รีวิว Wiko View XL หน้าจอ 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 กล้องเซลฟี่ 16MP มีสแกนนิ้วมือ ในราคาไม่เกิน 6,000 บาท
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว ninethaiphone ทุกท่าน เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเดินดูสมาร์ทโฟนต่างๆ ที่งาน Thailand Mobile EXPO 2017 ซึ่งภายในงานก็มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มากมายจนผมได้ไปเจอกับสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งจากทาง Wiko
ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าแบรนด์ Wiko เป็นแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากประเทศฝรั่งเศส โดยทางผู้ผลิตได้เล็งเห็นว่าสมาร์ทโฟนที่จะตอบโจทย์ผู้ใช้งานในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นสมาร์ทโฟนแบบที่มีพื้นที่ขอบจอน้อย เน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่บนหน้าจอ แต่ต้องมีราคาที่ผู้ใช้งานจับต้องได้ ทาง Wiko จึงได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล View Series โดยมีออกมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน คือ Wiko View, Wiko View XL และรุ่นท็อปอย่าง Wiko View Prime
และสำหรับรุ่นที่ผมจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ผู้อ่านได้ทราบถึงคุณสมบัติการใช้งานนั้นก็คือรุ่น Wiko View XL ที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440X720 พิกเซล กับอัตราส่วน 18:9 ที่สามารถหยิบจับใช้งานได้อย่างถนัดมือ และด้วยความที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ กับพื้นที่ขอบจอบาง บอกได้เลยว่าเวลาเล่นเกม ดูหนัง เต็มอิ่มครบรสแน่นอน
ซึ่งในส่วนของกล้องทาง Wiko ก็เอาใจคอเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และยังมาพร้องกับโหมดการใช้งานเจ๋งๆ อย่างโหมด ถ่ายภาพบุคคลที่เพื่อนๆ สามารถปรับความชัด/เบลอของภาพด้านหลังได้ ตั้งแต่ 0-100 นอกจากนั้นยังมีโหมดเฟชบิวตี้ที่เอาใจสาวๆ ด้วยการปรับแต่งความสวยของใบหน้า, ปรับขนาดของดวงตา และปรับความเรียวของใบหน้า ได้ตั้งแต่ระดับ 0-100 โดยสนนราคาของเจ้า Wiko View XL เครื่องนี้มีราคาอยู่ที่ 5,990 บาท และในส่วนถัดไปผมจะพาเพื่อนๆ ไปดูรายละเอียดสเปคเครื่องแบบเต็มๆ ของเจ้า Wiko View XL กันต่อครับ
สเปคเครื่องของ Wiko View XL
Features | Wiko View XL |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2560 |
ราคา : | – 5,990.- (ณ วันที่ 11 ต.ค. 60) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 7.1 (Nougat) |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS |
– ขนาด 5.99 นิ้ว | |
– อัตราส่วน 18:9 | |
– ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+) | |
– Multitouch | |
CPU : | – Snapdragon 425 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4 GHz |
GPU : | – Adreno 308 |
RAM : | – 3GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 32GB |
– microSD สูงสุด 128GB | |
กล้องหลัง : | – 13 ล้านพิกเซล |
– LED flash | |
– Digital Zoom 4x | |
– Auto Focus | |
– Touch Focus | |
– Face Detection | |
– Face Beauty | |
– Panorama | |
– HDR | |
กล้องหน้า : | – 16 ล้านพิกเซล |
– Selfie Flash | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 3000 mAh |
ขนาด : | – 158.1×76.5×8.2 มม. |
น้ำหนัก : | – 171 กรัม |
รองรับซิม : | – dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 3G : WCDMA 850/900/2100 MHz |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi : 802.11 b/g/n |
– Bluetooth 4.2 | |
– OTG | |
– FM Radio | |
– USB 2.0 | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Accelerometer | |
– Magnetic | |
– Gyroscope | |
– Light sensor | |
– Proximity | |
สี : | – ดำ (Black) |
– ทอง (Gold) | |
– เขียว (Deep Bleen) | |
– แดง (Cherry Red) |
ทำความรู้จัก Wiko View XL
ด้านหน้า Wiko View XL มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 720 พิกเซล ครอบทับด้วยกระจก Glass 2.5D ระบบ Multitouch ทำงานไหลลื่นเต็มอิ่มทุกการใช้งานทั้ง เล่นเกม ดูหนัง แถมยังสามารถหยิบจับใช้งานได้สะดวกเพราะตัวเครื่องมีขนาด 158.1 x 76.5 x 82 มม.
