รีวิว Samsung Galaxy Tab S 8.4 ที่สุดของหน้าจอ AMOLED มาพร้อมความบางเบา
แทบเล็ตจอเล็กที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ ใคร ๆ ก็นึกถึง Samsung Galaxy Tab S 8.4 นิ้ว ที่ซัมซุงโหมโฆษณาอย่างหนักในทุกสื่อ เพื่อหวังที่จะโค่นเจ้าตลาด ทั้ง Apple iPad mini with Retina Display และ iPad Air ให้ได้ โดยชูจุดขายหน้าจอคมชัดสีสันสดใสกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาด
ป้ายสื่อโฆษณาที่พบเห็นได้ทั่วไปในย่านการค้าทั่วประเทศ ทันทีที่เห็นก็รับรู้ได้ว่าต้องการสื่อถึงสีสันบนหน้าจอ
มาทำความรู้จักกันก่อนว่า Samsung Galaxy Tab S นั้น มีสองขนาดหน้าจอ คือ รุ่น 8.4 นิ้ว ราคา 16,900 บาท เป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Apple iPad mini with Retina Display สำหรับถือใช้งานในหน้าจอแนวตั้งด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกรุ่นมีขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว ราคา 19,900 บาท เป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Apple iPad Air กับ Sony Xperia Z2 Tablet สำหรับถือใช้งานในหน้าจอแนวนอนด้วยมือข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ หน้าจอที่แตกต่างกันทั้งสองรุ่น ทำให้ประสบการณ์ในการใช้งานก็แตกต่างกัน
ข้อมูลจำเพาะของ Samsung Galaxy Tab S 8.4 นิ้ว
การเชื่อมต่อ | |
USB Version | 2.0 |
์NFC | ไม่มี |
Wi-Fi | 802.11 a/b/g/n/ac, MIMO |
Wi-Fi Direct | มี |
Bluetooth Version | 4.0 |
อื่น ๆ | รองรับสายเชื่อมต่อ MHL |
เครือข่าย |
|
SIM | Micro-SIM |
3G | 850, 2100 MHz |
4G (LTE) | 800, 900, 1800, 2600 MHz |
ระบบปฏิบัติการ | |
OS และเวอร์ชั่น | Android 4.4 (Kitkat) |
จอแสดงผล | |
ชนิด | Super AMOLED |
ความละเอียด | 2560 x 1600 พิกเซล |
ขนาด | 8.4 นิ้ว |
ความหนาแน่นพิกเซล | 359 ppi |
หน่วยประมวลผล | |
CPU | Exynos 5 Octa 5420 8-core, 1.9 GHz, ARM Cortex-A15 & A7 |
หน่วยความจำ | |
RAM | 3GB |
ROM | 16GB รองรับ microSD เพิ่มเติมได้ถึง 128 GB |
กล้อง | |
กล้องหลัง | 8 ล้านพิกเซล (3264 x 2448 พิกเซล) |
ไฟแฟลช | LED 1 ดวง |
โฟกัสอัตโนมัติ | มี |
กล้องหน้า | 2.1 ล้านพิกเซล |
วิดีโอ | 1080p@30fps |
ลูกเล่นที่มี | Geo-tagging, dual camera, panorama, HDR |
เซ็นเซอร์ | |
Accelerometer, Gyro, Compass, Fingerprint | |
แบตเตอรี่ | |
การถอดเปลี่ยนเอง | ไม่ได้ |
ความจุ | 4,900 mAh |
โครงสร้างภายนอก | |
ขนาด | 125.6 x 212.8 x 6.6 mm. |
น้ำหนัก | 298 g. |
รูปลักษณ์ของตัวเครื่อง
สวยงามทั้งสองสี นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมแท้จากซัมซุงให้เลือกใช้กันอีก
Book Cover หรูหราและมีประโยชน์จากซัมซุง มีให้เลือกหลายสี
Bluetooth keyboard อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ทำงานได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
สเปคที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy S Tab 8.4
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 8.4” (212.8mm) ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล (WQXGA)
