รีวิว ZTE Blade V6 ดีไซน์เฉียบหรู ดูดีทุกองศา ในราคาเพียง 4,990 บาท
ZTE Blade V6 สมาร์ทโฟนดีไซน์หรู มาพร้อมกับหน้าจอ HD 5 นิ้ว โดดเด่นด้วยตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งตัว กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล น่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อเครื่องเปล่าลดราคาเหลือ 4,990 บาท และเครื่องติดสัญญา AIS ราคาเพียง 2,690 บาท จากราคาเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,690 บาท
ZTE ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลก จำหน่าย ZTE Blade V6 4G สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม ร่วมกับ AIS ด้วยราคาพิเศษ 2,690 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ Super Deal พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท ติดสัญญา 12 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจรายเดือน 399 บาทขึ้นไป ถือว่าคุ้มจริง ๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/superdeal
รู้จักกับ ZTE Blade V6 และจุดเด่นที่น่าสนใจ
ZTE Blade V6 4G เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของซีรี่ส์ Blade ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘premium affordable’ สมาร์ทโฟนพรีเมียมในราคาที่ซื้อได้ พร้อมด้วยสเปคเครื่องที่จัดเต็ม หน้าจอ 5 นิ้ว HD หน่วยประมวลผล 1.3 GHz Quad-core มีหน่วยความจำภายใน 2GB RAM กับ 16GB ROM มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop จุดเด่นที่สุดของเครื่องคือดีไซน์และการออกแบบโดยใช้โลหะเกรดสูง น้ำหนักเบามากและบางเฉียบเพียง 6.8 มม.
ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 4G พรีเมียมดีไซน์เครื่องแรกในตลาดที่จำหน่ายในราคาถูกมาก ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าของได้ สำหรับฟังก์ชั่นกล้องถ่ายรูปนั้น สามารถตอบสนองผู้ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 88 องศาและกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับฟังก์ชั่น Dual-Color True Tone Flash เพื่อปรับภาพให้สีสวยสมจริงยิ่งขึ้น
กล้อง ZTE Blade V6 มีลูกเล่นเสริมไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบพาโนรามา 4 ทิศทาง (ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง) หรือการถ่ายภาพต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังใช้การออกแบบถาดซิม ในรูปแบบ “3-in-2” ทำให้สามารถใส่ microSIM และ microSD card ใน slot เดียวกัน หรือหากจะใส่ 2 SIM พร้อมกันก็สามารถเปลี่ยน nano SIM แทนที่ช่อง microSD card ได้ และ ZTE Blade V6 ยังมี Alive share ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้สามารถแชท แชร์ภาพ เพลง หรือเล่นเกมระหว่างกันโดยไม่ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ต
สเปคของ ZTE Blade V6
- ขนาด 142 x 69 x 6.8 mm
- แบตเตอรี่ความจุ 2200mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้
- หน่วยความจำ 2GB RAM และ 16 GB ROM
- หน่วยประมวลผล 1.3GHz Mediatek quad-core processor
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD ผิวกระจกขอบโค้งมน 2.5D
- วัสดุเป็นโลหะ Full Metal Body
