รีวิว Wiko View หน้าจอ 18:9 ขนาด 5.7 นิ้ว แรม 3GB กล้องหน้า 16MP พร้อม Selfie Flash มีสแกนนิ้วมือ ราคาประหยัด

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ สบายกระเป๋า มีฟังก์ชันครบครัน และสเปคการใช้งานครบเครื่อง วันนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้า Wiko View สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่น้องเล็กสุดจากตระกูล Wiko View Series กันค่ะ

สำหรับ Wiko View มีราคาจำหน่ายเพียง 4,990 บาท ที่มาพร้อมบอดี้เมทัลดีไซน์สุดพรีเมียม หน้าจอขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ตามสมัยนิยม กล้องหน้าความละเอียด 16MP พร้อม Soft Light Selfie Flash และกล้องหลังความละเอียด 13MP พร้อมโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB ความจุ 16GB

รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB และที่สำคัญมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฉับไวมาให้ใช้งานด้วย ซึ่งตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Cherry Red, Gold, Black และ Deep Bleen โดยเครื่องที่เราจะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ รับชมกันนั้นเป็นสีแดง Cherry Red พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปชมรีวิวนี้กันเลยจ้า

ข้อมูลสเปค Wiko View

Features	Wiko View
วันเปิดตัว :	– กันยายน 2560
ราคา :	– 4,990.- (ณ วันที่ 29 ต.ค. 60)
ระบบปฏิบัติการ :	– Android 7.1 (Nougat)
หน้าจอ :	– หน้าจอ IPS
	– ขนาด 5.7 นิ้ว
	– อัตราส่วน 18:9
	– ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+)
	– Multitouch
CPU :	– Snapdragon 425 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4 GHz
GPU :	– Adreno 308
RAM :	– 3GB
ความจำตัวเครื่อง :	– 16GB
	– microSD สูงสุด 128GB
กล้องหลัง :	– 13 ล้านพิกเซล
	– LED flash
	– Digital Zoom 4x
	– Auto Focus
	– Touch Focus
	– Face Detection
	– Face Beauty
	– Panorama
	– HDR
กล้องหน้า :	– 16 ล้านพิกเซล
	– Soft Light Selfie Flash
Video :	– 1080p@30fps
Battery :	– 2900 mAh
ขนาด :	– 151.5×73.1×8.7 มม.
น้ำหนัก :	– 160 กรัม
รองรับซิม :	– dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 3G : WCDMA 850/900/2100 MHz
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi : 802.11 b/g/n
	– Bluetooth 4.2
	– OTG
	– FM Radio
	– USB 2.0
	– 3.5mm jack
GPS :	– GPS
	– A-GPS
Sensor :	– Fingerprint
	– Accelerometer
	– Magnetic
	– Gyroscope
	– Light sensor
	– Proximity
สี :	– ดำ (Black)
	– ทอง (Gold)
	– เขียว (Deep Bleen)
	– แดง (Cherry Red)

ทำความรู้จัก Wiko View

ด้านหน้า Wiko View มาพร้อมหน้าจอ IPS อัตราส่วน 18:9 ขนาดกว้าง 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ หน้าจอมีขนาดใหญ่เต็มตา รับชมคอนเท้นท์ต่างๆ หรือจะดูหนัง เล่นเกมได้แบบสบายๆ

ด้านหน้าส่วนบน ประกอบไปด้วย แสงไฟ Soft Light Selfie Flash ที่สามารถใช้งานเป็นไฟฉายได้, ลำโพงเสียงสำหรับฟังสายสนทนา, เลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 ชุดเลนส์ 5 ชิ้น รองรับโหมด Face Beauty ปรับผิวหน้าสวย และโหมด Live Portrait Blur ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ถัดมาอีกเพียงเล็กน้อยจะเป็นไฟแจ้งเตือนค่ะ

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps แบบ On Screen

ด้านหลัง Wiko View ตัวเครื่องโลหะเมทัลดีไซน์ ฝาหลังสามารถแกะออกได้ ตัวเครื่องมีความบางพกพาง่าย มีน้ำหนักเบา ผิวสัมผัสเรียบด้าน เฉดสีแดงสวยงาม

เมื่อแกะฝาหลังออกจะพบกับช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง และช่องใส่ microSD Card ที่แยกจากกันอีกหนึ่งช่อง โดยเจ้า Wiko View รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (สนับสนุนเครือข่าย 4G และ 3G ได้พร้อมกัน) และ microSD Card ได้ในเวลาเดียวกัน

ส่วนวงกลมสีแดงที่เพื่อนๆ เห็นนั้นคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือค่ะ

ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย รูเล็กๆ ด้านบนสุดคือไมค์ตัดเสียงรบกวน, เลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถัดมาจะเป็น LED flash, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และโลโก้แบรนด์ค่ะ

ด้านหลังส่วนล่าง จะมีลำโพงเสียงที่ดังในระดับนึงค่ะ

ด้านบนตัวเครื่อง พบช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และรูไมค์สำหรับสนทนา