ด้านหน้าส่วนบน ประกอบไปด้วย กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เลนส์ 5 ชิ้น พร้อม Selfie Flash ที่เอาใจคอเซลฟี่แบบสุดๆ เพราะมีโหมดการใช้งานถ่ายภาพบุคคลที่สามารถปรับความชัด/เบลอของภาพได้ และมีไฟสัญญาณแจ้งเตือนการใช้งาน ที่อยู่ข้างๆ ลำโพงสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มแบบทัชสกรีนทั้งหมด 3 ปุ่ม คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านหลังตัวเครื่อง Wiko View XL มาพร้อมกับการดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม ดูหรูหราด้วยความบาง และมีความโค้งมนเล็กน้อยเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถนัดมือ โดยมีทั้งหมด 4 สีให้เลือก ได้แก่ Cherry Rad, Deep Bleen, Black และ Gold ซึ่งสีที่ผมนำมารีวิวในวันนี้เป็นสีทอง (Gold)
ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash ถัดลงเป็นเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ และโลโก้ Wiko
ด้านหลังส่วนล่าง จะมีลักษณะเรียบเนียนและมีเส้นขอบที่ด้านล่าง ซึ่งหากเพื่อนๆ ลองสังเกตดูหลังจากการใช้งาน ที่ด้านหลังตัวเครื่องของ Wiko View XL จะไม่ค่อยมีรอยนิ้วมือหลังการใช้งานทำให้ไม่ต้องทำความสะอาดเครื่องบ่อยๆ
ด้านบนตัวเครื่อง มีลักษณะโค้งมนเล็กน้อย และมีพอร์ตเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม.
ด้านล่าง ประกอบไปด้วย ไมค์สำหรับสนทนา พอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 และลำโพงเสียง
ด้านขวา ประกอบไปด้วย 2 ปุ่มการใช้งานด้วยกันคือ ปุ่ม เพิ่ม/ลด ระดับเสียง กับ ปุ่มสำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
การแคปภาพหน้าจอ กดปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง + ปุ่มลดเสียงค้างไว้
ด้านซ้าย มีลักษณะเรียบเนียนมีความโค้งมนเล็กน้อยด้านบนมีช่องสำหรับใส่ซิมเป็นแบบใช้เข็มจิ้ม
สำหรับช่องใส่ซิมของ Wiko View XL เป็นแบบ 2 Nano SIM ที่รองรับการใช้งาน 4G + 3G พร้อมกัน
ทดสอบประสิทธิภาพ
ผมได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของ Wiko View XL ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 425 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4GHz ผ่านทางแอปพลิเคชัน AnTuTu เวอร์ชันล่าสุดพบว่า Wiko View XL สามารถทำคะแนนรวมไปได้ 36915 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้สำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 6,000 บาท
สำหรับรายละเอียดภายในตัวเครื่องของ Wiko View XL ตามฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน AnTuTu เวอร์ชันล่าสุดระบุว่า Wiko View XL ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 (Nougat) มีหน้าจอแสดงผลความละเอียด 720X1440 พิกเซล หน่วยความจำ RAM 3GB และความจุ 32GB กล้องด้านหน้าความละเอียด 15.9 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
Interface
สำหรับการปลดล็อคเครื่องเพื่อนเข้าสู่หน้าจอ Home Screen ของ Wiko View XL สามารถทำได้ 2 วิธี คือวิธีการปลดล็อคด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ กับ การปลดล็อคด้วยการวาดรูปรหัสตามที่ผู้ใช้งานได้ตั้งไว้ โดยจะมีหน้า Home Screen ให้ 2 หน้า
นอกจากนั้นแล้วเพื่อนๆ ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าสู่โหมดไมค์ที่มุมล่างซ้ายสุด และเข้าสู่โหมดกล้องได้อย่างรวดเร็วทางด้านมุมล่างขวาสุดของจอภาพ
เมื่อเพื่อนๆ เลื่อนสไลด์ที่หน้าจอจากด้านบนลงล่างหนึ่งครั้งก็จะพบกับ การเชื่อมต่อเบื้องต้น อย่าง Wi-Fi, Bluetooth, โหมดเครื่องบิน เป็นต้น และเมื่อเพื่อนๆ เลื่อนสไลด์จากด้านบนลงล่างติดต่อกันสองครั้ง ก็จะพบกับเมนูการใช้งาน และช่องทางการเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย
และเมื่อเข้ามาในหน้าจอ Home Screen ของ Wiko View XL แล้วจะพบกับแอปฯ ต่างๆ ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ และเมื่อแตะไปที่ปุ่มตรงกลางดังภาพก็จะพบกับแอปฯ ต่างๆ ที่ถูกซ่อนไว้อีก
ในส่วนของแอปฯ จากทาง Google ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องก็มีมาให้อย่างครบครัน และถูกจัดวางในกลุ่มอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนั้นในส่วนของ Play Store ก็พร้อมให้โหลดใช้งานแบบครบถ้วน
เมื่อเข้ามาในส่วนของ Play Store แล้ว คอเกมอย่างผมเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ลองทดสอบเจ้า Wiko View XL สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่เครื่องนี้กับการเล่นเกมผ่านการเชื่อมต่อทาง Wi-Fi โดยอันดับแรกผมได้ทำการทดสอบด้วยการเล่นเกมพื้นฐานอย่าง Ultimata Tennis พบว่าสามารถเล่นได้อย่างเพลิดเพลินไม่มีอาการกระตุกใดๆ เกิดขึ้น
ต่อมาผมได้ทำการทดสอบ Wiko View XL กับเกมยอดนิยมอย่าง ROV พบว่า เมื่อตั้งค่าแบบปกติตามที่ตัวเกมเซ็ตไว้ให้ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีการกระตุกใดๆ และด้วยความที่มีหน้าจอแบบพื้นที่ขอบจอบางกับขนาดหน้าจอแสดงผล 5.99 นิ้ว ทำให้การเล่นเกม ROV เต็มไปด้วยความสนุกสนานมากขึ้น ตรงตามคอนเซ็ปต์ที่ทาง Wiko ได้ตั้งไว้ว่า สัมผัสมุมมองที่กว้างกว่ากับ View Series
แต่เมื่อลองปรับการตั้งค่าของการแสดงผล, ภาพ HD และพาร์ติเคิลของตัวเกมแบบสุดทั้งหมด ตัวเครื่องจะมีอาการกระตุก ซึ่งผมแนะนำว่าหากต้องการเล่นแบบลื่นไหลอย่าปรับจะดีกว่านะครับ
เมนูการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง
ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบเวอร์ชันหรืออัปเดตระบบปฏิบัติการโดยการเข้าไปที่ > การตั้งค่า > เกี่ยวกับโทรศัพท์ ก็จะปรากฎข้อมูลดังภาพครับ
สำหรับ Wiko View XL ยังมีระบบการใช้งานเจ๋งๆ อย่าง ระบบสมาร์ทแอคชั่น ที่เพื่อนๆ สามารถเลือกเปิด/ปิดการใช้งานได้ โดยระบบสมาร์ทแอคชั่นนี้จะเปิดระบบสั่งงานแบบอัจฉริยะต่างๆ อย่างเช่น เมื่อมีสายโทรเข้ามาเพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มรับสายเพียงแค่ยกสมาร์ทโฟนแนบไว้ที่หูก็จะรับสายให้แบบอัตโนมัติ เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้ว Wiko View XL ยังมาพร้อมกับอีกหนึ่งโหมดการสั่งงานแบบอัจฉริยะ อย่างการเข้าโหมดการใช้งานต่างๆ ด้วยการวาดหน้าจอ ที่สามารถตั้งได้เองอีกด้วย ตัวอย่างเช่นเมื่อเพื่อนๆ ต้องการเข้าใช้งานโหมดกล้อง ให้เพื่อนๆ เลื่อนสไลด์ที่มุมบนซ้ายเฉียงลงมาทางขวา ก็จะปรากฏหน้าจอที่เอาไว้สำหรับวาดเพื่อเข้าสู่โหมดที่เราได้ตั้งไว้ ซึ่งในตัวอย่างนี้ได้ตั้งโหมดของกล้องเป็นรูป O และเมื่อวาดรูปตัว O ก็จะทำการเข้าไปยังโหมดกล้อง
โหมดการใช้งานกล้องถ่ายภาพของ Wiko View XL
กล้องด้านหน้าของ Wiko View XL มาพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อม Soft Light Selifie Flash โดยมาพร้อมกับโหมดการใช้งานเด่นๆ ดังนี้
โหมดถ่ายภาพบุคคลที่สามารถปรับความเบลอของภาพด้านหลังได้ตั้งแต่ระดับ 0-100
ภาพตัวอย่างจากการทดลองใช้งานโหมดถ่ายภาพบุคคลของกล้องหน้าที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยภาพนี้เป็นการปรับเพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างของ 2 ภาพ
โหมดหน้าสวย (เฟชบิวตี้) ที่สามารถปรับความสวยของใบหน้า, ความเรียวของใบหน้า และดวงตา ได้ถึงตั้งแต่ระดับ 0-100
