เทคนิควิธีการเลือกซื้อ “สมาร์ตโฟนมือสอง” ให้ปลอดภัย ไม่โดนหลอก!!!
เดี๋ยวนี้มือถือก็แข่งกันออกรุ่นใหม่ ปรับโฉมใหม่ กันออกมาเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น สำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรเดิม ๆ ชอบเปลี่ยนมือถือบ่อย ๆ ก็หันไปนิยมการซื้อเครื่องมือสอง เพราะได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ แถมยังไม่ต้องซื้อตามราคามือถือใหม่ ที่บางทีราคาก็โหดแสนโหดอีกต่างหาก
วันนี้เรามีเทคนิค 6 ข้อ ในการเลือกซื้อ สมาร์ตโฟนมือสอง ให้ปลอดภัย ไม่โดนหลอกมาฝากกันค่ะ
1. ตรวจสอบกล่อง อุปกรณ์ ว่ามีอุปกรณ์ครบหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ สายดาต้าลิงค์ หรือชุดหูฟัง พร้อมการตรวจสอบเลขอีมี่ หรือหมายเลขประจำเครื่องนั้น ๆ โดยการกดปุ่ม *#06# ซึ่งหมายเลขจะต้องตรงกับกล่องทุกหมายเลข ถ้าตรงตามกล่องก็อุ่นใจไปได้หนึ่งเปราะแล้วค่ะ
2. ไม่ควรซื้อมือถือที่ถูกแสนถูก จากราคาจริง จนน่าตกใจ นอกจากจะน่ากลัวในเรื่องเครื่องมีปัญหา ย้อมแมวแล้ว อาจจะเป็นเครื่องที่ถูกขโมยมา ตรวจสอบให้ดี ไม่งั้นอยู่ ๆ จะได้รับข้อหาซื้อของโจรไปเฉย ๆ โดยไม่รู้ตัวนะจ๊ะ
3. อย่าโอนเงินก่อนเด็ดขาด หากต้องการซื้อของผ่านทางอินเตอร์เน็ต ควรตรวจสอบผู้ขายให้ถี่ถ้วน อาจจะค้นหาข้อมูลประวัติการซื้อขายว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งผู้ขายที่มีประวัติดีก็มีไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นการซื้อขายแบบนี้ควรหาข้อมูลให้มาก ๆ เพื่อไม่ให้ถูกหลอก และเพื่อป้องกันการถูกหลอกจริง ๆ ให้นัดเจอตัว ยื่นหมูยื่นแมวกันเลยดีกว่า จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย
4. นัดเจอในสถานที่มีผู้คนพลุกพล่าน แน่นอนว่าการนัดเจอเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนอาจจะยังมี ความเสี่ยงอยู่บ้าง ดังนั้นหากนัดเจอในสถานที่เปลี่ยว ไม่ควรไปเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะโดนฉกชิงวิ่งราวควรจะนัดเจอในสถานที่ที่มีผู้คนพลุก พล่าน ควรเลือกสถานที่เป็นห้างสรรพสินค้า มีเก้าอี้นั่งให้ลองเล่นเครื่องจนเป็นที่น่าพอใจจึงตกลงจ่ายเงิน
5. ขอดูใบอนุญาตค้าของเก่า ในกรณีที่คุณต้องเดินซื้อโทรศัพท์มือถือมือสอบตามร้านค้า หรือตามร้านตู้กระจกก็ควรจะตรวจสอบกับผู้ค้าว่ามีใบอนุญาตขายของเก่าหรือไม่ โดยปกติแล้วผู้ขายโทรศัพท์มือถือมือสองจะติดไว้ที่ด้านหลังให้เราสังเกตได้ ง่าย ๆ ซึ่งก็จะเป็นการป้องกันการรับซื้อของโจรอีกชั้นหนึ่ง
6. ตรวจสอบตัวเครื่อง และอุปกรณ์ให้เรียบร้อย มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือสอง ดังนั้นควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนจ่ายเงิน การตรวจสอบหลัก ๆ ก็ดูสภาพรวม ๆ ของตัวเครื่องเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ ตัวเครื่อง หรือบอดี้เป็นรอยแตกหักตรงไหนบ้าง
หน้าจอมีจุดบอดหรือไม่ (Dead pixel) โทรออก รับสายเป็นอย่างไร ปุ่มกดหรือหน้าจอสัมผัสใช้งานได้ปกติดีหรือไม่ ถ้าหากมีอุปกรณ์เสริมให้อยู่ ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ว่าใช้งานได้หรือเปล่า ทั้งสมอลล์ทอล์ค สายชาร์จ และแบตเตอรี่ใช้งานได้ปกติ ไม่บวมจนดูเหมือนจะระเบิด ส่วนเรื่องราคาก็ต่อรองกันตามสบายเลยครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อพอใจจะซื้อ และผู้ขาย พอใจจะขาย
สุดท้ายแล้ว อย่าลืมตรวจสอบ หรือสอบถามเรื่องประกัน แต่ถ้าหากหมดประกันจากทางศูนย์แล้ว ควรตกลงกับผู้ขายว่า หากเครื่องมีปัญหาภายในกี่วัน จะสามารถคืนเงิน หรือรับผิดชอบอะไรยังไงให้เรียบร้อยด้วย แค่นี้ก็หมดความกังวลเรื่องการโดนหลอก และได้ใช้มือถือเครื่องใหม่กันอย่างปลอดภัย ไร้ปัญหา สบายใจ หายห่วง…
Leave a Reply