รีวิว vivo V15 หน้าจอ Ultra FullView กล้องหน้า Pop-up คมชัด 32MP กล้องหลัง AI Triple Camera บอดี้ไล่เฉดสดสวย ราคาเป็นมิตร!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ vivo V15 และ vivo V15 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล V Series ชูจุดเด่นหน้าจอไร้ขอบที่แท้จริง Ultra Fullview Display และกล้องหน้าแบบ Pop-up เลื่อนได้อัตโนมัติที่มาพร้อมความละเอียดสูงที่สุดในโลก 32MP
ผสานกับ AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว มีฟีเจอร์กล้อง AI Body Shaping ช่วยปรับแต่งรูปลักษณ์ของบุคคลได้อย่างดีเยี่ยม และเลนส์ Super Wide Angle เก็บภาพในแบบที่กว้างมากกว่าเดิม ด้านข้างตัวเครื่องมีปุ่มกด Smart Button สำหรับเรียกใช้งาน Jovi และ Google Assistant ผู้ช่วยส่วนตัวอันชาญฉลาด ที่เข้าใจความต้องการและคอยให้ความช่วยเหลือผู้ใช้งานได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมสเปคการใช้งานที่จัดมาให้กันแบบเน้นๆ ไม่ว่าจะเป็น กล้อง ชิปเซ็ต แรม หรือความจุในเครื่อง
ซึ่งหลังจากที่เราได้รีวิวพี่ใหญ่อย่าง vivo V15 Pro ไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว) และได้รับความสนใจจากเพื่อนๆ เป็นอย่างดี ครั้งนี้ทางทีมงาน ninethaiphone ขอหยิบนำเอาน้องเล็ก vivo V15 มารีวิวให้ได้ชมกันบ้าง
สำหรับ vivo V15 มาพร้อมขุมพลัง Helio P70 แรม 6GB ความจุ 128GB จอใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ กล้องหน้า Pop-up ความละเอียด 32MP กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 24MP + 8MP + 5MP รัน Android 9.0 ครอบทับ Funtouch OS 9 แบตอึด 4000 mAh รองรับชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 10,999 บาท
vivo V15 เปิดให้ Pre-order ตั้งแต่วันที่ 16-27 มีนาคม 2562 และจะวางจําหน่ายในวันที่ 28 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Topaz Blue (น้ำเงิน-ฟ้า) และ Glamour Red (แดง)
ส่วน vivo V15 Pro มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 675 AIE แรม 6GB คู่ความจุ 128GB จอใหญ่ 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล กล้องหน้า Pop-up ความละเอียด 32MP กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP + 8MP + 5MP รัน Android 9.0 ครอบทับ Funtouch OS 9 แบตอึด 3700 mAh รองรับชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 14,999 บาท
โดย vivo V15 Pro เปิดให้ Pre-Order ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1-8 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา และเริ่มวางจําหน่ายอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Topaz Blue (น้ำเงิน-ฟ้า) และ Coral Red (แดง-ส้ม)
สำหรับครั้งนี้ทาง ninethaiphone มีรีวิว vivo V15 ตัวเครื่องสี Glamour Red มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน โดยตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีแดงเข้มไปยังสีแดงสว่างออกชมพูม่วงมีกลิตเตอร์วิ้งวับดูสวยงามมีระดับ พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค vivo V15
Features | vivo V15 |
วันเปิดตัว : | – กุมภาพันธ์ 2562 |
ราคา : | – 10,999.- (ณ วันที่ 25 มี.ค. 62) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch 9.0 |
หน้าจอ : | – IPS LCD |
– Ultra Fullview Display | |
– ขนาด 6.53 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล | |
– อัตราส่วน 19.5:9 | |
– Multitouch | |
CPU : | – Helio P70 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.1GHz |
GPU : | – Adreno 612 |
RAM : | – 6GB |
