แชร์ประสบการณ์ใช้งาน iPhone XR ใครกำลังจะซื้อแวะมาอ่านก่อน!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ วันนี้เรามีกระทู้บทความ Pantip Trend จากคุณ สมาชิกหมายเลข 1786869 จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “ใครกำลังจะซื้อ iPhone XR อ่านก่อน…” มาฝากให้ได้ชมกัน หากใครที่กำลังตัดสินใจซื้อ iPhone XR แวะอ่านบทความกันสักนิดก่อนค่ะ
ซึ่งบางคนก็ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อ iPhone XR หรือ iPhone 8 Plus ดี โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้มีราคาแตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น ทางเจ้าของกระทู้จึงได้มาแชร์ความรู้สึกหลังใช้งาน iPhone XR ได้ 3 วันให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ทราบกัน หลังจากที่เคยใช้ iPhone 5s มาก่อน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปติดตามเนื้อหากันเลยค่ะ
กระทู้นี้เราจะมาเล่าความรู้สึกหลังจากใช้ iPhone XR มาได้ 3 วัน ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าเราย้ายมาจาก iPhone 5s นะคะ
1. เรื่องน้ำหนัก
อันนี้ต้องยอมรับว่าหนักมากกกกกก เล่นครั้งแรกคือสิบนาทีล้าแขนเลยค่ะ เมื่อยนิ้ว เมื่อยมือไปหมด อาจเป็นเพราะเรายังชินกับน้ำหนักเบาๆ แบบเครื่องเก่าอยู่ คิดว่าถ้าใช้ๆ ไปอาจจะโอเคขึ้นค่ะ
2. เรื่องหน้าจอ
– ขอบ ติ่ง : เป็นอะไรที่หลายๆ คนกังวล ว่าขอบหนา ติ่งยื่นขัดหูขัดตา คือถ้าเทียบกับ iPhone XS หรือ XS Max มันก็หนากว่าจริงค่ะ แต่สำหรับเราคือไม่เป็นปัญหาต่อการใช้งานเลย เราว่าช่วยให้มือไม่ลั่นดีด้วยเพราะมีขอบให้จับนิดนึง
– ความคมชัด : ขอยืนยันว่าภาพไม่แตก ไม่ไก่กาเลยนะคะ ความจริงคือชัดระดับจอ iPhone 5s เราก็พอใจแล้วอ่ะ ไม่ซีเรียส ดูยูทูปได้ชัดปกติเลยค่ะ ปรับความชัดเป็น 1080 ได้ แต่เราว่ามันก็ชัดไม่ต่างจาก 720 เลย
– สีสัน : ไม่สดเท่าจอ OLED อยู่แล้วค่ะ แต่เราชอบนะ เราว่านวลตาดี ยิ่งเปิดโหมดทูโทนจะดูโทนสีอุ่นๆ ดีค่ะ
– จอ LCD : ข้อนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อรุ่นนี้เลยค่ะ คือเรากะใช้ยาวๆ ไม่ได้เปลี่ยนตามกระแสอะไร เลยอยากได้อะไรที่มันทนๆ ดังนั้นพอเห็นว่าจอ OLED มีสิทธิ์จอเบิร์น ถึงแม้จะบอกว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน แต่เราขอไม่เสี่ยงดีกว่าค่ะ
3. Face ID
ยอมรับว่าเห่อกับเรื่องนี้มาก เพราะเครื่องเก่าไม่มี 55555
– ข้อดี : หมดปัญหามือเปียกแล้วสแกนนิ้วไม่ติดเลยค่ะ รวดเร็วมาก บางทีก็คิดว่าเร็วไป แต่สะดวกมาก แอปไลน์ไรงี้ก็สแกนได้เลย
