รีวิว Samsung Galaxy J7 Version 2 หรูหรา คุ้มค่า น่าใช้ ราคาเพียง 8,900 บาท
Samsung Galaxy J7 (2015) เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่ขายดีมากของซัมซุง กระแสตอบรับของพี่น้องชาวไทย ถือว่าดีเยี่ยม เป็นรุ่นยอดนิยมที่หาอุปกรณ์เสริมได้ง่าย กระแสยังไม่ทันจางหาย ซัมซุงก็ส่ง Galaxy J7 Version 2 ลงตลาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีการปรับปรุงใหม่หลายอย่าง เน้นจุดขายประโยคที่ว่า “เซลฟี่เป็นหมื่น เมมยังเหลือ ด้วยความจุ 48GB” กล้องที่มีการพัฒนาให้รูรับแสงกว้าง f/1.9 ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้สว่างขึ้นกว่าเดิมถึง 34% มี Beauty Mode ช่วยปรับตาโต ผิวใส หน้าเรียวได้ถูกใจคนเอเชียมากขึ้น ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 8,900 บาท พิเศษสุด สั่งซื้อผ่าน Lazada ลดเหลือเพียง 7,790 บาท คลิกที่นี่
Galaxy J7 Version 2 เป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ซัมซุงไม่เรียกว่า 2016 เพราะเริ่มจำหน่ายก็เกือบกลางปีแล้ว ขายลากยาวไปเกือบ 1 ปีจนถึงซัมเมอร์ปี 2017 ถ้าใช้คำว่า 2016 ก็จะดูเก่าทันทีเมื่อผ่านพ้นช่วงปีใหม่นั่นเอง และที่สะดุดตาก็ตรงที่ความจุ 48GB บางคนก็เอาไปเทียบกับ iPhone ว่าแค่ 16GB ขายกันเกือบสองหมื่น แต่ Galaxy J7 Version 2 แค่ 8,900 บาท จุถึง 48GB เก็บภาพถ่ายได้เยอะกว่ามาก
ความจริงแล้ว Galaxy J7 Version 2 มีหน่วยความจำภายในแค่ 16GB แต่แถม microSD ให้อีก 32GB รวมเป็น 48GB นั่นเอง ซึ่งลูกค้าอย่าเข้าใจผิดไป และไปเปรียบเทียบกับรุ่นแพงไม่ได้
Galaxy J7 Version 2 ครั้งนี้เน้นจุดขายที่กล้องถ่ายภาพได้สว่างสวยมากขึ้นทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ปรับเปลี่ยนวัสดุขอบเครื่องให้เป็นโลหะ และแบตเตอรี่ที่อึดมากขึ้น ใช้งานได้ถึงสองวันเต็ม มาพร้อมกับ NFC ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้สะดวกยิ่งขึ้น เรียกว่าจัดเต็มถูกใจลูกค้าจริง ๆ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของสมาร์ทโฟนกลุ่มระดับราคา 8-9 พันบาท
สเปค Samsung Galaxy J7 Version 2
Spec Model | Samsung Galaxy J7 Version 2 เริ่มวางจำหน่ายมิถุนายน 2559 |
CPU | Exynos 7870 Octa Core 1.6GHz |
GPU | Mali T830 |
RAM | 2GB |
Intenal Storage | 16GB |
External Storage | microSD สูงสุด 128GB (แถม 32GB) |
ความถี่ 2G | GSM 850/900 / 1800 /1900 |
ความถี่ 3G | HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 |
ความถี่ 4G | LTE Cat4 150/50 Mbps |
WiFi | 802.11 b/g/n |
Bluetooth | V4.0 |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล f/1.9 + LED Flash |
กล้องหลัง | 13 ล้านพิกเซล f/1.9 Auto Focus + LED Flash |
Display | 5.5 นิ้ว sAMOLED ความละเอียด 1280×720 พิกเซล |
OS | Android 6.0.1 พร้อม TouchWiz UI |
NFC | มี |
Battery | 3300mAh |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.samsung.com/th/consumer/mobile-devices/smartphones/galaxy-j/SM-J710FZWUTHL
ตารางเปรียบเทียบสเปค Galaxy J7 Version 2 กับ Galaxy J5 Version 2
หากมีงบประมาณไม่พอ ก็อาจจะเปรียบเทียบและเลือก Galaxy J5 Version 2 ก็ได้ สเปคต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่าไม่แพ้กัน ในราคาที่ถูกลงอีกพันบาท
ยลโฉมดีไซน์