ROM : | – 128GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 24MP + 8MP + 5MP (Triple Camera) |
– เลนส์หลัก + Ultra Wide + Depth Sensor | |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 +f/2.4 | |
– LED flash | |
– AI Camera | |
– AI Face Beauty | |
– AI Body Shaping | |
– PDAF | |
– HDR | |
– panorama | |
กล้องหน้า : | – 32MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– HDR | |
Video : | – 2160p@30fps, 1080p@30fps |
Battery : | – 4000 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging |
ขนาด : | – 161.97×75.93×8.54 มม. |
น้ำหนัก : | – 189.5 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz/5GHz |
– Bluetooth 4.2 | |
– OTG | |
– microUSB 2.0 | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– GLONASS | |
– BDS | |
Sensor : | – Fingerprint |
– | |
– Accelerometer | |
– Ambient light | |
– Gyroscope | |
– Proximity | |
– Compass | |
สี : | – Topaz Blue |
– Glamour Red |
แกะกล่อง vivo V15
vivo V15 บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาว หน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ vivo และชื่อรุ่น V15 ระบุไว้เด่นชัด มุมขวาบนมีข้อมูลของ RAM และ ROM คาดสีทองระบุไว้ หน้ากล่องมีภาพดีไซน์ตัวเครื่องสี Topaz Blue ที่เผยให้เห็นหน้าจอไร้ขอบ ติดตั้งกล้องหน้าแบบ Pop-up ส่วนด้านหลังมาพร้อมกล้องถ่ายภาพ 3 ตัว จัดวางในแนวตั้ง มีสแกนลายนิ้วมือกึ่งกลางถัดจากกล้องหลัง ตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีสวยงามเผยบนหน้ากล่อง
ส่วนด้านหลังกล่อง vivo V15 มีการชูสเปคเด่นๆ เอาไว้ 4 อย่าง ได้แก่ หน้าจอ Ultra Fullview Display, กล้องหลัง AI Triple Camera, กล้องหน้าแบบ Pop-up ความละเอียดสูง 32MP และแบตเตอรี่ความจุสูง 4000 mAh รวมถึงมีข้อมูลโมเดลเครื่อง เลข IMEI และตัวเลือกสีระบุไว้ด้วย
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– vivo V15 ตัวเครื่องสี Glamour Red
– หูฟังสมอลทอล์ค
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ Fast Charging
– สาย USB
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งาน
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสกันรอยแบบใสขอบพลาสติกสีดำ
ด้านหลังตัวเครื่องเมื่อสวมใส่เคส ด้านข้างเป็นกรอบยางสีดำกันกระแทกค่ะ ส่วนตัวเคสเป็นพลาสติกแบบใสทำให้ยังเห็นความสวยงามของตัวเครื่องอย่างชัดเจน
บริเวณเลนส์กล้อง เคสกันรอยมีการเว้นช่องว่างไว้สำหรับเลนส์กล้องทั้ง 3 ตัว ขอบยกสูงทำให้เวลาวางเครื่องนอนกับพื้นจะไม่กระทบกับเลนส์กล้อง
ด้านหน้าตัวเครื่องเมื่อสวมใส่เคส ส่วนบนมีการเว้นช่องไว้สำหรับเลนส์กล้องหน้าแบบ Pop-up และรูไมโครโฟน
ส่วนด้านล่างมีช่องลำโพงเสียง, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่องเสียบสายชาร์จที่มีชิ้นส่วนปิดกันฝุ่นเข้าด้วย
เวลาเปิดใช้งานกล้องหน้า เลนส์กล้องก็จะเด้งขึ้นมาพอดีกับช่องเคสที่เว้นไว้เลยค่ะ
ทำความรู้จัก vivo V15
ด้านหน้า vivo V15 มาพร้อมหน้าจอแบบ Ultra FullView Display ที่ถือว่าเป็นหน้าจอไร้ขอบที่แท้จริง โดยใช้จอ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล (Full HD+) มีสัดส่วนจอแสดงผลสูงถึง 90.95% เพิ่มมุมมองในการใช้งานมากขึ้น แสดงสีสันได้อย่างคมชัด สวยงาม พร้อมปกป้องด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ที่แข็งแรง ใช้งานได้อย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็น เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียลมีเดีย ก็ทำได้เต็มครบทุกอรรถรส