- RAM 3GB, ROM 16GB รองรับ microSD ได้ถึง 128GB
- กล้องถ่ายภาพ ความละเอียด 8 และ 2.1 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED สำหรับกล้องด้านหลัง
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, MIMO, WiFi Direct, BT4.0, USB 2.0
- ขนาด 125.6 x 212.8 x 6.6 mm น้ำหนัก 298 กรัม
- แบตเตอรี่ความจุ 4,900 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (Kitkat)
ขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้ว ขอบจอแคบ ตัวเครื่องจึงไม่กว้างเกินไป จับถือใช้งานได้ถนัดมือ น้ำหนักเบา
มีลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ กล้องหน้า เหมือนกับโทรศัพท์มือถือซัมซุงที่เป็นแอนดรอยด์ทั่วไป แน่นอนว่าแทบเล็ตรุ่นนี้สามารถโทรได้ ใสซิมการ์ดและ microSD ได้ รองรับ 4G LTE
มีให้เลือก 2 สี เปรียบเทียบกัน
หน้าจอสีสันสดใสเกินจริงไปบ้าง แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่จะชื่นชอบกัน ความละเอียดสูง คมกริบกว่า Full HD
ด้านหลังเป็นพลาสติกผิวลื่น มีหลุมวงกลมสองหลุม สำหรับยึดเข้ากับ Samsung Book Cover
โลโก้ซัมซุงสีทอง แวววาว หรูหรา
กล้องถ่ายภาพ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash
ขอบตัวเครื่องด้านข้าง เป็นสีทอง ดูหรูหรา
ไม่มีไฟ LED Notification เหมือนกับโทรศัพท์มือถือ
มีปุ่ม Home, Menu และ Back
ด้านข้างตัวเครื่องฝั่งขวา มีช่องอินฟราเรด ปุ่ม Power, Volume ช่องใส่ microSD และ SIM card
ไม่สามารถถอดฝาหลังได้ มีแบตเตอรี่ความจุ 4,900 mAh ฝังอยู่ภายใน ถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อย
มีฟังก์ชั่น Auto rotate เต็มระบบ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน แต่ออกแบบมาเพื่อใช้งานแนวตั้งเป็นหลัก
กระจกหน้าจอ ทนทานต่อการขีดข่วนได้ดีพอสมควร แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ตกหล่นหรือทับ
ส่วนล่างของตัวเครื่อง มีลำโพง ช่องต่อหูฟัง และพอร์ต microUSB
ส่วนบนของตัวเครื่องมีเพียงลำโพงอีกข้างหนึ่ง ทำงานเป็นระบบสเตอริโอซ้ายขวา
ตัวอักษรคมกริบ อ่านง่าย ซัมซุงมี Widget ช่วยจัดการชีวิตประจำวันอยู่บนหน้า Home Screen
แสดงรายการแอพพลิเคชั่นได้ 24 แอพฯ ต่อ 1 หน้า เว้นระยะห่างของไอคอนกำลังดี ไม่ดูรกเกินไป
Widget ที่ซัมซุงแนะนำให้วางไว้บนหน้าจอ
มาดูสี Titanium Bronze กันบ้าง ก็สวยงามในอีกสไตล์
วางจำหน่ายพร้อมกันทั้งสองสี เลือกซื้อสีที่ถูกใจกันได้เลย
หน้าจอ IPS ของ Sony Xperia Z2 Tablet ที่หลายคนชื่นชมว่าสีสันสวยงามสดใสด้วยเทคโนโลยี Triluminos และกระจกสีดำตัดแสงสะท้อน ยังต้องหลีกทางให้กับ Samsung Galaxy Tab S เพราะสีสันที่ฉูดฉาดมากกว่า สว่างมากกว่า ความละเอียดมากกว่า แต่ก็มีแสงสะท้อนรบกวนสายตามากกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร
มาดูกันต่อในส่วนของซอฟต์แวร์
เมื่อเปิดเครื่อง ก็จะพบกับ Home screen ที่ดูเหมือนโทรศัพท์มือถือขนาดยักษ์ มี Widget แสดงสภาพอากาศใช้พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของหน้าจอ ซึ่งใหญ่เกินไปโดยไม่มีความจำเป็น คิดว่า Sony Xperia Z2 Tablet บริหารการใช้พื้นที่บนหน้า Home Screen ได้ดีกว่า
