รีวิว Vivo Y17 น้องเล็กสเปคไม่ธรรมดา!! จอใหญ่ 6.35 นิ้ว กล้องหลัง AI Triple Camera กล้องหน้า 20MP แบตพันธุ์อึด 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว ในราคาคุ้มๆ
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ ก็เปิดตัวออกมาแล้วอย่างเป็นทางการในไทย พร้อมกับเปิดให้จองเป็นที่เรียบร้อยสำหรับสมาร์ทโฟนน้องเล็กสเปคครบครันอย่าง Vivo Y17 โดยเปิดตัวมาในราคาสุดคุ้มเพียง 6,999 บาทเท่านั้น
Vivo Y17 มีตัวเครื่องให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mineral Blue (สีน้ำเงิน) และ Mystic Purple (สีม่วง) สำหรับเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจก็สามารถ Pre – Order ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 – 17 พฤษภาคม 2562
ซึ่งสามารถทำการสั่งจองได้ผ่านร้าน Vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ จ่ายมัดจำเพียง 500 บาทเท่านั้น พิเศษสุดๆ สำหรับผู้ที่ทำการสั่งจอง รับฟรี! กระเป๋าสุดพิเศษจาก Vivo และสามารถรับเครื่องพร้อมกับของแถมสุดพิเศษนี้ได้ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป
ในส่วนของสเปคการใช้งาน Vivo Y17 มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว อัตราส่วน 19.3:9 โดดเด่นด้วย AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว คมชัด 13MP (เซ็นเซอร์หลัก) + 8MP (AI Super Wide-Angle) + 2MP (Depth Sensor) รองรับการถ่ายภาพ AI Super Wide-Angle และถ่ายภาพบุคคล
อีกทั้งยังเอาใจสายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 20MP พร้อมอัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 5000 mAh ที่สนับสนุนเทคโนโลยี Dual-Engine Fast Charging ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 9 ชั้น
ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3 GHz มีหน่วยความจำแรม 4GB คู่ความจุ 64GB และมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นด้วยการทำงานอันลื่นไหล ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 บนพื้นฐาน Android 9.0 Pie
ซึ่งในวันนี้ทาง ninethaiphone มีรีวิว Vivo Y17 ตัวเครื่องสี Mineral Blue มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค Vivo Y17
Features | Vivo Y17 |
วันเปิดตัว : | – พฤษภาคม 2562 |
ราคา : | – 6,999.- (ณ วันที่ 11 พ.ค. 62) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 9.0 Pie ครอบทับ Funtouch OS 9 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.35 นิ้ว | |
– ดีไซน์ Halo FullView Display | |
– อัตราส่วน 19.3:9 | |
– ความละเอียด 1544×720 พิกเซล (HD+) | |
– multi-touch | |
CPU : | – Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3 GHz |
GPU : | – PowerVR GE8320 |
RAM : | – 4GB |
ROM : | – 64GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 13MP + 8MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ | |
– LED Flash | |
– AI Super Wide-Angle | |
– AI Face Beauty | |
– PDAF | |
– Auto Scene | |
– Portrait Bokeh | |
– Panorama | |
– HDR | |
กล้องหน้า : | – 20MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 5000 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging (9V/2A) |
ขนาด : | – 159.43×76.77×8.92 มม. |
น้ำหนัก : | – 190.5 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1800/1900 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4G + 5G |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB 2.0 | |
– OTG | |
GPS : | – GPRS |
– GPS | |
– GLONASS | |
– BeiDou | |
– Galileo | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Accelerometer | |
– Ambient Light | |
– Proximity | |
– E-compass | |
– Gyroscope | |
สี : | – Mineral Blue (น้ำเงิน) |
– Mystic Purple (ม่วง) |
แกะกล่อง Vivo Y17
สำหรับ vivo Y17 บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาว หน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ vivo, ชื่อรุ่น Y17 และความจุแบตเตอรี่สูงถึง 5000 mAh ระบุไว้เด่นชัด มุมขวาบนมีข้อมูลของ RAM และ ROM คาดสีทอง โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อม RAM 4GB + ROM 64GB หน้ากล่องมีภาพดีไซน์ตัวเครื่องสี Mineral Blue ที่เผยให้เห็นหน้าจอดีไซน์รอยบากทรงหยดน้ำ ด้านหลังติดตั้งกล้อง 3 เลนส์พร้อมไฟแฟลช LED มีสแกนลายนิ้วมือกึ่งกลางตัวเครื่อง ฝาหลังมีลวดลายเป็นเส้นเล็กๆ ดูสะดุดตา