ด้านหน้าส่วนบน มาพร้อมกล้องหน้าแบบ Pop-up เลื่อนได้แบบอัตโนมัติ (Elevating Front Camera) คมชัด 32MP เก็บได้ทุกรายละเอียด มีค่ารูรับแสง f/2.0 ซึ่ง vivo ถือเป็นแบรนด์แรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่พัฒนานวัตกรรมนี้ขึ้นมา และยังเป็นสมาร์ทโฟนกล้องหน้าที่มีความละเอียดสูงที่สุด และยังสามารถปรับแต่งใบหน้าให้เรียวเล็ก ปรับสีผิว และเอฟเฟ็กต์แสงต่างๆ ได้อีกด้วย
ส่วนเรื่องความแข็งแรงทนทานของกล้องหน้า Pop-up ถือว่าสมบุกสมบันมีความเสถียรสูง เพราะผ่านการทดสอบการเลื่อนกล้องขึ้น-ลงแบบต่อเนื่องถึง 3 แสนครั้งทีเดียว ทั้งยังทดสอบการกดและการตกมากกว่า 10,000 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งาน และความแข็งแรงค่ะ
การตอบสนองของกล้องหน้ามีความรวดเร็วภายในเสี้ยววินาที โดยกล้องหน้า Pop-up อาศัยแรงจาก Electric Motor ที่มีสปริงคอยผ่อนแรงที่ตัวยกอีกที สามารถเลื่อนขึ้น-ลงได้ในระยะเวลาเพียง 0.46 วินาที
ด้านบนไร้รอยบาก ไร้รูกล้อง ปราศจากสิ่งกีดขวางสายตาใดๆ ในอัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 ขอบกระจกโค้ง 2.5D มีลำโลงฟังเสียงสนทนา และมีการซ่อนเซ็นเซอร์ต่างๆ ไว้ภายใต้หน้าจอด้วย
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ มีการเว้นขอบด้านล่างไว้เพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ ค่ะ
ด้านหลัง vivo V15 มาพร้อมตัวเครื่องไล่ระดับเฉดสีสุดงามแบบ Spectrum Ripple Design โดยตัวเครื่องที่เราได้นำมารีวิวให้ชมกันเป็นตัวเครื่องสี Glamour Red บอดี้ไล่เฉดสีจากโทนสีแดงเข้มไล่ลงมาเป็นสีชมพูเข้มออกสว่างให้มุมมองสีที่แตกต่างเมื่อแสงตกกระทบ ตัวเครื่องแบบ 3D เหมาะกับสรีระฝ่ามือของผู้ใช้งาน ทำให้ถือจับกระชับมือ
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 24MP (เซ็นเซอร์หลัก) + 8MP (Super Ultra Wide) + 5MP (Depth Sensor) พร้อม LED flash ส่วนเรื่องโหมดการใช้งานต่างๆ เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในส่วนของกล้องและ Interface ค่ะ
ถัดมาเป็นสแกนลายนิ้วมือ ใช้ปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วทันใจ
ด้านหลังส่วนล่าง มีโลโก้แบรนด์ vivo ปรากฏอยู่ ซึ่งในส่วนนี้เป็นโทนสีที่อ่อนลงมาค่ะ มีกลิตเตอร์วิ้งๆ คล้ายหมู่ดาวระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ให้ความหรูหราพรีเมียมค่ะ
ด้านบนตัวเครื่อง พบแค่เพียงรูไมโครโฟน และกล้องหน้าแบบ Pop-up ที่สามารถเก็บซ่อนไว้ในตัวเครื่องเมื่อไม่ได้ใช้งาน และจะเด้งขึ้นมาจากด้านบนเมื่อเปิดใช้งานกล้องหน้าค่ะ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต micro USB และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่ม Smart Button สำหรับเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant และช่องใส่ microSD Card ที่รองรับสูงสุดถึง 256GB
ช่องใส่ microSD Card จะอยู่เหนือปุ่ม Smart Button โดยสามารถเรียกใช้งาน Google Assistant และเรียก Jovi Image Recognizer ให้เริ่มทํางานได้อย่างง่ายดาย เพียงเท่านี้ Jovi ก็จะถูกปลุกขึ้นมาช่วยเหลือผู้ใช้งาน และที่พิเศษสุดๆ คือทาง vivo ยังได้พัฒนานวัตกรรมจดจํารูปภาพร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Google อีกด้วย
vivo V15 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ vivo V15 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P70 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.1GHz มีหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 612 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch 9.0 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 95402 คะแนน