เมื่อสไลด์หน้าจอ Home screen ไปทางด้านข้าง ก็พบกับการแบ่งส่วนของหน้าจอสำหรับการแสดงข้อมูล ข่าวสาร และการจัดการชีวิตประจำวัน ถ้าคิดว่าไม่จำเป็น ก็สามารถลบออกได้ เพราะส่วนนี้จำเป็นต้อง Feed ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาแสดง ค่อนข้างเปลือง Data และพลังงานพอสมควร
เราสามารถเพิ่มจำนวนหน้า Home screen ได้ หรือลบออกได้ตามความต้องการ
แอพพลิเคชั่นที่ติดมาในเครื่อง มีมากมายถึง 3 หน้า
สี่เหลี่ยมที่เห็นในภาพ กดเป็นเมนูขยายออกมา คล้ายกับ Assist Touch ของ iPhone
Notification ขนาดใหญ่ มีปุ่มเปิดปิดฟังก์ชั่นมากมายพร้อมใช้งาน
ตัวจัดการไฟล์
รายงานสภาพอากาศและพยากรณ์ได้แม่นยำ ดูง่าย สวยงาม
โทรศัพท์ได้ด้วย
เปิดดูเว็บไซต์ แสดงผลได้ถูกต้อง
คีย์บอร์ดภาษาอังกฤษ
คีย์บอร์ดภาษาไทย
เมนูตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง
แชร์อินเทอร์เน็ตไร้สายให้อุปกรณ์อื่นได้
เก็บสถิติการใช้ Data อย่างละเอียด แยกเป็นแอพพลิเคชั่น
เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่าน Wi-Fi Direct เพื่อแชร์ข้อมูล
เมนูตั้งค่าเสียงเตือน
ปรับขนาดตัวอักษรได้ 7 ขนาด
เปลี่ยนฟอนต์ได้ ดาวน์โหลดฟอนต์เพิ่มเติมได้
เมนูตั้งค่าจอภาพ รองรับการสั่งงานผ่านนิ้วมือที่สวมถุงมือได้
เปลี่ยนวอลล์เปเปอร์พร้อมกันทั้ง Home screen และ Lock screen ได้ในครั้งเดียว
ปุ่มเปิดปิดฟังก์ชั่น สามารถปรับเปลี่ยนเองได้อิสระ
ปุ่มลัดสำหรับการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็ว
สั่งงานด้วย Gesture ได้
เมนู Accessibility ขั้นสูง
โหมดป้องกันการถูกรบกวน กำหนดเงื่อนไขเองได้
เชื่อมต่อกับ Mouse เพื่อความสะดวกในการสั่งงานได้
ตั้งค่าสัญญาณ HDMI output และ Book cover ได้
มีฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน
ปรับหน้าจอเป็นการแสดงผลขาวดำได้ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
เมื่อแบตเตอรี่เต็ม เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน Standby ได้นาน 19 วัน
เหลือพื้นที่หน่วยความจำให้ใช้งานได้นิดหน่อย เพราะติดตั้งแอพพลิเคชั่นเยอะ
ระบบความปลอดภัยของระบบ
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2
จัดการแอพพลิเคชั่นในเครื่อง
เปลี่ยนการตั้งค่า Default application ได้
ตั้งค่าการโทรได้ละเอียด
ตั้งค่าสมุดโทรศัพท์
ตั้งค่า Web browser
กำหนดให้จดจำรหัสผ่านหรือลบประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ได้
ปรับขนาดตัวอักษรของ Web browser ได้
ตั้งค่าการใช้อินเทอร์เน็ตระดับสูง
กำหนดไม่ให้โหลดรูปภาพบนเว็บไซต์ได้ เพื่อประหยัดการใช้ Data
ตั้งค่าการรับส่งข้อความ
ตั้งค่าการแสดงผลของปฏิทิน
อัลบั้มภาพและวิดีโอ แบ่งตามโฟลเดอร์
แสดงภาพ Thumbnail ในอัลบั้มภาพ
เครื่องคำนวณพื้นฐาน
นาฬิกาโลก เพิ่มประเทศได้มากมาย
มีระบบช่วยเหลือการใช้งานเป็นภาษาไทย
เมนูกล้องถ่ายภาพ / วิดีโอ
มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้หลาย Scene
ปรับตั้งค่าของกล้องได้ละเอียดดี
เมนูตั้งค่ายาวมาถึงหน้าที่สอง