ขณะที่ด้านหลังกล่องมีการชูสเปคเด่นๆ เอาไว้ 3 อย่าง ได้แก่ กล้องหลัง AI Triple Camera, แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh และสนับสนุนฟีเจอร์ชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging รวมถึงมีข้อมูลโมเดลเครื่อง เลข IMEI และตัวเลือกสี ระบุไว้ด้วย
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– vivo Y17 ตัวเครื่องสี Mineral Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ Dual-Engine Fast Charging (9V/2A)
– สาย USB
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งาน
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสกันรอยแบบใสขอบพลาสติกสีดำ
ทำความรู้จัก Vivo Y17
ด้านหน้า Vivo Y17 มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.35 นิ้ว ดีไซน์ Halo FullView Display เป็นจอ IPS LCD อัตราส่วน 19.3:9 ความละเอียด 1544×720 พิกเซล (HD+) มีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89% หน้าจอมีขนาดใหญ่ ใช้งานได้อย่างเต็มตา ไม่ว่าจะ เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นโซเชียลมีเดีย ก็ใช้งานได้แบบเพลินๆ เลยค่ะ
ด้านหน้าส่วนบน มาพร้อมรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตำแหน่งสำหรับติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 และมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อยู่ในบริเวณส่วนบนนี้ด้วย
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ส่วนนี้มีการเว้นขอบด้านล่างไว้เพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ ค่ะ
ด้านหลัง Vivo Y17 มาพร้อมตัวเครื่องไล่ระดับเฉดสีสุดงาม โดยตัวเครื่องที่เราได้นำมารีวิวให้ชมกันเป็นตัวเครื่องสี Mineral Blue บอดี้ไล่เฉดสีฟ้าน้ำทะเลออกสีเขียวเข้มดูพรีเมียม โทนสีเข้มจะอยู่ที่บริเวณส่วนล่างไล่ระดับขึ้นมาเป็นสีอ่อน นอกจากนี้หากสังเกตดีๆ ยังมีลวดลายเป็นเส้นเล็กๆ แต่ผิวสัมผัสเรียบลื่น ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์ และให้มุมมองสีที่แตกต่างเมื่อแสงตกกระทบอีกด้วย
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP (เซ็นเซอร์หลัก) + 8MP (AI Super Wide-Angle) + 2MP (Depth Sensor) พร้อม LED flash และฟีเจอร์ใช้งานอื่นๆ ซึ่งในตรงนี้เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในส่วนของกล้องและ Interface ต่อค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้แบรนด์ vivo สกรีนสีเงินปรากฏอยู่
ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต micro USB และลำโพงเสียงหลัก
ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องใส่ซิมการ์ด
โดยอยู่บริเวณส่วนปลายบนสุดเลยค่ะ
โดย Vivo Y17 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Vivo Y17 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz มีหน่วยประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับ Funtouch OS 9 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 88046 คะแนน
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Vivo Y17 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล Vivo 1902, รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie), ใช้ชิปเซ็ต MT6765V/CB หรือ Helio P35, หน้าจอ 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1544×720 พิกเซล, กล้องหลัง 13.5MP, กล้องหน้า 19.7MP, แบตเตอรี่ 5000 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 42.33GB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 42.14GB เป็นต้น
รองรับ Game Cube ผู้ช่วยจัดการเกมเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมสุดมันส์ต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดยสามารถเปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ ระหว่างเล่นเกม เช่น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport หรือการปิดใช้งานปุ่ม AI เป็นต้น การใช้งานให้ไปที่การตั้งค่า >> Game Cube เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติมค่ะ
การเรียกใช้งาน Game Cube ก็ทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ ให้สไลด์หน้าจอด้านซ้ายไปทางขวา จะปรากฏแถบการใช้งานต่างๆ ขึ้นมา โดยเป็นการเอาใจเหล่าเกมเมอร์ด้วยการอัพเกรดเกมโหมด 5.0 ที่มาพร้อมกับ Competition Mode โฉมใหม่ที่ จัดสรรในส่วนทรัพยากรระบบเพื่อจัดลําดับความสําคัญของเพอร์ฟอร์แมนซ์เกม และทวินเทอร์โบที่ช่วยลดปัญหาภาพกระตุกได้มากถึง 300% และทําให้เกมไหลลื่นแบบสุดๆ
จากการทดสอบทางทีมงานได้ลองเล่นเกม PUBG Mobile พบว่า Vivo Y17 สามารถเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน ระบบทัชสกรีนไหลลื่น ปรับเฟรมเรทอยู่ที่ระดับกลางภาพกราฟิกสวย จอคมชัด หน้าจอใหญ่กว้างเต็มตา เล่นได้อย่างเต็มอรรถรส