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ vivo V15 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล vivo 1819, รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie), ใช้ชิปเซ็ต Helio P70, จีพียู Mali-G72, หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล, กล้องหลัง 12.2MP, กล้องหน้า 32.4MP, แบตเตอรี่ 3900 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 2623MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 97.89GB เป็นต้น
vivo V15 รองรับ Game Cube ผู้ช่วยจัดการเกมเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมสุดมันส์ต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดยสามารถเปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ ระหว่างเล่นเกม เช่น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport หรือการปิดใช้งานปุ่ม AI เป็นต้น การใช้งานให้ไปที่การตั้งค่า >> Game Cube เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติมค่ะ
ส่วนการเรียกใช้งาน Game Cube ก็ทำได้ง่ายๆ เลย ให้สไลด์หน้าจอด้านซ้ายไปทางขวา จะปรากฏแถบการใช้งานต่างๆ ขึ้นมา โดยเป็นการเอาใจเหล่าเกมเมอร์ด้วยการอัพเกรดเกมโหมด 5.0 ที่มาพร้อมกับ Competition Mode โฉมใหม่ที่ จัดสรรในส่วนทรัพยากรระบบเพื่อจัดลําดับความสําคัญของเพอร์ฟอร์แมนซ์เกม และทวินเทอร์โบที่ช่วยลดปัญหาภาพกระตุกได้มากถึง 300% และทําให้เกมไหลลื่น
เมื่อมีสายเรียกเข้าระหว่างที่เราเล่นเกม จะปรากฏไอคอนให้รับสายหรือปฏิเสธสายบริเวณด้านบน เมื่อกดรับสายเราสามารถคุยสนทนาได้ปกติ ทำให้เล่นเกมไปด้วยและคุยโทรศัพท์ไปด้วยได้
และนอกจากจะรับสายเรียกเข้าได้แล้ว เรายังสามารถตอบข้อความสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
เมื่อนำเครื่อง vivo V15 มาทดสอบเล่นเกม PUBG MOBILE โดยปรับความละเอียดและเฟรมเรทอยู่ที่ระดับปานกลาง พบว่าตัวเครื่องเล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่กระตุก ภาพกราฟิกสีสวยสมจริง
เพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมสุดโปรด้วยมุมมองแบบเต็มหน้าจอไร้ขอบ ใหญ่กว้างเต็มตา เล่นได้อย่างเต็มอรรถรสทั้งประสิทธิภาพความลื่นไหล ภาพกราฟิก ความคมชัด และระบบเสียง
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วที่มุมล่างขวา และโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้ายได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน
หากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือกดกากบาทลบได้เลย
หากสไลด์หน้าจอด้านล่างขึ้นจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และปรากฏแอปฯ ที่เพิ่งใช้งานไปล่าสุดด้วย
ต่อมาเป็นส่วนของ V-Appstore, Google Play และเว็บเบราเซอร์
ปฏิทิน, แอปฯ วัดสภาพอากาศ และ i Theme เลือกเปลี่ยนธีมและภาพพื้นหลัง
เมนูการตั้งค่าภายในตัวเครื่อง
หน้าการอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ จะมีแจ้งเตือนบนหน้า Home Screen ด้วยค่ะ
สำหรับ Jovi ผู้ช่วยอันชาญฉลาด เพียงแค่เข้าไปที่โหมดตั้งค่าเลือก Jovi และเปิดใช้งาน เท่านี้ก็สามารถจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย ทั้งการใช้งานกล้องถ่ายภาพอัจฉริยะ, การจดรูปภาพ, การจำแนกสถานการณ์ต่างๆ และการใช้งานปุ่มกดอัจฉริยะอย่าง Google Assistant
โหมดมอเตอร์ไซค์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนร่วมกับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุอีกด้วย โดยมีการตั้งค่าปฏิเสธสายแบบอัตโนมัติ, ตอบกลับอัตโนมัติด้วย SMS, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ หรือประเมินความเร็วก่อนการรับสาย เป็นต้น
จอแสดงผลรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตา เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้ค่ะ