ความละเอียดกล้องหลังสูงสุดถึง 8 ล้านพิกเซล
ปรับค่า ISO ได้
กำหนดจุดวัดแสงในภาพ เมนูนี้ใช้บ่อยที่สุดในการถ่ายภาพ
ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงถึง Full HD
ปรับค่าชดเชยแสงได้ +/- 2 EV
มีโหมด Beauty ปรับได้ 5 ระดับ
ตัวอย่างภาพถ่าย Macro ระยะใกล้ในโหมด Auto
ภาพถ่ายจากกล้องหน้า มีระบบตรวจจับใบหน้า แต่ไม่สามารถโฟกัสได้
ภาพถ่ายจากกล้องหลัง บรรยากาศใน Samsung Shop
ปฏิทิน และการแสดงนัดหมายแบบมุมมองเป็นเดือน
มุมมองปฏิทินแบบสัปดาห์
มุมมองปฏิทินแบบเรียงลำดับตามวันที่
สรุปการทดสอบใช้งาน Samsung Galaxy Tab S ขนาด 8.4 นิ้ว
- น้ำหนักเบา จับได้ถนัดมือมากกว่า Apple iPad mini โอกาสที่จะหลุดลื่นหล่นพื้น มีน้อยกว่า
- หน้าจอสีสดมาก ปรับได้ว่าต้องการสีสันสดแค่ไหน
- หน้าจอความละเอียดสูงที่สุดในบรรดา Android Tablet โค่นแชมป์ Sony Xperia Z2 Tablet
- สะดวกและง่ายในการถ่ายโอนไฟล์ แบ่งปัน คัดลอก ย้าย ลบ ข้อมูลตามสไตล์ของ Android
- โทรได้เหมือนโทรศัพท์มือถือทั่วไป
- มีดีไซน์ที่สวยงามและอุปกรณ์เสริมหรูหรา
- ลำโพงซ้ายขวา ได้มิติความเป็นสเตอริโอ
- กล้องหน้าและหลัง คมชัด ถ่ายนำไปใช้งานได้จริง
- เปลี่ยนรูปแบบและขนาดตัวอักษรได้ โดยไม่ต้อง Root
- หน้าจอ Super AMOLED ในโหมดจอขาวดำ ประหยัดไฟมากกว่า ให้มุมมองกว้างกว่า
ข้อสังเกต
- หน้าจอสีสดเกินจริงไปมาก หน้าจอของ Sony Xperia Z2 Tablet ดูเป็นธรรมชาติสมจริงมากกว่า
- แม้ว่าหน้าจอ iPad mini จะมีสีซีดกว่า Galaxy Tab S แต่ในการใช้อ่าน e-Book นาน ๆ จะสบายตากว่า
- แอพพลิเคชั่นสำหรับแทบเล็ตของ iOS มีความสมบูรณ์และสวยงามมากกว่า Android
- ตัวอักษรภาษาไทยของ Galaxy Tab S และซัมซุงทุกรุ่น ไม่สวยงาม อ่านยากกว่า iPad
- แบตเตอรี่ความจุน้อยเกินไปเพียง 4,900 mAh ต้องชาร์จทุก 1-3 วัน
- วัสดุขอบเครื่องสีทองยังไม่ดีพอ มีโอกาสที่สีจะลอกเห็นเนื้อพลาสติก
- ด้านหลังเป็นพลาสติก ให้ความรู้สึกในการสัมผัสไม่ดีเท่าแทบเล็ตจาก Apple และ Sony
- ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่นผงดินทราย
- กระจกหน้าจอบาง มีโอกาสแตกได้ง่ายยิ่งกว่าโทรศัพท์มือถือซัมซุงเมื่อได้รับแรงกระแทก
- จำเป็นต้องใส่ microSD เพิ่ม เพราะหน่วยความจำในเครื่องอาจไม่เพียงพอ
- ไม่มีปากกา เพราะไม่ใช่แทบเล็ตในตระกูล Galaxy Note
- หลายแอพพลิเคชั่นยังไม่รองรับหน้าจอความละเอียดสูง บริหารพื้นที่บนจอภาพได้ไม่ดีพอ
- ประสบการณืในการใช้งานบน iPad ให้ความรู้สึกดีกว่า แม้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นเดียวกัน
- หน้าจอ iPad และ Xperia Z2 Tablet ตัดแสงสะท้อนได้ดีกว่า เพราะเคลือบผิวด้านในเหมือนกระจกสีดำ
ตัวเลือกอื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
- Microsoft Surface 2
- Microsoft Surface Pro 3 (เริ่มจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2557)
- Sony Xperia Z2 Tablet
- Apple iPad mini with Retina Display
- Apple iPad Air
- Samsung Galaxy Note Pro
- Samsung Galaxy Note 10.1 2014 Edition
ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^
Leave a Reply