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วที่มุมล่างขวา และโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้าย
หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง แต่หากปัดหน้าจอไปทางขวาจะพบกับหน้าทางลัด ที่สามารถเข้าถึงแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นก็รองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน
หากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือกดกากบาทลบได้เลย
เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับหน้าแจ้งเตือนต่างๆ แต่หากสไลด์ล่างขึ้นจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และปรากฏแอปฯ ที่เพิ่งใช้งานไปล่าสุดด้วย
เมื่อกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนจอแสดงผลจะปรากฏแถบเอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวแบบไดนามิกขึ้นมาด้านล่าง สามารถเพิ่มลงสู่หน้า Home Screen ได้เองเลยค่ะ
โทรศัพท์, ข้อความ และหน้าตั้งค่าธีม
V-Appstore, Play Store และเว็บเบราว์เซอร์
ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก และศูนย์รวมแอปฯ จาก Google
การตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง
Vivo Y17 รองรับ Game Cube ผู้ช่วยจัดการเกมเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมสุดมันส์ต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดยฟังก์ชันนี้จะทำงานขณะที่เราเล่นเกมเท่านั้น แต่การใช้งานอื่นๆ จะยังคงปกติ และรองรับเฉพาะเกมที่เลือกไว้
สามารถกำหนดค่าฟังก์ชันต่างๆ ในแต่ละเกมได้ ซึ่งควบคุมผ่านสวิตช์หลักของ Game Box เปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ ได้ระหว่างเล่นเกม เช่น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport หรือการเล่นอัตโนมัติขณะหน้าจอดับ เป็นต้น
โหมดมอเตอร์ไซค์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนร่วมกับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุอีกด้วย โดยมีการตั้งค่าปฏิเสธสายแบบอัตโนมัติ, ตอบกลับอัตโนมัติด้วย SMS, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ หรือประเมินความเร็วก่อนการรับสาย เป็นต้น
จอแสดงผลรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตา เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้ค่ะ
หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่, หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ และหน้าแสดงข้อมูลหน่วยความจำภายในเครื่อง
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ Vivo Y17 รองรับฟีเจอร์ Face Access หรือระบบจดจำใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งก่อนที่จะเปิดใช้งานต้องลงทะเบียนตั้งค่ารหัสผ่านเป็นตัวเลข Pin หรือรูปแบบก่อน
ระบบจดจำใบหน้า ลงทะเบียนด้วยการถือเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากใบหน้าราว 20-50 ซม. และควรหลีกเลี่ยงการบันทึกใบหน้าในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป หลังจากที่ลงทะเบียนใบหน้าเสร็จสมบูรณ์ สามารถใช้ปลดล็อคได้ง่ายๆ ด้วยการกดไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องเพื่อปลุกหน้าจอเพื่อสแกนใบหน้าของเรา
โหมดจัดการพลังงานแบตเตอรี่ เปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย, โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น
EasyTouch เครื่องมืออำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเป็นปุ่มลอยตัว คล้ายๆ กับ Assistive Touch ของ iPhone รองรับการแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช และสามารถคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด รวมถึงล้างข้อมูลในตัวเครื่องได้ที่หน้าการสำรองและคืนค่าข้อมูล
การใช้งานอัจฉริยะ เป็นการเปิดการใช้งานฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เพื่อปลุกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น SmartWake การวาดตัวอักษรที่กำหนดผ่านหน้าจอที่กำลังสลีป, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์, การเตือนอัจฉริยะ และรองรับการสะท้อนอัจฉริยะ ได้ทั้งวิดีโอ เพลง รูปภาพ และไฟล์สื่อ ซึ่งสามารถสะท้อนไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเล่น และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับโทรทัศน์ได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
รองรับ Smart Split เวอร์ชันล่าสุด ฟังก์ชั่นนี้ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, WhatsApp, LINE, WeChat, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ให้ผู้ใช้งานได้สนุกทั้งความบันเทิง และการแชทได้อย่างอิสระ