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ vivo V15 รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งก่อนที่จะเปิดใช้งานต้องลงทะเบียนตั้งค่ารหัสผ่านเป็นตัวเลข, Pin หรือรูปแบบก่อน
โหมดจัดการพลังงานแบตเตอรี่ เปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย, โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น
หน้าแสดงข้อมูลหน่วยความจำแรม และพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง, หน้าเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน ส่วนถัดมาเป็น EasyTouch เครื่องมืออำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเป็นปุ่มลอยตัว คล้ายๆ กับ Assistive Touch ของ iPhone
การสะท้อนอัจฉริยะ ทั้งวิดีโอ เพลง รูปภาพ และไฟล์สื่อ สามารถสะท้อนไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเล่น และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับโทรทัศน์ได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
รองรับ Smart Split เวอร์ชันล่าสุด ฟังก์ชั่นนี้ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, WhatsApp, LINE, WeChat, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ให้ผู้ใช้งานได้สนุกทั้งความบันเทิง และการแชทได้อย่างอิสระค่ะ
รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี
Game Cube ผู้ช่วยจัดการเกมเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมไม่มีสะดุด โดยสามารถเปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ ระหว่างเล่นเกม เช่น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport หรือการปิดใช้งานปุ่ม AI เป็นต้น
iManager เป็นการจัดการพื้นที่ต่างๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลขึ้น ด้วยการล้างข้อมูลขยะต่างๆ ในตัวเครื่อง หรือตั้งค่าการรับส่งข้อมูล รายละเอียดของข้อมูล รวมไปถึงการตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายด้วย
EasyShare แอปฯ ช่วยให้การแบ่งปันง่ายขึ้นขึ้น หรือการย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าไปยัง vivo เครื่องใหม่ในขั้นตอนง่ายๆ รวมถึงแบ่งปันไฟล์ข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ หลากหลายรูปแบบได้ด้วย
สมุดโน๊ตจด เขียน และแทรกรูปภาพได้ ถัดมาเป็นตัวจัดการไฟล์ และแอปฯ vivo.com
โดยแอปฯ vivo.com จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงบริการต่างๆ
โหมดสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม ล็อคแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ
เครื่องมือการใช้งานมีมาให้ครบครัน เริ่มต้นที่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง
เข็มทิศ, วิทยุ FM นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเครื่องมือการใช้งานได้อีกด้วย
แอปฯ Google Duo ใช้งานวิดีโอคอลหาครอบครัว เพื่อน และคนอื่นๆ ได้ การโทรจะเข้ารหัส ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้และคนที่โทรหา ถัดมาจะเป็น vivo Cloud สามารถสำรองข้อมูล ผู้ติดต่อ ข้อความ และ
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ทั้งยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยได้ด้วย
หน้าโทรศัพท์, ข้อความ และนาฬิกาปลุก
หากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องก็จะเป็นการเปิด-ปิด และรีสตาร์ทตัวเครื่อง นอกจากนี้เมื่อเสียบสาย USB ก็สามารถถ่ายโอนข้อมูล รูปภาพ ไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหลังกันเลย โดยกล้องหลังของ vivo V15 เป็น AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 24MP + 8MP + 5MP (เลนส์หลัก + Ultra Wide + Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 +f/2.4 มีโหมดการใช้งาน ได้แก่ โหมด DOC ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้, โหมดมืออาชีพที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้ ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง
AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับได้ทั้ง ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก และการปรับรูปร่าง AI Body Shaping โดยมีให้เลือกปรับแบบเต็มตัว เฉพาะศีรษะ, ไหล่, เอว, ทำให้สูงขึ้น, ปรับช่วงขา และช่วงสะโพก
พร้อมรองรับการเปิดไฟแฟลช LED, HDR, ปรับหน้าสวยเนียนดังใจ, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, ฟิลเตอร์สี, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายภาพมุม Wide เลนส์กว้างขึ้น เก็บรายละเอียดได้เยอะ ไม่ตกเฟรม และมีเอฟเฟ็กต์ AI Portrait Lighting แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคล โดยมีให้เลือกถึง 6 เอฟเฟกต์ ได้แก่ แสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ รวมถึงรองรับ Jovi ผู้ช่วยอันชาญฉลาดที่สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านการสแกนอีกด้วย
ถ่ายภาพปกติ
ถ่ายภาพมุม Wide
โหมดถ่ายภาพมุม Wide ช่วยให้กล้องเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้กว้างขึ้นกว่า 120 องศา
ด้านการซูมภาพ สามารถซูมได้มากถึง 10 เท่า โดยภาพที่ซูมนั้นยังคงเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน
สำหรับฟีเจอร์ AI Body Shaping เป็นนวัตกรรมถ่ายภาพสุดล้ำที่สามารถปรับแต่งรูปร่างทุกสัดส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เอว สะโพก และรูปขาออกมาได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ โดยมีให้เลือกปรับแบบเต็มตัว เฉพาะศีรษะ, ไหล่, เอว, ทำให้สูงขึ้น, ปรับช่วงขา และช่วงสะโพก
มาพูดถึง Jovi ผู้ช่วยอันชาญฉลาด โดยเป็นเทคโนโลยี AI ของ vivo ที่ได้ก้าวขึ้นไปอีกระดับจากผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่เข้าใจความต้องการและความปรารถนาของผู้ใช้งานได้ดียิ่งกว่าเดิม ผู้จดจํารูปภาพ Jovi โฉมใหม่ล่าสุด ขับเคลื่อนการทํางานด้วยเทคโนโลยี AI สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเมนสตรีมได้กว่า 100 แพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ Zalora
Jovi สามารถค้นหาสินค้า ต่างๆ ผ่านระบบข้อมูลได้ถึงกว่า 500 ล้านชิ้น ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านการสแกน แค่นี้ Jovi ก็สามารถระบุสถานที่ที่จําหน่ายผลิตภัณฑ์ที่กําลังค้นหาได้อย่างง่ายดาย นับเป็นการอํานวยความสะดวก และยกระดับการช้อปปิ้งให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรม AI แห่งอนาคต
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ ที่รองรับการถ่ายภาพเหมือนโหมด AI ใบหน้าสวย แต่เพิ่มการถ่ายภาพ Live Photo เข้ามาด้วย, รองรับเอฟเฟ็กต์ AI Portrait Lighting แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคล และการถ่ายภาพบุคคลในระยะ 2 เมตร ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ
ส่วนโหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD จนถึง Full HD รองรับโหมด AI Beauty ปรับค่าความสวยเนียนใบหน้าสวยและการปรับรูปร่างได้ด้วยเช่นกัน พร้อมถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่น และวิดีโอไทม์แลปส์
มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้ากันเลย โดยกล้องหน้าของ vivo V15 เป็นแบบ Pop-up มาพร้อมความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดการใช้งานมากมาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง, โหมด AI ใบหน้าสวย หรือ AI Face Beauty ที่รองรับการตั้งค่า HDR, เปิดไฟแฟลช LED, มีฟีเจอร์ AI Portrait Lighting เอฟเฟ็กต์แสงถ่ายภาพบุคคล, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, มีฟิลเตอร์สี
