เปิดตัว Redmi Note 10 Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ทั้งหมด 5 รุ่น ถูกสุดราคาเริ่มที่ 5,000 บาท และรุ่นท็อปสุดมีราคาไม่ถึงหมื่น

เปิดตัว Redmi Note 10 Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ทั้งหมด 5 รุ่น ถูกสุดราคาเริ่มที่ 5,000 บาท และรุ่นท็อปสุดมีราคาไม่ถึงหมื่น

Redmi Note 10 Series

ประกาศเปิดตัวในประเทศอินเดียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Redmi Note 10 Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด กับการวางกลยุทธ์การตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าเกือบทุกระดับชั้น ด้วยการเปิดตัวมากถึง 5 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 10, Redmi Note 10 5G, Redmi Note 10S, Redmi Note 10 Pro และ Redmi Note 10 Pro Max

โดยมาพร้อมกับจุดเด่นที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ หน้าจอแสดงผล, ชิปเซ็ต, ความละเอียดกล้อง และแบตเตอรี่ รวมถึงราคา และวันวางจำหน่าย

Redmi-Note-10-1

สเปกเครื่องเบื้องต้นของ Redmi Note 10 มีดังนี้

– หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราส่วน 20:9
– ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (FHD+)
– ครอบทับกระจก Gorilla Glass 3
– CPU Snapdragon 678
– GPU Adreno 612
– RAM 4GB/6GB
– ROM 64GB/128GB
– รองรับ microSD สูงสุด 512GB
– รัน Android 11
– ระบบ Dual SIM
– กล้องหลัง ความละเอียด 48MP + เลนส์ Ultra-Wide 8MP + เลนส์ Macro 2MP + Depth 2MP พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้า ความละเอียด 13MP
– มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
– มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP52
– รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.0, GPS, USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ลำโพงสเตอริโอ, เสียงความละเอียดสูง
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 33W
– ขนาดตัวเครื่อง 160.46 × 74.5 × 8.3 มม.
– น้ำหนัก 178.8 กรัม
– สี Frost White, Aqua Green และ Shadow Black

ราคาวางจำหน่ายมีดังนี้

– รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 11,999 รูปี หรือประมาณ 5,000 บาท
– รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 13,999 รูปี หรือประมาณ 5,800 บาท

โดยจะทำการวางตำหน่ายผ่านทาง Amazon.in, Mi.com และ Mi Home store ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมนี้

Redmi-Note-10-5G-1

สเปกเครื่องเบื้องต้นของ Redmi Note 10 5G มีดังนี้

– หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วน 20:9
– ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (FHD+)
– อัตรารีเฟรช 90Hz
– ครอบทับกระจก Gorilla Glass 3
– CPU Dimensity 700
– GPU Mali-G57 MC2
– RAM 4GB
– ROM 64GB/128GB
– รองรับ microSD สูงสุด 512GB
– รัน Android 11
– ระบบ Dual SIM
– กล้องหลัง ความละเอียด 48MP + เลนส์ Macro 2MP + Depth 2MP พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้า ความละเอียด 8MP
– มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
– รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.0, GPS, USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม., เสียงความละเอียดสูง
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 18W
– ขนาดตัวเครื่อง 161.81 x 75.34 x 8.92 มม.
– น้ำหนัก 190 กรัม
– สี Chrome Silver, Graphite Grey, Nighttime Blue และ Aurora Green

ราคาวางจำหน่ายมีดังนี้

– รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6,000 บาท
– รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB ราคา 229 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7,000 บาท

Redmi-Note-10S

สเปกเครื่องเบื้องต้นของ Redmi Note 10S มีดังนี้

– หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราส่วน 20:9
– ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (FHD+)
– ครอบทับกระจก Gorilla Glass 3
– CPU Helio G95
– GPU Mali-G76 3EEMC4 @ 900 MHz
– RAM 6GB/8GB
– ROM 64GB/128GB
– รองรับ microSD สูงสุด 512GB
– รัน Android 11
– ระบบ Dual SIM
– กล้องหลัง ความละเอียด 48MP + เลนส์ Ultra-Wide 8MP + เลนส์ Macro 2MP + Depth 2MP พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้า ความละเอียด 13MP
– มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
– รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.0, GPS, USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงสเตอริโอ, เสียงความละเอียดสูง
– มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP52
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 33W
– ขนาดตัวเครื่อง 160.46 × 74.5 × 8.3 มม.
– น้ำหนัก 178.8 กรัม
– สี Onyx Grey, Pebble White และ Ocean Blue

