รีวิว Vivo S1 กล้องหลัง AI Triple Camera กล้องเซลฟี่ 32MP แบตอึด 4500 mAh สแกนนิ้วใต้จอ Halo FullView ฝาหลังสวยสะกดตา ในราคาต่ำหมื่น!

รีวิว Vivo S1 กล้องหลัง AI Triple Camera กล้องเซลฟี่ 32MP แบตอึด 4500 mAh สแกนนิ้วใต้จอ Halo FullView ฝาหลังสวยสะกดตา ในราคาต่ำหมื่น!

Vivo S1

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ 🙂 ก็เปิดตัวพร้อมกับให้พรีออเดอร์อย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Vivo S1 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากตระกูล “S Series” สโลแกน “Unlock Your Style” โดยเป็นรุ่นเดียวกับ Vivo Y7s สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายในประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ แต่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเวอร์ชัน Global สำหรับทำตลาดนอกจีนนั่นเอง

S1

Vivo S1 เปิดตัวมาพร้อมกับพรีเซนเตอร์สาวสวยคนใหม่ล่าสุดที่กำลังมาแรงสุดๆ ในขณะนี้ คุณใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,999 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Diamond Black และ Skyline Blue

เปิดให้ Pre – Order ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2562 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่าน Lazada : https://bit.ly/2SoqsUM จ่ายค่ามัดจำในการจองเพียง 500 บาท พิเศษสุดสำหรับผู้ที่สั่งจองจะได้รับ Box Set และกระเป๋าเป้สะพายสุดชิค โดยสามารถรับเครื่องพร้อมของแถมได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไปค่ะ

Vivo S1

สำหรับสเปคการใช้งานของ Vivo S1 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ดีไซน์ Halo FullView คมชัดระดับ Full HD+ ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Scanning) รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch OS 9 ขุมพลัง Helio P65 มีหน่วยความจำแรม 6GB คู่ ความจุ 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB

ด้านหลังติดตั้งกล้อง AI Triple Camera ความละเอียด 16MP (Sony IMX499) + 8MP (Wide-Angle + 2MP (Depth Sensor) ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่คมชัด 32MP พร้อม AI Face Beauty ใช้งานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 4500 mAh และสนับสนุนชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging 18W ในราคาต่ำหมื่น

สำหรับวันนี้ทาง ninethaiphone มีรีวิว Vivo S1 ตัวเครื่องสี Diamond Black ที่เป็นการผสมผสานระหว่างสีดำและสีน้ำเงิน มีลวดลายเหลี่ยมเพชรดูหรูหรา เฉดสีสะท้อนวิบวับสวยงาม มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปชมรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค Vivo S1

Features Vivo S1
วันเปิดตัว :  – กรกฎาคม 2562
ราคา :  – 8,999.- (ณ วันที่ 22 ก.ค. 62)
ระบบปฏิบัติการ :  – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch OS 9
หน้าจอ :  – หน้าจอ Super AMOLED
 – ขนาด 6.38 นิ้ว
 – อัตราส่วน 19.5:9
 – ดีไซน์ Halo FullView
 – ความละเอียด 1080×2340 (Full HD+)
 – multi-touch
CPU :  – Helio P65 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.1 GHz
GPU :  – Mali-G72 MP3
RAM :  – 6GB
ROM :  – 128GB
 – microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :  – 16MP + 8MP + 2MP
 – Sony IMX499 + Wide Angle + Depth Sensor
 – ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/2.2 + f/2.4
 – LED flash
 – HDR
 – Panorama
 – AI Face Beauty
 – AI Portrait Framing
 – Super Wide-Angle
 – PDAF
กล้องหน้า :  – 32MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – AI Face Beauty
Video :  – 2160p@30fps, 1080p@30fps
Battery :  – 4500 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging 18W
ขนาด :  – 159.53×75.23×8.13 มม.
น้ำหนัก :  – 179 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
 – 3G : HSDPA 850/900/1800/1900 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 2.4G + 5G
 – Bluetooth 5.0
 – microUSB 2.0
 – OTG
GPS :  – GLONASS
 – BeiDou
 – Galileo
Sensor :  – Fingerprint Under Display
 – Accelerometer
 – Ambient light
 – Gyroscope
 – E-compass
 – Proximity
สี :  – Diamond Black
 – Skyline Blue

