เปิดตัว Samsung Galaxy S20 FE เรือธงรุ่นเล็ก สเปกไม่ธรรมดา อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ยอดนิยม!!

เปิดตัว Samsung Galaxy S20 FE อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ยอดนิยม เพื่อเหล่ากาแลคซี่แฟนโดยเฉพาะ

Samsung Galaxy S20 FE

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัว Galaxy S20 FE (กาแลคซี่ เอส 20 เอฟอี) สมาร์ตโฟนแฟลกชิปพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Galaxy S20 Series มาพร้อมกับการรวมเอาฟีเจอร์และนวัตกรรมเด่นๆ ที่สาวกกาแลคซี่แฟนชื่นชอบจากตระกูล S20 Series มาให้เป็นเจ้าของในราคาเข้าถึงได้

โดยสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมส่งมอบประสบการณ์สมาร์ตโฟนแฟลกชิปเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งหน้าจอสัมผัสที่ลื่นไหล กล้อง AI สุดล้ำ ชิปเซ็ตระดับแถวหน้า การเชื่อมต่อที่เร็วแรง แบตเตอรี่อึดทนนาน ความจุที่สามารถเพิ่มได้ และดีไซน์สุดพรีเมียมมารวมอยู่ในซัมซุง Galaxy S20 FE

S20FE_Back_ZG

“เราได้พูดคุยและรับฟังทุกความคิดเห็นจากกาแลคซี่แฟนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรารู้ว่าฟีเจอร์อะไรบ้างใน Galaxy S20 Series ที่แฟนๆ ชื่นชอบที่สุด ใช้งานมากที่สุด และอยากเห็นมากที่สุดในสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ซึ่ง Galaxy S20 FE

เป็นสมาร์ตโฟนในตระกูล Galaxy S20 ที่ได้เริ่มนำเอานวัตกรรมที่มีความหมายมาให้ผู้ใช้งานได้ทำในสิ่งที่รักและชื่นชอบผ่านอุปกรณ์ Galaxy ที่ดีที่สุด” ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

S20FE_Back_ZR

บ่งบอกความเป็นตัวเองให้ชัดที่สุด

Galaxy S20 FE มาพร้อมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ของกล้องที่พร้อมให้คุณได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้ชัดที่สุด ผ่านรูปถ่ายและวิดีโอระดับโปรเกรด อาทิ กล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ที่มีเทคโนโลยี Tetra-binning ที่ช่วยให้การถ่ายรูปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ถ่ายภาพหรือวิดีโอในที่แสงน้อยได้สีสวยคมชัดมากขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ รวมทั้งการประมวลผลภาพแบบหลายเฟรม (multi-frame processing) พร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Bright Night) ที่นำเทคโนโลยี AI ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีกันสั่นช่วยให้ภาพออกมานิ่งและมีชีวิตชีวามากขึ้น

S20FE_Back_ZO

พร้อมเทคโนโลยี Space Zoom 30X สุดทรงพลัง ที่สามารถซูมภาพระยะไกลได้ถึง 30 เท่า เพื่อให้คุณไม่พลาดรายละเอียดหรือโมเมนต์ที่น่าประทับใจแม้อยู่ไกล พร้อมสำหรับนำภาพและวิดีโอไปปรับแต่งและแชร์ได้แบบเรียลไทม์เหมือนมือโปร

สะท้อนความเป็นตัวตนอย่างมีสไตล์ผ่านสีสันใหม่ของ Galaxy S20 FE ที่มาพร้อมกับ 6 เฉดสี ทั้งสี Cloud Navy, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Red, Cloud Orange และ Cloud White พร้อมทั้งดีไซน์บางเฉียบสุดไอคอนิกให้กลิ่นอายสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S20 พร้อมพื้นผิวสัมผัสที่ช่วยลดรอยเปื้อนและรอยนิ้วมือ

S20FE_Back_ZW.

เต็มที่กับไลฟ์สไตล์สุดโปรด

มอบประสบการณ์การใช้งานสูงสุดด้วย ซัมซุง Galaxy S20 FE ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ทรงพลัง พร้อมหน้าจอ Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว เทคโนโลยี Super AMOLED และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับชมคอนเทนท์วิดีโอและเลื่อนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล

นอกจากนี้ยังเต็มอิ่มไปกับประสบการณ์การเล่นเกมผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ที่เหนือระดับ และรองรับ Xbox Game Pass Ultimate พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในอีโคซิสเต็มของซัมซุงได้แบบไม่สะดุด ทั้ง Galaxy Buds Live และ Galaxy Fit2

S20FE_Back_LV

ไร้กังวลในทุกสถานการณ์

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,500 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน รองรับการชาร์จเร็ว Super Fast ให้ผู้ใช้งานเต็มที่กับกิจกรรมสุดโปรดโดยไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเตอรี่ ทั้งยังรองรับการกันน้ำและกันฝุ่นที่ระดับ IP68 พร้อมสบายใจหายห่วงกับบริการ Samsung Care+ ซึ่งให้บริการส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการซ่อมถึงบ้าน

และให้ความครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงหน้าจอแตก รวมทั้งความเสียหายที่เกิดจากของเหลว พร้อมได้รับการอัพเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (OS) เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้เต็มที่

S20FE_Back_ZB

บริการ Samsung CARE+

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับบริการเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ใช้งานอย่าง Samsung Care+ ซึ่งให้บริการส่งช่างเทคนิคจากศูนย์บริการซ่อมถึงบ้านในพื้นที่ให้บริการที่กำหนดโดยซัมซุง หรือบริการรับ-ส่ง เครื่องซ่อมในกรณีอยู่นอกพื้นที่ให้บริการหรือมีการเปลี่ยนอะไหล่

รวมถึงครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ หน้าจอแตก และความเสียหายที่เกิดจากของเหลวเป็นระยะเวลา 1 ปี สามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Samsung Care+ ได้ที่ https://www.samsung.com/th/offer/samsung-care-plus/

Galaxy S20FE_Combo 01

ทั้งนี้ Samsung Galaxy S20 FE เคาะราคาวางจำหน่าย เวอร์ชัน Global เริ่มต้นอยู่ที่ 699 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22,000 บาท เริ่มเปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ส่วนจะมีเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยหรือไม่ แล้วจะเคาะราคาที่เท่าใดนั้น เราคงต้องมาติดตามประกาศอีกครั้งหนึ่งค่ะ