ราคาวางจำหน่ายมีดังนี้

– รุ่น RAM 6GB + ROM 64GB ราคา 229 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7,000 บาท
– รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 249 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7,600 บาท
– รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 279 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8,500 บาท

โดยรุ่น Redmi Note 10 5G และ Redmi Note 10S จะเริ่มทำตลาดในช่วงเดือนเมษายนนี้

Redmi-Note-10-Pro

สเปกเครื่องเบื้องต้นของ Redmi Note 10 Pro มีดังนี้

– หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วน 20:9
– ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (FHD+)
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ HDR10 +
– ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5
– CPU Snapdragon 732G
– GPU Adreno 618
– RAM 6GB/8GB
– ROM 64GB/128GB
– รองรับ microSD สูงสุด 521GB
– รัน Android 11
– ระบบ Dual SIM
– กล้องหลัง ความละเอียด 64MP + เลนส์ Ultra-Wide กว้าง 120 องศา 8MP + เลนส์ Tele-Macro 5MP + Depth 2MP พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้า ความละเอียด 16MP
– มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
– มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP52
– รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5, GPS / GLONASS / Beidou, USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงสเตอริโอ, เสียงความละเอียดสูง
– แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 33W
– ขนาดตัวเครื่อง 164.5 × 76.15 × 8.1 มม.
– น้ำหนัก 192 กรัม
– สี Vintage Bronze, Glacial Blue และ Dark Night

ราคาวางจำหน่ายมีดังนี้

– รุ่น RAM 6GB + ROM 64GB ราคา 15,999 รูปี หรือประมาณ 6,700 บาท
– รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 16,999 รูปี หรือประมาณ 7,100 บาท
– รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 18,999 รูปี หรือประมาณ 7,900 บาท

โดยจะวางจำหน่ายผ่านทาง Amazon.in, Mi.com และ Mi Home store ในวันที่ 17 มีนาคมนี้

Redmi-Note-10-Pro-Max-1

สเปกเครื่องเบื้องต้นของ Redmi Note 10 Pro Max มีดังนี้

– หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วน 20:9
– ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (FHD+)
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ HDR10 +
– ครอบทับกระจก Gorilla Glass 5
– CPU Snapdragon 732G
– GPU Adreno 618
– RAM 6GB/8GB
– ROM 64GB/128GB
– รองรับ microSD สูงสุด 521GB
– รัน Android 11
– ระบบ Dual SIM
– กล้องหลัง ความละเอียด 108MP + เลนส์ Ultra-Wide กว้าง 120 องศา 8MP + เลนส์ Tele-Macro 5MP + Depth 2MP พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้า ความละเอียด 16MP
– มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
– มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP52
– รองรับ Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5, GPS / GLONASS / Beidou, USB Type-C, พอร์ตหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงสเตอริโอ, เสียงความละเอียดสูง
– แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 33W
– ขนาดตัวเครื่อง 164.5 × 76.15 × 8.1 มม.
– น้ำหนัก 192 กรัม
– สี Vintage Bronze, Glacial Blue และ Dark Night

ราคาวางจำหน่ายมีดังนี้

– รุ่น RAM 6GB + ROM 64GB ราคา 18,999 รูปี หรือประมาณ 7,900 บาท
– รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 19,999 รูปี หรือประมาณ 8,400 บาท
– รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 21,999 รูปี หรือประมาณ 9,200 บาท

โดยจะวางจำหน่ายผ่านทาง Amazon.in, Mi.com และ Mi Home store ในวันที่ 18 มีนาคมนี้

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.gsmarena.com