5 ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อหูฟังคู่ใหม่ให้โดนใจที่สุด
ในยุคดิจิทัลนี้ หูฟังบลูทูธไร้สายได้กลายมาเป็นอุปกรณ์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องติดตัวไว้เสมอสำหรับหลาย ๆ คน แต่การจะเลือกซื้อหูฟังที่ถูกใจ เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อเราต้องเจอกับตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งยี่ห้อ ดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน แอลจีจึงขอมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เลือกซื้อหูฟังคู่ใหม่ได้อย่างโดนใจที่สุด
1. คำนึงถึงจุดประสงค์ในการใช้งานและไลฟ์สไตล์เป็นอันดับแรก
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อหูฟังคือจุดประสงค์ในการใช้งาน เพราะหูฟังแต่ละประเภทก็จะเหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน สำหรับสายสปอร์ต ต้องคำนึงถึงความคล่องตัว ความทนทาน ประสิทธิภาพในการกันน้ำและเหงื่อ
แต่สำหรับคอเพลงต้องเป็นคุณภาพในการถ่ายทอดเสียงอย่างเต็มอิ่มและทรงพลัง หรือหากเป็นนักธุรกิจที่มีไลฟ์ไตล์หลากหลายและเร่งรีบ อาจต้องการหูฟังที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายอย่างการสั่งงานด้วยเสียง แบตเตอรี่ทนทาน ชาร์จเร็ว ตอบโจทย์การใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
2. เลือกรูปแบบของหูฟังที่ใช่
เมื่อเรารู้จุดประสงค์หลักของการใช้งานแล้ว คำถามต่อไปที่ต้องตอบให้ได้คือรูปแบบของหูฟังที่ต้องการ ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ต่างกัน และความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล หูฟังบลูทูธแบบไร้สายมักจะมาในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
• หูฟังแบบ earbuds เป็นรูปแบบที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากสวมใส่ได้สะดวกง่ายดาย ใส่ได้เป็นเวลานาน มอบคุณภาพเสียงที่ชัดเจน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งสายกีฬา นักธุรกิจ และการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
• หูฟังแบบ in-ear อีกแบบที่มักนิยมกันมาก ซึ่งมีลักษณะเป็นจุกยางใส่เข้าไปในรูหู ทำให้ได้ยินเสียงจากหูฟังชัดเจนยิ่งขึ้นและช่วยลดเสียงรบกวนจากรอบข้าง จึงเหมาะสำหรับคอเพลงที่ต้องการคุณภาพเสียงคมชัดครบทุกรายละเอียด หรือผู้ที่ต้องการลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะทำงาน
• หูฟังแบบคล้องคอ (neckband) มักเป็นหูฟังแบบ in-ear ที่มาพร้อมตัวคล้องคอและสายหูฟังแบบยืดหดได้ จึงมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง มอบความคล่องตัวแบบไร้กังวลว่าหูฟังจะหลุดหรือหายระหว่างวัน เหมาะสมกับทุกการใช้งาน
3. ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง
อีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือคุณภาพเสียงที่คมชัดทั้งในการฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของเสียงนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการถ่ายทอดเสียง จึงควรเลือกหูฟังที่ประกอบด้วยโลหะหลายชั้นเพื่อสร้างเสียงเบสที่หนักแน่นและรายละเอียดเสียงที่ชัดเจน ไปจนถึงเทคโนโลยีระบบเสียงที่ได้มาตรฐานระดับสากล
เช่น เมอริเดียน ออดิโอ ซึ่งนอกจากคุณภาพของเสียงที่ถ่ายทอดออกมาทางหูฟังแล้ว เรายังต้องคำนึงถึงคุณภาพในการรับเสียงผ่านไมโครโฟน ซึ่งควรเป็นหูฟังที่รับเสียงผ่านไมโครโฟนอย่างน้อย 2 ตัว เพื่อสร้างความมั่นใจว่าหูฟังที่เลือกซื้อสามารถมอบเสียงที่มีประสิทธิภาพได้ในทุกการใช้งาน
4. แบตเตอรี่ทนทานและฟังก์ชั่น Fast Charging
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในไลฟ์สไตล์แบบใด ระยะเวลาใช้งานและการชาร์จแบตเตอรี่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งหูฟังแบบไร้สายในปัจจุบันมักมาพร้อมเคสที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ในตัว และควรมีระยะเวลาในการใช้งานไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถ้ามาพร้อมฟังก์ชั่น Fast Charging จะช่วยให้การใช้งานราบรื่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
5. มีเทคโนโลยีเสริมล้ำสมัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยิ่งขึ้น
นอกจากฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างรูปแบบการใช้งาน คุณภาพเสียง และแบตเตอรี่แล้ว สิ่งที่จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการเลือกซื้อหูฟังคือเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างรอบด้าน เช่น การสั่งงานด้วยเสียงที่รองรับการสั่งงานหรือค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่านหูฟังได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมา หรือประสิทธิภาพในการกันน้ำสำหรับผู้ที่ใส่ขณะออกกำลังกายหรือป้องกันละอองน้ำจากรอบข้าง
นอกจากนี้ ในยุคที่สุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบนหูฟังจึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานควรใส่ใจและทำเป็นประจำทุกวัน การเลือกซื้อหูฟังที่มาพร้อมประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้ออย่างการใช้เทคโนโลยี UVnano ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย จึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีอันโดดเด่นของหูฟังที่สามารถเพิ่มความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างตรงจุด
หูฟังบลูทูธไร้สาย LG TONE Free (รุ่น HBS-FL7) และหูฟังบลูทูธแบบคล้องคอ LG TONE Style (HBS- SL6S และ HBS-SL5) จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังคู่ใหม่ มอบคุณภาพเสียงคมชัดระดับพรีเมียมด้วยเทคโนโลยีจากเมอริเดียน ออดิโอ
โดย LG TONE Free มาในรูปแบบ Semi-open earbuds จึงสวมใส่สบายทุกการใช้งาน แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่น Fast Charging ใช้งานได้นาน 1 ชั่วโมงหลังจากใส่เคสชาร์จเพียง 5 นาที รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant เพียงแตะค้างบริเวณหูฟัง กันน้ำระดับ IPx4 และโดดเด่นด้วยเคสชาร์จที่มาพร้อมเทคโนโลยี UVnano สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียบนหูฟังได้ถึง 90%
สำหรับ LG TONE Style มาในหูฟังแบบ in-ear พร้อมที่คล้องคอและสายหูฟังแบบยืดหดได้ ตอบโจทย์กิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย มาพร้อมลำโพงในตัวให้คุยโทรศัพท์หรือฟังเพลงได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่หูฟัง รองรับการใช้งานได้สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่น Fast Charging ให้ใช้งานได้นานถึง 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 10 นาที
หูฟังบลูทูธไร้สาย LG TONE Free (รุ่น HBS-FL7) ราคา 6,990 บาท และหูฟังบลูทูธแบบคล้องคอ LG TONE Style รุ่น HBS- SL6S ราคา 2,290 บาท และรุ่น HBS-SL5 ราคา 1,790 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ว ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่เพาเวอร์บาย โฮมโปร เพาเวอร์มอลล์ ลาซาด้า และช้อปปี้
Leave a Reply