5 จุดเด่นของ Vivo S1 สมาร์ทโฟนรูปลักษณ์สวยสะดุดตา จอใหญ่ กล้องคมชัด เล่นเกมลื่นไหล แบตอึด สเปคระดับท็อป ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยงบต่ำหมื่น!

5 จุดเด่นของ Vivo S1 สมาร์ทโฟนรูปลักษณ์สวยสะดุดตา จอใหญ่ กล้องคมชัด เล่นเกมลื่นไหล แบตอึด สเปคระดับท็อป ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยงบต่ำหมื่น!

Vivo S1

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ 🙂 ในยุคปัจจุบันสมาร์ทโฟนได้เข้ามามีบทบาทและเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา เพราะนอกจากจะใช้ติดต่อสื่อสารกันแล้ว สมาร์ทโฟนยังเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้เก็บข้อมูลส่วนตัว ใช้เป็นกล้องถ่ายรูป เป็นเครื่องเล่นเกม เป็นโรงหนังขนาดย่อมๆ หรือแม้แต่เป็นอุปกรณ์ที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตผ่านดีไซน์งานออกแบบ สีสันของตัวเครื่องที่สะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละคน และหากเรามีสมาร์ทโฟนคู่ใจสักเครื่องที่ตอบโจทย์ก็คงจะดีไม่น้อยเลยค่ะ

Vivo S1 (5)

สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ 5 จุดเด่นของ Vivo S1 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกับวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อไม่นานมานี้ (คลิกชมรีวิว) ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ หน้าจอ, กล้องหน้าเซลฟี่, กล้องหลัง, เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือ และดีไซน์ตัวเครื่อง เผื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนั่นเอง

ซึ่งหากเพื่อนๆ เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสเปคตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ดีไซน์สวย สีสันเป็นเอกลักษณ์ และมีราคาไม่ถึงหมื่น ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ

Vivo S1 (3)

Vivo S1 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจากตระกูล S Series รุ่นแรกที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ชูสโลแกนที่ว่า “Unlock Your Style” โดยเปิดตัวมาพร้อมกับพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดที่กำลังฮอตสุดๆ ขณะนี้อย่าง คุณใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์

Vivo S1 (27)

จัดเต็มสเปคการใช้งานระดับท็อป อาทิ หน้าจอ Halo Fullview Display แบบ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล กล้องหลัง AI Triple Camera กล้องหน้าคมชัด 32MP พร้อม AI Face Beauty ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Helio P65 แรม 6GB คู่ความจุ 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB และแบตเตอรี่ความจุสูง 4500 mAh สนับสนุนชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging 18W

Vivo S1 (14)

Vivo S1 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,999 บาท โดดเด่นด้วยสีที่เป็นเอกลักษณ์มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Diamond Black และ Skyline Blue โดยวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ 5 จุดเด่นของ Vivo S1 จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ

Vivo S1 (18)

ดีไซน์ทันสมัย สวยสะดุดตา และเป็นเอกลักษณ์

Vivo S1 มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น บ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านตัวเลือก 2 สี 2 สไตล์ คือ Diamond Black และ Skyline Blue

Vivo S1 (29)

ตัวเครื่องสี Diamond Black ใช้ดีไซน์แบบ Diamond Pattern เป็นการผสมผสานระหว่างสีดำและสีน้ำเงิน มีลวดลายเพชรเปล่งประกายล้อมรอบด้วยสีดำ เปรียบเสมือนดวงดาวที่เปล่งประกายในท้องฟ้ายามค่ำคืน เฉดสีแตกต่างกันไปเมื่อแสงตกกระทบ ลวดลายวิบวับสวยงาม ดูหรูหรามีสไตล์ ตัวเครื่องถือจับกระชับมือ และพกพาสะดวก ส่วนอีกสีเป็น Skyline Blue สีสันสดใสสวยงามสะดุดทุกสายตา ด้วยการผสมผสานระหว่างสีฟ้าสีม่วงออกชมพูๆ บอดี้สะท้อนดูหรูหราพรีเมียม ตัวเครื่องสีนี้ถูกใจสาวๆ หรือสายหวานแน่นอนค่ะ

Vivo S1 (29)

หน้าจอ Halo FullView Display กับมุมมองที่ไร้ขีดจำกัด

Vivo S1 ใช้หน้าจอ Super AMOLED ดีไซน์ Halo FullView Display ขนาด 6.38 นิ้ว มีรอยบาก Waterdrop Design ทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตำแหน่งของเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ และเซ็นเซอร์ต่างๆ อัตราส่วนจอแสดงผลอยู่ที่ 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 89.98% สามารถใช้งานได้อย่างสบายตาเต็มหน้าจอ เพลิดเพลินทุกความบันเทิงได้แบบไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ท่องอินเทอร์เน็ต หรือเล่นเกมโปรด ทั้งยังใช้งาน 2 หน้าจอ จะแชท ดูหนัง ฟังเพลงไปก็ทำพร้อมกันได้เลยค่ะ

Vivo S1 (30)

เซลฟี่คมชัดด้วยกล้องหน้า 32MP

สำหรับใครที่ชื่นชอบการเซลฟี่เป็นพิเศษต้องบอกเลยว่า Vivo S1 ตอบโจทย์ด้วยกล้องหน้าสุดคมชัดความละเอียดสูงถึง 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 ความชัดระดับ Ultra HD ทำให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่มีความคมชัดสูง ได้รายละเอียดแม่นยำ มาพร้อมโหมด AI Face Beauty, Selfie Lighting, AR Stickers, AI Filter รองรับ Live Photo และฟีเจอร์ Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ทำให้เพลิดเพลินไปกับทุกๆ การเซลฟี่