ภาพตัวอย่างจากการทดลองใช้งานโหมดหน้าสวย (เฟชบิวตี้) ของกล้องหน้าที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยเป็นการปรับเพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง 2 ภาพ
สำหรับกล้องด้านหลังของ Wiko View XL จะมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash โดยมีโหมดการใช้งานต่างๆ ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานได้หลายโหมดด้วยกันตัวอย่างเช่น
โหมดการถ่ายภาพแบบมืออาชีพเป็นโหมดที่ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้เองไม่ว่าจะเป็น ความคมชัด, iSO, จุดโฟกัส, WB, การรับแสง และความอิ่มตัว เพื่อเพิ่มความสนุกในการถ่ายรูป และทำให้ภาพออกมาเป็นในแบบที่ผู้ถ่ายต้องการ
ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าความละเอียดของ VDO ได้ 3 ระดับ คือ 480p, 720p และ 1080p ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ภาพถ่ายตัวอย่างจาก Wiko View XL
จากภาพถ่ายตัวอย่างเป็นการถ่ายภาพจากกล้องด้านหลังของ Wiko View XL ที่มาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยผมได้ทำการทดลองถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ อย่างพื้นที่ในร่มที่แสงน้อย และพื้นที่กลางแจ้งที่มีแสงแดดจัดๆ พบว่าตัวกล้องมีความละเอียดพอใช้ได้ แต่เมื่อถ่ายในที่แสงน้อยจะเห็นได้ว่าเริ่มมีจุดนอยด์ขึ้นเล็กน้อย นอกจากนั้นยังได้ทำการถ่ายภาพน้ำพุเพื่อเป็นการทดสอบสปีดชัตเตอร์ของกล้อง พบว่าตัวกล้องด้านหลังมีความเร็วใช้ได้เลยทีเดียว เห็นได้จากภาพของหยดน้ำที่กำลังจะตกลงมา ซึ่งหากเทียบกับราคา 5,590 บาท แล้วถือว่า Wiko View XL เครื่องนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าใช้งานเลยทีเดียวครับ
จุดเด่น
– หน้าจอ IPS ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1440X720 พิกเซล มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ขอบจอน้อยทำให้ใช้งานได้อย่างเต็มอิ่มทั้งดูหนัง เล่นเกม
– กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Soft Light Selfie Flash และยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพบุคคลที่ปรับความชัด/เบลอได้ถึง 0-100 ระดับ นอกจากนั้นยังเอาใจสาวๆ ด้วยโหมดเฟชบิวติ้ที่ปรับความสวยของใบหน้า ตาโต และหน้าเรียวได้อีก 0-100 ระดับ
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash Digital Zoom X4 ที่มาพร้อมกับโหมดการใช้งานต่างๆ มากมายให้เลือกใช้งาน
– ชิปเซ็ต Snapdragon 425 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4GHz
– หน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB รองรับ microSD สูงสุด 128GB สามารถใช้งานได้ไหลลื่นไม่สะดุด
– ชิปกราฟฟิก Adreno 308
– ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 (Nougat)
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
– มีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง ที่สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว
– รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.2, OTG, FM Radio, USB 2.0
– ซิมการ์ด เป็นแบบ 2 Nano ที่รองรับ 4G + 3G ใช้พร้อมกัน
– ตัวเครื่องมีทั้งหมด 4 สี Cherry Rad, Black, Gold และ Deep Bleen
– ราคา 5,590 บาท
ข้อสังเกต
– ใช้ระยะเวลาในการเปิด/ปิดเครื่องนาน
– ไม่รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น
– ไม่รองรับระบบชาร์จเร็ว
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียง
– Asus ZenFone 4 Max Pro (ZC554KL)
– Lenovo VIBE K5 Note
– Meizu m3 note
– Nokia 5
– vivo V5 Lite
– Xiaomi Redmi Note 4
– ZTE Blade V580
ขอขอบคุณ บริษัท วีโก โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด
Leave a Reply