มีโหมดการใช้งานมือเดียวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และสามารถแคปหน้าจอได้แบบง่ายๆ ด้วยการกดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ หรือจับภาพหน้าจอโดยการปัดสามนิ้วลงบนจอแสดงผล
รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ
iManager เป็นการจัดการพื้นที่ต่างๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลขึ้น ด้วยการล้างข้อมูลขยะต่างๆ ในตัวเครื่อง หรือตั้งค่าการรับส่งข้อมูล รายละเอียดของข้อมูล รวมไปถึงการตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายด้วยค่ะ
แอปฯ สภาพอากาศ, vivo Cloud สามารถสำรองข้อมูล ผู้ติดต่อ ข้อความ และ
EasyShare แอปฯ ช่วยให้การแบ่งปันง่ายขึ้น หรือการย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าไปยัง vivo เครื่องใหม่ในขั้นตอนง่ายๆ รวมถึงแบ่งปันไฟล์ข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ หลากหลายรูปแบบได้ด้วย
รองรับแอปฯ vivo.com ที่ปรากฏข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลบริการต่างๆ รวมถึงมีสมุดโน๊ต จด เขียน และแทรกรูปภาพได้
โหมดสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม มีโหมดถนอมสายตา และล็อคแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ
เครื่องมือการใช้งานมีมาให้ครบครัน เริ่มต้นที่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง
เข็มทิศ, แอปฯ vivo.com, วิทยุ FM
รองรับแอปฯ WeSing, News อัพเดตข่าวล่าสุดได้แบบรวดเร็วทันใจ และแอปฯ iReader แหล่งรวมหนังสือ e-book สำหรับคนรักการอ่าน
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ทั้งยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยได้
สำหรับการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen สามารถเข้าถึงได้หลากหลายวิธี อาทิ การลาก 3 นิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเปิดการใช้งาน หรือการกดค้างไปที่ปุ่ม Recent Apps เพื่อเข้าสู่โหมดแบ่งหน้าจอในแอปฯ ที่รองรับ เป็นต้น
รองรับ Google Assistant ใช้งานง่ายๆ ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มโฮม และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องก็จะเป็นการเปิด-ปิด และรีสตาร์ทตัวเครื่องค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหลังกันเลย โดยกล้องหลังของ Vivo Y17 เป็น AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว มาพร้อมความละเอียด 13MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ มีโหมดการใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โหมด DOC สำหรับถ่ายภาพเอกสาร ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้, โหมดมืออาชีพสามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้ ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง
โหมด AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับค่าความสวยเนียนภายในพริบตาได้ 6 ระดับ พร้อมปรับโทนสีผิวได้เอง, รองรับการถ่ายภาพมุม Wide เก็บภาพได้กว้างยิ่งขึ้น และเปิดใช้งาน HDR
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการถ่ายภาพ Live Photo เข้ามาด้วย, มีโหมดการถ่ายภาพบุคคลในระยะ 2 เมตร ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ และถ่ายภาพ AI Super Wide-Angle เก็บภาพมุมกว้างพิเศษ
ต่อมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD จนถึง Full HD รองรับโหมด AI Super Wide-Angle พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่น และวิดีโอไทม์แลปส์
สำหรับวิดีโอไทม์แลปส์ ยังสามารถตั้งค่าความเร็วได้ตามต้องการอีกด้วย
สุดท้ายเป็นโหมดคลิป ซึ่งเป็นการบันทึกวิดีโอแบบมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น สามารถใส่เพลงลงไปในวิดีโอได้ และปรับความเร็ว รวมถึงเอฟเฟ็กต์การใช้งานอื่นๆ ได้ ทำให้สร้างคอนเทนต์สนุกๆ ได้แบบไม่มีเบื่อเลยค่ะ
มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้ากันเลย โดยกล้องหน้าของ Vivo Y17 มาพร้อมความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดการใช้งานมากมาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง, โหมด AI Face Beauty รองรับการตั้งค่า HDR สามารถเลือกปรับค่าความสวยเนียนภายในพริบตาได้ 6 ระดับ พร้อมปรับโทนสีผิวได้เอง
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ มีโหมด Live Photo รวมถึงโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอเพิ่มเข้ามา พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีต่างๆ อีกเพียบ
โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD เช่นเดียวกัน และท้ายสุดจะเป็นโหมดคลิปเช่นเดียวกับกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo Y17
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Super Wide-Angle
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Vivo Y17
สำหรับกล้องหน้าของ Vivo Y17 มีความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียน AI Beauty เลือกปรับใบหน้าสวยได้เองตามต้องการ โดยมีให้เลือกปรับถึง 6 ระดับ และเลือกปรับโทนสีผิวได้เองอีกด้วย
อีกทั้งยังรองรับการเปิดใช้งาน HDR และรองรับการถ่ายภาพบุคคล หรือภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ มีฟีเจอร์ Live Photo และฟิลเตอร์สีต่างๆ ให้เลือกใช้งาน ส่วนวิดีโอของกล้องหน้านั้นสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD
สำหรับภาพตัวอย่างโหมด AI Beauty เลือกปรับทั้งหมดอยู่ที่ระดับมาตรฐาน ซึ่งจะมีจุดวงกลมขาวๆ ระบุไว้ค่ะ หากต้องการลดหรือเพิ่มก็เลื่อนปรับได้เลย ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องเซลฟี่ ภาพถ่ายมีความคมชัดดี สวยนวลเนียนทันใจ
แต่หากปรับในระดับที่สูงเกินไปภาพจะดูหลอกตาเล็กน้อย ส่วนตัวคิดว่าปรับให้อยู่ในระดับกลางๆ ภาพถ่ายก็ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติเพียงพอแล้วค่ะ เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลย
โหมดถ่ายภาพปกติ >> โหมดถ่ายภาพ AI Beauty >> ภาพถ่าย Portrait
ภาพถ่าย AI Beauty ระดับ 1 >> ระดับ 3 >> ระดับ 6
สรุป
– Vivo Y17 ราคาจำหน่ายไม่แพง ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในราคาเพียง 6,999 บาท
– ใช้หน้าจอ IPS LCD ดีไซน์ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว อัตราส่วน 19.3:9 ความละเอียด HD+ จอใหญ่ใช้งานได้อย่างเต็มตา รับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้ครบทุกอรรถรส
– มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับ Funtouch OS 9 อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย
– ใช้ชิปเซ็ต Helio P35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3 GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320
– มีหน่วยความจำแรม 4GB คู่ความจุ 64GB และรองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลัง AI Triple Camera ความละเอียด 13MP (เซ็นเซอร์หลัก) + 8MP (AI Super Wide-Angle) + 2MP (Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ พร้อม LED Flash รองรับฟีเจอร์ AI Face Beauty ปรับภาพสวยเนียน ว่องไว และ AI Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ
– กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 รองรับ AI Face Beauty
– กล้องถ่ายภาพทั้งหน้าและหลังมีโหมดถ่ายคลิปแบบใหม่ ที่สามารถแทรกเสียงเพลงลงไปได้ ทำให้การบันทึกวิดีโอมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น นอกจากจะใส่เพลงลงไปได้แล้ว ยังสามารถปรับความเร็ว รวมถึงใส่เอฟเฟ็กต์การใช้งานอื่นๆ ได้อีกด้วย ทำให้สร้างคอนเทนต์สนุกๆ ได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ใช้งานได้นานข้ามวัน แบตอึดและทนสุดๆ พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging (9V/2A) ที่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ชาร์จได้เต็ม
– เซ็นเซอร์สแกนใบหน้า และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ใช้งานง่าย สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ไว
– ขนาดตัวเครื่องกำลังดี ถือจับกระชับมือ พกพาสะดวก วางจำหน่ายในไทยทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Mineral Blue และ Mystic Purple สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Vivo Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ
ข้อสังเกต
– ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ไม่แถมหูฟังมาให้ค่ะ
– หน้าจอความละเอียดระดับ HD+
– ยังคงใช้พอร์ตแบบ micro USB
– หลังตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกที่มีความมันวาว ควรสวมใส่เคสเพื่อป้องกันการเกิดคราบรอยนิ้วมือค่ะ
– ตัวเครื่องค่อนข้างมีการสะสมความร้อนเมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– Asus ZenFone Max Pro (M2)
– realme 3
– realme 2 Pro
– Huawei Y9 2019
– Huawei Y7 Pro 2019
– OPPO A7
– Vivo Y91
– Nokia 5
– Xiaomi Redmi Note 6 Pro
– Samsung Galaxy A30
– Wiko View 2 Plus
– Redmi Note 7
ขอขอบคุณ บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
Leave a Reply