และปรับค่าใบหน้าสวยต่างๆ ได้เองตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก เรียกได้ว่าครบครันสุดๆ สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบภาพเซลฟี่
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ มีโหมด Live Photo เพิ่มเข้ามา, โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD รองรับโหมด AI Beauty ปรับใบหน้าสวยและ AI Body Shaping ปรับรูปร่าง ท้ายสุดจะเป็นโหมดเซลฟี่สุดน่ารักแบบ AR มีสติ๊กเกอร์เพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่าย และหากกดปุ่มถ่ายภาพค้างไว้ก็จะเป็นการบันทึกวิดีโอค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก vivo V15
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก vivo V15
สำหรับกล้องหน้าของ vivo V15 มีความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียน AI Beauty ที่เลือกปรับใบหน้าสวยได้เองตามต้องการ โดยมีให้เลือกปรับทั้ง ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, หน้าเรียว, รูปหน้า, กราม, ตาโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปทรงจมูก, จมูกเรียว และรูปปาก
พร้อมรองรับการเปิดใช้งาน HDR เอฟเฟ็กต์แสงถ่ายภาพบุคคล AI Portrait Lighting โดยมีให้เลือกถึง 6 เอฟเฟกต์ ได้แก่ แสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ
มีฟีเจอร์ Live Photo และฟิลเตอร์สีต่างๆ ส่วนวิดีโอกล้องหน้าสามารถบันทึกที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD รองรับ AI Beauty และ AI Body Shaping ปรับได้ทั้งใบหน้าสวยเนียนและการปรับรูปร่างเลยค่ะ
จากภาพตัวอย่างเริ่มที่ถ่ายภาพโหมดออโต้ปกติไม่ปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ถัดมาเป็นภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสงซึ่งเลือกใช้งานเป็นลูปไลท์ จากนั้นทดลองถ่ายภาพโหมด AI Beauty เลือกปรับทั้งหมดอยู่ที่ระดับมาตรฐานตามระบบประมวลให้ สังเกตได้จากจุดวงกลมสีขาวๆ หากต้องการลดหรือเพิ่มก็เลื่อนปรับได้เลย และท้ายสุดเป็นโหมดถ่ายภาพเซลฟี่สุดน่ารักแบบ AR หรือโหมดสติ๊กเกอร์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายตามสไตล์ เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลย
ถ่ายภาพปกติ >> เอฟเฟ็กต์แสงลูปไลท์
AI Portrait Lighting แสงธรรมชาติ >> โหมดเซลฟี่สุดน่ารักแบบ AR
สรุป
• vivo V15 ราคาเข้าถึงง่ายเพียง 10,999 บาท ได้สเปคการใช้งาน และฟีเจอร์ที่ทันสมัย เป็นสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้ควรจะลิสต์รายชื่อไว้หากใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาดี และสเปคการใช้งานตอบโจทย์ครบครัน
• ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามแบบ 3D บอดี้ไล่เฉดสี Spectrum Ripple Design ดูหรูหราทันสมัย ตัวเครื่องบางเบา ถือจับกระชับมือ สามารถพกพาได้สะดวก โดย vivo V15 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Topaz Blue และ Glamour Red ให้มุมมองสะท้อนที่แตกต่างเมื่อแสงตกกระทบ
• จอใหญ่ไร้ขอบ Ultra FullView Display ขนาด 6.53 นิ้ว ขนาด Full HD+ สัดส่วนหน้าจอสูงถึง 90.95% เพิ่มมุมมองในการใช้งานให้มากขึ้น และใช้ Corning Gorilla Glass 5 ที่แข็งแรง
• vivo V15 มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าแบบ Pop-up เลื่อนได้อัตโนมัติ (Elevating Front Camera) ที่ตอบสนองได้ฉับไวเพียง 0.46 วินาที ใช้วัสดุโลหะเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้อง Pop-up มาพร้อมความละเอียดสูง 32MP ถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้สวยโดนใจ
• AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 24MP (เซ็นเซอร์หลัก) + 8MP (Ultra Wide) + 5MP (Depth Sensor) พร้อม LED flash ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 กล้องโฟกัสไว โหมดถ่ายภาพ Wide-Angle สามารถถ่ายภาพในมุมมองที่กว้างมากยิ่งขึ้นถึง 120 องศา เก็บได้ทุกรายละเอียด เปิดมุมมองที่กว้างขึ้น
พร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel Focusing เพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพ เก็บแสงได้ดีมากยิ่งขึ้น จับโฟกัสได้รวดเร็ว เก็บรายละเอียดของภาพอย่างคมชัด สมบูรณ์ ช่วยให้ถ่ายภาพได้ราวกับมืออาชีพ
ผสานการทำงานร่วมกับระบบ AI ที่ชาญฉลาด ทั้ง AI Portrait Framing, AI Beauty ปรับใบหน้าสวย และฟีเจอร์ล้ำๆ อย่าง AI Body Shaping สำหรับปรับรูปร่าง เอาใจสาวๆ หนุ่มๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ แต่ไม่มั่นใจในเรื่องของรูปลักษณ์ตัวเองค่ะ
• ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Helio P70 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.1GHz จีพียู Adreno 612 แรม 6GB คู่ความจุ 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
• รัน Android 9.0 ครอบทับ Funtouch OS 9 รุ่นใหม่ล่าสุด
• รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง สามารถปลดล็อคได้อย่างฉับไว แต่จะไม่รองรับฟีเจอร์ Face Access ระบบจดจำใบหน้าเหมือนกับ vivo V15 Pro นะคะ
• ตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมได้อย่างราบรื่นและสนุกอย่างต่อเนื่องด้วย Game Mode 5.0 มีการจัดสรรทรัพยากรพลังงานแบตเตอรี่ที่ดี ปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายเรียกเข้าหรือข้อความ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสม เร่งความเร็วด้วย Dual-Turbo เล่นเกมได้สมูท และเปิดแอปฯ สนทนาในหน้าต่าง Easy Touch ได้อีกด้วย
• สนับสนุน Jovi Smarter AI อันชาญฉลาด และมีปุ่ม Smart Button เรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะส่วนตัว Google Assistant ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง โดยกดที่ปุ่มหนึ่งครั้งเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistant กดสองครั้งเพื่อเรียกใช้งาน Jovi Image Recognizer ใช้งานสะดวก และตอบโจทย์ความต้องการค่ะ
• แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging มีความปลอดภัยในการใช้งานถึง 9 ชั้น ช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย และใช้เวลาในการชาร์จไม่นาน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ซึ่งจากการทดสอบทางทีมงานได้ลองเล่นเกม PUBG Mobile เป็นเวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดไปเพียงเล็กน้อย ยังสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนด้านอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
• รองรับ Smart Panel เพื่อความสะดวกในการใช้งานที่มากขึ้น สามารถเข้าไปปรับแต่งเลือกการใช้งานที่ใช้บ่อยๆ เข้ามาอยู่ใน Smart Panel ได้ โดยมันจะแสดงเป็นหน้าต่างเล็กลอยอยู่บนหน้าจอ และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ ทำให้การใช้งาน สะดวก และรวดเร็ว
• ตัวเครื่องไม่กันน้ำ และยังคงใช้พอร์ต Micro USB อยู่ค่ะ
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– OPPO F11 Pro
– OPPO F9
– Honor 10
– Samsung Galaxy A50
– Samsung Galaxy A7 (2018)
– vivo V11
– Pocophone F1
– Xiaomi Mi Max 3
– Huawei nova 3e
ขอขอบคุณ บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
Leave a Reply