– ข้อเสีย : ที่เราเจอคือเวลามาร์กหน้าค่ะ หงุดหงิดมากต้องใส่รหัสแทน 5555 แล้วก็ตอนวางโทรศัพท์เอียงๆ แต่อยากสแกนก็ไม่ติด อ้อ น้องจะอ๊องๆ ด้วยนะบางที แบบสแกนไม่ติด ต้องใส่รหัส แต่ข้อนี้คือเรายังไม่ได้แกะพลาสติกที่ติดมากะเครื่องออกนะ อาจจะเกี่ยวกัน พอดียังไม่มีเวลาไปติดฟิล์ม
*อัพเดต* ตอนนี้แกะพลาสติกออกแล้วค่ะ จ้องปุ๊บสะเดาะกลอนปั๊บเลย น้องไม่อ๊องแล้วค่าาาาา ^^
4. ราคา
เราว่าโอเค สมเหตุสมผลนะ ถ้าเทียบกับความเสถียรที่ใช้ได้ยาวๆ ตัว 128GB ก็เพิ่มอีกแค่ 2,000 บาทเราว่าคุ้มมาก
5. ตัวเครื่อง
ใหญ่ไปมากสำหรับเรา แต่ก็ดูได้เต็มตาดี
6. กล้อง
– กล้องหลัง : ชัดกว่าเครื่องเก่ามาก โหมด Portrait ก็ชอบมากเช่นกัน ติดอยู่ที่เบลอภาพวัตถุไม่ได้ แต่ก็ไม่ซีเรียส เพราะส่วนมากวัตถุที่เราถ่ายมีแค่ของกิน แก้ปัญหาโดยใช้โหมดกล้องธรรมดาแล้วเอาวัตถุใกล้กล้อง นางก็จะเบลอให้นิดๆ เหมือนเดิม และประเด็นกล้องเดี่ยวก็ไม่ค่อยเป็นปัญหา เพราะเราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปซูมอยู่แล้ว
– กล้องหน้า : มีความบิวตี้มากไปนิด แต่พนักงานบอกถ้าอัพเดต iOS จะดีขึ้น
7. เสียง
ดีมาก ชัดมาก รักจ้า
8. ช่องเสียบหูฟัง
อันนี้เราไม่ค่อยโอเคที่นางใช้ช่องเดียวกัน แต่คิดดูอีกที Apple อาจจะหวังดีว่าไม่อยากให้เราชาร์จไปฟังเพลงไป
9. เคส
ข้อนี้ไม่เกี่ยวกะเครื่องโดยตรง แต่เราเสริมให้ในฐานะคนซุ่มซ่ามที่กลัวน้อง iPhone XR จะอายุสั้น เพราะฝาหลังน้องเป็นกระจก เราหาข้อมูลเรื่องเคสอยู่ 2 วันเต็มๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อเคส mo.. (ตอนนี้รอของมาส่งอยู่ค่ะ) ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อเลยคือคลิปรีวิวทั้งหลายแหล่ ที่โหดร้ายจนเราสงสารน้องเคส โยนลงจากเฮลิคอปเตอร์งี้ เราเลยแบบเอ้อชีวิตจริงเราคงทำตกสูงกว่านั้นไม่ได้ น้องต้องปลอดภัยแน่
*อัพเดต* ได้เคสเรียบร้อยค่ะ ดูพรีเมี่ยมมาก วัสดุดูดี ดูทนทานน่าเชื่อถือจริงๆ ค่ะ ใส่แล้วน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แถมอุ่นใจขึ้นเยอะ แต่!! แกะยากมากกกกก… หรือเรายังไม่ชินไม่รู้ แกะจนเจ็บนิ้ว แงะจนกลัวเครื่องพัง คิดแง่ดีคือถ้าโทรศัพท์เราตกไม่หลุดจากเคสแน่ๆ ฟันธง!
ร่ายมายืดยาวมาก คือเราอยากแชร์ให้คนที่กำลังหาข้อมูล หรือลังเลอยู่ เพราะตัวเราเองก่อนซื้อคือเก็บข้อมูลเป็นเดือนเลย ที่เราไม่ซื้อ iPhone 8 Plus เพราะราคาต่างกันไม่มาก เสียเรื่องกล้องคู่ไปแต่ชิปตัวใหม่มา เราว่าคุ้ม ส่วน 3D Touch เครื่องเก่าไม่มีแล้วเราก็ไม่เดือดร้อนอะไร เลยไม่ซีเรียสค่ะ ขอจบเพียงเท่านี้ ใครมีปัญหาหรือสงสัยอะไรถามเราได้ค่ะ เราจะพยายามช่วยตอบค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ สมาชิกหมายเลข 1786869 จาก www.pantip.com
Leave a Reply