รีวิว Samsung Galaxy S7 edge อันดับหนึ่งของสมาร์ทโฟนกันน้ำและถ่ายภาพในที่มืดได้ดีเยี่ยม
ซัมเมอร์นี้ ในแวดวงสมาร์ทโฟน กระแสแรงที่สุดและขายดีอย่างมากตั้งแต่วันแรกวันจำหน่าย ต้องยกให้ Samsung Galaxy S7 edge และ S7 ที่วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ แต่ก็ยังต่อแถวกันซื้อตั้งแต่เช้าวันที่ 18 มีนาคม จากโฆษณาในหลายสื่อที่ปูพรมสร้างกระแสไว้ล่วงหน้าก่อนจำหน่าย ให้ผู้คนได้รับรู้ถึงจุดขาย ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่กันน้ำและถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยหรือมืดได้ดี
กลายเป็นกระแสแรง สร้างความคึกคักให้กับร้านค้าจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ที่มีผู้คนสนใจแวะเข้ามาทดลองใช้ Galaxy S7 edge และ S7 ตลอดทั้งวันจากเครื่องโชว์หน้าร้าน หลายคนก็ตัดสินใจซื้อทันทีอย่างไม่ลังเลเมื่อได้ทดลองใช้ เพื่อให้สงกรานต์นี้ ไม่ต้องกลัวโทรศัพท์จะพังอีกแล้ว พกติดตัวไปเล่นน้ำได้ทุกที่
นี่คือ Samsung Galaxy S7 edge สีทอง (Gold Platinum) งดงามหรูหรา ใหม่แกะกล่อง เป็นเครื่องจำหน่ายจริง ลงทุนซื้อมาใช้จริง ไม่ใช่เครื่องที่แจกให้สื่อมวลชนยืมไปรีวิว โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจากผู้ก่อตั้ง iReview.in.th ให้ยืมทดสอบ บทความนี้จึงเป็นการรีวิวจากการใช้งานจริง ไม่มีการอวยเพื่อเอาใจหรือตอบแทนแบรนด์ซัมซุง เป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อให้ผู้อ่านได้พิจารณาเป็นข้อมูลประกอบการซื้อ
ภาพบรรยายสเปคเบื้องต้นของ Galaxy S7 edge ในแบบที่เข้าใจง่าย ๆ
สเปคเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า Galaxy S7 edge เหนือกว่า S7 ในส่วนของหน้าจอ, แบตเตอรี่, และสีสันตัวเครื่องที่มีให้เลือกมากกว่าเท่านั้น นอกนั้นเหมือนกันทุกประการ โดยราคาเปิดตัว Galaxy S7 edge อยู่ที่ 26,900 บาท ส่วน Galaxy S7 อยู่ที่ 23,900 บาท ต่างกันสามพันบาทถ้วน
สรุปสเปค Samsung Galaxy S7 edge ที่จำหน่ายในไทย
– ตัวเครื่องมีขนาด 150.9 x 72.6 x 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 157 กรัม ตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจก 3D Glass
– จอแสดงผลแบบ 2K Quad HD Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว กระจกหน้าจอขอบโค้ง (Dual-Edge Curved Glass) พร้อมฟีเจอร์ Always-On Display
– ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Samsung Exynos 8890
– จีพียู (GPU) Mali-T880
– หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4 ขนาด 4GB
– หน่วยความจำภายในขนาด 32GB และ 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 200GB
– กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)
– กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7
– รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, MU-MIMO, Bluetooth 4.2, USB 2.0 และ NFC
– รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 4G LTE
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
– ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– แบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh พร้อมระบบ Fast Charging และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging)
– ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย TouchWiz UI
จุดเด่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ก็คือ เป็นสมาร์ทโฟนที่กันน้ำได้โดยไม่ต้องมีฝาปิดพอร์ตหรือช่องใด ๆ
แกะกล่องยลโฉมดีไซน์
ไม่ว่าตัวเครื่องสีใด กล่องบรรจุก็จะเป็นสีดำทั้งหมด แต่มีระบุสีตัวเครื่องไว้ที่มุมบนขวาของด้านหน้ากล่อง
ออกแบบกล่องใหม่ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่เปิดฝา โดยเป็นฝาปิดกล่องแบบแม่เหล็ก
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
หูฟังสีขาวพร้อมกล่องเก็บ
Adapter แบบชาร์จเร็ว พร้อมสาย USB สีขาว
USB Connector เสียบท้ายเครื่อง เพื่อเชื่อมต่อสาย USB กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นหรือเชื่อมต่อ Flashdrive ก็ได้
แผ่นพับแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
ไม่ว่าใครได้สัมผัสครั้งแรก ก็ต้องชื่นชอบทันที ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่เกินไป
ฝาหลังกระจก เงางามแวววาวตามมุมแสงกระทบ สวยหรู ดูมีระดับ
ขอบจอภาพแบบโค้งลงซ้ายขวา คล้ายกับ Galaxy S6 edge แต่กระจกดูโค้งมนมากขึ้น ช่องต่อหูฟัง พอร์ต microUSB รูไมโครโฟนกับลำโพง เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ แต่สามารถกันน้ำได้แล้ว โดยไม่ต้องมีฝาปิด
ปุ่ม Volume
รูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและถาดใส่ SIM / microSD card ก็ใช้งานได้ตามปกติ มีซีลกันน้ำเรียบร้อยแล้ว
ปุ่ม Power แยกกันคนละฝั่งกับปุ่ม Volume
กล้องหน้า ลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ วางตำแหน่งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ปุ่มโฮมพร้อมฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือได้แม่นยำมากขึ้น
กล้องหลัง ลดความนูนลง เกือบจะเรียบเสมอไปกับผิวกระจกหลัง
แผ่นกระจกหลัง ขอบโค้งมน จับถือได้ถนัดมือมากขึ้น ไม่มีสันเหลี่ยมบาดมือ
ถาดใส่ SIM 1 เป็นแบบ nano SIM ส่วน SIM 2 จะเลือกใส่ nano SIM อีกเบอร์หรือใส่ microSD card ก็ได้
ไว้ใจได้ในซีลกันน้ำ แช่น้ำหรือถ่ายภาพใต้สระน้ำได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดความเสียหาย
ทดสอบประสิทธิภาพ
พลังของ CPU Exynos ใน Galaxy S7 edge ทำคะแนนการทดสอบได้ดีเยี่ยมถึง 117473 โดดเด่นทั้งการประมวลผล 3D และโดยรวมทั้งระบบ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ติด Top 3 ของสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่มีจำหน่ายในไทย
หากเป็นเครื่องใหม่แกะกล่องที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นใด ๆ เลย ก็จะทำคะแนนได้สูงถึง 130000 กว่า
ซอฟต์แวร์
TouchWiz UI ของ Galaxy S7 edge ดูเรียบหรู ลดความอลังการลงเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ๆ เพื่อให้ใช้ทรัพยากรของเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองได้เร็วลื่น มาพร้อมกับ Quick Settings ที่เยอะเต็มหน้าจอเหมือนเดิม ที่ช่วยให้การเปิดปิดฟังก์ชั่นทั้งหมด ทำได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องเข้าหน้าเมนูหลัก