- กล้องหลัง 13MP, กล้องหน้ามุมกว้าง 88 องศา 5MP
- OS: Android 5.0.2 Lollipop
- UI : MiFavor 3.2
- รองรับการเชื่อมต่อ WIFI 802.11b/g/n, Bluetooth 3.0 LE
- รองรับระบบ 4G 900/1800/2100 MHz และ 3G 850/900/2100 (4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แกะกล่องยลโฉมดีไซน์
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
ที่ชาร์จแบบปกติ จ่ายไฟ 5V 1A ไม่ใช่แบบ Quick Charge แต่ก็ชาร์จไม่นาน เพราะแบตเตอรี่ความจุน้อย
หูฟังแบบ In-ear สำหรับโทรคุยสนทนา สีขาว สายแบน ลดปัญหาสายพันกัน
สาย USB
คู่มือแนะนำการใช้งานค่อนข้างละเอียด และใบรับประกัน
มาดูกันต่อที่ตัวเครื่อง
ดีไซน์ด้านหน้าสวยงาม จับถนัดมือ หน้าจอขนาดใหญ่กำลังดี
ด้านหลังเป็นอะลูมิเนียมสีทอง ผิวสัมผัสดีเยี่ยมเทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับราคา 2-3 หมื่นบาท
ขอบจอภาพค่อนข้างบาง ดูทันสมัย
หน้าจอตัดแสงสะท้อนภายในได้ดี ไม่มีเงาสะท้อนของชั้นกระจกภายใน
ปุ่ม Home, Menu, Back มีไฟเรืองแสงสีน้ำเงิน ดูทันสมัยและโดดเด่นในที่มืด
ปุ่ม Power และ Volume อยู่ด้านข้างฝั่งขวา
ช่องหูฟัง อยู่ด้านบน ขอบรอบตัวเครื่องทุกด้านเป็นโลหะ ทนทานและเงางาม
ด้านข้างฝั่งซ้าย มีเพียงถาดใส่ SIM, microSD ซ่อนไว้อย่างเนียน
กล้องหน้าและ Sensor วัดแสงภายนอก
พอร์ต microUSB อยู่ท้ายเครื่องตรงกลางตามมาตรฐาน
ลำโพงหลัง
กล้องพร้อมไฟแฟลชแบบสองสี
ด้านหลังโค้งมนรับฝ่ามือ ไม่มีส่วนใดคมบาดมือ งานประกอบดีเกินคาด
เข็มและถาดใส่ SIM + microSD
หน้าจอ ให้ความสว่างและสีสันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีอะไรโดดเด่น ต่างจากรุ่น Blade S7 ที่หน้าจอคุณภาพสูงมากแบบคัดพิเศษ
ในระดับราคาต่ำกว่า 5 พันบาท ต้องยกให้ ZTE Blade V6 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์และวัสดุดีที่สุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (แต่ไตรมาสสองมี Flash Plus 2 มาล้มแชมป์) ในขณะที่คู่แข่งหลายรายยังใช้วัสดุที่เป็นพลาสติก ดูแลรักษายาก เก่าเร็ว มีรอยนิ้วมือและเป็นรอยขีดข่วนง่าย ต้องยอมรับว่า ZTE ใส่ใจรายละเอียดและออกแบบมาดีมาก จำหน่ายในราคาไม่แพง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหน้ามีโหมด Beauty Selfie ที่ช่วยปรับโครงหน้าให้ดูเรียว ปรับผิวให้สว่างเนียน ปรับดวงตาให้โตขึ้น โดยตัวเครื่องจะแยกบันทึกภาพเป็นสองภาพให้เราเลือกนำไปใช้ได้ ระหว่างภาพปกติกับภาพที่ผ่านการปรับแต่งอัตโนมัติ จากตัวอย่างเป็นภาพปกติ เปรียบเทียบกับภาพถัดมาที่ผ่านการปรับแต่งอัตโนมัติโดยไม่ต้องแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ภาพถ่ายจากกล้องหลัง สะท้อนให้เห็นว่า กล้องของ ZTE Blade V6 ถ่ายทอดสีสันออกมาได้ซีดและผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงไปพอสมควร นอกจากนั้น ทุกครั้งที่ถ่าย กล้องจะโฟกัสได้ช้า มีโอกาสที่ภาพถ่ายจะเบลอได้ รายละเอียดภาพและความคม น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับกล้องจากสมาร์ทโฟนอื่นที่มีขนาดภาพถ่าย 13 ล้านพิกเซลเท่ากัน
ทดสอบประสิทธิภาพ
ZTE Blade V6 ทำคะแนนการทดสอบได้เฉียด 30000 ด้วย RAM และสเปคโดยรวมที่ถือว่าสูงพอตัวเมื่อเปรียบเทียบกับระดับราคานี้ ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างเร็วพอสมควร เล่นเกมทั่วไปที่ไม่ใช่ภาพ 3D แบบอลังการได้เร็วลื่น ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น ไม่มีปัญหาแอปพลิเคชั่นค้างหรือหลุดเอง
