร์ชั่นล่าสุดได้อย่างรื่นไหล, ถ่ายภาพสวยๆ ถ่ายวิดีโอแล้วตกแต่งได้ดั่งใจ, เล่นเกมได้อย่างจุใจ ไม่ต้องมาติดขัดกับความจุที่ไม่พอใช้กันค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.whatphone.tv