รายงานสภาพอากาศและพยากรณ์โดยใช้ข้อมูลจาก Accuweather.com ที่ปรับเปลี่ยน UI ให้สวยงาม ดูง่ายมากขึ้น บอกละเอียดทั้งรายวันและรายชั่วโมง
เฉพาะรุ่น Galaxy S7 edge มีส่วนของ edge ที่ช่วยแจ้งเตือนข่าวสารและเป็นทางลัดในการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นหรือผู้คนที่เราติดต่อบ่อย ๆ ได้อย่างสะดวก เพียงแค่ปัดนิ้วจากขอบจอโค้งด้านขวาเข้ามาเล็กน้อย ก็จะปรากฏเมนู edge
กำหนดทางลัดได้ 10 Task และเพื่อนสนิทได้ 5 คน
จัดการแผง edge ได้อิสระ ส่วนใดที่คิดว่าไม่ได้ใช้ ก็ปิดได้ บางคนอาจจะถนัดการเปิดแอปพลิเคชั่นโดยตรงจาก App drawe มากกว่า แต่ถ้าฝึกใช้ฟีเจอร์ edge บ่อย ๆ ก็จะรู้สึกว่าชินและสะดวกมากขึ้นจริง ๆ
สมุดโทรศัพท์ โชว์หน้าบุคคลได้ ปุ่มโทรออก ใช้งานได้สะดวก เลือกโทรปกติหรือโทรแบบเห็นหน้าด้วย VoLTE / VoWiFi ได้ง่าย ๆ
เมนูการตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง แบ่งออกเป็นสีด้วยกลุ่มหรือหมวดหมู่ที่ดูไม่ตาลาย ค้นหาง่าย
เหลือพื้นที่ใช้งานอีกเกือบ 22GB สำหรับรุ่น 32GB
ใช้งานได้นาน 19 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน และ 43 ชั่วโมงในโหมด Ultra power saving | Gallery ภาพถ่าย แบ่งแยกตามวันที่ถ่ายภาพ เพื่อแยกเหตุการณ์ในแต่ละช่วงเวลา
หน้า Home screen ปรับขนาด Icon ได้ แนะนำให้ใช้แบบ 5 x 5 เพื่อให้พื้นที่หน้าจอดูกว้างขึ้น
จัดวาง Widget และเปลี่ยน Wallpaper ได้จากเมนูของ Home screen
มาดูกันต่อที่เมนูกล้อง ความละเอียดสูงสุดของกล้องหลัง อยู่ที่ 12 ล้านพิกเซลในสัดส่วนภาพ 4:3 และ 9.1 ล้านพิกเซลสำหรับสัดส่วนภาพแบบ Widescreen เต็มหน้าจอ
ตั้งเวลาถ่ายภาพได้ มี Effect หลายแบบให้เลือกใช้ เพื่อสร้างสรรค์ภาพที่แปลกตา
มี Track AF ให้โฟกัสติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ด้วย โหมดถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้มากมาย
ในโหมด Pro จะช่วยให้ตั้งค่าในระดับมืออาชีพได้ เช่น ปรับชดเชยแสงได้ +/- 2
ปรับ Speed Shutter ได้เร็วถึง 1/24000 ที่หลายคนชอบนำไปถ่ายน้ำพุ เห็นหยดน้ำกระจาย
ปรับ ISO และ White balance ได้แม่นยำดีทีเดียว ดีกว่าหลายแบรนด์ที่เคยทดสอบมา
ปรับ Focus และโทนสีได้หลายแบบตามความชอบ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากเพื่อน ๆ หลายคนที่นำ Galaxy S7 ไปใช้งานในชีวิตประจำวันและท่องเที่ยว
ดูตัวอย่างภาพถ่ายเพิ่มเติม ถ้ายังไม่จุใจ
Gallery ภาพถ่ายจากการไปเที่ยว
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1142520359114811.1073741838.219974331369423&type=3
Gallery ภาพถ่ายจากงานแต่งงาน
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1152171318149715.1073741839.219974331369423&type=3
ตัวอย่างภาพถ่ายจากวันแถลงข่าวเปิดตัวฯ โดยทีมงาน 9ThaiPhone
http://www.9thaiphone.com/?p=57786
อีกจุดเด่นของ Galaxy S7 และ S7 edge ก็คือ การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีเยี่ยม ให้ภาพที่สว่างสวย