ด้านซ้ายตัวเครื่อง เรียบเนียนไร้ปุ่มกด หรือฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

ด้านขวาตัวเครื่อง จะมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิดปิดตัวเครื่อง

การแคปภาพหน้าจอ วาด 3 นิ้วลงบนหน้าจอ หรือกดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง

ทดสอบประสิทธิภาพ

เมื่อนำ Wiko View ที่มาพร้อม Snapdragon 425 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4GHz และมีหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 308 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุดพบว่าสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมอยู่ที่ราว 34000 คะแนน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน้อย แต่หากพูดถึงประสิทธิภาพระหว่างการใช้งานต้องบอกเลยว่าลื่นไหลดี เล่นเกมไม่มีหน่วง ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลยค่ะ

สำหรับสเปคการใช้งานของ Wiko View ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุดระบุว่ามาพร้อม Android 7.1.2 ชิปเซ็ตแบบ Quad-Core หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 308 ใช้หน้าจอความละเอียด 1440×720 พิกเซล หรือระดับ HD+ กล้องหลัง 13MP กล้องหน้าเซลฟี่ 15.9MP แต่จะไม่รองรับ NFC เป็นต้น

เมื่อดาวน์โหลดเกมที่มีไฟล์ความจุเยอะมาทดลองเล่น พบว่าสามารถเล่นได้ลื่นไหลดี แต่หากจะเล่นเกมที่มีชิปกราฟิกสูงๆ เกรงว่าอาจมีกระตุกบ้าง

Interface

หน้าจอ Lock screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน โดยสามารถเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการสไลด์มุมขวาขึ้น และเข้าถึงโหมดบันทึกเสียงได้ทันทีเมื่อสไลด์มุมซ้ายขึ้นค่ะ

หน้า Home screen แอปฯ พื้นฐานจัดวางเป็นระเบียบ และเมื่อกดเข้าไปที่เมนูด้านในจะพบแอปฯ การใช้งานต่างๆ ที่มีมาให้อย่างครบครัน

แอปพลิเคชันจาก Google มีให้ใช้งานอย่างครบครัน นอกจากนี้ Wiko View ยังรองรับการใช้งาน 2 หน้าจออีกด้วย

เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง

หน้าสำรองหรือรีเซ็ตการใช้งานภายในตัวเครื่อง

หน้ารวมข้อมูลความจุในตัวเครื่องที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด และหน้าแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่

Wiko View รองรับใช้งานมือเดียวด้วยโหมด One Handed และฟังก์ชัน Smart Action

การโทรสนทนา และการส่งข้อความ

สามารถปรับแต่งหน้า Home screen ได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ตั้งค่าวอลเปเปอร์ หน้าวิดเจ็ต หรือการตั้งค่าอื่นๆ

เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick setting ที่แสดงการแจ้งเตือน และเปิดใช้งาน หรือตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ภายในตัวเครื่อง

แอปฯ 360 Security รักษาความปลอดภัย และเร่งความเร็วเครื่อง มีระบบป้องกันไวรัสในตัว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมือถือ และซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย

หน้าอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุด

ผู้ช่วยโทรศัพท์ช่วยจัดการข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นล้างไฟล์ขยะ, จัดการพลังงาน, บูธข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ หรืออัปเกรดแอปฯ เป็นต้น และสามารถตั้งค่าล็อคแอปฯ ด้วยรหัสผ่าน ลายนิ้วมือ เพื่อความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย

ตั้งค่าล็อคไฟล์ภายในตัวเครื่อง

ปุ่มทำความสะอาดแอปฯ ที่มีทำงานเบื้องหลัง

Wiko View มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และก่อนการบันทึกลายนิ้วมือจำเป็นต้องเลือกรูปแบบการปลดล็อกด้วย อาทิ ตั้งค่ารหัสผ่าน, รูปแบบการวาดรหัส และใส่พินไอดี เป็นต้น

การฟังวิทยุ จำเป็นที่จะต้องเสียบหูฟังเพื่อใช้เป็นเสาอากาศรับคลื่นความถี่

แอปฯ สภาพอากาศ, นาฬิกาปลุก และข้อมูลข่าวสารที่จะมีการอัปเดตในแต่ละวัน

เครื่องคิดเลข, บันทึกเสียง และปฏิทิน

เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะพบกับแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ทั้งหมดได้ทันที, การกดลบแอปฯ ที่ติดตั้ง ให้กดค้างไปยังแอปฯ ที่ต้องการ ก็จะมีเมนูขึ้นมาค่ะ และกดเปิด-ปิดหรือรีสตาร์ทเครื่องได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานกล้องหน้าของ Wiko View จะมีเมนูการตั้งค่าการใช้งานต่างๆ โหมดการถ่ายภาพพิเศษนอกเหนือจากเซลฟี่ปกติ และเซลฟี่บิวตี้ จะมีแค่ 2 โหมด ได้แก่ ถ่ายภาพพาโนรามา และถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สีต่างๆ ให้เลือกใช้งานอีกด้วย