Samsung Galaxy J7 Version 2 ที่นำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นเครื่องสีทอง
หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ภาพใหญ่เต็มตาในขนาดที่ถือจับได้ด้วยมือข้างเดียว
หน้าจอเป็นชนิด Super AMOLED สีสดจัดจ้านและสว่างมาก แต่ขอบจอภาพยังดูหนาไปหน่อย
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดีด้วยรูรับแสงกว้าง f/1.9 ให้ภาพสว่าง
ปุ่ม Recent Apps กับ Back ของตระกูล Galaxy J ไม่มีไฟเรืองแสงในที่มืด
ขอบตัวเครื่อง ตัดขอบแวววาวเงางาม
ช่องต่อหูฟังและพอร์ต microUSB อยู่ด้านล่างตัวเครื่อง
ปุ่ม Power อยู่ทางฝั่งขวาเพียงปุ่มเดียว ขอบตัวเครื่องทุกด้านเป็นโลหะสีเดียวกับตัวเครื่อง คล้ายกับ Galaxy S6 ในปีที่ผ่านมา
ปุ่ม Volume
ปุ่ม Home ไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ
ฝาหลังเป็นพลาสติกผิวด้าน ทำผิวเลียนแบบอะลูมิเนียม ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่เก่าเร็ว เป็นรอยได้ยาก
โลโก้ซัมซุง สะท้อนความหรูหรา
ลำโพงหลัง กล้องที่นูนขึ้นมาพอสมควร และแฟลช LED อยู่ในโคมขนาดใหญ่ กระจายแสงกว้าง
แกะฝาหลังออกได้ไม่ยาก ใต้ฝาหลังมีแผงรับสัญญาณสำหรับ NFC
ใช้ได้กับ microSIM ทั้งสองซิม และแถม microSD เพิ่มมาให้อีก 32GB ที่ด้านหน้ากล่อง แบตเตอรี่ความจุสูงมากเป็นพิเศษถึง 3300mAh ถอดเปลี่ยนเองได้
ดีไซน์โดยรวม ก็ยังคงเอกลักษณ์ของซัมซุงมายาวนาน ไม่เปลี่ยนแปลง
ทดสอบประสิทธิภาพ
Galaxy J7 Version 2 ทำคะแนนทดสอบได้เฉียด 50000 ถือว่าประสิทธิภาพดีเกินคาดเมื่อเทียบกับราคา 8,900 บาท คะแนนดีในทุกด้าน RAM 2GB อาจดูน้อย แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบัน หากใช้งานไม่หนักจนเกินไป
ในการเล่นเกม 3D ก็ให้ภาพที่สวยงาม ไม่มีหน่วงกระตุก แทบไม่มีความร้อนเกิดขึ้น แบตเตอรี่ลดลงช้ามาก ถือว่าน่าพอใจอย่างมาก ทั้งนี้เป็นเพราะหน้าจอที่มีความละเอียดไม่สูง เครื่องจึงไม่ต้องประมวลหนัก
ตัวอย่างภาพถ่าย
ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับรุ่นนี้ ด้วยกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างถึง f/1.9 เท่ากันทั้งคู่ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สว่าง ถ่ายภาพได้ดีในสภาวะแสงน้อย โฟกัสเร็ว โฟกัสแม่นยำอย่างชาญฉลาด บันทึกภาพได้เร็ว มีปัญหาภาพสั่นไหวเพียงเล็กน้อย ดีกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายทั้งหมด
กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างถึง f/1.9 ทำให้ใบหน้าดูสว่าง ปรับใบหน้าด้วย Beauty Mode เล็กน้อย ก็จะได้ความเป็นธรรมชาติ
ซอฟต์แวร์
Lock screen และวิทยุ FM ที่สามารถบันทึกเสียงเก็บไว้ในเครื่องได้ เอาไว้ฟังย้อนหลังได้ นอกจากนี้ ใช้ฟังวิทยุในขณะเดินทางได้ประหยัดแบตเตอรี่อย่างมาก
Home screen และ Quick settings มีปุ่มครบครัน พร้อมใช้ทุกฟังก์ชั่นสำคัญ
รายงานและพยากรณ์สภาพอากาศ | เมนูหลัก มี 6 ปุ่มหลักที่ใช้งานบ่อย สามารถกำหนดเองได้
เมนูยาวเหยียดลงมาในหน้าเดียวกัน แบ่งเป็นสีตามหมวดหมู่ ค้นหาได้ไม่ยาก ไม่ดูสับสน
ล้าง Cached ได้ง่าย เพื่อดึงพื้นที่ใช้งานกลับมา ซึ่งยังเหลือพออีกมากมาย อาจจะไม่ต้องใช้ microSD ก็ยังได้
แบตเตอรี่สุดอึด ชาร์จเต็ม ใช้งานได้นาน 50 ชั่วโมง หรืออย่างน้อย 2 วันเต็ม ๆ
มี Easy mode สำหรับผู้สูงอายุที่เน้นความง่าย แต่ในโหมดมาตรฐานสามารถเปลี่ยนธีมได้หลากหลาย
ทดลองเปลี่ยนธีม ให้ดูดีตามมาตรฐาน Android แบบเป็นทางการ
เปลี่ยนเป็นสไตล์สีเทาเขียว พร้อมทั้ง Icon ต่าง ๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นแบบมาตรฐานคล้ายกับ Pure Android ตามที่ Google พัฒนาไว้ ดูสวยงามทีเดียว ดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี
ปรับย่อหน้าจอเพื่อให้ใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียวได้
ปิดเสียงเรียกเข้าด้วยการคว่ำหน้าเมื่อมีสายโทรเข้าเป็นหมายเลขที่ไม่อยากรับสาย | รูปแบบและขนาดตัวอักษร สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายมากกว่า Android แบรนด์อื่น
กำหนดเวลาในโหมดห้ามรบกวนได้ มีระบบปรับปรุงคุณภาพเสียงที่ออกทางหูฟังด้วย
Smart Manager เป็นผู้ช่วยในการดูแลและปรับประสิทธิภาพโดยรวมของระบบให้ดีพร้อมใช้งานเสมอ
มาดูกันต่อในส่วนของซอฟต์แวร์กล้อง มีโหมดให้เลือกใช้ 9 โหมด แนะนำให้เลือก Auto ก็สามารถถ่ายได้สวยทุกสถานการณ์ ใช้งานง่าย ภาพสวยโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติม
มีคำอธิบายแต่ละโหมดทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เลือกปรับความละเอียดภาพได้หลากหลาย
ตั้งเวลาถ่ายภาพได้ เลือก Effect สีได้
มีโหมด Pro ให้ปรับตั้งค่าได้เอง
สามารถปรับค่าชดเชยแสง, ความไวแสง, สมดุลขาวได้
กำหนดจุดวัดแสงได้ และสุดท้าย มีโหมด Beauty ที่ปรับสีผิวสว่าง ตาโต และบีบโครงหน้าได้
สรุป
ในช่วงราคา 8 พันกว่าบาท นาทีต้องยกให้ Samsung Galaxy J7 Version 2 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าจริง ๆ ด้วยกล้องถ่ายภาพที่ดีเยี่ยมเหนือคู่แข่งในระดับราคานี้ แบตเตอรี่ที่อึดเหลือเชื่อ ใช้งานได้ถึง 2 วันเต็ม มาพร้อมกับลูกเล่นมากมาย หน้าจอสีสดใส ขอบตัวเครื่องแบบโลหะ คุ้มค่าน่าลงทุน ซื้อใช้งานยาว 1-2 ปีได้สบาย ๆ
จุดที่น่าประทับใจ
- แบตเตอรี่อึดมาก ผิดธรรมชาติของซัมซุงที่ไม่เคยมีรุ่นใดใช้งานได้นานถึง 2 วันเต็ม
- กล้องถ่ายภาพ โฟกัสแม่นยำ บันทึกภาพได้เร็ว ภาพสว่างดีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- มี NFC สะดวกในการเชื่อมต่อกับ Gadget อื่น ๆ เช่น ลำโพงไร้สาย หูฟังไร้สาย
- หน้าจอสว่างมาก จนต้องหรี่แสงเกือบสุด
- วัสดุและผิวสัมผัสแบบใหม่ที่ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่เก่าเร็ว เปื้อนยาก เป็นรอยขีดข่วนได้ยาก
- ราคาที่สมเหตุสมผล เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
ข้อสังเกต
- จอค่อนข้างหยาบ ราคาระดับนี้ คู่แข่งให้หน้าจอระดับ Full HD แล้ว
- เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ในตลาดที่หน้าจอมีความละเอียด 1280 x 720 พิกเซลเท่ากันกับ Galaxy J7 Version 2 แต่เป็นหน้าจอแบบ IPS ก็ยังดูเนียนคมละเอียดกว่าหน้าจอ AMOLED ของซัมซุง และมีราคาขายที่ต่ำกว่าหลายพันบาท
- ภาพถ่ายมีสีซีดลง ไม่น่าประทับใจเมื่อถ่ายภาพอาหาร จะต้องเร่งสีเพิ่มขึ้นทุกครั้ง
- ไม่มีไฟ Notification และไม่มีไฟ Backlight ที่ปุ่มใต้จอภาพ
- กล้องหลังนูน ในขณะที่คู่แข่งจากจีน กล้องเรียบไปกับแผ่นหลัง
3 คู่แข่งสำคัญที่แนะนำให้ลองสัมผัสใช้งานเปรียบเทียบ
- Huawei P9 Lite
- Sony Xperia XA
- OPPO F1
____________________________________________________________
พิเศษสุด วันนี้ ลดราคาเหลือเพียง 7,790 บาท ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ Lazada คลิกเลย!
Leave a Reply