ซอฟต์แวร์
ทั้ง UI และ Launcher ของ ZTE Blade V6 ก็ยังดูคล้ายกับรุ่นอื่นในตระกูล Blade อย่างเช่น S7 ที่เคยรีวิวกันไปแล้ว ซึ่ง UI กับ Home Launcher ดูยังไม่ลงตัวนัก ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถติดตั้ง Launcher ตัวอื่น (ฟรี) ใช้ทดแทนดีกว่า จะได้ทั้งในเรื่องของความสวยงามน่าใช้และประสิทธิภาพที่เร็วลื่นมากกว่า Launcher ที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน รวมทั้งใช้งานง่ายมากขึ้นด้วย
Quick Settings และเมนูการตั้งค่าหลัก ก็เป็นสไตล์ของ Android รุ่นใหม่ทั่วไป
Hard key เปลี่ยนได้ตามความถนัด จะให้ปุ่ม Back อยู่ซ้ายหรือขวาก็เปลี่ยนเองได้ ในส่วนของการแสดงผล มี MiraVision ช่วยให้เราปรับตั้งค่าคุณภาพของสีสันบนหน้าจอได้
โหมดเสียงแจ้งเตือน คล้ายกับโทรศัพท์โนเกียรุ่นปุ่มกด ที่หลายคนคงคุ้นเคยกันในอดีต และพื้นที่หน่วยความจำภายในเครื่อง ก็มีเหลือให้ใช้งานได้อีกมากมายถึงเกือบ 8GB จากทั้งหมด 16GB
ตั้งเวลาเปิดและปิดเครื่องได้ มาพร้อมกับ Android 5.0.2 ยังไม่มีแผนการอัพเดตไป 6.0
Dialer และแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่มีให้มาจากโรงงาน
แอปพลิเคชั่นบางตัวที่คิดว่าไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถลบทิ้งได้ มาดูกันต่อที่ซอฟต์แวร์กล้อง
มีลูกเล่นและการปรับตั้งค่าตามมาตรฐานทั่วไป
ตรวจจับใบหน้า จับภาพทันทีเมื่อยิ้มได้ ถ่ายรัวได้ต่อเนื่อง 40 ช็อต
ปิดฟังก์ชั่น Face Beauty ได้ถ้าไม่ต้องการให้ปรับแต่งใบหน้าอัตโนมัติ
ในส่วนของ Launcher ก็สามารถปรับสีและเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ได้ง่าย เพียงแค่ปัดนิ้วจากด้านล่างจอเข้าหากลางจอ
เปลี่ยนรูปทรงและลักษณะของ Default Icon ได้ เปลี่ยน Effect เมื่อสไลด์หน้าจอได้
Widget มาตรฐานที่มีมากับ Android ทั่วไป ไม่มี Widget เฉพาะของ ZTE แต่อย่างใด
สรุป
หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ในราคาไม่แพง เพียง 2,690 บาทแบบติดสัญญา 12 เดือน หรือเครื่องเปล่า 4,990 บาทสำหรับผู้ใช้งานแบบเติมเงิน โดยเน้นเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์หรูหราเทียบเท่า iPhone เน้นวัสดุที่ดูดี แข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องเช็ดรอยนิ้วมือทั้งวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องรอยขูดขีดง่ายแบบสมาร์ทโฟนพลาสติกราคาถูกทั่วไป หน้าจอใหญ่กำลังดี เล่นเกมและโซเชียลได้ดีพอสมควร ทั้งหมดนี้ ZTE Blade V6 ก็ตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน
สิ่งที่ประทับใจ
- ดีไซน์หรูหราเกินราคา วัสดุดีเยี่ยม น้ำหนักเบาเหลือเชื่อ สวยทันสมัย
- ไฟแฟลชแบบสองสี ให้แสงใกล้เคียงแสงธรรมชาติ
ข้อสังเกต
- หูฟังที่แถมมา ไม่เหมาะกับการฟังเพลงเลย ใช้สนทนาได้อย่างเดียว
- ทั้งหน้าจอและภาพถ่ายจากกล้องหลัง ให้สีสันที่ซีดจาง ไม่สดใส
- กล้องทำงานช้ามาก คุณภาพของภาพถ่ายไม่น่าประทับใจ
- สายชาร์จที่ให้มา สั้นเกินไป
คู่แข่งที่ใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะ ในระดับราคาเดียวกัน
- Flash Plus 2
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาไม่เกิน 5,000 บาท
Leave a Reply