ในส่วนนี้จะเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพแนวกว้าง, โหมด Live Portrait Blur ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ และโหมด Face Beauty ปรับตั้งค่าความเนียนของใบหน้า ความกลมโตของดวงตา และปรับใบหน้าเรียว

สำหรับการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าของ Wiko View จะมีโหมดถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็วให้เลือกปรับระดับตามที่ต้องการ และสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD

ลำดับถัดไปเราจะมาดูกันในส่วนของโหมดการใช้งานกล้องหลังกันบ้าง โดยเริ่มตั้งแต่มีเมนูการตั้งค่าการใช้งานต่างๆ, มีโหมดการถ่ายภาพพิเศษให้เลือกใช้งานมากกว่าเมนูของกล้องหน้า และมีฟิลเตอร์สีต่างๆ ให้เลือกใช้

สำหรับโหมดถ่ายภาพพิเศษ ได้แก่ โหมดซุปเปอร์พิกเซล ที่จะได้รับภาพถ่ายความละเอียดมากถึง 52 ล้านพิกเซล, โหมด Face Beauty ปรับตั้งค่าความเนียนของใบหน้า ความกลมโตของดวงตา, ปรับใบหน้าเรียว และโหมดมืออาชีพที่เราสามารถตั้งค่ากล้องต่างๆ ได้เองตามสะดวก

โหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพแนวกว้าง, โหมดส่องกล้อง QR Code และถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืน

โหมด Live Portrait Blur ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ, โหมดถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็วให้เลือกปรับระดับตามที่ต้องการ และสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD เหมือนกับกล้องหน้าค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Wiko View

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Wiko View

Wiko View มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0  พร้อม Soft Light Selfie Flash ที่รองรับ Face Beauty ปรับผิวหน้าสวย ปรับตั้งค่าความเนียนของใบหน้า ความกลมโตของดวงตา, ปรับใบหน้าเรียว และมีโหมด Live Portrait Blur ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ จากตัวอย่างภาพข้างต้นเลือกเปิดใช้งานโหมดหน้าชัดหลังเบลอในภาพที่ 1

ขณะที่ภาพอื่นๆ จะใช้งานโหมด Face Beauty ที่ปรับตั้งค่าอยู่ที่ระดับ 1 ภาพที่ได้ทำออกมาได้ดีทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5 พันบาท โหมด Face Beauty ให้ภาพใบหน้าสวยเนียนทันใจ มีลดรอยดำรอบดวงตาให้ใช้งาน เก็บรายละเอียดเส้นผมได้ดี โดยรวมถือว่าใช้ได้ค่ะ

จุดเด่น

– หน้าจอ IPS ใหญ่ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+) หน้าจอมีขนาดกว้างเต็มตา เล่นเกม ดูหนัง หรือชมคอนเท้นท์ต่างๆ ได้อย่างจุใจ
– ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 (Nougat)
– ชิปเซ็ต Snapdragon 425 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.4 GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 308 ทำงานได้ลื่นไหลดี จากที่ลองใช้มีอาการหน่วง หรือกระตุกระหว่างเล่นเกมไฟล์ความจุใหญ่ๆ
– หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB ความจุ 16GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB
– กล้องหลัง 13MP พร้อม LED flash รองรับ Face Beauty และหน้าชัดหลังเบลอ รองรับการบันทึกวิดีโอ 1080p@30fps กล้องหลังถ่ายภาพมีความละเอียดคมชัดดี แต่ไม่เหมาะสำหรับถ่ายในที่แสงน้อย
– กล้องหน้าเซลฟี่ 16MP ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อม Soft Light Selfie Flash รองรับ Face Beauty ปรับผิวหน้าสวย และ Live Portrait Blur ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (4G + 3G) และ microSD Card ได้ในขณะเดียวกัน
– ฝาหลังสามารถแกะออกได้ เพื่อสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ และใส่ซิมการ์ด
– รองรับ OTG
– มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (Black), สีทอง (Gold), สีเขียว (Deep Bleen) และสีแดง (Cherry Red)
– เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5 พันบาท

ข้อสังเกต

– หน่วยความจำ RAM และความจุภายในตัวเครื่องให้มาน้อยไปหน่อย (RAM 3GB + ROM 16GB)
– แบตเตอรี่ความจุเพียงแค่ 2900 mAh และไม่รองรับ Fast Charge
– ฝาหลังแกะออกยากไปนิด น่าจะมีช่องใส่ซิมการ์ดด้านข้างตัวเครื่อง
– ไม่รองรับ NFC

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

– Nubia N1 lite
– Asus ZenFone Live
– OPPO A37
– Flash Plus 2
– Huawei Y6II
– Nokia 3
– Gionee X1
– Lenovo A7700
– Moto E4
– Sony Xperia E4
– vivo Y53

ขอขอบคุณ บริษัท วีโก โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด