รีวิว Samsung Galaxy S10 สุดยอดเรือธง!! จอภาพ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity-O กล้องหลัง AI Triple Camera มุมกว้าง Ultra Wide ผสานกล้องหน้า Dual Pixel ลำโพงคู่ AKG รองรับชาร์จเร็ว 15W
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ วันนี้เรามีบทความรีวิว Samsung Galaxy S10 แฟลกชิปรุ่นล่าสุดฉลองครบรอบ 10 ปี ชูนวัตกรรมล้ำสมัย และดีไซน์สุดพรีเมี่ยม ด้วยหน้าจอไร้ขอบ Infinity-O ให้การแสดงผลแบบเต็มจอ และครั้งแรกกับนวัตกรรมจอภาพ Dynamic AMOLED รองรับการแสดงผลระดับ HDR10+ ให้ภาพสีสันสดใส ในโทนสีที่กว้างและสมจริงยิ่งขึ้น
กล้องถ่ายภาพ 3 ตัว ความละเอียดสูงเก็บครบทุกรายละเอียดด้วยเลนส์ Ultra Wide ถ่ายภาพมุมกว้างได้ถึง 123 องศา สามารถถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง พร้อมเทคโนโลยีป้องกันการสั่นไหว Super Steady ระดับ Action Camera
รวมถึงการทำงานอัจฉริยะด้วย AI ถือเป็นดีไวซ์ที่ตอบครบทุกโจทย์สำหรับคนเจเนอเรชั่นใหม่ ที่ช่วยให้ผลิตและบริโภคคอนเทนท์ได้อย่างเต็มที่ ทุกที่ และทุกเวลา ติดตั้งเทคโนโลยีสแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic แบบสามมิติเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเครื่อง และอีกหนึ่งไฮไลท์เด่นคือมาพร้อม Wireless PowerShare ที่สามารถแชร์แบตเตอรี่แบบไร้สายให้กับดีไวซ์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบายยิ่งขึ้น ลดความยุ่งยากไม่ต้องพกที่ชาร์จหลายอันเวลาเดินทาง
Galaxy S10 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Prism White, สีดำ Prism Black, และสีเขียว Prism Green เคาะราคาจำหน่ายอยู่ที่ 31,900 บาท (128GB) ซึ่งในวันนี้ทาง ninethaiphone จะขอนำเอา Galaxy S10 ตัวเครื่องสีดำ Prism Black มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปชมรีวิวกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค Samsung Galaxy S10
Features | Samsung Galaxy S10 |
วันเปิดตัว : | – กุมภาพันธ์ 2562 |
ราคา : | – 31,900.- (ณ วันที่ 6 มิ.ย. 62) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI |
หน้าจอ : | – หน้าจอ Dynamic AMOLED |
– ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1440×3040 พิกเซล (Quad HD+) | |
– อัตราส่วน 19:9 | |
– กระจก Corning Gorilla Glass 6 | |
– HDR10+ | |
– Always-on display | |
CPU : | – Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7 MHz |
GPU : | – Mali-G76 MP12 |
RAM : | – 8GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 128GB |
– 512GB | |
– microSD Card สูงสุด 512GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP + 16MP + 12MP |
– เลนส์ Wide Angle + Ultra Wide + Telephoto | |
– ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.2 + f/2.4 | |
– LED flash | |
– Dual Pixel PDAF | |
– Digital Zoom up to 10x | |
– 2x optical zoom | |
– กันสั่น OIS | |
– Auto Focus | |
– auto-HDR | |
– panorama | |
กล้องหน้า : | – 10MP (wide) |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
– Dual Pixel PDAF | |
Video : | – 2160p@60fps, 1080p@240fps, 720p@960fps |
Battery : | – 3400 mAh สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W |
ขนาด : | – 149.9×70.4×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 157 กรัม |
รองรับซิม : | – Hybrid Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax |
– Bluetooth 5.0 | |
– NFC | |
– USB Type-C | |
– FM radio | |
– ANT+ | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– Glonass | |
– Beidou | |
– Galileo | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display |
– Accelerometer | |
– Gyro | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Barometer | |
– Heart rate | |
– SpO2 | |
สี : | – Prism Black |
– Prism White | |
– Prism Green |
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy S10
ด้านหน้า Samsung Galaxy S10 มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic AMOLED เทคโนโลยี Cinematic Display รองรับ HDR10+ ดีไซน์จอใหม่ล่าสุดแบบ Infinity-O มีการเจาะรูที่มุมขวาแบบ Hole Punching เหลือขอบล่างและขอบบนไว้เพียงเล็กน้อย ขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตา 6.1 นิ้ว อัตราส่วนการแสดงผล 19:9 ความละเอียด 1440×3040 พิกเซล (Quad HD+) สีสันคมชัดสวยงาม สว่างสดใส ความสว่าง 800 unit และ Contrast Ratio 1:2,000,000 ขาว-ดำชัดทุกเฉด
ซึ่งการแสดงผลค่าเริ่มต้นเป็น Full HD+ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็น Quad HD+ ได้ด้วยเมนูการตั้งค่า พร้อมรองรับฟีเจอร์ Always-on display และเทคนิค Dynamic Tone Mapping ที่มีการปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เหมาะสมกับภาพที่เห็นอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและหลัง รวมถึงติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ไว้ใต้จอแสดงผลอีกด้วย โดยเทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นเสียงในการสแกนแบบ 3D ทำให้แม่นยำและปลอดภัย
ด้านหน้าส่วนบน มีเลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 10MP และเซ็นเซอร์ต่างๆ ถูกฝังอยู่ใต้จอแสดงผล ถัดขึ้นไปเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลัง Galaxy S10 มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 149.9×70.4×7.8 มม. และน้ำหนัก 157 กรัม ตัวเครื่องจับถนัดมือ กรอบเครื่องอลูมิเนียมขัดเงา 7000 series ผิวด้านหลังเรียบลื่น ตัวเครื่องสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68 อยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นานถึง 30 นาที โดดเด่นด้วยสีสันที่แตกต่างกันไป มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Prism Black, Prism White และ Prism Green พร้อมเทคโนโลยีเคลือบด้วยฟิล์มนาโน ด้านบนเป็นส่วนของกล้องถ่ายภาพทั้งหมด ถัดลงมาเป็นโลโก้แบรนด์ Samsung
ด้านหลังส่วนบน เริ่มจากฝั่งซ้าย ประกอบด้วย เลนส์ซูม Telephoto ความละเอียด 12MP + เลนส์มุมกว้าง Wide Angle 12MP + กล้องเลนส์กว้างพิเศษ Ultra Wide Camera 16MP ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.2 + f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง ใต้แผ่นกระดาษมีการสกรีนรหัสโมเดล เลข IMEI และอื่นๆ เอาไว้
ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย รูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ซึ่งช่องใส่ซิมการ์ดจะเป็นแบบ Hybrid Dual SIM รองรับได้ 2 ซิมการ์ด แต่จะต้องเลือกใช้งานระหว่าง SIM + SIM หรือ SIM + microSD Card ที่รองรับสูงสุด 512GB ค่ะ
ด้านล่างตัวเครื่อง พบช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, รูไมค์โครโฟน และลำโพงตัวหลักเพื่อความบันเทิง โดยลำโพงคู่ Sterio ระบบเสียง 24 bit รองรับ Dolby Admos surround 3D sound ปรับจูนเสียงโดย AKG สามารถเปิดใช้ใน Gaming Mode ได้
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่มเรียกใช้งานผู้ช่วย Bixby
โดยปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่เหนือปุ่ม Bixby ค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด/ปิดตัวเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง และเปิดโหมดฉุกเฉินค่ะ
การแคปภาพหน้าจอ ให้กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Samsung Galaxy S10 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 3 แสนกว่าๆ ถือว่าทำออกมาได้ดีสำหรับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง และทำคะแนนได้ดีกว่า Galaxy S9 ที่เราได้รีวิวไปให้ชมก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Samsung Galaxy S10 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล SM-G973F, ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9, ใช้ชิปเซ็ต Exynos 9820, จีพียู Mali-G76 MP12, หน้าจอ 5.85 นิ้ว, ความละเอียด 2168×1080 พิกเซล, กล้องหลัง 12MP, กล้องหน้า 10MP, แบตเตอรี่ 3400 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 3762MB, ความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 102.08GB และรองรับ NFC เป็นต้น
และเมื่อนำ Samsung Galaxy S10 ไปทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกม โดยเราได้ลองดาวน์โหลดเกม PUBG Mobile มาลองเล่นกันดู พบว่าประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ทำงานได้อย่างลื่นไหลดีเยี่ยม จอภาพกราฟิกสวยสมจริง สีสันคมชัดมาก ระบบทัชสกรีนทำงานได้ดี ทำให้เล่นกันได้แบบเพลินๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ระหว่างที่กำลังเล่นเกมโปรด ยังมีแถบ Game Tools สำหรับปิดกั้นแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ หรือสายเรียกเข้า พร้อมเปิดระบบเสียง Dolby Atmos และคุณสมบัติเกมขั้นสูง เป็นต้น
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น และเข้าถึงการโทรสนทนาได้ทันทีที่มุมซ้ายล่าง หลังปลดล็อคหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้า Home screen เมื่อปัดหน้าจอขึ้นหรือลงจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปฯ ที่ติดมากับตัวเครื่องค่ะ
หรือแต่หากลงทะเบียนลายนิ้วมือแล้วก็สามารถสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อปลดล็อกตัวเครื่องได้เลย
หลังปลดล็อคหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้า Home screen เมื่อปัดหน้าจอขึ้นหรือลงจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปฯ ที่ติดมากับตัวเครื่อง
และเมื่อกดปุ่มข้างตัวเครื่องทางฝั่งซ้ายจะเป็นการเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัว Bixby โดยสามารถสั่งงานด้วยเสียง ข้อความ หรือการสัมผัส ซึ่งเจ้า Bixby สามารถเรียนรู้รูปแบบการทำงานของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา
สามารถเคลื่อนย้าย หรือลบทิ้งแอปฯ ต่างๆ ได้ด้วยการกดค้างไปที่ตัวแอปฯ
หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างหน้าจอ Home Screen สามารถตั้งค่าวอลเปเปอร์ ธีม วิดเจ็ต และค่าต่างๆ ได้แบบรวดเร็ว
ธีมมีให้เลือกใช้งานหลายสไตล์ ทั้งแบบเรียบๆ และแบบมีสีสัน
เข้าถึงหน้า Quick settings ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนหน้าจอด้านบนลง ส่วนแถบด้านล่างจะเป็นการแจ้งเตือน
แผง Edge เข้าถึงแอปฯ โปรดได้ที่หน้าจอขอบ ด้วยการปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อดูแผงอื่นๆ สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้ด้วยการปัดแผง Edge ไปทางด้านซ้าย สามารถเข้าถึงแอปฯ ที่ใช้บ่อยๆ ได้ทันทีค่ะ
เมนูการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง
การโทรสนทนา และการส่งข้อความ
หน้าจอมีฟีเจอร์ตัวกรองสีฟ้าที่จะปรับหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวลช่วยถนอมสายตา โดยลดแสงสีฟ้ามากกว่าจอ OLED ทั่วไปถึง 40% โหมดนี้จะพิเศษกว่าที่หน้าจอจะไม่เหลืองเข้มเหมือนกระดาษเก่าๆ แล้ว
มีโหมดหน้าจอปรับช่วงสี ระดับสี และความคมชัดในการแสดงผลได้ รวมถึงเปลี่ยนค่าความละเอียดของหน้าจอได้ที่ตั้งแต่ระดับ HD+, Full HD+ และ WQHD+
ผู้ใช้งานสามารถปิดซ่อนกล้องหน้าโดยเป็นการเพิ่มแถบสีดำไปยังด้านบนของหน้าจอเพื่อไม่ให้มองเห็นเซ็นเซอร์กล้อง
Samsung Galaxy S10 มีรูปแบบการปลดล็อคที่หลากหลาย ได้แก่ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล, การตั้งรูปแบบปลดล็อคตัวเครื่องอื่น เช่น การตั้งรูปแบบ, ปัดหน้าจอ, ใส่พินไอดี, รหัสผ่าน
และระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ซึ่งใช้งานง่ายๆ เพียงแค่ยกสมาร์ทโฟนขึ้นคล้ายกับว่ากำลังถ่ายเซลฟี่ ก็สามารถปลดล็อคตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วแล้วค่ะ
การใช้งาน Smart Lock ช่วยรักษาอุปกรณ์และบัญชีให้ปลอดภัยได้อย่างง่ายดาย สามารถตั้งล็อคอุปกรณ์ได้ทันทีเมื่ออุปกรณ์ไม่ได้อยู่กับตัว, การใช้ Chromebook ล็อคโดยอัตโนมัติเมื่อไม่ได้อยู่กับตัว และปลดล็อคทันทีเมื่ออุปกรณ์อยู่ใกล้ๆ และไม่ได้ล็อคอยู่ หรือใช้รหัสผ่านลดความยุ่งยากในการรักษาบัญชีให้ปลอดภัย สามารถบันทึกรหัสผ่านไปยังบัญชี Google ใช้งานได้อย่างสะดวก และปลอดภัย
รองรับฟีเจอร์ Always On Display แสดงผลบนหน้าจอขณะหน้าจอปิดค่ะ
ด้าน Smart Switch สามารถถ่ายโอนข้อมูลเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้ง่ายๆ ผ่านสายเคเบิล และ Wi-Fi
รองรับ Dual Messenger หรือการโคลนแอปฯ ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานแอปฯ ได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชีค่ะ
ในส่วนนี้เป็น Video Enhancer สำหรับเพิ่มคุณภาพของวิดีโอเพื่อภาพที่สว่างและคมชัดมากยิ่งขึ้น, หน้าอัพเดท Software และไฟล์ส่วนตัว
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น และตั้งค่าการใช้งาน ได้ที่หน้าการบำรุงรักษาอุปกรณ์
มีคู่มือการใช้งานต่างๆ มาให้ด้วย ทั้งรูปแบบ ฟังก์ชันของเครื่อง อาทิ กล้องถ่ายภาพ, ฟีเจอร์ AR Emoji, Bixby เป็นต้น
ดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้ที่ Galaxy Store และ Google Play และใช้งานแอปฯ จาก Google ได้อย่างครบครัน
รองรับ Samsung Pay บริการชำระเงินผ่านมือถือและบริการกระเป๋าสตางค์ดิจิตอล, Samsung Health สำหรับคนรักสุขภาพและ
รองรับ Game Launcher เป็นแอปฯ สำหรับจัดเก็บเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียวกัน รวมทั้งสามารถใช้คุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับการเล่นเกม เช่น ประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม ปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม เป็นต้น
แอปฯ พิเศษที่ติดมากับตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับ Samsung SmartThings ระบบควบคุมบ้านอัจฉริยะผ่านสมาร์ทโฟนอีกด้วย
บันทึกเสียง, ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก
แอปฯ Galaxy Wearable สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมของ Samsung, แอปฯ Galaxy Members และสมุดโน๊ต
เครื่องคิดเลขที่รองรับตัวแปลงหน่วยค่าต่างๆ
โหมดการใช้งานสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม ล็อคแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ และแอปฯ ที่สนุกสนานสำหรับน้องๆ หนู
แอปฯ วัดสภาพอากาศ, รองรับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง และหากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฏหน้าแอปฯ ที่เราใช้งานไปทั้งหมด
เมื่อเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ สามารถถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องจะมีเมนู ปิด/เปิดเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง และโหมดฉุกเฉินปรากฏขึ้นมา
นอกจากนี้ Galaxy S10 ยังรองรับ Wireless PowerShare โดยเป็นการแชร์แบตเตอรี่แบบไร้สาย ซึ่งมีวิธีการใช้งานที่ง่ายมากๆ และสะดวกรวดเร็ว คือหันหลังสมาร์ทโฟน Samsung ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแบ่งแบตเตอรี่ จากนั้นนำสมาร์ทโฟนเครื่องที่จะรับแบตเตอรี่มาวางบริเวณตรงกลางติดกับด้านหลังอุปกรณ์ตัวแบ่ง
เพียงเท่านี้ก็สามารถชาร์จและแชร์แบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดายแล้วค่ะ และไม่เพียงแต่แชร์แบตเตอรี่สมาร์ทโฟนสู่สมาร์ทโฟนได้แล้ว พวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่างเช่น สมาร์ทวอทช์ หูฟังต่างๆ ที่รองรับมาตรฐาน QI ก็ยังรองรับ โดยจ่ายไฟที่ 5 โวลต์ 2 แอมป์ และมี Dual Charging ที่สามารถเสียบชาร์จไฟให้ Galaxy S10 ไปพร้อมๆ กับวางอุปกรณ์อื่นๆ ที่ด้านหลังเครื่องสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
สำหรับการรับชมวิดีโอบน YouTube จะยังเหลือขอบด้านข้างเพียงเล็กน้อย สามารถกางหรือบีบนิ้วเพื่อปรับให้ภาพพอดีกับหน้าจอได้ค่ะ ซึ่งการขยายจนเต็มหน้าจอจะเป็นการซูมภาพเข้าจนไม่เหลือขอบด้านข้างและเห็นภาพได้ใกล้ตามากยิ่งขึ้น
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้า โดยกล้องหน้าของ Galaxy S10 มาพร้อมความละเอียด 10MP ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อม Dual Pixel PDAF โฟกัสไวและแม่นยำ เราไปดูโหมดการใช้งานกล้องหน้าทั้งหมดกันเลยค่ะ ได้แก่ โหมดไลฟ์โฟกัสสำหรับเซลฟี่ที่ช่วยสร้างภาพเซลฟี่พร้อมเอฟเฟ็กต์ภาพเบลอ พร้อมเลือกปรับระดับสีผิว และความเนียนของผิวได้เอง
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพ Auto สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายภาพเซลฟี่เดี่ยวหรือเซลฟี่หมู่ มีให้เลือกปรับฟิลเตอร์แสงตามใจชอบ รวมถึงปรับระดับสีผิว และความเนียนของผิวได้เช่นเดียวกัน
ถัดมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอของกล้องหน้า รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และมาพร้อมกันสั่น เอาใจผู้ใช้งานด้วยการใช้งานฟิลเตอร์สี และสามารถปรับค่าความสวยเนียนระหว่างบันทึกวิดีโอได้อีกด้วย
Live Focus เพิ่มลูกเล่นเอฟเฟ็คมาให้เลือก 4 แบบ คือ Blur (เบลอธรรมดา), ปั่น (Spin), ซูม (Zoom) และเลือกจุดสี (Color Point)
ลำดับถัดไปเรามาชมโหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดยกล้องหลังของ Galaxy S10 มีความละเอียด 12MP (Wide Angle) + 16MP (Ultra Wide) + 12MP (Telephoto) ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม LED flash รองรับเทคโนโลยี Scene Optimizer ระบบ AI ช่วยปรับแต่งภาพให้เหมาะสม ส่วนโหมดการใช้งานต่างๆ ได้แก่ โหมดถ่ายภาพอาหารให้มีสีสันสดใสน่ารับประทานยิ่งขึ้น, โหมดพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง
โหมดถ่ายภาพมือโปร ที่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้เอง รวมถึงปรับค่ารูรับแสง f/1.5 และ f/2.4 ด้วย ซึ่งหากสังเกตที่เลนส์กล้องด้านหลังจะมีการกระพริบเหมือนกับดวงตาของมนุษย์เลยค่ะ
โหมดไลฟ์โฟกัส สำหรับถ่ายภาพวัตถุที่เรานั้นโฟกัสเป็นพิเศษ สร้างภาพถ่ายพร้อมเอฟเฟ็กต์ภาพเบลอ มีให้เลือกปรับระดับสีผิว และความเนียนของผิวได้เอง
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพ Auto รองรับฟิลเตอร์สีต่างๆ และการปรับระดับหน้าสวยเนียน
จะมีไอคอนรูปต้นไม้ 3 แบบ เหนือปุ่มชัตเตอร์ สามารถเลือกสลับกล้องไปมาได้อย่างอิสระ โดยรูปต้นไม้ 1 ต้น (Telephoto) คือการซูม 2 เท่า แบบไม่เสียความละเอียด, รูปต้นไม้ 2 ต้น (Wide Angle) คือมุมมองภาพแบบปกติ และรูปต้นไม้ 3 ต้น (Ultra Wide) คือมุมมองภาพแบบมุมกว้าง โดยกล้องของ Galaxy S10 มาพร้อมเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้าง 123 องศา เก็บภาพถ่ายแบบ Landscape ได้กว้างแบบสุดๆ
ต่อมาเป็นโหมดถ่ายวิดีโอที่รองรับการบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K หรือ 3840×2160 พิกเซล ที่ 60fps พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอ HDR10+ ที่ 30fps, ฟิลเตอร์สี และปรับค่าความสวยเนียนของบุคคล
รองรับ Super Steady ระบบกันสั่นขั้นเทพ, โหมด Slow Motion ระดับ 960fps และโหมด Hyperlapse ที่เลือกปรับความเร็วได้ตามต้องการ
สำหรับโหมด Slow Motion อยู่ที่ระดับ 960fps สามารถบันทึกได้นานกว่าเดิมเป็น 0.4 วินาที หรือหากปรับลดความละเอียดเหลือ 480p จะสามารถบันทึกได้ 0.8 วินาที ตอนท้ายสามารถตัดต่อหรือแก้ไขวิดีโอได้
วิธีการใช้งานโหมด Slow Motion ค่ะ
สำหรับ AR Emoji มาพร้อมความสามารถในการแทร็กที่ง่ายขึ้น รวดเร็ว และถูกต้อง สามารถเก็บท่าทางของผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น
สามารถสร้าง My Emoji ได้แบบง่ายๆ ด้วยการบันทึกภาพใบหน้าของตนเองลงบนกรอบวงกลม และเพื่อให้ได้ภาพ My Emoji ส่วนตัวของเราดีที่สุด จะต้องถอดแว่นหรือปัดผมออก จากนั้นยิ้มแบบไม่เห็นฟันแล้วกดถ่ายภาพได้เลยค่ะ หลังกดถ่ายภาพจะมีให้เรายืนยันว่าต้องการให้ My Emoji เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จากนั้นระบบจะทำการสร้างตัว My Emoji แบบ 3D ให้เรา พร้อมรองรับการใช้งานกับโหมดสติ๊กเกอร์อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Samsung Galaxy S10
ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide Angle
ภาพที่ได้เก็บรายละเอียดได้กว้างขึ้นได้มากขึ้นในแต่ละช็อต ได้แบบเต็มสายตามากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถ่ายภาพสวยทุกช่วงเวลา
เมื่อกดซูมสุด ค่อนข้างน่าตื่นตาที่ภาพถ่ายยังมีความละเอียดและคมชัดดีมาก
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Samsung Galaxy S10
สำหรับกล้องหน้าของ Samsung Galaxy S10 มาพร้อมความละเอียด 10MP ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อม Dual Pixel PDAF จากตัวอย่างภาพถ่ายภาพที่ได้มีความละเอียดคมชัดดี ภาพถ่าย Portrait ฉากหลังนวลตา ปรับค่าผิวเนียนอยู่ที่ระดับต้นๆ ภาพมีความเป็นธรรมชาติไม่นวลเนียนเกินไป เห็นรายละเอียดของเส้นผม เสื้อผ้า หรือฉากหลัง โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยค่ะ
ภาพถ่ายปกติ > ปรับ Beauty ระดับ 2
ปรับ Beauty ระดับ 3 > ภาพถ่าย Portrait
จุดเด่น
– หน้าจอ Dynamic AMOLED สีสันคมชัดสมจริง ขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 มีความละเอียดระดับ Quad HD+ พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 6 รองรับฟีเจอร์ Always-on display
– ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลอันทรงพลัง Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7 MHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12
– หน่วยความจำแรม 8GB คู่กับความจุ 128GB และ 512GB พร้อมเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุดถึง 512GB
– กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย 12MP (Wide Angle) + 16MP (Ultra Wide) + 12MP (Telephoto) ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม LED flash, เทคโนโลยี Dual Pixel PDAF, 2x optical zoom, Digital Zoom up to 10x, กันสั่น OIS, บันทึกวิดีระดับ 4K, Slow Motion ระดับ 960fps
– กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 10MP เทคโนโลยี dual Pixel PDAF ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อม Beauty Mode
– แบตเตอรี่มีความจุ 3400 mAh สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W ใช้งานได้นาน
– ตัวเครื่องดูหรูหรา มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Prism Black, Prism White และ Prism Green
– รองรับพอร์ต USB Type-C
– ฝังเซ็นเซอร์ไว้ใต้จอแสดงผล และรองรับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า
ข้อสังเกต
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แต่ต้องเลือกใช้งานระหว่าง SIM + SIM หรือ SIM + MicroSD Card ไม่สามารถใช้งาน SIM + SIM + MicroSD Card ได้ภายในเวลาเดียวกัน
– ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายมาก
– ปุ่มพาวเวอร์วางสูงเกินไปไม่พอดีมือ
– ราคาค่อนข้างสูง
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– iPhone XS
– iPhone XS Max
– Samsung Galaxy S10+
– Samsung Galaxy Note 9
– Huawei Mate 20 Pro
– Huawei P30 Pro
ขอขอบคุณ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
Leave a Reply