ก็เป็นเพราะรูรับแสงกว้าง f/1.7 นั่นเอง บางเครื่องใช้โมดูลกล้องหรือ Sensor รับภาพจากโซนี่ บางเครื่องก็ใช้ของซัมซุงเอง ซึ่งโทนสีและรายละเอียดภาพ จะแตกต่างกันไม่มากนัก คละกันไปตามล็อตของการผลิตที่ลูกค้าไม่สามารถเลือกเองได้
บทสรุป
Samsung Galaxy S7 edge ยังดูไม่มีประโยชน์จากขอบจอโค้ง รวมทั้งบางคนอาจรู้สึกว่าถือจับไม่สะดวกในช่วงแรกที่ใช้งาน และมีปัญหา software compatibility กับแอปฯ บางตัว เช่น VR ที่ทำให้การแสดงผลผิดพลาดในบริเวณขอบภาพ แต่หากมองในเรื่องความสวยงามของขอบจอโค้ง จุดนี้ต้องยอมรับว่าสวยจริง กับราคาที่เพิ่มขึ้น 3,000 บาทจากรุ่นขอบจอไม่โค้ง หลายคนยอมจ่ายแพงเพื่อความสวยและแบตเตอรี่ที่มากขึ้นเล็กน้อย
จุดเด่นเรื่องกันน้ำและถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย เป็นจุดเด่นที่ถูกใจหลายคน ทำให้ตัดสินใจซื้อได้โดยไม่ลังเล สร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ทดลอง
ภาพถ่ายที่สว่าง เร่งสีให้ดูสดใส ถ่ายในงานกลางคืนได้ดี แต่กลับทำได้ไม่ดีเมื่อถ่ายภาพวิวธรรมชาติกลางแดดจัด สีสันของท้องฟ้าสีฟ้าคราม ก้อนเมฆ ใบไม้ พื้นหญ้า รวมทั้งการเร่งสีเหลืองส้มในโทนอุ่นที่มากเกินไปจนผิดเพี้ยนภายใต้แสงจากหลอดไฟแบบหลอดไส้ ซึ่งตรงกันข้ามกับ iPhone 6s ที่ถ่ายได้ดีในทุกสภาวะยกเว้นในที่มืด
โดยรวมถือว่า Galaxy S7 และ S7 edge เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าใช้มากที่สุดในกลุ่ม Android สำหรับผู้ที่มีงบประมาณไม่จำกัดและต้องการความเป็นที่สุดในทุกด้าน
สิ่งที่ประทับใจ
- ดีไซน์สวยมากขึ้น โดยเฉพาะสีขาว ที่ด้านหลังเครื่องไม่ค่อยปรากฏคราบมันจากนิ้วมือให้เห็น
- ประมวลผลเร็ว ทำให้การใช้งานเร็วลื่นดีมาก ไม่มีหน่วงเลย แม้ว่าเปิดแอปพลิเคชั่นค้างไว้หลายตัว
- Always On Display เปิดทิ้งไว้ 6 ชั่วโมงขณะนอนหลับ แบตเตอรี่ลดลงเพียง 9-10%
- ถอดแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นออกไปเยอะ ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานมากขึ้นและประสิทธิภาพดีขึ้น
- กันน้ำได้จริง หมดกังวลในช่วงสงกรานต์ ถ่ายภาพในน้ำได้สวยกว่าที่คิด
- กล้องหลังไม่นูนแล้ว ให้ความรู้สึกดีขึ้นเมื่อสัมผัสเทียบกับ Galaxy S6
- ชาร์จไฟเต็มเร็วภายในเวลาประมาณ 100 นาที
ข้อสังเกต
- มีปัญหากับบางแอปพลิเคชั่นที่ปิดตัวเองในบางครั้งแบบที่หาสาเหตุไม่ได้เพราะเป็นแค่บางครั้ง
- ยังคงเปลืองแบตเตอรี่เหมือนเดิม อาจต้องชาร์จไฟระหว่างวัน แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่ครบวัน
- พอร์ตอินฟราเรดถูกถอดออกไป ใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลอย่าง Galaxy S6 ไม่ได้แล้ว
- ถ่ายภาพในน้ำ ยังทำได้ไม่ดีเท่ากล้อง GoPro ใส่เคสกันน้ำ
- ไม่มีปุ่ม Shutter ทำให้การถ่ายภาพในน้ำ ยังต้องสัมผัสหน้าจอ และความแม่นยำของการสั่งงานในน้ำก็ยังไม่ดีเท่าการใช้ปุ่ม Shutter จริง จุดนี้ทำให้ Sony Xperia มีความได้เปรียบมากกว่า
- ฟิล์มกันรอย ราคาแพง และยังจำเป็นต้องใช้
- หลายครั้งที่สัมผัสโดนขอบจอโดยไม่ได้ตั้งใจ
- คาดว่าอาจจะมี Galaxy S7 edge รุ่นที่ใช้ CPU Snapdragon ออกมาในภายหลัง รองรับเครือข่ายที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ในอนาคต
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
Leave a Reply