แกะกล่อง Vivo S1

Vivo S1 (2)

Vivo S1 ถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาว หน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ Vivo, ชื่อรุ่น S1, ตัวอักษร S สีชมพูผสานสีม่วง และด้านล่างมีไอคอนสแกนลายนิ้วมือ บ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่า S1 มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนมุมขวาบนมีข้อมูลความจุของเครื่องคาดสีทองโดดเด่นสะดุดตา โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อม RAM 6GB + ROM 128GB

Vivo S1 (3)

ด้านหลังกล่องมีการชูสเปคเด่นๆ เอาไว้ 3 อย่าง ได้แก่ กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32MP, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และกล้องหลัง AI Triple Camera รวมถึงมีข้อมูลโมเดลเครื่อง เลข IMEI และตัวเลือกสีระบุไว้ด้วย

Vivo S1 (1)

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– Vivo S1 ตัวเครื่องสี Diamond Black
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ Fast Charging (9V/2A)
– สาย USB
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งาน
– หูฟัง Earphone
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสกันรอยแบบใส

ทำความรู้จัก Vivo S1

Vivo S1 (8)

ด้านหน้า มาพูดถึงเรื่องของดีไซน์หน้าจอกันก่อนเลยค่ะ Vivo S1 มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display มุมมองที่ไร้ขอบเขต สวยงามได้สัดส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ ใช้งานได้อย่างสบายตาผ่านหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 พื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89.98% ใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด ใช้งานมือเดียวได้แบบสบายๆ ระบบมัลติทัชลื่นไหล จอกว้างเต็มตา

ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี In-Display Fingerprint Scanning หรือฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล สามารถสแกนนิ้วแล้วปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

Vivo S1 (9)

ด้านหน้าส่วนบน มีรอยบาก Waterdrop Design หรือทรงหยดน้ำขนาดเล็ก บริเวณนี้เป็นตำแหน่งของเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 รวมถึงมีเซ็นเซอร์ต่างๆ อยู่ในบริเวณส่วนบนนี้ด้วย เหนือรอยบากคือช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา

Vivo S1 (10)

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ด้านล่างมีการเว้นขอบไว้เพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ

Vivo S1 (4)

ด้านหลัง Vivo S1 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Diamond Black และ Skyline Blue ได้รับการออกแบบตัวเครื่องที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น ใช้ดีไซน์แบบ Diamond Pattern โดยตัวเครื่องสี Diamond Black เป็นการผสมผสานระหว่างสีดำและสีน้ำเงิน มีลวดลายเพชรเปล่งประกายล้อมรอบด้วยสีดำ เปรียบเสมือนดวงดาวที่เปล่งประกายในท้องฟ้ายามค่ำคืน เฉดสีแตกต่างไปเมื่อแสงตกกระทบ ลวดลายวิบวับสวยงาม ดูหรูหรามีสไตล์ ตัวเครื่องมีขนาด 159.53×75.23×8.13 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 179 กรัม ถือจับกระชับมือ พกพาสะดวก

Vivo S1 (7)

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 16MP (Sony IMX499) + 8MP (Wide Angle) + 2MP (Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม LED flash และฟีเจอร์โหมดการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครัน ซึ่งตรงนี้เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในส่วนของกล้องต่อค่ะ

1

เลนส์กล้องทั้งหมดรวมถึงไฟแฟลช LED อยู่ในกรอบสีทองนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย ด้านล่างกรอบสกรีนข้อความว่า AI Triple Camera (ขอบคุณภาพ Vivo Y7s จาก www.vivo.com)

Vivo S1 (6)

ด้านหลังส่วนล่าง พบโลโก้แบรนด์ Vivo สกรีนสีเงินที่มุมล่างซ้าย

Vivo S1 (11)

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต micro USB และลำโพงเสียงหลัก ส่วนด้านบนไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ ค่ะ

Vivo S1 (12)

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่ม Smart Button สำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยส่วนตัว

Vivo S1 (13)

โดยช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่เหนือปุ่ม Smart Button

Vivo S1 (16)