Vivo S1 (32)

สำหรับโหมด AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับได้ทั้ง ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเอาใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้กล้องหน้ายังสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD ไปจนถึงระดับสูงสุด Full HD พร้อมรองรับโหมด AI Face Beauty อีกด้วย

Vivo S1 (20)

ถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพด้วยกล้องหลัง AI Triple Camera

Vivo S1 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ Sony IMX499 ความละเอียด 16MP + เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8MP + Depth Sensor ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ

Vivo S1 (7)

ถ่ายภาพด้วยเลนส์มุมกว้างกับโหมด AI Super Wide-Angle ซึ่งสามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา เก็บภาพบุคคลและภาพวิวทิวทัศน์ได้กว้างขึ้น พร้อมด้วย AI Portrait Framing ช่วยจัดองค์ประกอบภาพให้ได้สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด และ AI Face Beauty ปรับค่าผิวเนียนสวยโดนใจไม่แพ้กล้องหน้าเลยค่ะ

Vivo S1 (24)

ส่วนเลนส์กล้องทั้งหมดรวมถึงไฟแฟลช LED อยู่ในกรอบสีทองนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย ด้านล่างกรอบสกรีนข้อความว่า AI Triple Camera ส่วนลำดับเลนส์เราจะเริ่มจากด้านล่างสุด ดังนี้ LED Flash > 2MP (Depth Sensor) > 16MP (Sony IMX499) > 8MP (Wide Angle)

Vivo S1 (23)

เทคโนโลยี In-Display Fingerprint Scanning อันฉับไว

Vivo ได้มอบประสบการณ์การปลดล็อกลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งาน Vivo S1 โดยมาพร้อมเทคโนโลยี In-Display Fingerprint Scanning หรือสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผล ซึ่งต้องบอกเลยว่าสามารถปลดล็อกได้อย่างง่ายดายภายในพริบตา

Vivo S1 (34)

ส่วนการลงทะเบียนลายนิ้วมือก็ทำได้แบบง่ายๆ เลยค่ะ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ลายนิ้วมือ ใบหน้า และรหัสผ่าน > ลายนิ้วมือ > ปลดล็อก > ตั้งรหัสผ่าน หรือเลือกรูปแบบการล็อกหน้าจอ > บันทึกลายนิ้วมือ กดไปที่เริ่มต้นการป้อนข้อมูล > ทาบนิ้วมือค้างไว้และยกนิ้วขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการสั่นบนไอคอนสแกนลายนิ้วมือ เพียงเท่านี้ก็ลงทะเบียนลายนิ้วมือเสร็จเรียบร้อย ส่วนการใช้งานจำเป็นต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน ซึ่งอาจจะกดไปที่หน้าจอหรือปุ่มข้างตัวเครื่อง จากนั้นก็สแกนลายนิ้วมือบนไอคอนที่ปรากฎบนหน้าจอเพื่อปลดล็อกตัวเครื่องได้เลยค่ะ

Vivo S1 (22)

นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์การปลดล็อกที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบได้ตามต้องการ ทำให้การปลดล็อกไม่จำเจด้วยไอคอนแบบเดิมๆ

Vivo S1 (16)

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 5 จุดเด่นของ Vivo S1 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งนอกจากจะมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย สวยสะดุดตา เป็นเอกลักษณ์ ใช้หน้าจอ Halo FullView Display ขนาดใหญ่ 6.38 นิ้ว แบบ Super AMOLED กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง 32MP กล้องหลัง AI Triple Camera และมีสแกนลายนิ้วมือฝังใต้จอแสดงผลแล้ว ยังมาพร้อมสเปคการใช้งานระดับท็อปที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

Vivo S1 (9)

ทั้งแบตเตอรี่ความจุสูง 4500 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging 18W เทคโนโลยีชาร์จเร็วสุดเฉพาะของ Vivo เล่นเกมและใช้งานลื่นไหลด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังจากชิปประมวลผล Helio P65 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.1GHz นวัตรกรรมการผลิตระดับ 12nm พร้อมด้วยแรม 6GB คู่ความจุ 128GB ช่วยให้เล่นเกมหรือใช้งานหลายๆ แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างไหลลื่น และเสริมได้ด้วยการ์ด microSD สูงสุด 256GB

Vivo S1 (25)

เอาใจคอเกมด้วย Ultra-Game Mode ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสูงสุด มีโหมด Game Countdown ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ สามารถแจ้งเตือนเวลาที่เหลือก่อนที่เกมจะเริ่ม เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นขณะรอ รวมถึงมีโหมด Multi-Turbo ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

Vivo S1 (4)

รองรับระบบ Jovi ที่มาพร้อมกับ Smart Button และ Jovi Image Recognizer พร้อมด้วย Google Assistant ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยข้างตัวเครื่องมีปุ่ม Smart Button สำหรับเรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ ทำให้ใช้งานได้รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

Vivo S1 (11)

ทั้งหมดนี้เพื่อนๆ สามารถเป็นเจ้าของ Vivo S1 ราคาเพียง 8,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Diamond Black และ Skyline Blue วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยสามารถคลิกชมรีวิว Vivo S1 แบบเต็มๆ ได้ที่ >> www.ninethaiphone.com

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng