เลือกแล็ปท็อปสำหรับทำงานทั้งที มีอะไรบ้างที่มองข้ามไม่ได้!
ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงาน ของชิ้นหนึ่งที่น่าจะขาดไม่ได้ในวันที่ต้องลงมือทำอะไรจริงจัง ตั้งแต่รายงานชิ้นใหญ่ไปจนถึงโปรเจกต์เงินล้าน ก็คือแล็ปท็อปดี ๆ สักเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบ ซึ่งไม่ได้จบอยู่แค่ความแรงของสเปกที่ให้มาเท่านั้น
แต่ยังต้องมีแบตเตอรี่ที่ทนจนปั่นงานได้ทั้งวันแบบหมดห่วง หน้าจอสวยกริบสบายตา แล้วถ้าน้ำหนักเบา วัสดุพรีเมียม ดีไซน์เนี้ยบได้ด้วยก็คงจะดี แต่การจะหาคอมสักเครื่องที่ตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้แบบ “ถูกทุกข้อ” ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เพราะแต่ละแบรนด์ก็มีสารพัดรุ่นที่ต่างกันแบบยิบย่อย เจอเครื่องที่มีครบทุกอย่างก็แพงลิบ พอหารุ่นที่คุ้มค่า ก็ต้องจำใจเสียฟีเจอร์ดี ๆ หรือดีไซน์เก๋ ๆ ไปอีก ก่อนที่จะถอดใจไป ลองมาดูกันว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้างที่แล็ปท็อปสำหรับทำงานในยุคนี้ต้องมี ถึงจะเรียกได้ว่าตอบทุกโจทย์ ปิดงานได้ทุกจ๊อบแบบคุ้มค่าเต็ม ๆ
หมดยุคขอบจอหนา มาเต็มตากว่ากับดีไซน์พรีเมียม
ยุคนี้ ไม่ว่าจะมองไปที่หน้าจอไหน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงทีวี ก็เจอแต่ขอบจอแบบบางเฉียบที่ทำให้หน้าจอยิ่งดูใหญ่เต็มตา มีชีวิตชีวากว่าเดิม แต่พอมองไปที่แล็ปท็อปรุ่นทำงาน ส่วนใหญ่ก็ต้องผิดหวังกันไปกับขอบที่หนาเตอะ ซึ่งนอกจากจะดูเกะกะแล้ว ยังทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และหนักโดยไม่จำเป็น
ส่วนตัวจอแสดงผลเอง แน่นอนว่าควรมีความละเอียด Full HD แล้วถ้ามาด้วยแผงจอแบบ IPS ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำด้วยก็ยิ่งดี โดยเฉพาะสำหรับใครที่ต้องทำงานดีไซน์หรือกราฟฟิก หรือถ้ารู้ตัวว่าเพื่อน ๆ ชอบมารุมคิดงานกันหน้าจอเดียว ก็ต้องเลือกแล็ปท็อปที่จอสว่าง อ่านได้ชัดแม้จะมองจากมุมเฉียง
แค่นั้นยังไม่พอ อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนมองข้ามไปก็คือองศาการพับจอ เพราะแล็ปท็อปที่พับจอลงวางราบได้เต็ม 180 องศา สามารถรองรับท่านั่งทำงานได้ครบทุกมุม ตั้งแต่เก้าอี้สตูลสูง ๆ โต๊ะทำงานปกติ หรือแม้แต่โซฟาที่บ้าน
พกสะดวก หิ้วสบาย ด้วยบอดี้บางเบากับที่ชาร์จสารพัดประโยชน์
ถ้าได้หน้าจอสวยเฉี่ยวมาแล้ว จะมาคู่กับบอดี้หนาเตอะก็คงไม่เข้ากัน เพราะแล็ปท็อปสำหรับคนทำงานยุคนี้ต้องบางเบา พกง่าย แถมช่วยถนอมไหล่ให้หิ้วไปหิ้วมาได้สบายตัว ส่วนดีไซน์ของตัวเครื่องก็ควรมีมาดของมือโปรด้วยงานออกแบบที่สะอาดตา หยิบมาพรีเซนต์งานได้มั่นใจแบบไม่มีเขิน
ถึงเครื่องจะน้ำหนักเบา แต่แบตเตอรี่ที่ติดมากับเครื่องต้องไม่เบาตามไปด้วย จะได้ปั่นงาน เดินทาง และเข้าประชุมได้ยาว ๆ แบบไม่ต้องห่วงที่ชาร์จ หรือเสร็จงานแล้วจะหยิบมาดูซีรีส์ต่อยาว ๆ ก็ยังไหว อีกหนึ่งจุดที่หลายคนมองข้ามเมื่อพูดถึงน้ำหนักเครื่องก็คือที่ชาร์จ
เพราะแล็ปท็อปหลายรุ่นก็ยังมาพร้อมกับสายชาร์จเส้นหนา ๆ กับอะแดปเตอร์ก้อนใหญ่ที่เพิ่มน้ำหนักในกระเป๋าขึ้นมาได้ไม่น้อย ทางที่ดีแล้ว ให้ลองมองหาแล็ปท็อปที่ชาร์จได้ผ่านพอร์ต USB-C แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนทั่วไป จะได้พกที่ชาร์จแค่ตัวเดียวแต่เอาอยู่หมดทุกเครื่อง
แรงอย่างเดียวไม่พอ ต้องคล่องตัวในทุกจังหวะ
แน่นอนว่าสเปกและสมรรถนะเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการเลือกซื้อแล็ปท็อปที่ตอบโจทย์ แต่นอกจากการมีชิปประมวลผลตัวแรงและหน่วยความจำเหลือเฟือสำหรับงานที่ต้องทำแล้ว ต้องไม่ลืมว่าชีวิตวันทำงานยุคนี้ไม่ได้มีแต่แล็ปท็อปเครื่องเดียว
แต่ยังต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนคู่กันไปด้วยเพื่อจดโน้ตแบบด่วน ๆ ถ่ายรูปมาแชร์ให้ทีม หรือใช้แอปที่ไม่มีในเครื่องพีซี ทุกวันนี้อาจจะมีแล็ปท็อปแค่ไม่กี่รุ่นที่มีฟีเจอร์พิเศษสำหรับการทำงานคู่กับสมาร์ทโฟน แต่รับรองเลยว่าถ้าได้ลองใช้แล้วจะต้องติดใจ จนเพื่อนโต๊ะข้าง ๆ ต้องหันมาถามว่าทำยังไง
MateBook D 14 น้องใหม่สุดคุ้มจากหัวเว่ย ตอบทุกโจทย์ แถมเติมฟังก์ชันเด็ดให้สะดวกกว่าใคร
แล็ปท็อปใหม่ถอดด้ามจากหัวเว่ยอย่าง MateBook D 14 นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดแล็ปท็อป เพราะจัดฟีเจอร์และดีไซน์มาให้แบบเต็ม ๆ ทุกด้าน เริ่มจากหน้าจอ FullView ขนาด 14” ที่มีขอบจอบางแค่ 4.8 มม. จึงมีขนาดใหญ่เต็มตา ให้ความละเอียดระดับ Full HD
พร้อมสีสันสดใสจากหน้าจอแบบ IPS ในบอดี้สีเงิน Mystic Silver วัสดุโลหะล้วน ๆ ตัดกับคีย์บอร์ดสีดำอย่างลงตัว ส่วนสมรรถนะก็แรงไม่แพ้ใครด้วยสองตัวเลือก ไม่ว่าจะแรงแบบคุ้ม ๆ กับชิป AMD Ryzen 7 3700U หรือจะแรงเต็มพิกัดในรุ่นที่ใช้ชิป Intel® Core™ i7-10510U
ส่วนตัวเครื่องที่หนักแค่ 1.38 กก. และบางเฉียบเพียง 15.9 มม. ก็สามารถยกไปเทียบรุ่นกับเครื่องอื่นที่หน้าจอเล็กกว่าได้สบาย แถมยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุถึง 56 Wh ที่ผ่านการทดสอบดูวิดีโอความละเอียดสูงได้นานถึง 13.2 ชั่วโมง จึงจัดการได้ทุกงานตลอดวัน ส่วนวันไหนที่ใช้งานหนักเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้ที่ชาร์จ USB-C ไซส์เล็กถนัดมือ ที่นอกจากจะใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนได้ด้วยแล้ว ยังให้กำลังไฟเต็มพิกัดจนสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เกือบครึ่งหนึ่งในเวลาแค่ 30 นาที
นอกจากนี้ฟีเจอร์เด่นเฉพาะค่ายอย่าง Huawei Share ยังช่วยให้ MateBook D 14 ทำงานคู่กับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยได้ง่าย ๆ แม้จะไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ส่งไฟล์และรูปถ่าย ไปจนถึงการควบคุมสมาร์ทโฟนด้วยแล็ปท็อป สามารถเปิดแอปมือถือคู่กับโปรแกรมทำงานบนแล็ปท็อปเพื่อก๊อปปี้เนื้อหาข้ามไปมาได้เหมือนเป็นเครื่องเดียวกัน หรือจะใช้คีย์บอร์ดของ MateBook มารัวพิมพ์ตอบเพื่อนในทีมทางมือถือก็ยังได้
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและช่องทางในการสั่งจอง Huawei MateBook D 14 ทั้งในรุ่น AMD และ Intel สามารถค้นหาได้ที่ https://consumer.Huawei.com/th/laptops/matebook-d-14-amd/ และ https://consumer.Huawei.com/th/laptops/matebook-d-14-2020/
Leave a Reply