Vivo S1 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

Vivo S1 (14)

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด/ปิดการใช้งานตัวเครื่อง และปุ่มเพิ่ม/ลดปรับระดับเสียง

Vivo S1 (15)

การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค่ะ

ทดสอบประสิทธิภาพ Vivo S1

AnTuTu (1)

เมื่อนำ Vivo S1 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Helio P65 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G72 MP3 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ Funtouch OS 9 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 146945 คะแนน ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว

AnTuTu (2)AnTuTu (3)

สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Vivo S1 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล Vivo 1907, รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie), ใช้ชิปเซ็ต MT6768V/CA หรือ Helio P65, หน้าจอ 6.38 นิ้ว ความละเอียด 1080×2340 พิกเซล, กล้องหลัง 15.9MP, กล้องหน้า 32.4MP, แบตเตอรี่ 4500 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 3282MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 101.28GB เป็นต้น

Screenshot (14)

Vivo S1 รองรับ Game Center แหล่งรวมเกมที่เราดาวน์โหลดไว้ในเครื่อง

Screenshot (15)Screenshot (16)

ในส่วนนี้เราสามารถดูข้อมูลเกมได้ โดยเป็นการบอกระยะเวลาหรือสัดส่วนทั้งหมดในการเล่นเกม รวมถึงสถิติการรับส่งข้อมูลในช่วง 7 วันที่ผ่านมาด้วย

Screenshot (3)

พร้อมรองรับ Ultra Game Mode โหมดเกมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เล่นเกมในขั้นสุด เล่น e-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้โหมดการแข่งขัน ซึ่งโหมดนี้มีการจัดสรรทรัพยากรในตัวเครื่องเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของการเล่นเกม ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสูงสุด พร้อมด้วยโหมด Game Countdown ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ สามารถแจ้งเตือนเวลาที่เหลือก่อนที่เกมจะเริ่ม เพื่อให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นขณะรอ

Screenshot (9)

มี Dual-Turbo สำหรับใครที่ต้องการความรวดเร็ว รวมถึงมีการลดเฟรมเรทเพื่อให้เล่นเกมได้สมูทมากยิ่งขึ้นไม่มีติดขัด โดยระบบนี้จะปรับให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม นอกจากนี้ยังมี Multi-Turbo ฟีเจอร์ที่เหล่านักเกมเมอร์ต้องการ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้นถึง 300%

สามารถเปิดใช้งานตั้งค่าระหว่างเล่นเกมได้ที่ Game Box ไม่ว่าจะเป็น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport หรือการปรับค่าชิปเซ็ต แรม ให้เหมาะสม เป็นต้น สามารถเข้าถึงได้ที่การตั้งค่า >> Ultra Game Mode เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติมค่ะ

Screenshot (5)

แรกเริ่มเมื่อเข้าสู่เกม ระบบได้ปรับอัตโนมัติที่ความละเอียดต่ำคุณภาพปานกลางตามสเปคของอุปกรณ์เพื่อให้สามารถเล่นเกมได้แบบไม่สะดุด

Screenshot (10)

ภาพกราฟิกอยู่ในระดับ HD ช่วยลดอาการค้าง อุปกรณ์ยังไม่รองรับการตั้งค่า HDR HD และ Ultra HD) ส่วนเฟรมเรทสามารถปรับให้อยู่ในระดับสูงได้ หากเฟรมเรทแกว่งสามารถปรับเฟรมเรทลงเพื่อให้เหมาะสมได้

DSCF8406

จากการทดสอบทางทีมงานได้ลองเล่นเกม PUBG Mobile พบว่า Vivo S1 สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น ปรับเฟรมเรทอยู่ที่ระดับสูง ภาพกราฟิกสวยที่ระดับ HD หน้าจอใหญ่คมชัด ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น ประสิทธิภาพทรงพลังให้ประสบการณ์ใช้งานลื่นไหลเต็มเปี่ยมด้วยชิป Helio P65 แบบ Octa-core ขนาด 12nm ความเร็ว 2.0GHz พร้อมด้วย RAM 6GB และ ROM 128GB สามารถเล่นเกมหรือใช้งานหลายๆ แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างไหลลื่น

Screenshot (12)Screenshot (13)

ผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด ดีเกินราคา ระบบลื่นไหลมาก เล่นได้แบบเพลินๆ ทัชสกรีนไม่หนืด ระบบเสียงดี เต็มสิบไปเลยค่ะส่วนนี้

Screenshot (11)

ส่วนการเรียกใช้งาน Ultra Game Mode ก็ทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ ให้สไลด์หน้าจอด้านซ้ายไปทางขวา จะปรากฏแถบการใช้งานต่างๆ ขึ้นมาในหน้า Game Box หรือผู้ช่วยจัดการเกม ซึ่งมีการจัดสรรในส่วนของทรัพยากรระบบเพื่อจัดลําดับความสําคัญของเพอร์ฟอร์แมนซ์เกม และทวินเทอร์โบที่ช่วยลดปัญหาภาพกระตุก ทําให้เกมไหลลื่นแบบสุดๆ ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ Vivo S1 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging เทคโนโลยีสุดเฉพาะของ Vivo

Screenshot (6)

ส่วนการใช้งาน YouTube สามารถกางและบีบนิ้วเข้าเพื่อปรับให้พอดีกับหน้าจอได้ค่ะ

Screenshot (8)Screenshot (7)

โดยภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอเหลือขอบดำด้านข้างไว้เล็กน้อย แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้

Interface

Screenshot (1)

หน้าจอ Lock Screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วที่มุมล่างขวา และโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้าย หรือหากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือและปลดล็อกด้วยใบหน้าแล้ว ก็สามารถสแกนนิ้วมือบนจอแสดงผล หรือกดปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าอย่างรวดเร็วได้เลยค่ะ

Screenshot (37)

หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง แต่หากปัดหน้าจอไปทางขวาจะพบกับหน้าทางลัด ที่สามารถเข้าถึงแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ ด้านแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องก็รองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน

Screenshot (38)

หากเพื่อนๆ ต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือกดกากบาทลบได้เลย และเมื่อกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนจอแสดงผลจะปรากฏแถบเอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวแบบไดนามิกขึ้นมาด้านล่าง สามารถเพิ่มลงสู่หน้า Home Screen ได้เองเลยค่ะ

Screenshot (36)

เมื่อสไลด์หน้าจอด้านล่างขึ้นจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และปรากฏแอปฯ ที่เพิ่งใช้งานไปล่าสุด แต่เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับหน้าแจ้งเตือนต่างๆ

Screenshot (41)

ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีมาให้แบบครบเครื่อง และเพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการได้ผ่าน Google Play

Screenshot (53)

เครื่องมือการใช้งานก็มีมาให้ครบครันเช่นกัน เริ่มที่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง

Screenshot (54)

เข็มทิศ, วิทยุ FM และแอปฯ WeSing

Screenshot (39)

ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก และแอปฯ วัดสภาพอากาศ

Screenshot (55)

แอปฯ NEWS และ iReader

Screenshot (40)

ศูนย์รวมธีม, V-Appstore และ Vivo Cloud

Screenshot (43)

โทรศัพท์, ข้อความ และโน๊ต

Screenshot (44)

หน้าเว็บเบราเซอร์

Screenshot (42)

iManager เป็นการจัดการพื้นที่ต่างๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลขึ้น ด้วยการล้างข้อมูลขยะต่างๆ ในตัวเครื่อง หรือตั้งค่าการรับส่งข้อมูล รายละเอียดของข้อมูล รวมไปถึงการตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายด้วยค่ะ

Screenshot (46)

EasyShare แอปฯ ช่วยให้การแบ่งปันง่ายขึ้น หรือการย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าไปยัง Vivo เครื่องใหม่ในขั้นตอนง่ายๆ รวมถึงแบ่งปันไฟล์ข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ หลากหลายรูปแบบได้ด้วย

Screenshot (47)

แอปฯ Vivo.com เป็นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Vivo รวมถึงช่องทางการให้บริการได้ภายในแอปฯ เดียว

Screenshot (48)Screenshot (52)

โหมดสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม มีโหมดถนอมสายตา และล็อกแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ สามารถเลือกแอปฯ ที่จะใช้งานได้

Screenshot (45)

หน้าจัดการไฟล์, หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ, หน้าแสดงหน่วยความจำต่างๆ ภายในเครื่อง

Screenshot (56)

เมนูการใช้งานต่างๆ ภายในเครื่อง

Screenshot (49)

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ Vivo S1 รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้จอแสดงผล และมีฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า ซึ่งก่อนจะลงทะเบียนต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อน

Screenshot (50)

สแกนลายนิ้วมือสามารถบันทึกได้ด้วยการกดไปที่ไอคอนสแกนลายนิ้วบนหน้าจอได้เลย ทั้งยังมาพร้อมเอฟเฟกต์การปลดล็อกที่มีให้เลือกใช้งานอีกหลากหลายรูปแบบ ให้การปลดล็อกสะดวกและสนุกมากขึ้น

Screenshot (51)

ด้านฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า ลงทะเบียนง่ายๆ เพียงยกสมาร์ทโฟนขึ้นสแกนใบหน้า ส่วนการใช้งานต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน จากนั้นส่องใบหน้าแล้วสแกนปลดล็อกได้เลยค่ะ

Screenshot (57)

พัฒนาไปอีกขั้นกับระบบ Jovi ที่มาพร้อมกับ Smart Button และ Jovi Image Recognizer พร้อมด้วย Google Assistant ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ Jovi เป็นดั่งผู้ช่วยที่รู้ใจผู้ใช้งานมากที่สุด

Screenshot (58)

รองรับ Ultra Game Mode โหมดเกมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เล่นเกมในขั้นสุด ใช้งานด้วยการเปิด Game Box ซึ่งจะทำงานในขณะที่ผู้ใช้งานเล่นเกมเท่านั้น การใช้งานอื่นๆ ยังคงปกติไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ส่วนฟังก์ชันที่รองรับก็สามารถกำหนดได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ปฏิเสธสายเรียกเข้า หรือบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ

Screenshot (59)

สามารถเปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่นๆ ระหว่างเล่นเกมได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การบล็อคการแจ้งเตือนต่างๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport เป็นต้น การใช้งานให้ไปที่การตั้งค่า >> Ultra Game Mode เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติม

Screenshot (60)

โหมดมอเตอร์ไซค์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนร่วมกับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุอีกด้วย โดยมีการตั้งค่าปฏิเสธสายแบบอัตโนมัติ, ตอบกลับอัตโนมัติด้วย SMS, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ หรือประเมินความเร็วก่อนการรับสาย เป็นต้น

Screenshot (61)

จอแสดงผลรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตา เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้ พร้อมรองรับ Dark Mode ข่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง

นอกจากนี้ด้วยการทำงาน self-illuminating ของ Super AMOLED ทำให้ S1 มาพร้อมฟังก์ชั่น Always On Display ใช้พลังงานต่ำ ทำให้ดูเวลาและการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันได้สะดวกมากขึ้น และยังสามารถปรับแต่งรูปแบบที่ชื่นชอบได้หลายรูปแบบ ให้สนุกกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น

Screenshot (62)

โหมดจัดการพลังงานแบตเตอรี่ เปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อย, โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น

Screenshot (63)

รองรับ Easy Touch และการใช้งานอัจฉริยะ เป็นการเปิดการใช้งานฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เพื่อปลุกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น SmartWake การวาดตัวอักษรที่กำหนดผ่านหน้าจอที่กำลังสลีป, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย, ซูมโดยการเอียงโทรศัพท์, การเตือนอัจฉริยะ และรองรับการสะท้อนอัจฉริยะ ได้ทั้งวิดีโอ เพลง รูปภาพ และไฟล์สื่อ ซึ่งสามารถสะท้อนไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเล่น และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับโทรทัศน์ได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ

Screenshot (64)

รองรับการสะท้อนอัจฉริยะ

Screenshot (66)

มีโหมดการใช้งานมือเดียวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และสามารถแคปหน้าจอได้แบบง่ายๆ ด้วยการกดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ หรือจับภาพหน้าจอโดยการปัดสามนิ้วลงบนจอแสดงผล

Screenshot (67)

รองรับการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ

Screenshot (65)

รองรับ Smart Split เวอร์ชันล่าสุด ฟังก์ชั่นนี้ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, WhatsApp, LINE, WeChat, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ให้ผู้ใช้งานได้สนุกทั้งความบันเทิง และการแชทได้อย่างอิสระ

Screenshot (69)

เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ และสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยได้ ตัวอย่างการใช้งาน Smart Split ให้กดไปที่ไอคอนสองหน้าจอมุมซ้ายบนซึ่งจะเป็นการแบ่งใช้งานสองหน้าจอค่ะ

Screenshot (68)

เรียกใช้งาน Google Assistant ได้ง่ายๆ เพียงกดไปที่ปุ่ม Smart Button หนึ่งครั้ง หรือกดสองครั้งเพื่อเรียกใช้งาน Jovi Image Recognizer ทำให้ให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการได้แบบทันใจ, ถ่ายโอนข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสาย microUSB แล้วต่อเข้าเครื่อง PC และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องก็จะเป็นการเปิด-ปิด และรีสตาร์ทตัวเครื่องค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

Menu Camera หลัง (1)

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหลังกันเลย โดยกล้องหลังของ Vivo S1 เป็น AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว มาพร้อมความละเอียด 16MP (Sony IMX499) + 8MP (Wide  Angle) + 2MP (Depth Sensor) ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/2.2 + f/2.4 ตามลำดับ

มีโหมดการใช้งานครบครัน ได้แก่ โหมด DOC สำหรับถ่ายภาพเอกสาร ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้, โหมดมืออาชีพสามารถปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้เอง ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง

Menu Camera หลัง (2)

ต่อมาเป็นโหมด AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับได้ทั้ง ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก รองรับการเปิดใช้งาน HDR

ปกติ AI

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Face Beauty

Menu Camera หลัง (3)

มาพร้อม AI Super Wide-Angle เก็บภาพได้กว้างยิ่งขึ้นกว่า 120 องศา และ AI Portrait Lighting เอฟเฟ็กต์แสงพิเศษสำหรับถ่ายภาพบุคคล โดยเป็นการเพิ่มแสงไฟเพื่อช่วยในการปรับแต่งภาพถ่าย Portrait ให้ออกมาสวยงามในแง่ของรูปแบบแสงต่างๆ เสมือนจัดฉากแสงสีในสตูดิโอ

Menu Camera หลัง (2)

มีให้เลือกถึง 6 เอฟเฟกต์ ได้แก่ แสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ (Studio Light), ไฟสเตอริโอ (Stereo Light), ลูปไลท์ (Loop Light), แสงรุ้ง (Rainbow Light) และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ (Momochrome Background) ในส่วนนี้เดี๋ยวเราค่อยไปดูตัวอย่างภาพที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้านะคะ

IMG_25620716_161854_resizeIMG_25620716_161859_resize

ภาพถ่ายปกติ (บน) & AI Super Wide-Angle (ล่าง)

IMG_25620716_162004_resizeIMG_25620716_162019_resize

ภาพถ่ายปกติ (บน) & AI Super Wide-Angle (ล่าง)

ธรรมชาติ

แสงธรรมชาติ

สตูดิโอ

ไฟสตูดิโอ (Studio Light)

สเตอริโอ

ไฟสเตอริโอ (Stereo Light)

ลูปไลท์

ลูปไลท์ (Loop Light)

รุ้ง

แสงรุ้ง (Rainbow Light)

ขาวดำ

ภาพพื้นหลังแบบขาวดำ (Momochrome Background)

Menu Camera หลัง (5)

ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการถ่ายภาพ Live Photo เข้ามาด้วย, มีโหมดการถ่ายภาพ Portrait ในระยะ 2 เมตร ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ รองรับฟิลเตอร์สีต่างๆ และถ่ายภาพ AI Super Wide-Angle เก็บภาพมุมกว้างพิเศษ พร้อมรองรับ AI Portrait Lighting เช่นเดียวกันกับโหมด AI Face Beauty

Portrait

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait

Camera (6)Camera (7)

ภาพถ่ายปกติ (บน) & AI Super Wide-Angle (ล่าง)

Menu Camera หลัง (4)

ถัดมาด้วยความฉลาดของ Jovi Image Recognizer ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสแกนเพื่อวิเคราะห์หาสินค้าที่คุณต้องการจากฐานข้อมูลสินค้าต่างๆ มากกว่า 1 ร้อยล้านข้อมูลบนร้านค้าออนไลน์มากกว่า 100 หน้าร้าน โดยระบบจะแสดงข้อมูลสินค้า ราคา ข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ ให้ผู้ใช้ได้สนุกไปกับยุคของการช้อปปิ้งออนไลน์แบบเต็มประสิทธิภาพ

Menu Camera หลัง (6)

โหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD 480p, 720p จนถึง Full HD 1080p รองรับโหมด AI Super Wide-Angle พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่น, วิดีโอไทม์แลปส์ และโหมด AI Face Beauty ซึ่งวิดีโอไทม์แลปส์ สามารถตั้งค่าความเร็วได้ตามต้องการ

Menu Camera หลัง (7)

ต่อมาเป็นโหมดคลิป สามารถสร้างสรรค์คลิปวิดีโอน่ารักๆ ได้ตามแบบฉบับของตนเอง รองรับทั้งสติ๊กเกอร์คิ้วท์ๆ และเพลงสื่ออารมณ์

Menu Camera หลัง (8)

ท้ายสุดเป็น AR Stickers มีสติ๊กเกอร์หลายลายให้เลือกใช้งาน

Menu Camera หน้า (1)

มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้ากันเลย โดยกล้องหน้าของ Vivo S1 มาพร้อมความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดการใช้งาน ได้แก่ โหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง, โหมด AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับได้ทั้ง ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก

Menu Camera หน้า (2)

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับ Live Photo และฟีเจอร์ Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, เปิดใช้งาน HDR พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีต่างๆ และ AR Stickers

Menu Camera หน้า (3)

ถัดมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD และระดับสูงสุด Full HD เช่นเดียวกับกล้องหลัง และรองรับโหมด AI Face Beauty ด้วย

Menu Camera หน้า (4)

พร้อมรองรับโหมดคลิปเช่นเดียวกับกล้องหลัง ลำดับต่อไปเราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติของกล้องหลังกันเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo S1

Camera (4)
Camera (15)
Camera (5)
Camera (9)
Camera (10)
Camera (11)
Camera (12)
Camera (14)
Camera (16)
Camera (17)
Camera (18)
Camera (19)
Camera (20)
IMG_25620716_162717_resize
IMG_25620716_162604_resize
IMG_25620716_162627_resize
Camera (23)
Camera (24)
Camera (25)
Camera (26)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Vivo S1

สำหรับกล้องหน้าของ Vivo S1 มีความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียน AI Face Beauty รองรับการปรับแต่งใบหน้าสวย สามารถเลือกปรับได้ทั้ง ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก ซึ่งระดับมาตรฐานจะมีจุดวงกลมขาวๆ ระบุไว้ หากต้องการลดหรือเพิ่มก็สามารถเลื่อนปรับได้เลย

พร้อมรองรับการเปิดใช้งาน HDR และรองรับการถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอ มีฟีเจอร์ Live Photo และฟิลเตอร์สีต่างๆ ให้เลือกใช้งาน สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด HD จนสูงสุดถึงระดับ Full HD อีกทั้งยังรองรับ AI Portrait Lighting เอฟเฟกต์ แสงต่างๆ ได้แก่ แสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ (Studio Light), ไฟสเตอริโอ (Stereo Light), ลูปไลท์ (Loop Light), แสงรุ้ง (Rainbow Light) และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ (Momochrome Background) เหมือนกับกล้องหลังอีกด้วย

สรุปผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องเซลฟี่ของ Vivo S1 กล้องมีความละเอียดคมชัดดีมาก ฟีเจอร์ AI Face Beauty ปรับภาพออกมาได้สวยเนียนทันใจเป็นธรรมชาติ เห็นรายละเอียด เสื้อผ้า เส้นผม หรือแม้แต่ฉากหลังก็ชัดเจน เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลย

ปกติ

โหมดถ่ายภาพปกติ

Portrait

โหมดถ่ายภาพ Portrait

แสงธรรมชาติ

โหมด AI Face Beauty แสงธรรมชาติ

สตูดิโอ

ไฟสตูดิโอ (Studio Light)

สเตอริโอ

ไฟสเตอริโอ (Stereo Light)

ลูปไลท์

ลูปไลท์ (Loop Light)

แสงรุ้ง

แสงรุ้ง (Rainbow Light)

ขาวดำ

ภาพพื้นหลังแบบขาวดำ (Momochrome Background)

สติกเกอร์

ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers

ตัวอย่าง VDO AR Stickers

สรุป

Vivo S1 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนใหม่ในเรทราคาต่ำหมื่นที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมาพร้อมสเปคการใช้งานและฟีเจอร์เด่นๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี คุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างมาก ตัวเครื่องดีไซน์สวยทันสมัยออกแบบตามสไตล์ Diamond Pattern ฝาหลังหรูหราพรีเมียม แต่วัสดุค่อนข้างมันวาวจึงจำเป็นต้องสวมใส่เคสเพื่อป้องกันรอยและลายนิ้วมือต่างๆ

ด้านหน้าจอใช้ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว ดีไซน์ Halo FullView ให้มุมมองที่ไร้ขอบเขต และคมชัดระดับ Full HD+ มาพร้อม In-Display Fingerprint Scanning ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออันเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย มอบประสบการณ์การปลดล็อกลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ดียิ่งขึ้น

ใช้งานทรงประสิทธิภาพด้วยชิปเซ็ต Helio P65 ขนาด 12nm แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz พร้อมด้วย RAM 6GB และ ROM 128GB ช่วยให้สามารถเล่นเกมหรือใช้งานหลาย ๆ แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างไหลลื่น ใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 4500 mAh สนับสนุน Dual-Engine Fast Charging

กล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ความชัดระดับ Ultra HD ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยความคมชัดสูง และได้รายละเอียดที่แม่นยำ ทั้งยังมีโหมด AI Face Beauty, Selfie Lighting, AR Stickers, AI Filter และอื่นๆ อีกเพียบ ทำให้การเซลฟี่สนุกสนานมากกว่าที่เคยเป็น ขณะที่กล้องหลังจัดเต็มด้วย AI Triple Camera ใช้เซ็นเซอร์หลัก Sony IMX499 คมชัด 16MP ตามด้วยเลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8MP และ Depth Sensor ความละเอียด 2MP

พร้อมด้วย AI Portrait Framing ที่ช่วยจัดองค์ประกอบของภาพให้ได้สัดส่วนที่สมบูรณ์ มีโหมด AI Super Wide-Angle สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา เก็บภาพบุคคลหรือวิวทิวทัศน์ได้กว้างขึ้น และเอาใจคอเกมด้วย Ultra Game Mode ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ของการเล่นเกม ออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสูงสุด มีโหมด Game Countdown ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ สามารถแจ้งเตือนถึงเวลาที่เหลือก่อนที่เกมจะเริ่ม เพื่อให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นขณะรอ

นอกจากนี้ยังมี Multi-Turbo ฟีเจอร์ที่เหล่านักเกมเมอร์ต้องการ ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้นถึง 300% ด้านระบบ AI พัฒนาไปอีกขั้นกับระบบ Jovi ที่มาพร้อมกับปุ่ม Smart Button และ Jovi Image Recognizer รวมถึง Google Assistant ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน และรองรับระบบคำสั่งเสียงที่มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น เอาเป็นว่าตอบโจทย์ทั้งสายเซลฟี่ สายเกม หรือใช้งานปกติเลยก็ว่าได้

ทั้งนี้หากเพื่อนๆ สนใจและอยากจับจองเป็นเจ้าของ Vivo S1 เปิดให้ Pre – Order ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2562 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่าน Lazada : https://bit.ly/2SoqsUM โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,999 บาท มีตัวเครื่องให้เลือก 2 สี ได้แก่ Diamond Black และ Skyline Blue

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Huawei Y9 Prime 2019
Vivo V11i
OPPO F11
realme 3 Pro
Motorola One Vision
Honor 20 Lite
Samsung Galaxy A30

ขอขอบคุณ บริษัท วีโว่ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng